Article Import

คุยกับ Theresa Wayman แห่ง ‘Warpaint’ ถึงโปรเจกต์เดี่ยวของเธอ ‘TT’

  • Writer: Montipa Virojpan
  • Photographer: Chavit Mayot

ก่อนที่เราจะได้ไปดูคอนเสิร์ตของ Warpaint กันใน Harry Styles Live on Tour เราก็มีโอกาสได้มาพูดคุยกับ Theresa Wayman มือกีตาร์ของวง ที่หันมาทำอัลบั้มเดี่ยวในชื่อ LoveLaws พร้อมบอกให้คนทั้งโลกได้รู้จักกับเธอในชื่อใหม่ TT

ชื่อโปรเจกต์ TT มีที่มาจากอะไร

เป็นชื่อเล่นของฉันน่ะค่ะ ชื่อจริงฉันคือเทรีซ่า ก็ได้ตัว ‘T’ มาจากตรงนั้น แล้วก็มีคนเรียกฉันว่า T ส่วนพ่อของลูกชายของฉันก็เรียกฉันว่า ‘TT’ เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันมากแค่ตอนนี้ไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว บางทีพี่สาวของฉันก็เรียกนะ แล้วมีอยู่หนนึง ตอนลูกชายฉันอายุ 6 ขวบ เขามีเพื่อนชื่อเทรีซ่าเหมือนกัน เธอเป็นเด็กที่น่ารักที่สุดที่ฉันเคยเจอมาเลย ใส่แว่นหนา ดูน่าเอ็นดู แล้วคนก็เรียกเธอว่า TT ฉันเลยคิดว่าถ้าพอจะมีวิธีไหนที่จะให้มีคนเรียกฉันว่า TT ได้บ้างฉันก็จะทำค่ะ (หัวเราะ)

รู้ไหมว่าในไทยเขาใช้ TT เป็นอีโมติคอนของคนร้องไห้นะ

ใช่หรอ เจ๋งไปเลย! จริง เมื่อเช้านี้ฉันร้องไห้ไปแล้วสองรอบ ไม่รู้ทำไม ฉันชอบร้องไห้นะ เออ เหมาะกับชื่อฉันดีอะ เป็นคนอีโม

ทำไมถึงทำอัลบั้ม LoveLaws นี้ด้วยตัวเองทั้งหมด เพลงแตกต่างจากของ Warpaint ยังไง และเจอความยากยังไงบ้าง

อันที่จริงฉันได้ความช่วยเหลือจากพี่ชายของฉันเป็นซาวด์เอนจิเนียร์ แล้วก็เป็นโปรดิวเซอร์ ซึ่งเขาจะเก่งเรื่องการอะเรนจ์ เป็นคนที่รู้เซนส์ของเพลงว่าจะทำยังไงให้ติดหู ขณะเดียวกันก็เป็นสายอาวองการ์ดหน่อย แถมยังรู้จักมือกลองเก่ง ด้วย ฉันเลยค่อนข้างไว้ใจเวลาที่เขาแสดงความคิดเห็นต่าง เกี่ยวกับเพลง ฉันอยากจะลองทำเพลงเองมากขึ้นนะ อยากรู้ว่าตัวคนเดียวจะทดลองทำอะไรได้บ้าง มันเหมือนเป็นการได้ทำความเข้าใจกับตัวเอง คล้ายกับศิลปินที่สร้างงานศิลปะ ฉันวาดรูปออกมาเพื่อรู้ว่าฉันเป็นคนยังไง ดนตรีเองก็เช่นกัน ฉันว่ามันน่าสนใจมาก

ส่วนความยากมันคือตอนที่ไม่รู้จะทำให้เพลงมันออกมาถูกต้องยังไง ช่วงที่งมอยู่ก็จะมีความคิดเกิดขึ้นอยู่บ่อย ว่านี่กูทำอะไรอยู่วะเนี่ยก่อนหน้านี้ฉันพึ่งคนอื่นมาก แต่ตอนนี้จะได้ใช้การตัดสินใจของตัวเองทั้งหมด ซึ่งมันจะเป็นสิ่งที่ฉันต้องการจริง ได้เรียนรู้อะไรมากเหมือนกันค่ะกับการได้ลองทำอะไรเองเนี่ย

คุณเคยเห็นสีในเพลงของตัวเองบ้างไหม

ไม่นะ แต่ฉันเห็นรูปทรงในเพลงของฉัน ไม่เชิงรูปทรงเป๊ะ แต่เห็นเป็นโครงสร้าง อย่างตอนที่ทำเพลงชุดนี้ฉันเห็นมันเป็นบล็อก ดูแปลกเนอะ แต่จริง อาจจะไม่แปลกก็ได้ มันเหมือนว่าฉันเห็นรูปร่างของกระบวนการสร้างเพลง เห็นว่ามันถักทอเชื่อมต่อจากจุดนึงไปอีกจุดนึงได้ยังไง เหมือนเรากำลังทอพรมผืนใหญ่ยังไงอย่างงั้นฉันนึกออกนะ มันมีสิ่งที่เรียกว่า synesthesia ซึ่งฉันว่ามันเจ๋งมาก แล้วฉันก็รู้จักศิลปินที่มีอาการนี้ ฉันก็ถามเขาว่าเห็นสีในเพลงมันเป็นยังไงหรอ เป็นแบบที่เหมือนมีสีฉาบทาบทั้งตัวฉันเวลาฟังเพลง หรือว่ามันเป็นสีที่เกิดขึ้นในหัว แล้วเหมือนเขาไม่ค่อยอยากตอบคำถามเท่าไหร่อะ ก็บอกว่าก็ฉันแค่เห็นสีอะฉันบอกเขาว่าเจ๋งมาก แล้วเขาก็แบบฮะ เจ๋งยังไงก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่

ถ้าให้เปรียบเทียบอัลบั้ม LoveLaws เป็นสี จะเป็นสีอะไร

น่าสนใจคงเป็นสีแดงเข้มมั้ง เพราะมันมีความลุ่มลึก ร้อนแรง ซ่อนเร้น แล้วก็โรแมนติกในนั้น ฉันว่ามันให้ความรู้สึกหยั่งรากไปถึงสีแดง นึกออกไหมมันเหมือนจักระหรือออร่าที่แผ่ออกมาจากตัว กับอัลบั้มนี้มันน่าจะเป็นสีแดงที่เข้มมาก

ในเพลง I’ve Been Fine ที่เป็นมิวสิกวิดิโอตัวแรกของ TT คุณกำกับเองและแสดงเองด้วย

ใช่ ฉันกำกับหนังได้นะ แล้วนั่นก็เป็นสาเหตุที่ฉันให้มันมีสีแดงในวิดิโอเยอะ เพราะมันสื่ออารมณ์ได้ถูกต้องที่สุด ส่วนการแสดงนี่ยากชะมัด จริง จะให้คนอื่นมาเล่นแทนก็ได้ แต่พอมันเป็นเรื่องราวของฉันฉันก็อยากจะเล่นเอง

คิดว่าจะลองรับงานสายนี้ดูไหม

ก็คิดว่านะ จริง ฉันไปออดิชันสองสามบทมาก่อนหน้า แต่ก็ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะรับไหม คือมันมีบางทีที่รู้สึกว่าการแสดงมันไม่ได้สำคัญจำเป็นกับชีวิตของฉันมากขนาดนั้น ฉันควรที่จะทำโลกแห่งความเป็นจริงให้ดีขึ้น มากกว่าที่จะอยู่กับโลกมายา ฉันเคยคิดว่าอยากจะเป็นสายนักข่าว หรือทำอะไรเพื่อสังคม เพื่อมวลมนุษยชาติ เพราะตอนนี้มันมีเรื่องเกิดขึ้นเยอะมากในโลกของเรา คือถ้าเราไม่ทำอะไรสักอย่างตอนนี้ฉันว่าโลกพินาศแน่ ฉันเลยคิดว่าเรื่องแบบนี้มันสำคัญกว่าการมาแกล้งร้องไห้แสดงอารมณ์หน้ากล้อง

แต่ขณะเดียวกันการแสดงมันก็ช่วยให้คนดูได้ประสบการณ์ที่เขาไม่เคยได้รับนะ อย่างหนัง ‘Call Me By Your Name’ นี่ฉันว่าเป็นหนังที่ดีมาก มันทำให้ฉันรู้สึกได้กับเรื่องราวในนั้นจริง จนมันทำให้ฉันนึกย้อนถึงชีวิตจริงของเรา ด้วย ซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องสำคัญเหมือนกันไม่รู้แฮะ (หัวเราะ) เอาเป็นว่าถ้าใครจะทำหนังไทยก็เรียกได้ค่ะ ถ้าบทมันเหมาะกับฉันฉันจะมาเล่นให้

พูดถึง The Dream เพลงล่าสุดของ TT ทำไมยิ่งปล่อยเพลงแล้วซาวด์ยิ่งดาร์กขึ้นเรื่อย

จริง ฉันชอบเพลงป๊อปนะ ชอบเพลงที่มันสื่อสารตรง แต่ก็ไม่ใช่ทุกเพลง ชอบเพลงป๊อปที่ต้องมีคุณภาพหน่อย ฉันเข้าใจนะว่าทำไมเพลงป๊อปมันครองใจคนทั้งโลกได้เพราะมันทำให้เขารู้สึกมีอารมณ์ร่วมไปกับเพลง ฉันเองก็เลยพยายามทำเนื้อเพลงให้มันเชื่อมโยงถึงคนฟัง แต่ขณะเดียวกันก็จะไม่ฉีกไปจากโครงสร้างเพลงที่ฉันต้องการให้อัลบั้มนี้เป็น ซึ่งมันจะมีความอาวองการ์ดหน่อย ด้วย เพราะฉันรู้สึกว่าถ้าฉันทำเพลงป๊อปจ๋า ไปเลยฉันคงรู้สึกยี้ตัวเอง แบบ มันไม่ใช่อ้ะ อย่างเพลง Stay ของ Rihanna นี่ฉันชอบมากเลยนะ แต่ถ้าฉันทำเพลงซาวด์คลีน แบบนั้นบ้างฉันคงแบบม่ายยยย ฉันต้องทำให้มันรกขึ้นต้องดิบ สกปรก หน่อย ฉันเข้าใจนะว่าคนอยากจะฟังเพลงที่สื่อสารตรงไปตรงมา ซึ่งฉันทำไม่ได้ ฉันอยากให้คนได้ฟังเพลงหลาย แบบ และมันจะอยู่ในอัลบั้มนี้ทั้งหมด

ฝันที่แปลกประหลาดที่สุดของคุณคืออะไร

คำถามเจ๋งดีว่ะ (หัวเราะ) โอ๊ยนึกแปป คือ ฉันฝันประหลาดเยอะมากนะ เอาเป็นเรื่องนี้ละกัน เพิ่งฝันเมื่อไม่กี่วันก่อนแล้วมันเจ๋งมาก ฉันฝันว่าตัวเองว่ายน้ำในมหาสมุทรได้เหมือนโลมาเลย แต่ฉันยังเป็นฉันอยู่นะ ไม่ได้มีครีบแบบโลมา แต่ฉันว่ายน้ำได้เก่งเลยอะ ว่ายไปทางนั้น ดำไปทางนี้ ฉันก็แบบโอ้พระเจ้า ดูขาฉันสิ ทำแบบนี้ได้ด้วยทุกอย่างมันง่ายดายมหัศจรรย์ไปหมด แล้วฉันก็ดำผุดดำว่ายอยู่อย่างนั้น น้ำในมหาสมุทรก็สีสวยมาก เป็นแบบสีน้ำเงินเขียวเข้ม มีคนยืนดูใช่ ยืนอยู่บนน้ำ คอยดูฉัน แล้วก็มีผู้ชายที่ดูเหมือนนักวิทยาศาสตร์เพี้ยน คอยออกคำสั่งให้ฉันทำนั่นทำนี่ เหมือนฉันอยู่ในการทดลองของเขายังไงอย่างงั้นเลย (หัวเราะ)

TT

แน่นอนว่าการพูดคุยของพวกเรายังไม่หมดแค่นี้ รอติดตามบทสัมภาษณ์ต่อไปของ Warpaint กันได้เลย

ขอบคุณ Universal Music Thailand และสถานที่ Grand Hyatt Erawan
Facebook Comments

Next:


Montipa Virojpan

อิ๊ก เนิร์ดดนตรีที่เพิ่งกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นนักเขียนตอนอายุ 25 ชอบเดินเร็ว นอกจากขนมปังกับกาแฟดำแล้วก็สามารถกินไอศกรีมกับคราฟต์เบียร์แทนมื้อเช้าได้