Oh Wonder Fungjaizine

Article Import

คุยกับ Oh Wonder ถึงความหมายของความสุขในอัลบั้ม ‘No One Else Can Wear Your Crown’

อาทิตย์ที่ผ่านมานี้ Fungjaizine ได้มีโอกาสพูดคุยเกี่ยวกับ No One Else Can Wear Your Crown อัลบั้มล่าสุดของ Oh Wonder หรือ Anthony West และ Josephine Vander Gucht ที่กำลังจะปล่อยกัน ซึ่งเราได้รู้ไปถึงความหมายของชื่ออัลบั้ม วิธีการแต่งเพลงของพวกเขา รวมไปถึงคอนเซปต์ของ ‘ความสุข’ ในแบบฉบับของพวกเขากัน

Oh Wonder BKK

ยินดีต้อนรับสู่ประเทศไทย (อีกครั้ง) เป็นยังไงบ้างครั้งนี้?

แอนโทนี่: สวัสดีครับ เรามาที่นี้ได้สองวันแล้วล่ะ สนุกมากเลย นี้กินกันไปเยอะมาก ยิ่งกาแฟนี้เยอะสุด ๆ

โจเซฟีน: จริง กินเยอะจนตัวสั่นแล้วเนี่ย! (หัวเราะ) เมื่อวานเราไปเยาวราชกันมา แล้วก็เจอแต่ของอร่อยเยอะไปหมดเลย

ไปกินอะไรกันมาบ้าง

แอนโทนี่: เกี๊ยวทอด! อร่อยมากเลย

โจเซฟีน: ใช่ ๆ เราไปกินซาลาเปากับซุปด้วย จำไม่ได้ว่าเขาเรียกว่าอะไร ‘กระ’ อะไรซัมติงสักอย่าง (FJZ: กระเพาะปลา?) น่าจะใช่นะ (หัวเราะ) แต่มันอร่อยมากเลยล่ะ

ได้ยินมาว่าชอบมาประเทศไทยกัน?

โจเซฟีน: ใช่แล้ว นี้เป็นครั้งที่สี่ที่เรามาที่นี้แล้วล่ะ แต่ก่อนหน้านี้คือเรามาในฐานะนักท่องเที่ยว ถ้าในฐานะ Oh Wonder นี้ถือเป็นรอบที่สาม

รูปแบบงานในรอบนี้มาเล่นมาค่อนข้างแปลก มีความเป็นมายังไงนะ?

แอนโทนี่: เดาว่ามันต้องสนุกมากแน่ ๆ (หัวเราะ)

โจเซฟีน: พวกเราจะไปเล่นตามบาร์ สามที่รอบ ๆ เยาวราช เพราะเราอยากเล่นโชว์เล็ก ๆ ที่บรรยากาศแบบอบอุ่น ๆ ให้บรรยากาศเหมือนอยู่ในห้องนั่งเล่น แบบมีแค่ฉันและก็แอนโทนี่สองคน กับคนดูสัก 100 กว่าคนประมาณนี้ก็พอ

แอนโทนี่: คือเราจะกลับมาเล่นในเดือนกันยายนอีกทีด้วย แต่อันนั้นเป็นแบบโชว์เต็ม ๆ มีวงมีอะไรแบบปกติ เราก็เลยอยากมาเล่นงานเล็ก ๆ ที่เข้าถึงแฟน ๆ ก่อนสักรอบ

ไหน ๆ ก็ขอถามหน่อยละกัน โพสต์ใน Instagram ที่ทำคนแตกตื่นพอสมควรอาทิตย์ที่แล้ว มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

โจเซฟีน: OMG (หัวเราะ) คือพวกเรากำลังจะปล่อย MV ของเพลง Happy แล้วคือเรื่องราวในเพลงคือ พวกเราแยกทางกันในฐานะวง ต่างคนก็ไปทำโปรเจกต์ของตัวเอง แต่คือพอปล่อยออกไปแล้ว ไม่มีใครไปดู MV เลย แล้วก็คิดว่าพวกเราเลิกกันจริง ๆ

แอนโทนี่: ขอโทษจริง ๆ นะ ความผิดพวกเราเองแหละ (หัวเราะ)

พูดถึงที่มาของชื่ออัลบั้มใหม่หน่อย No One Else Can Wear Your Crown

โจเซฟีน: คือเพลงแรกของอัลบั้มนี้คือ Dust แล้วคือมันมีท่อนนึงที่ร้องว่า “When people try to get you down, remember that I’m here for you. No one else can wear your crown, just yours.” ประมาณนี้ ซึ่งเอาจริง ๆ ก็ตลกอยู่เหมือนกัน เพราะตอนแรกที่เขียน เราก็ไม่ได้คิดอะไรกันหรอก แต่พอผ่านไปสักพักก็เริ่มแบบ “โอ้ววววววว” เพราะท่อนนี้ก็ค่อนข้างสรุปทุกสิ่งในอัลบั้มนี้เลย เพราะคอนเซปมันคือ เราเหมือนเป็นพระราชา ราชินีของชีวิตตัวเองถูกไหมล่ะ? แบบเราจะทำอะไรก็ได้ เพราะมันอยู่ในการควบคุมของเรา อัลบั้มนี้ก็คือมาตีความรู้สึกพวกนั้น พวกความรู้สึกที่เกี่ยวข้องกับการรักตัวเอง การใช้ชีวิตของเรา

มีเพลงไหนในอัลบั้มที่ชอบเป็นพิเศษ?

แอนโทนี่: ของผมต้องเพลง How It Goes เลย เพลงนี้เรากลับมาเล่นในเดือนกันยายน แต่วันอาทิตย์นี้ยังไม่ได้เล่นนะ (FJZ: ขายของอีกแล้ว ฮ่า ๆ ) คือเพลงนี้ต้องฟังเวอร์ชั่นที่มีกลองชุดด้วยจริง ๆ ผมชอบมาก ผมรู้สึกดีมากเลยเวลาฟังเพลงนี้

โจเซฟีน: ถ้าของเราต้อง I wish I never met you คือเนื้อหาเพลงมันค่อนข้างตลก เพราะเขียนถึงเเฟนเก่าของเราที่ชอบนอกใจเราน่ะ คือก็เป็นเพราะพวกเขาอะแหละที่ทำให้เรามีปัญหาเรื่องความไว้เนื้อเชื่อใจ จนต้องมาเขียนเพลงแบบทุกวันนี้ (หัวเราะ)

การเเต่งเพลงในอัลบั้มนี้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรไปบ้างไหมจากอัลบั้มแรก ๆ

โจเซฟีน: ไม่นะ เราก็ยังทำอะไรเหมือน ๆ เดิม เหมือนตั้งแต่สมัย Layla เลย (FJZ: โหวว สมัยนั้นเราชอบมาก) ก็คือเขียนเพลงบนเปียโน แล้วก็เถียงกับอีกคน แบบ “ท่อนนี้มันไม่ได้เรื่องเลย!” (หัวเราะ)

แอนโทนี่: แต่คือในรอบนี้จริง ๆ ก็มีเปลี่ยนไปบ้างแหละ ตรงเลิิกออกไปสตูดิโอ คือทำเพลงกันในบ้านเลย ไม่ออกไปไหนสักครั้ง ทุก ๆ เสียงก็คือเกิดขึ้นภายในบ้าน ซึ่งผมว่ามันทำให้เพลงออกมาเป็นตัวเรามากขึ้นนะ

จะมีสักเพลงที่แอนโทนี่ร้องนำบ้างไหม? 

แอนโทนี่: อย่าสปอยล์สิ! (หัวเราะ) แต่จริง ๆ ก็ไม่มีอะแหละ จริง ๆ มันมีที่ผมร้องนิดหน่อยใน Happy แล้วก็เพลง In and Out of Love ในอัลบั้มเต็ม​ ซึ่งพวกนี้เป็นครั้งแรกเลยที่ผมมีไลน์ให้ร้อง ดังนั้นเสียงผมก็จะดังขึ้นกว่าปกตินิดนึงแหละ

แล้วอัลบั้มนี้ตั้งความหวังไว้ว่ายังไงบ้าง

โจเซฟีน: ก็ไปเรื่อย ๆ แหละ (หัวเราะ)

แอนโทนี่: ใช่เลย ตราบใดที่มันยังทำให้เราได้ไปเล่นดนตรีตามที่ต่าง ๆ ได้ มันก็โอเคแล้ว

โจเซฟีน: มันสุดยอดไปเลยล่ะที่เราได้มีโอกาสบินไปรอบ ๆ โลกเพื่อเล่นดนตรีที่เราทำขึ้นมา

แอนโทนี่: คือมันดีนะที่คุณจะมีความฝัน หรือเป้าหมายอะไร แต่มันก็สำคัญเหมือนกันที่จะมองเห็นในสิ่งที่เรามีอยู่แล้ว ซึ่งตอนนี้มันก็โอเคมาก ๆ เลย

ในอัลบั้มมีเพลงชื่อ Happy แล้วความสุขของแบบฉบับของพวกคุณล่ะ เป็นยังไง?

โจเซฟีน: ถ้าเราหาคำตอบนี้ได้ เราคงเป็นคนรวยมากไปแล้วแน่ ๆ (หัวเราะ)

แอนโทนี่: ผมว่ามันคือบาลานซ์ แบบบางทีสิ่งเดียวกันก็ทำให้คุณทั้งทุกข์ ทั้งสุขได้ ขึ้นอยู่กับเวลา

โจเซฟีน: เราว่ามันคือการเข้าใจคนอื่นและตัวเองแหละ คือถ้าเราเข้าใจว่าเราอยู่จุดไหน และยอมรับมัน เราก็จะโอเคกับชีวิตเราเอง

แอนโทนี่: จริงนะ แบบการรู้ที่ถึงสิ่งที่เรามีและยินดีกับมัน ทำให้เรามีความสุขได้ง่าย ๆ เลย ดังนั้นถ้าวันไหนเรารู้สึกแย่ ๆ ก็หาสิ่งที่เรารู้สึกว่ามันมีค่ากับเราสะ

โจเซฟีน: อีกอย่างหนึ่งที่เราทำแล้ว มีความสุขทุกครั้ง ก็คือพาน้องหมาที่บ้านไปเดินเล่นพาไปเดินเล่นรอบละชั่วโมง ทิ้งโทรศัพท์ไว้ที่บ้าน แค่นี้ก็มีความสุขเเล้ว

แล้วถ้าเวลารู้สึกแย่ ๆ ละ มีคำแนะนำไหม?

แอนโทนี่: เราต้องหาที่ให้ความรู้สึกพวกนั้นอยู่มั้ง แบบถ้าเราปล่อยมันไปก็อาจจะทำทุกอย่างพังได้ เราก็ต้องเรียนรู้ว่าอะไรทำให้เรารู้สึกแย่

โจเซฟีน: จริง ๆ เวลาเรารู้สึกแย่ เราจะแบบ อะไรวะเนี่ย!?!? แต่พอมานึกจริง ๆ เเล้ว มันก็ไม่มีใครที่จะมีความสุขหรือเศร้าได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว ดังนั้นมันเป็นเรื่องปกติที่จะรู้สึกเศร้า ต้องจำว่ามันโอเคนะที่จะรู้สึกไม่โอเค

ในการไปทัวร์รอบโลกในหลาย ๆ ปีที่ผ่านมา มีอะไรที่รู้สึกว่าเป็นบทเรียนสำคัญ?

โจเซฟีน: หลัก ๆ เลยคือ โลกมันเล็กกว่าที่เราคิด จริง ๆ นะ แม้ว่าคนเราจะกินอาหารไม่เหมือนกัน พูดคนละภาษา แต่สักพักคุณจะค้นพบว่าแบบ แก่นของคนเราจริง ๆ ก็เหมือนกัน มีสมอง มีความรู้สึกนึกคิดที่เหมือนกัน เช่น การตามหาความสุข ความรัก อะไรพวกนี้ ทุกคนก็เหมือนกันแหละจริง ๆ แล้ว

แอนโทนี่: ใช่เลย พอรู้แล้วมุมมองชีวิตเราก็เปลี่ยนไปเยอะเหมือนกัน

โจเซฟีน: โดยเฉพาะตอนเรามาเล่นดนตรีเนี่ยแหละ คือดนตรี เสียงเพลง อะไรพวกนี้เป็นเหมือนพื้นที่ที่คอยเชื่อมต่อทุกคนบนโลกด้วยกัน ถึงเราจะพูดกันคนละภาษา อาจจะไม่เข้าใจกันเลย คือถ้าจับมานั่งด้วยกันคือนั่งเอ๋อแน่ ๆ แต่พอมีเพลงเข้ามา เราก็คุยกันได้ มันเหมือนเรามีพลังวิเศษเลยล่ะ

Oh Wonder Interview Fungjaizine

หมดเวลาแล้ว มีอะไรอยากฝากถึงแฟน ๆ ชาวไทยไหม?

แอนโทนี่: ขอบคุณมาก ๆ ครับสำหรับการสนับสนุนของพวกคุณ ที่ให้โอกาสเรากลับมาประเทศที่สวยงามนี้อีก

โจเซฟีน: มันบ้ามาก ๆ ที่เราได้มีโอกาสทำอะไรที่พวกเราทำ เหมือนเป็นพรจากสวรรค์เลยล่ะ

แอนโทนี่: (หัวเราะ) ผมชอบที่นี้มากจริง ๆ ขอบคุณพวกคุณทุกคนครับ

แล้วทั้งหมดนี้ก็เป็นการพูดคุยระหว่าง Fungjaizine กับ Oh Wonder ในการมาทัวร์ครั้งนี้ของพวกเขา ขอขอบคุณ Universal Music Thailand ที่ชวนเราไปเจอพวกเขาในครั้งนี้ หากใครที่พลาดทัวร์ครั้งนี้ของพวกเขา อย่าลืมล่ะ เรามีนัดกันอีกทีกันยายน!

ตะลุยป๊อปอัพโชว์บรรยากาศสุดน่ารักจาก Oh Wonder @ บ้านริมน้ำ

เริ่มต้นสัปดาห์อย่างมีความสุขไปกับ Oh Wonder

Facebook Comments

Next:


Ratchanon

Part-time writer for Fungjaizine; while listening some sleepy songs around the moon.