Between the Lines

Kung Fu Fighting โดย Yokee Playboy

  • Writer: Montipa Virojpan, ศศิลักขณ์ พิจิตรวรการ

Kung Fu Fighting ‘Yokee Playboy’

เนื้อร้อง Yokee Playboy
ทำนอง Yokee Playboy
เรียบเรียง Yokee Playboy

 

เพลงนี้มีที่มาจากการฝึกวิทยายุทธ

เป็นช่วงที่พยายามจะหัดเกากีตาร์ คือตั้งแต่ที่เล่นมาส่วนใหญ่จะใช้ปิ๊กตลอด จนกระทั่งมีอยู่ช่วงนึงที่รู้สึกเบื่อตัวเอง ก็เลยพยายามจะคิด pattern อะไรบางอย่างมาเพื่อใช้ฝึกเกากีตาร์โปร่งน่ะครับ แล้วในขณะที่เกากีตาร์ไปนั้น เพื่อน ๆ ในวงก็ดูรำคาญเราว่าเป็นอะไร คันหรอ เกาอยู่นั่นไม่หยุดสักที คนรอบข้างจะได้ยินเสียงเกากิกกัก ๆ ตลอดเวลา ใช้เวลาฝึกนานมากนะครับประมาณครึ่งปี เพื่อนก็บอกว่าไหน ๆ ก็เกามาขนาดนี้แล้ว ทำให้มันเป็นเพลงไปเลยได้ไหม แล้วถ้าเป็นเพลงเนี่ย เนื้อร้องจะต้องเป็นยังไง พอดีช่วงนั้นอยู่ในช่วงที่ค่อนข้างตันในเรื่องเนื้อร้องเหมือนกัน เพราะรู้สึกว่าเขียนมาทุกทีก็เหมือนเดิม มันน่าเบื่อ ก็เลยเอาความรู้สึกในตอนนั้นมาเขียน คือช่วงเวลาที่เราฝึกเกากีตาร์เหมือนเราฝึกเพลงยุทธอยู่ แล้วก็เลยเกิดความคิดว่าน่าจะลองแต่งเพลงอะไรที่ไม่เกี่ยวข้องกับความจริงของเราเลย แต่อย่างน้อย ๆ มันน่าจะเกิดประโยชน์อะไรบ้างกับสังคม นิดเดียวก็ถือว่าน่าจะโอเคแล้ว เลยมาเป็นเพลงนี้ แล้วก็รู้สึกว่าการได้เขียนเพลงนี้มันทำให้สามารถก้าวข้ามอะไรบางอย่าง เพื่อไปหาการเขียนเนื้อเพลงแบบใหม่

ซึ่งเนื้อเพลงแบบใหม่ก็คือ

เพลง รักรอที่ฟลอร์เต้นรำ ครับ แต่อันนั้นเราวนกลับไปสู่ความจริง อย่างเพลง Kung Fu Fighting เนี่ย พี่พูดถึงคนที่เก่งจากการไปฝึกฝนอะไรบางอย่าง ถ้าคุณไม่ได้เอาประสบการณ์นั้น ไม่ได้เอาพรสวรรค์นั้นมาใช้เพื่อสร้างประโยชน์อะไรเลยก็ไร้ค่า แล้วก็ ถ้าคุณเอาความสามารถพิเศษนั้นเอาไปใช้ในการเอารัดเอาเปรียบคนอื่น หรือว่ารังแกคนอื่น ระวังไว้ซะว่าสักวันคนที่เค้าเก่งกว่าคุณในด้านนั้น เค้าจะมาสั่งสอนคุณ ฉะนั้นจึงเกิดเนื้อเพลงที่ว่า “อย่าเจ็บเพื่อเข้าใจ” ซึ่งจริง ๆ แล้วนี่เป็นเรื่องในจินตนาการผมเลย เหมือนกับกำลังสร้างหนังจีนขึ้นมาเรื่องนึงอยู่ แต่อย่างน้อย ๆ มันก็เป็นอะไรที่คนร้องตามว่า “มวยนั้นมีไว้ช่วย รังแกคนเค้าเรียกว่าห่วย” มันจะได้เตือนสติว่า พวกแบบรุมคนอื่นที่เค้าไม่มีทางสู้อะไรงี้ ถือว่าพวกคุณไร้ค่ามาก ไม่มีค่าอะไรกับสังคมเลย ระวังไว้ให้ดีด้วย

 

ค่อนข้างจะเป็นเพลงที่ฉีกออกจากตำรับเดิม

แทบจะเรียกได้ว่ามีแต่คนงง แบบ เกิดอะไรขึ้นกับพี่โป้ พี่โป้มีปัญหาอะไรไหม พี่ไปเจออะไรมารึเปล่า ซึ่งพี่ก็ไม่รู้จะอธิบายยังไง ก็ได้แต่สงบปากสงบคำตอบไปว่า “ครับ” (หัวเราะ) แต่มีน้องอยู่คนนึงเขาชอบมาก เดินตรงเข้ามาหาพี่แล้วเค้าก็พูดว่า “พี่แม่งโหดสาสสสส”  พี่ยังงงอยู่ทุกวันนี้ว่าโหดสาสสสสยังไงวะ แต่ว่าพี่ก็รู้สึกว่ามันเป็นคำชมนะ

 

คล้าย ๆ ว่าแก้เบื่อด้วย

ใช่ ไม่งั้นเวลาเขียนเพลงต่อไปแล้วมันไม่อิน ตอนที่ทำเพลงนี้ขึ้นมาแล้วไปซ้อมกับคนในวงเนี่ย จำได้ว่ามือกลองหยุดเลย แล้วถามว่า “พี่เอาอย่างนี้จริงเปล่า พี่จะร้องอย่างนี้จริง ๆ หรอ” อะไรอย่างนี้ พี่ก็ได้แต่บอกว่า “ทุกคนไม่ต้องเข้าใจพี่ ขอให้เชื่อมั่นในตัวพี่แล้วไปด้วยกัน” คือเป็นคนด้านมาก จับมัดมือชกแล้วพาออกนอกเรื่องไปเลย เพราะฉะนั้นคนในวงโยคีเพลย์บอยเนี่ยไม่จำเป็นต้องเก่งมาก แต่แค่เอาไงเอากันกับพี่เนี่ย พอเลย

แล้วอนาคตจะมีเพลงแบบนี้ออกมาอีกไหม

ยังไม่มีไอเดียด้านนี้ มันใส่ไปกับเพลงนี้หมดแล้ว

พี่เคยมีเรื่องกับคนอื่นไหม

จะเป็นในอาการเดียวของพี่คือการหลับอยู่แล้วถูกปลุกขึ้น แบบเราพักผ่อนน้อยหรือสะลึมสะลือ อันนี้จะเป็นระบบอัตโนมัติที่ไม่รู้ตัว ซึ่งพี่จำไม่ค่อยได้ว่าทำอะไรไปบ้าง แต่ไม่อยากจะไปพูดถึงเลย น่ากลัวมาก เหมือนกับหมีอยู่ในรังกำลังจำศีลอยู่แล้วอยู่ดี ๆ มีคนเอาไม้ไปแหย่ก้นอะ โวยวาย คนพวกนี้นิสัยเสีย มนุษย์ลุงอะ แต่ไม่เคยมีเรื่องชกต่อยอะไร เพราะรู้สึกว่าไม่คุ้มค่าอะไรทั้งสิ้นเลย ไม่ก่อเกิดประโยชน์อะไรเลย แต่ถ้าต้องใช้ในการป้องกันสิทธิ์ป้องกันอะไรสักอย่างนึงก็ทำ

เคยเรียนชกมวยไหม

เคยครับ หลังจากที่แต่งเพลงนี้แหละ ก็อยากจะอินเข้าไปอีก ไปค่ายมวยเลย แล้วเทรนเนอร์เค้าเป็นเทรนเนอร์ให้กับนักมวยพวกช่องเจ็ด เค้าก็เทรนให้เต็มที่เลย แต่ผลก็คือ ไม่รุ่งแน่นอน

ไม่สนุกหรอ

มันเหนื่อยมากฮะ แล้วพี่ก็พบว่าเราอยู่เป็นมนุษย์ลุงของเราดีแล้ว ผู้หญิงนี่เตะปัก ๆๆๆ น่ากลัวมาก หลังจากที่ไปชกมวย ก็ไปสวนลุมตอนเช้า ไปดูพวกคุณลุงคุณป้ารำไท้เก็ก เพื่อจะได้อินเข้าไปอีก จะบอกว่าสังคมคุณลุงคุณป้านี่น่ารักมาก อย่างเราเป็นเด็กที่เค้าไม่รู้จัก บางทีเค้าจะเรียกเข้ามาเลย เตรียมน้ำชา อย่างดี น่ารักมาก เยี่ยมยิ่งกว่าพลังยุทธ

มีกิจกรรมจอมยุทธอีกไหม

ตอนนี้ก็คิดว่าตัวเองเป็นจอมยุทธอยู่ ตอนที่นั่งให้สัมภาษณ์อยู่เนี่ย

Kung Fu Fighting เวอร์ชันออริจินัลมีส่วนในไอเดียของเพลงนี้ไหม

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนเด็ก ๆ พี่เคยโตมากับอะไรพวกนี้ เราเอากลิ่นมานิด ๆ แต่คงไม่ได้เก่งแบบเขาขนาดนั้น

ท่าที่ทำมือเป็นคลื่นในมิวสิกวิดิโอที่แสดงเองมาจากอะไร

ท่านั้นเกิดจากอะไรรู้ไหม คือในช็อตช่วงนั้นมันสั้นมาก มันเป็นช็อตที่พี่เกากีตาร์ไล่ขึ้นเร็ว ๆๆๆ เนี่ย มันใส่ท่ารำจริง ๆ ไม่ได้ ถ้าดูในนั้นส่วนใหญ่เป็นท่ารำจริงทั้งหมดเลยนะ พี่เลยแก้ปัญหาตรงนั้นด้วยการทำท่านั้น บอกผู้กำกับเอาท่านี้เลย ปุ๊บ ๆๆๆๆ จบตรงนี้เลย น่าเกลียดดี

ตอนนั้นอยากขอไปเล่นเองหรือเปล่า

พี่เป็นคนคิดเรื่องเองเลย แต่ส่วนตัวขัดใจที่ช็อตช่วยผู้หญิงแล้วคว้าชามไปด้วย (ทำท่าประกอบ) น่าจะทำได้ดีกว่านั้น

อยากกลับไปเล่นใหม่ไหม

ไม่แล้ว คงทำได้แค่นั้นแหละ

บนลานจอดรถ ที่ ๆ ผมไม่เคยกลัว มันมายืนดึกผม กะจะเล่นงานชัวร์

ก็คงอารมณ์ประมาณนักเลงมารอหาเรื่อง คือเขม่นกันมาแล้วก็มารอหาเรื่องเราอะฮะ

ถ้าคิดว่าผมจะกลัว เปล่าเลย นั่นเป็นเพราะผมเรียนมวย

นี่อวดเฉย ๆ

นั่นเป็นเพราะผมเรียนมวย ไม่ต้องเร็วต้องช้า ไม่ต้องมีท่าทางชก มันอยู่ที่ความลึกซึ้ง และอยู่ที่การฝึกฝน

บางทีมันอาจจะไม่ต้องชกอะไรเลยก็ได้ ก็พูดกับเค้า บางทีเค้าอาจจะแพ้ภัยตัวเองก็ได้ อย่างเช่น “เราจะชกกันทำไมโยม แยกย้ายกันไปดีกว่า เธอก็มีพ่อแม่” อะไรก็ว่าไป มันก็เลยเป็นที่มาของ “ไม่ต้องเร็วต้องช้า ไม่ต้องมีท่าทางชก” แต่ในใจนี่คิดเป็นอย่างนี้ มาเป็นกระบวนท่า แก่แล้วยังซิ่งเนาะ

มวยนั้นมีไว้ช่วย รังแกกันก็เรียกว่าห่วย

พี่ก็พบว่าถ้าพี่เล่าเรื่องอะไรอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ  เนี่ยฟุ้งซ่านแน่นอน ก็เลยแบบนั่งนึกว่าอย่างน้อย ๆ ให้มันสะกิดเตือนใจอะไรคนร้องสักหน่อย “มวยนั้นมีไว้ช่วย” ในที่นี้มันไม่ได้หมายความถึงมวยนะครับ มันหมายถึงทุกเรื่องที่ใครที่มีความสามารถในการช่วยเหลือกันได้ ถ้าช่วยได้ก็จะเกิดประโยชน์อะไรกับสังคมเรานะครับ อย่างเช่นช่วยกันปลูกต้นไม้ ไอ้เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ บางทีคุณคิดว่ามันเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ว่าถ้าทุกคนทำ สังคมเราจะน่าอยู่มาก สังคมเราจะดี ปลอดภัยกับเด็กด้วย ทุกอย่าง อยากให้เป็นอย่างนั้นวันนึง

รังแกกันก็เรียกว่าห่วย

ก็ห่วยตามคำพูดนี้เลยนะครับ

อย่าเลย อย่าเจ็บเพื่อเข้าใจ

คือบางครั้งบทเรียนมันจะมาพร้อมกับความเจ็บปวดเสมอ เราต้องแลกอะไรสักอย่างหนึ่งเพื่อการเรียนรู้นะครับ แต่ในเมื่อมันมีตัวอย่างให้เรียนรู้อยู่แล้ว ทำไมคุณต้องเอาตัวไปเรียนรู้อีกที คุณก็รู้ผลของมันอยู่แล้ว

ให้โอกาสก่อนเจอกับ Kung Fu Fighting เดี๋ยวเจอหรอกของจริง

เหนือฟ้าย่อมมีฟ้า

Kung Fu Fighting แท้ ๆ สิแน่จริง

ไม่จำเป็นว่าคุณจะต้องอยู่เหนือบนฟ้าขึ้นไปเรื่อย ๆ ขอแค่คุณเป็นคนจริงเท่านั้นเอง คุณก็อยู่ได้

Kung Fu Fighting โอ่ โอ โอ โอ๊… โอ่ โอ โอ โอ… โอ่ โอ โอ โอ๊…

คือพยายามจะร้องออกมา แต่มันกลายเป็นแขก ๆ ยังไงไม่รู้ โอ่โอโอโอ๊ (ร้องเพลง)

รู้สึกเพลงนี้มีสระอวยเยอะมาก

ไม่ได้จะให้ทะลึ่ง มันบังเอิญครับ

Facebook Comments

Next:


Montipa Virojpan

อิ๊ก เนิร์ดดนตรีที่เพิ่งกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นนักเขียนตอนอายุ 25 ชอบเดินเร็ว นอกจากขนมปังกับกาแฟดำแล้วก็สามารถกินไอศกรีมกับคราฟต์เบียร์แทนมื้อเช้าได้