Gorillaz คือโปรเจกต์ virtual band ที่ถ่ายทอดเพลงผ่าน 4 ตัวละคร 2-D, Murdoc, Russel และ Noodle จนเผลอคิดไปว่าสมาชิกเหล่านี้มีชีวิตอยู่บนโลกใบเดียวกับเรา

Article Guru

Gorillaz ความสำเร็จของ Visual Band ที่ทลายเส้นแบ่งโลกจริงกับจินตนาการ

หากเราเป็นเด็กที่โตมาในยุค MTV ประมาณปลาย 90s ต้น 2000s เราจะได้ยินเพลงของ Gorillaz ผ่านหูผ่านตาอยู่บ่อย โดยที่ตอนนั้นเราก็ไม่แน่ใจนักว่าจริง แล้วมันคือเพลง การ์ตูน หรือ marketing campaigne อะไรกันแน่

อันที่จริงแล้ว Gorillaz คือโปรเจกต์ virtual band ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 1998 โดย Damon Albarn หรือฟรอนต์แมนของวงบริตป๊อปชื่อดัง Blur ร่วมกับนักวาดการ์ตูนและ illustrator Jamie Hewlett หลังจากนั้นก็ได้ Remi Kabaka Jr. มาเป็นโปรดิวเซอร์และ A&R ให้กับวงในปี 2011 โดยชักชวนศิลปินและนักดนตรีหลายชีวิตมาร่วมกันทำเพลงโดยไม่เปิดเผยตัวตน แต่จะถ่ายทอดผ่าน 4 ตัวละคร 2-D, Murdoc, Russel และ Noodle ซึ่งนั่นทำให้เราเผลอคิดไปว่าสมาชิกเหล่านี้มีชีวิตอยู่บนโลกใบเดียวกับเรา

Gorillaz คือโปรเจกต์ virtual band ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 1998 โดย Damon Albarn

ตัวละครทั้งสี่ได้แรงบันดาลใจจากศิลปินหรือผู้คนรอบตัวทั้งสอง 

อย่าง 2-D คือ Stuart ‘Stu’ Lowbridge technician และ live music co-ordinator ของอัลบาร์นที่ทำงานร่วมกันมาตั้งแต่สมัยที่เขาทำ Blur ส่วน Murdoc คือ Keith Richards วง Rolling Stones และ Russel ก็มีต้นแบบเป็น Ice Cube (บ้างก็ว่าเขารูปร่างเหมือนกาต้มน้ำร้อนยี่ห้อ Russell Hobbs) เพราะฮิวเล็ตชอบบุคลิกของพวกเขาเหล่านี้มาก ส่วน Noodle ก็มาจาก Gum ตัวละครในเกม ‘Jet Set Radio’ สังเกตได้จากหมวกของเธอในอัลบั้มแรก 

Gorillaz Murdoc Niccals | Keith Richards

Murdoc Niccals | Keith Richards

Stuart Harold '2-D' Pot | Stuart 'Stu' Lowbridge

Stuart Harold ‘2-D’ Pot | Stuart ‘Stu’ Lowbridge

Ice Cube | Russel Hobbs

Ice Cube | Russel Hobbs

Noodle | Gum

Noodle | Gum

และสิ่งนี้ก็ถือเป็นจุดขายที่สำคัญเพราะให้ว่ากันตามตรงก็ไม่ค่อยมี virtual bands ให้เราเห็นมากนัก และคาแร็กเตอร์ของ 2-D, Murdoc, Russel และ Noodle ก็เอื้อต่อการที่จะสร้างเรื่องราวนอกเหนือไปจากแค่เอาตัวการ์ตูนมาเล่นในมิวสิกวิดิโอ ซึ่งพวกเขาก็สร้างจักรวาล Gorillaz ขึ้นมาจริง มีอยู่หลายครั้งที่วงไปโลดแล่นบนจอแก้ว อย่างการสัมภาษณ์ หรือในรายการ MTV Cribs ที่ปกติจะพาไปดูบ้านของศิลปิน ก็มี Murdoc พาชมบ้าน แล้วมีสมาชิกคนอื่น ๆ โผล่มาแว้บ ๆ เหมือนพวกเขามีตัวตนจริง ๆ 

 

และนอกเหนือจากสปอตเหล่านั้น ก็มีการออกหนังสือ ‘Rise of the Ogre’ เป็นอัตชีวประวัติของวง ขายที่ pop up store ใน South Bank Centre เมื่อปี 2006 และ spin-off ที่ออกมาช่วงอัลบั้ม Plastic Beach มีทั้งหมด 4 เล่ม ‘The Book of 2-D’, ‘The Book of Murdoc’, ‘The Book of Russell’ และ ‘The Book of Noodle’ เล่าเรื่องราวชีวิตของแต่ละคนหลังจากการหลบหนีออกมาจากเกาะที่สตูดิโอของพวกเขาถูกโจมตี

Gorillaz มีอัลบั้มออกมาแล้ว 6 อัลบั้ม ซึ่งส่งผลให้ตัวละครต้องมีวิวัฒนาการ หรือ ‘เติบโต’ ในทุก อัลบั้ม สไตล์เพลงก็มีการเปลี่ยนแปลงไม่หยุดนิ่ง เพราะได้ศิลปินหลากหลายแนวมาร่วมงานจนเกิดสีสันที่น่าสนใจอยู่เสมอ มีให้ฟังตั้งแต่ drum and bass, hip hop, world music, power pop, electronic rock, reggae นอกจากนี้พวกเขาไม่ได้หยุดอยู่แค่การฉายภาพตัวการ์ตูนเคลื่อนไหวเป็นวิดิโอประกอบโชว์เบื้องหลังนักดนตรีในไลฟ์คอนเสิร์ต แต่ยังฉายโฮโลแกรมแต่ละคนขึ้นบนเวทีราวกับว่าเราสามารถจับต้องพวกเขาได้

ความที่ป็นวงที่ active อยู่ในทุกยุคทุกสมัย วงก็ไม่ลืมที่จะปรับตัวตามพฤติกรรมของแฟน ที่เปลี่ยนไป พวกเขาเลือกจะเล่นกับความมีชีวิตอยู่จริง ของสมาชิกทั้งสี่ โดยให้ทุกคนมีอินสตาแกรมส่วนตัวที่อัพเดตชีวิตแบบคนจริง  (ของ Noodle ตามไปได้ ที่นี่เวลาสัมภาษณ์พวกเขาก็มีถ่ายทอดสตรีมมิงให้ดูสด  ไปจนถึงแอปพลิเคชันที่ให้คนฟังได้มีส่วนร่วมเข้าไปสำรวจโลกของพวกเขา ซึ่งมีแฟนเพลงเข้าร่วมกิจกรรมอย่างจริงจัง นอกจากนี้ก็มีแบรนด์ต่าง ให้ไปเป็นพรีเซนเตอร์ ทั้ง Jaguar, G-Shock และวงก็ออกไลน์แฟชันของตัวเองในชื่อ G Foot 

ล่าสุด พวกเขามีเพลย์ลิสต์บน Spotify ที่ให้แต่ละตัวละครจัดเพลงให้เราฟังในวาระต่าง อย่าง Murdoc’s Sleighlist ที่ Murdoc เลือกเพลงฟังช่วงคริสต์มาส ในระหว่างที่สมาชิกคนอื่น เดินทางไปพักร้อนหนีหนาวกันรอบโลก Noodle ไปเที่ยวที่อิหร่าน 2-D ไปเบย์รุต Russel ไปเม็กซิโก ทั้งสามเลยทำเพลย์ลิสต์ ‘Wish You Wear Ear’ ออกมา โดยเพลงที่เลือกมาก็จะได้แรงบันดาลใจจากบรรยากาศในประเทศนั้น และยังมีโปสต์การ์ดที่ส่งกลับมาให้ Murdoc ที่อยู่ในสตูดิโอที่ลอนดอนและแฟน ได้รู้สึกเหมือนได้ร่วมเดินทางไปกับพวกเขา

 

View this post on Instagram

 

Wish you were here, Noodle!

A post shared by Gorillaz (@gorillaz) on

นี่จึงเป็นอีกขั้นของการทลายโลกในจินตนาการให้ผนวกเข้ากับโลกจริงได้อย่างแนบเนียน และเป็นการทำให้วงดนตรีวงหนึ่งสามารถสร้าง fanbase ได้อย่างเหนียวแน่น บางคนอาจจะมองว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่ pure artists จะทำกัน เพราะในฐานะนักดนตรีวงก็ไม่ได้ขับเคลื่อนด้วยตัวเพลงล้วน แต่ในทางกลับกัน เรามองว่าพวกเขาคือศิลปินโดยเนื้อแท้ หากรู้วิธีสื่อสารและใช้สิ่งที่มีอยู่ในมือได้ทรงประสิทธิภาพ และสามารถปรับตัวเข้ากับยุคสมัยได้อย่างชาญฉลาด จากโลกที่พวกเขาสร้างขึ้นมาก็สามารถร้อยเรียงเพลงเข้ากับภาพจนเกิดเป็นแบรนด์ที่แข็งแรงมาเป็นเวลา 20 กว่าปี ทั้งสองสิ่งนี้จะต้องควบคู่กันไป แบบที่ตอนนี้เราต่างรับรู้ว่า ไม่มีเพลง ก็ไม่ใช่ Gorillaz หรือถ้าไม่มี 2-D, Murdoc, Russel, Noodle ก็ไม่ใช่ Gorillaz อยู่ดี

เสาร์นี้กำลังจะมีงาน tribute ด้วย ตามไปเจอกันได้ที่ From Plastic Beach to Saturnz Barz: GorillazTributeNight ที่ NOMA จ้า

อ่านต่อ

‘Reject False Icons’ โฮมวิดิโอตั้งแต่ปี 2015 ของครอบครัว Gorillaz ที่เรารัก
เรื่องเล่าจาก Noodle มือกีตาร์วง Gorillaz กับการเป็นมากกว่าจินตนาการของ Damon Albarn และ Jamie Hewlett
Facebook Comments

Next:


Montipa Virojpan

อิ๊ก เนิร์ดดนตรีที่เพิ่งกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นนักเขียนตอนอายุ 25 ชอบเดินเร็ว นอกจากขนมปังกับกาแฟดำแล้วก็สามารถกินไอศกรีมกับคราฟต์เบียร์แทนมื้อเช้าได้