Article Interview

ทำความรู้จักกับ Møle The Explosion และการระเบิดครั้งใหญ่ของพวกเขา

  • Writer: Kunchanit Liengudom
  • Photographer: Jiratchaya Pattarathumrong

หลังจากที่หนึ่งในนักเขียนฟังใจซีนของเราโดนตกไปอย่างจังในคอนเสิร์ต Deep Wave โปรเจกต์ Play Wave EP.2 ของค่าย Macrowave จากสเน่ห์การเล่นสดของวงชื่อแปลกอย่าง Møle The Explosion (โมล ดิ เอ็กซ์โพชั่น) เจ้าของเพลง ชายคนแรกผู้มอบดอกไม้ให้เธอ, เมื่อเธอฝันฉันตื่น และล่าสุด จันทราในแอ่งน้ำ ฟังใจซีนก็รีบติดต่อทางวงเพื่อขอสัมภาษณ์แบบด่วนจี๋เพื่อที่เราทุกคนจะได้ทำความรู้จักกับวงคุณภาพวงนี้มากยิ่งขึ้น ! ซึ่งการพูดคุยกันครั้งนี้ก็ออกจะครื้นเครงมาก ๆ เพราะเรื่องตลกและมุกฮา ๆ ที่ฟร้อนต์แมนของวงคอยปล่อยออกมาไม่หยุดหย่อน

เอาล่ะได้เวลาอันดี ไปทำความรู้จักกับ Møle The Explosion และเพลงของพวกเขากันเลยดีกว่า

 


สมาชิก

ใหม่ – ณัฐวัจน์ ไกรพิชญ์ (กีต้าร์, ร้องประสาน)
แชมป์ – ณภัทร สมจินตนากุล (กีต้าร์, ร้องประสาน)
อ๊อฟ – เรืองวิทย์ ไสเหลื่อม (ร้อง, คีย์บอร์ด)

 

เพิ่งไปเล่นงาน Deep Wave มา เป็นอย่างไรบ้าง ความรู้สึกของวงหรือเสียงตอบรับจากแฟนเพลง

อ๊อฟ: ดีครับ ดีเลย ส่วนตัวผมรู้สึกว่าโอเคมาก ไม่คิดว่าจะมีคนชอบครับเอาตรง ๆ (หัวเราะ) คือมีคนเดินมาคุยกับเราก็รู้สึกดีครับ รู้สึกว่าเพลงเรามันได้ทำงานในระดับนึง

ใหม่: ตอนแรกก็ไม่ได้คาดหวังครับว่าคนจะเข้ามาดูตอนที่เราเล่นเยอะขนาดนั้น เห็นด้านหน้ามีคนร้องเพลงตามได้ก็ดีใจแล้วครับ เพราะว่าเพลงก็น่าจะร้องยากอยู่ แต่ละเพลงก็ลึก ๆ ทั้งนั้น ก็ถือว่าเกินความคาดหมายของวงครับผม

แชมป์: เหมือนมึงเลย

อ๊อฟ: ครับ เดี๋ยวมันจะเยอะไป (หัวเราะกันทั้งวง)

ทำไมชื่อวงต้องเป็น ‘ตุ่นระเบิด’

แชมป์: คือตอนแรกเราทำงานกันคนละที่ เหมือนทำงานกันอยู่ในรู แล้วก็รอวันที่มันจะระเบิดออกมา ก็เลยเป็นที่มาของวง Møle The Explosion (โมล ดิ เอ็กซ์โพชั่น) สั้น ๆ ง่าย ๆ ยังงี้เลยครับ

อ๊อฟ: เวลาปล่อยเพลงมันจะมีคนพูดว่า ‘เพลงเนี้ยฮิตแน่นอน’ อะไรแบบนี้ แล้วสุดท้ายก็… เงียบฮะ ซึ่งพอเงียบเราก็จะมีคำพูดกันว่า ‘มันไประเบิดที่เปรู ไม่มีใครรู้หรอก’ (หัวเราะ) เป็นคำแก้ตัวกันเอง ฮือ

จำกัดแนวเพลงของ Møle The Explosion ว่าเป็นแนวอะไร

อ๊อฟ: ผมจำกัดไว้ว่าเป็น Nu R&B หรือ Minimal Soul อะไรแบบนี้ เหมือนเป็นเพลง Soul แต่เราตัดทอนพวกลูกยาก ๆ ออกไป ให้เหลือแค่ความเป็น R&B นิดหน่อยในการร้องกับริทึ่ม

ทั้งสามคนมารวมตัวกันได้อย่างไร

อ๊อฟ: เมื่อก่อนเราทำวงเก่ามาชื่อ SøAR FLiT แล้ววงก็แตกไป จริง ๆ วงนั้นเราทำงานกันแค่ประมาณสามสี่คนอยู่แล้วครับ ทีนี้ก็เลยคุยกันว่าจะทำต่อไหม ผม แชมป์ ใหม่อยากทำต่อ แต่ไม่มีใครร้อง ผมก็เลยโอเค อยากเป็นนักร้องมานานแล้ว ผมร้องเองเลยละกัน แบบไม่ค่อยชอบร้องเพลงเท่าไร้ (เสียงสูง) ผมว่าเพลงแต่งเองร้องเองก็น่าจะโอเคกว่า

แล้วแต่ละคนมีโปรเจกต์อะไรกันอีกบ้าง

แชมป์: จริง ๆ แต่ละคนมีวงมากกว่าหนึ่งวงหมดเลย อย่างอ๊อฟมี ไปส่งกู บขส. ดู๊ ใหม่มีวง canvas ส่วนผมมี สราญรมย์แบนด์ ซึ่งทุกวงยังรันกันอยู่ทั้งหมดเลย

แบบนี้บริหารจัดการเวลาอย่างไร อย่างการซ้อมวงเราแบ่งเวลาอย่างไรบ้าง

ใหม่: คือโชคดีว่าอย่าง Møle The Explosion เนี่ยเราซ้อมกันเยอะที่สุด เหมือนวงอื่นของพวกเราตอนนี้ยังไม่ค่อยทำอะไรกันเท่าไหร่ เวลาก็เลยไม่ค่อยชนกัน

อ๊อฟ: ของผมอย่าง ไปส่งกู บขส. ดู๊ เนี่ย เอาตรง ๆ เราเคยซ้อมกันครั้งล่าสุดก็ตอนไป บิ๊กเม้าเท่น เมื่อประมาณห้าหกปีที่แล้ว คือเราซ้อมก่อนเข้าห้องอัดอยู่แล้ว แต่พอเวลาเล่นสดก็ไม่ค่อยได้ซ้อมกัน มีซ้อมแค่เฉพาะตอนโชว์ใหญ่ ๆ แต่ของ Møle The Explosion มันจะชิวกว่าเพราะพวกเราอยู่ใกล้กัน ก็ไปซ้อมกันได้ง่ายกว่า เป็นนักดนตรีที่อยากซ้อมกันอยู่แล้ว

แชมป์: ของ สราญรมย์แบนด์ อยู่ในช่วงทำเพลงอะครับ ไม่มีเล่น ก็เลยค่อนข้างจะเทมาทางนี้ ช่วงนี้เลยมาทำงานกับ Møle The Explosion มากกว่า เพราะ สราญรมย์แบนด์ สมาชิกก็อายุเยอะกันแล้วก็เลยต่างคนต่างทำงานหาเงินกันมากกว่า เรื่องเพลงจะเป็นเรื่องรองลงมา ประมาณนั้น

ที่มาที่ไปของการมาอยู่กับค่าย MACROWAVE

อ๊อฟ: ตอนนั้นเฟิร์สโทรมาชวนครับ แล้วผมก็อยู่งานแต่ง ผมก็เลยบอกว่าโอเคครับ เอาเลย แค่นั้น เพราะว่าเฟิร์สเนี่ย ผมเชื่อใจเขาอยู่แล้ว

เห็นว่าวงมีการเปลี่ยนเซ็ตลิสต์ในการเล่นสดมาก่อนหน้านี้ ช่วยเล่าการออกแบบโชว์ที่ผ่าน ๆ มาให้ฟังหน่อย

อ๊อฟ: การออกแบบโชว์ก่อนหน้านี้ผมกะว่าจะให้มันเป็นกอสเปลสามคน แต่ทีนี้เรื่องเวลาการซ้อมมันจะยากขึ้น เพราะพอคนมันเยอะมันก็ซ้อมยากขึ้น ด้วยความที่เราสามารถใช้เทคโนโลยีได้ ผมก็ให้นักร้องที่เขาร้องคอรัสอีกคนนึงซื้อเอฟเฟกต์ harmony มาใส่ในของเราไปเลย แต่ผมไม่ได้ใช้นะ ผมก็ร้องแทร็คเดียวของผม แต่หมายถึงว่าเขาก็ใช้เรื่องเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวในการเล่นสด เพราะว่าถ้าเราใช้กอสเปลสามคน… สี่คนด้วยมั้งตอนนั้น แล้วผมรู้สึกว่ามันลำบาก มันดูพยายามเกินไป ไม่ค่อยเข้ากับแนววงด้วย

อย่างล่าสุดในงาน Deep Wave คือลงตัวแล้ว

อ๊อฟ: ใช่ครับ ก็ลงตัวที่สุดแล้ว เราออกไปเล่นมาประมาณสี่ห้างานแล้วเราก็เปลี่ยนจนเราได้เซ็ตนี้อะครับ

แล้วไปเจอพี่ก๊าซมือกลองได้ยังไง

อ๊อฟ: พี่ก๊าซเป็นรุ่นพี่ในมหาลัยผมครับ เมื่อก่อนเคยเล่นกับพี่ เล็ก ทีโบน มาด้วยกัน ผมเล่นกีตาร์แล้วพี่ก๊าซตีกลอง ตอนนั้นพี่เล็กออกอัลบั้มกับ LOVEiS อยู่ครับ อัลบั้ม ห่มรัก ผมก็ได้เล่นกับเขา เหมือนพอเล่นกับพี่ก๊าซมานานแล้วเสียงกลองแกมันอยู่ในหัวเราตลอดเวลา เราชอบเพลงคล้าย ๆ กันด้วย แล้วพอเราทำเพลงแนวใหม่ คือผมจะเป็นคนที่อินกับคำว่า ‘first time in the world’ มาก คือต้องครั้งแรกในโลก ก็เลยต้องเป็นแก แต่จริง ๆ บางงานก็จะเป็นพี่ โอม Two Pills After Meal

จุดเริ่มต้นและ process การทำเพลงของ Møle The Explosion

อ๊อฟ: เริ่มมาจากผมครับ คือผมจะเขียนเนื้อกับทำนอง แต่ในหัวผมจะมี arrange ไว้แล้ว เวลาผมทำเพลงผมจะมองเป็นอัลบั้ม เป็นภาพรวมทั้งหมด แล้วก็ทำเดโม่ของตัวเองให้เสร็จก่อน คือเริ่มจากคิดคอนเซ็ปต์มาเลยว่าจะใช้ซินธิไซเซอร์เสียงอะไรบ้าง แทร็คร้องเป็นยังไง เนื้อเพลงประมาณไหน คิดเป็นภาพรวมของอัลบั้มก่อนแล้วค่อยมาหั่นดูว่าจะแตกเนื้อเป็นแบบไหนบ้าง จะให้ใครมาช่วยแต่งเนื้อเพลงนี้ให้มันสมบูรณ์แบบขึ้น อย่าง เมื่อเธอฝันฉันตื่น ตอนแรกผมก็เขียนไปแต่มันตลก ผมร้องเองยังไม่อินเลย แก้ไปแก้มาก็เลยไปได้ พี่ปิ๊ก องอาจ มาช่วยเขียนเพลงให้หลายเพลงเลย แต่ถ้าเรื่องเพลงจริง ๆ ผมจะเริ่มจากเมโลดี้ก่อน แต่งโมโลดี้กับกีตาร์หรือเปียโนแล้วก็อัดไว้ จากนั้นก็จูนแล้วทำเป็นกอสเปล

แรงบันดาลใจของการร้องแบบกอสเปล

อ๊อฟ: คือก่อนที่ผมจะมาทำเพลง ผมเล่นดนตรีแจ๊สมาก่อน แล้วผมก็อินดนตรีแจ๊สมากซึ่งในนั้นก็จะมีพวกกอสเปล ก็เลยติดความเป็นกอสเปลมาตั้งแต่ตอนนั้น เวลาทำแทร็คร้อง ส่วนตัวผมเป็นคนร้องเพลงไม่เก่ง ผมเลยต้องอุดรูรั่วมัน บางทีมิกซ์เองด้วยผมก็จะดั๊บแทร็ค ตอนแรกก็จะดั๊บแค่คู่แปด แต่ด้วยความที่มันเยอะ คู่แปด คู่สาม อ๋อ โอเค กอสเปลละ (หัวเราะ) แล้วมันเป็นอย่างนี้ทุกเพลงด้วย

ใหม่: ต้องฟังเดโม่ตอนอ๊อฟส่งที่ร้องมาครับ อือหือ สุดยอด

อ๊อฟ: คือผมเป็นคนที่ค่อนข้างจะเก่งเรื่องการใช้ปลั๊กอิน เราก็เลยไม่จำเป็นต้องร้องเพลงเก่ง (หัวเราะ) ล้อเล่นฮะล้อเล่น… ตอนนี้ร้องเก่งแล้ว

เพลง Stephen Hawking มีที่มาอย่างไร

อ๊อฟ: เพลงนี้ได้พี่ปิ๊กเลยครับ คือผมกับพี่ปิ๊กเขียนเพลงด้วยกันมาสักพักนึงแล้ว แล้วผมรู้สึกว่าอยากจะมีเพลงที่เขียนร่วมกันโดยไม่ต้องแก้กัน แบบว่าผมเขียนมาเลย ส่วนพี่ปิ๊กก็เขียนเนื้อเสริมเข้ามาให้ ตอนแรกผมตั้งปณิธานว่าอยากพูดนักวิทยาศาสตร์คนนึงคือ Stephen Hawking แต่มันเป็น symbolic เกินไป พี่ปิ๊กก็เลยบอกว่า งั้นเอางี้ เดี๋ยวกูแร็ปเลย ซึ่งทุกคนก็จะมองว่าแกขึ้นไปบ่นอะไรสักอย่างแทน (หัวเราะ)

ใหม่: เพลงนี้น่าจะเป็นเพลงเดียวเลยมั้งครับที่ไม่ได้เกี่ยวกับผู้หญิง

อ๊อฟ: ใช่ ๆ คือในอัลบั้มก็ต้องมีเพลงตัดเลี่ยนบ้าง เพราะทุกเพลงน่าจะเกี่ยวกับผู้หญิงหมด

แล้วทำไมต้องเป็น Stephen Hawking

อ๊อฟ: ผมชอบการทำงานของเขาครับ คือเขาใช้สมองอย่างเดียวในการทำงาน เหมือน ชาร์ลส์ เซเวียร์ ใน ‘X-men’ เขาใช้สมองอย่างเดียวเพื่อรันวิทยาศาสตร์รันอะไรของเขาไป ซึ่งผมคิดว่าตัวเองเหมือนกับเขา (FJZ: เหมือน สตีเฟ่น ฮอว์คกิ้ง หรือชาร์ลส์ เซเวียร์ ?)  โห เหมือน ชาร์ลส์ เซเวียร์ นี่เท่เลยนะ (หัวเราะ) ไม่ คือผมเห็น สตีเฟ่น เป็นไอดอลด้วยวิธีคิด ผมชอบทฤษฎี black hole แล้วก็หลาย ๆ ทฤษฎีที่บอกว่ามนุษย์เราไม่ได้เป็นชนเผ่าพื้นเมืองของโลกหรืออะไรแบบนี้ มันดูอาว็องการ์ดดี ผมชอบเขามากจนอยากบูชาเขาด้วยการเขียนเพลง แต่ก็อยากจะเขียนเพลงให้มัน symbolic แบบเป็นความรักนิดนึง เปรียบเทียบว่าการหลงเข้าไปในหลุมดำมันเหมือนเราหลงผู้หญิงคนนึง หาตัวเองไม่เจอเลย อะไรแบบนี้

อาร์ตเวิร์คแบบ Vaporwave ในเพลง เมื่อเธอฝันฉันตื่น มีที่มาอย่างไร

อ๊อฟ: ที่มาที่ไปคือพวกซินธิไซเซอร์ในวงเราเนี่ย เหมือนเราไทอินมาจากความเป็นฮิปฮอป โลไฟว์ ซึ่งมันเกิดขึ้นครั้งแรกที่ญี่ปุ่น เราก็เลยอยากให้เกียรติคนที่คิดคนแรก เลยต้องการ Vaporwave แบบนั้น มีภาษาญี่ปุ่นแบบนั้น

ใหม่: แต่จริง ๆ ก็วางแผนว่าจะทำแบบนั้นในทุกเพลงนะครับ เพื่อความชัดเจนไปเลย คือกำลังคิดว่าจะทำเป็นเอ็มวีหรือทำเป็นภาพแบบนี้ไปเลยดี เพราะมันก็จะชัดหน่อยว่าถ้าเจอภาพแบบนี้คือวง Møle The Explosion แน่ ๆ

อ๊อฟ: อย่าง Zero Hero เขาจะมีแบบ ‘วงดนตรีเพื่อการเกษตรและประมง’ ของเราจะเป็น ‘วงดนตรีเพื่ออาร์ตเวิร์คและงานประติมากรรม’

ใหม่: จริง ๆ ทำเพลงเพื่อผู้หญิงอย่างเดียว สร้างวงนี้มาเพื่อสิ่งเดียวเลยครับ ไม่ได้เกี่ยวกับงานอาร์ตอะไรทั้งสิ้น ตอบเพื่อความเท่

อ๊อฟ: เฮ้ย ถ้ามีใครจัดนิทรรศการอะไรแบบนี้แล้วเชิญวงเราไปเล่น เราไปเล่นฟรีเลยนะ เพราะว่าเราเป็นวงดนตรีเพื่ออาร์ตเวิร์คและงานประติมากรรม (หัวเราะ) เฮ้ย พูดเล่นนะ

จากเพลง ชายคนแรกผู้มอบดอกไม้ให้เธอ อยากให้ทุกคนเล่าประสบการณ์การจีบหญิงครั้งแรกของตัวเองหน่อย

อ๊อฟ: ผมจำได้ว่าครั้งแรกผมจีบผู้หญิงคนนึงตอนป.5  ซึ่งจริง ๆ ผู้หญิงคนนั้นถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นในการเล่นดนตรีของผมเลยนะ เขาชื่อ มะนาว แล้วตอนนั้นผมก็ชอบเขามาก แต่ผมมีเพื่อนคนนึงเรียนห้องเดียวกัน เขาเป็นน้องชายพี่แซ็ค I-ZAX ครับ ชื่อไอ้รัก  เล่นกีตาร์เก่งมาก วันเกิดเหี้ยไรแม่มันก็เลี้ยงทั้งห้อง เล่นกีตาร์โชว์อีก ซึ่งเราก็ไม่ได้อยากดูเลยเพราะเป็นโชว์ที่ห่วยแตกมาก แต่มันเป็นเพื่อนรักผมนะ แล้วมะนาวอะเสือกชอบผู้ชายที่เล่นกีตาร์ ผมก็แบบไม่ได้ละ ผมต้องเล่นบ้าง ก็เลยไปเล่น แล้วก็พยายามเรียกร้องความสนใจจากเขาด้วยการเล่นกีตาร์ ผมไปสะกิดหลังเขา “เฮ้ย มะนาวฟังเพลงหน่อยสิ เราจะเล่น”, “เฮ้ยฟังหน่อย ๆ” สะกิดไปจนเขารำคาญเขาก็เลยเอาฟุตเหล็กสับหัวผม โอเค เราก็เลยเรียนรู้ว่า เราเนี่ยสายทดลองตัวจริง

ใหม่: วนมาได้ไงวะ

แต่ก็ได้มาเป็นนักดนตรีจนทุกวันนี้นะ ขอบคุณมะนาว

อ๊อฟ: ไม่ขอบคุณ จริง ๆ ไม่เจอมะนาวก็เล่นอยู่ดี เพราะเจอคนอื่น (หัวเราะ) คืออันนี้เป็นประสบการณ์จีบหญิงครั้งแรกของผม เราเล่นกีตาร์เพลงของพี่แมว จิระศักดิ์ ซึ่งเมื่อก่อนผมก็ไม่รู้ว่าพี่แมวเป็นญาติกับพี่แซ็ค I-ZAX ชิบหายแล้ว ไปเล่นเพลงของคู่แข่งได้ยังไง

แล้วคนอื่น ๆ ล่ะมีเรื่องเด็ด ๆ ไหม

ใหม่: เรื่องกูจางเลยเนี่ย (หัวเราะ) ของผมเป็นตอนประถม เมื่อก่อนยังไม่มีโซเชียลอะไรสักอย่างเลย ก็เลยใช้การเขียนกระดาษแบบฉีกสมุดแล้วก็เขียนเอา แอบฝากเพื่อนเอาไปให้เขาหน่อย (อ๊อฟ: โคตรฮิปสเตอร์) เออ แล้วก็เขียนตอบกันไปมา แค่นั้น ก็ความเป็นเด็กอะ ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเท่าไหร่ แค่เดินสวนกันยังไม่กล้าทักเลย

อ๊อฟ: โอ้ย กูนี่ไม่ได้เลยนะ หน้าด้านมาตั้งแต่เด็ก

ใหม่: ของผมไม่ค่อยมีอะไรฮะ ตอนเด็ก ๆ จะขี้อาย ไม่ค่อยกล้าคุยกับใคร พอโตมาก็กลายเป็นเพื่อนสนิทกันไปเลยอะไรแบบนั้น ไม่ได้จีบกัน

แชมป์: ผมน่าจะคล้าย ๆ ใหม่ฮะ ตอนเด็ก ๆ ผมก็ขี้อาย แต่ว่าตอนที่จีบแฟนคนแรกนี่เหมือนโดนเพื่อนหลอกอะครับ คือผมชอบผู้หญิงคนนี้แต่ว่าไม่กล้าเข้าไปคุยกับเขา เพื่อนในห้องก็จะชอบหลอก ชอบปั่นแบบ ‘เฮ้ยเนี่ย เขาหามึงอยู่’ อะไรแบบนี้ ซึ่งปั่นไปเรื่อย ๆ เนี่ยมันมีทั้งเชื่อแล้วก็ไม่เชื่อ มันจะมีช็อตบางช็อตแบบ เฮ้ย จริงเหรอวะ แล้วมีอยู่วันนึงเขาเดินผ่านไปพอดี เพื่อนผมก็ ‘เฮ้ยเมื่อกี้เขาถามหามึงอยู่’ ผมก็ จริงเหรอ ตอนนั้นก็เลย เอาวะ เดินเข้าไปเลย “เมื่อกี้ถามหาผมอยู่เหรอครับ” เขาก็แบบ ‘ฮะ อะไรนะ’ ผมก็เลยแนะนำตัวเองว่าผมชื่อนี้นะ ก็เลยได้คุยกัน

ใหม่: ทำไมเรื่องมันพีคจังวะ แต่ของมึงน่าจะพีคสุดแล้ว (พูดกับอ๊อฟ) ใช้ชีวิตเด็กยังไงวะมึง

อ๊อฟ: เพลงแรกที่ผมเล่นคือ ดาวประดับฟ้า ครับ แล้วก็คิดว่าเล่นได้ดีมากด้วย แต่เล่นได้คอร์ดเดียวคือคอร์ด C

ในเพลงเราให้ดอกไม้ แล้วถ้าไม่ใช่ดอกไม้ล่ะ ของขวัญที่แปลกที่สุดที่เคยให้ผู้หญิงคืออะไร

อ๊อฟ: ผมเคยให้ต้นไม้ครับ คือไม่มีเงินไงสมัยเรียนมหาลัย แล้วก็อยากเซอไพรส์แต่ไม่มีเงินไปซื้อเค้ก ตอนนั้นไปแปลงเกษตรก็เลยไปซื้อต้นกุหลาบที่มันอยู่ในกระถาง ห้าสิบบาท แล้วก็ปักเทียน พอจุดเทียนแล้วมันก็ไหม้ใบ

ใหม่: (หัวเราะ) ทุเรศว่ะ

ใหม่กับแชมป์ล่ะมีอะไรจะสู้ไหม

ใหม่: ไม่มีเลยครับ ผมไม่ค่อยมีอะไรประหลาด ๆ

แชมป์: ชีวิตผมน่าจะจืดชืดกว่าอ๊อฟเยอะเลย

เพลง จันทราในแอ่งน้ำ ได้ เดอะดวง มาวาดอาร์ตเวิร์คให้ด้วย

อ๊อฟ: คือพี่เดอะดวงเนี่ยผมกินเหล้ากับแกบ่อย คือสนิทกัน เหมือนพี่เดอะดวงเขาเป็นแฟนเพลงของวง ไปส่งกู บขส. ดู๊ อยู่แล้ว แล้วเขาก็เคยฟังงานของเราอย่าง เมื่อเธอฝันฉันตื่น หรือ ชายคนแรกผู้มอบดอกไม้ให้เธอ พอมาเพลงใหม่ จันทราในแอ่งน้ำ เราก็ส่งไปให้เขาฟัง พี่ดวง เนี่ยผมมีเพลงให้พี่ฟัง แต่ไม่ใช่ของ ไปส่งกู บขส. ดู๊ นะเป็นวงที่ผมร้องเอง ‘เฮ้ย ฟีลเนี่ยกูคิดภาพออกเลยว่ะ’ แล้วแกก็สเก็ชภาพมาให้ผมดู เป็นการ์ตูนแบบนี้ ผมก็โอเคพี่ พี่ช่วยทำให้ได้ไหม เขาก็บอกว่า ได้ดิ ก็เลยให้เขาทำให้

เพลงนี้ร่วมงานกับ ญาณิณ ด้วย

อ๊อฟ: ญาณินเนี่ยผมไปเจอเขาที่งานแคท คือผมเป็นแฟนเพลงเขาอยู่แล้วตั้งแต่พวกเพลง อากาศ ผมชอบงานเขามาก แล้วเขาเคยมาดูผมเล่นตอนงานแรกที่ PLAY YARD มั้ง ไอ้งาน Super Ego อะ เขาก็มาดูแต่ก็ไม่ได้คุยกัน วันนั้นก็จบไป แล้วทีนี้ก็ไปเจอกันที่งาน Cat T-shirt เขาก็เดินมาคุยกับผม ชนแก้วกินเบียร์กันอะไรแบบนี้ เขาบอกว่าถ้ามีเพลงอะ ชวนเราไปฟีทได้นะ ผมก็เลยบอกว่าเกรงใจมากเลยว่ะอาย ตื่นเช้ามาผมเลยส่งเพลงไปให้เขาเลย

เราได้เรียนรู้อะไรบ้างจากการทำวงก่อน ๆ อย่าง SøAR FLiT หรือวงอื่น ๆ ที่กำลังรันอยู่ตอนนี้ก็ตาม

แชมป์: โหย เยอะมากครับ เช่นเรื่องเงิน ทำวงอินดี้นี่ต้องพร้อมที่จะจนเลยครับ พร้อมที่จะเจ็บแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ อย่างไปเล่นต่างจังหวัดก็ไม่ได้เงิน ออกเอง เข้าเนื้ออะไรกันตลอดเวลา คือต้องยอมเจ็บอย่างเดียวเลย อันนี้สอนสุด ๆ เหมือนเราทำงานอื่นเพื่อที่จะเอาเงินมาทำเพลงอะไรแบบนี้

อ๊อฟ: สำหรับผม ผมเรียนรู้เยอะเลยครับ อย่างวิธีการทำคอนเทนต์ของตัวเองให้มันแข็งแรง แล้วก็ทำในสิ่งที่รักแต่คนอื่นก็รักเราด้วย จริง ๆ ผมเรียนรู้หลายอย่างจากพี่อ๋อง ไปส่งกู บขส. ดู๊ เรื่องของตัวเพลงที่มันชัด คือถ้าเพลงมันชัดมากคนก็ฟังอยู่แล้ว

คิดว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่จะทำให้วงอินดี้วงหนึ่ง ๆ ยืนหยัดอยู่ได้ยาวนาน

ใหม่: ผมว่าเพื่อนในวงก่อนเลยครับ คือคนในวงพร้อมหรือเปล่า ผมว่าปัจจัยหลักแค่นี้แหละครับ ปัจจัยอื่นมันเป็นเรื่องของอนาคตที่เราไม่รู้ว่าต่อไปเพลงเราจะเป็นแบบไหน วงจะเป็นอย่างไร แต่ถ้าเพื่อนในวงไม่เอาด้วยสักคนนึง ทุกอย่างมันจะพัง แบบเฮ้ยไปเล่นกัน แต่มีคนไม่เอา กูติดงานว่ะ อะไรแบบนี้ แค่นั้นก็พังแล้วครับ เพราะว่าอย่าง SøAR FLiT บางทีก็มีฟีลนั้นอยู่ มันก็เลยไม่ไหวว่ะ พอเหลือกันอยู่สามคนมันง่ายกว่า อีกอย่างเราอยู่ใกล้กัน เราสามารถไปด้วยกัน แชร์กัน มันง่ายกว่าเยอะเลยครับ

อ๊อฟ: ผมว่าน่าจะเป็นตัวเพลงด้วย หมายถึงว่าตัวเพลงที่เราแต่งออกไปแต่ละเพลง เราสื่อสารกับกลุ่มคนฟังของเราได้มากน้อยแค่ไหน อันนี้สำหรับผมนะครับ เหมือนเราเริ่มขยายฐานแฟนได้ในรูปแบบของเพลงตัวเอง คือวงอินดี้ทุกวงก็จะเขียนภาษาตัวเองอยู่แล้วถูกไหม ไม่ได้ไปเขียนเรื่องพี่เสกเพื่อเกาะข่าวพี่เสกแบบเนี้ย มันก็คงจะไม่ใช่

แชมป์: ผมมองว่ามันน่าจะมีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย คือจริง ๆ เราก็ไม่ได้ทำตรงนี้เพื่อหาเงินเป็นหลัก แต่มันก็น่าจะต้องมีฟีดแบ็กอะไรกลับมาบ้าง ถ้าเกิดมันไม่มีอะไรเลยเนี่ย มันเท่ากับว่าเราเสียเงินไปเรื่อย ๆ เลยนะเพราะว่าการทำเพลงเพลงนึงมันใช้เงินเยอะเหมือนกัน แล้วมันจะมีปัญหาถ้าคน ๆ นึงแม่ป่วย เมียเป็นนั่นเป็นนี่ มีลูก หรืออะไรแบบนี้ เพราะมันใช้เงินทั้งนั้นเลย ก็เนี่ยแหละครับผมว่ามันเป็นสาเหตุที่ทำให้วงแตก ทำให้วงอยู่ได้ไม่นาน ถ้าตัดเรื่องเงินออกไปได้ผมว่าวงน่าจะอยู่ได้นานขึ้น

คิดว่าการบริหารโซเชียลของวงหรือการกระจายข่าวก็สำคัญมาก

อ๊อฟ: ผมให้ความสำคัญมากครับ อย่างชื่อเพลง ซึ่งอาจจะเคยพลาดมาเมื่อก่อน พอมาทำวงนี้เราก็ไม่อยากให้มันพลาดละ อยากให้มันได้อะไรบ้าง ได้คนฟัง ผมจะยิ่งดีใจมากถ้าได้คนฟังที่ทำให้เราเป็นเหมือนประตูทางเข้าให้เขาเข้ามาฟังวงอินดี้หรือวงในสายลึกได้ เหมือนเราเป็นคนแรกที่ชวนเขามาฟังได้ อันนี้คือโจทย์ที่อยากจะทำของ Møle The Explosion เลยครับ

ชื่อเพลงส่วนใหญ่ของ Møle The Explosion ค่อนข้างสวยเลยล่ะ 

ใหม่: มันเหมือนเป็นสเตตัสอะครับ คนอัพสเตตัสเวิ่นเว้ออะไรแบบนี้

อ๊อฟ: เป็นสเตตัสในสายลึก เหมือนตัวชื่อเพลงเองมันก็ค้นหาคนที่ฟังเพลงแบบนี้

พอจะบอกอีกสักชื่อสองชื่อของเพลงที่อยู่อัลบั้มได้ไหม

อ๊อฟ: มีชื่อ ภาพวันพรุ่งนี้ แล้วก็มีเพลง ค่ำคืนเดือนมืด ซึ่งจริง ๆ จะชื่อเพลง แสงจันทร์กระจ่าง แต่ว่ามันเหมือนวงรุ่นพี่เพื่อชีวิตวงหนึ่งเลยไม่เอาดีกว่า แล้วก็เพลงนี้ครับ เพลงขายผมเลย บางครั้งเพลงรักก็โดนขับเคลื่อนด้วยความเหงา นี่คือชื่อเพลง

อ๊อฟตั้งเองหมดทุกเพลงเลยเหรอ

อ๊อฟ: ใช่ครับ… อ๋อแล้วก็มีใหม่ช่วยด้วย

แล้วแชมป์กับใหม่ชอบชื่อเพลงไหนเป็นพิเศษไหม

อ๊อฟ: โห ผมไม่เคยถามเลยนะเรื่องนี้

แชมป์: ของผมน่าจะเป็น จันทราในแอ่งน้ำ ครับ เพราะผมนึกถึงหนังไทยสมัยเก่า

ใหม่: ของผมน่าจะเป็น เมื่อเธอฝันฉันตื่น

อ๊อฟ: มันเคยมีเพลงนึงที่ผมทำกับพี่ปิ๊กชื่อเพลง ช่องลมพา แล้วทีนี้พี่ปิ๊กแกก็บอกว่าทำไมกูนึกถึงช่องที่มันมีขยะเหม็น ๆ อะไรงี้วะ คือเพลงเสร็จแล้วนะแต่ผมลบทิ้งเลยฮะ รู้สึกว่าโหยพี่ คำนี้แม่งแรว้งว่ะ แต่เพลงมันก็ไม่ค่อยสื่ออะไรมากก็เลยไม่ได้เอามา อาจจะเอาไว้ทำโปรเจกต์เดี่ยวอะไรแบบนี้ ซึ่งผมเคยทำแล้วนะ แต่โหย เจ๊งสิฮะ (ใหม่: ยอดวิวไม่ถึงร้อย) ของผมก็ปาไปเก้าสิบแล้ว (หัวเราะ) จริง ๆ ผมมีความโรคจิตอย่างหนึ่งคือผมชอบเพลงที่ผมทำมากอะ ไม่รู้เป็นไร ผมรู้สึกว่าผมชอบ arrange แบบนั้น ผมชอบเสียงกีตาร์แบบนั้น แต่สิ่งที่ไม่ชอบคือเสียงร้องตัวเอง คือผมไม่ใช่นักร้อง อยากจะเก่งกว่านี้ อยากจะเป็นนักร้องที่สกิลดีกว่านี้

ผ่านอะไรมาเยอะมากเหมือนกัน อะไรที่ทำให้เรายังไม่ถอดใจกับการทำวงดนตรี

อ๊อฟ: เป็น need มั้ง เป็นความอิจฉา อย่างผมเห็นตูน (วง YERM) ทำเพลงแล้วได้ล้านวิวแบบนี้ผมก็อิจฉาเขา เฮ้ย เราต้องทำได้บ้างดิวะ เออ เป็นความอิจฉาของเรา เป็นความอยากทำ จริง ๆ ไม่ได้อยากเอาชนะนะ คือเราเป็นคนทำเพลงแบบที่ต่อให้ไม่ได้ทำวงนี้ แต่พอกลับไปถึงห้องก็ยังแต่งเพลงเขียนเพลงไว้อยู่ดี คือทุกสกิลที่ผมเรียนรู้มามันทำให้ผมเป็นคนแบบนี้ ผมไปเรียนดนตรีแจ๊สเพราะผมไม่อยากจะซ้ำกับใคร อยากมีทางคอร์ดที่มันแปลก ๆ เรียนรู้การมิกซ์เพลงเพราะว่าอยากจะทำได้

แล้วจริง ๆ แนวคิดแปลก ๆ  ในการทำเพลงส่วนหนึ่งผมได้มาจากเพื่อนฝรั่งที่เคยทำงานด้วยกันชื่อ ทิสตัน คอลเล่ย์ ครับ เขาเป็นคนทำเพลง new age ในยุโรป คือโลกของผมเปลี่ยนไปเลยตอนที่ผมเจอเขา เมื่อก่อนผมทำเพลงผมก็รู้สึกว่ามันจะต้องเป็นแนวนั้นแนวนี้ แต่ทิสตันมันสอนผมให้หลุดกรอบไปเลย ให้ค้นหาตัวเอง ตอนเด็ก ๆ ชอบเพลงแบบไหน ชอบดนตรีร็อก ทำไม่เราต้องทิ้งดนตรีร็อกวะ ทิสตันมันจะถาม เป็นนักดนตรีแจ๊สทำไมต้องทิ้งดนตรีร็อก ทำไมต้องทิ้งแอมเบียนต์ เราเป็นคนที่เขียนเนื้อเพลงได้ ทำไมต้องทิ้งการเขียนเนื้อ มันเอามารวมกันแล้วหล่อหลอมเป็นตัวเราได้ ผมก็โอเค งั้นยำมั่วเพื่อสร้างสิ่งใหม่เลยก็แล้วกัน อันนี้คือแนวคิดที่ผมคิด

ใหม่: อย่างแรกเราชอบดนตรีอยู่แล้วครับ ผมเองก็เรียนดนตรีมาตั้งแต่เด็ก มหาลัยก็เลือกที่จะไปเรียนดนตรีโดยตรงมา แล้วก็ทำวงตั้งแต่แรก เมื่อก่อนผมอยู่วง จิดา สมัยนั้นมันเหมือนผมเคยได้สัมผัสในจุดหนึ่ง ผมก็เลยคิดว่าเราสามารถทำตัวเองให้ขึ้นไปอยู่ในจุดนั้นได้ เพราะเราเห็นมาหมดแล้วว่าอะไรเป็นอะไร เลยไม่เคยคิดถอดใจที่จะทำวง อย่างตอน SøAR FLiT ยุบ อ๊อฟก็โทรมา ‘เฮ้ยทำต่อปะ’ ผมก็ตอบเลย “ทำดิ” ไม่ได้ขอเวลาไปคิดก่อนอะไรแบบนี้ “ทำต่อเลย แล้วยังไงจะเหลือใครบ้าง” เขาก็บอกเดี๋ยวเอาแชมป์อีกคน แค่นี้พอสามคน “เอาเลยทำเลย” ด้วยความที่อยู่กับอ๊อฟด้วยครับ มันเหมือนเราทำงานกันตลอด คือสมมติไม่มีอ๊อฟผมก็คงนั่งบ้าซื้อกีตาร์เหมือนเดิม เหมือนมันติดไปแล้ว ทุกวันนี้ผมต้องเข้าเพจตลาดเครื่องดนตรีเพื่อจะดูกีตาร์ มันวนอยู่ในชีวิตผมตลอดเวลา ก็เลยไม่รู้จะหาเหตุผลอะไรที่จะไปถอดใจ มันไม่มีเหตุผลตรงนั้นเลย

อ๊อฟ+แชมป์: เฉียบ ๆ

ใหม่: เท่ปะ กูคิดตั้งนาน

กังวลไหมว่าคนจะไม่เก็ตแนวเพลงของเรา หรือมันจะฟังยากเกินไป

อ๊อฟ: ไม่นะ ผมไม่เคยกังวลเรื่องนี้ ถ้าสังเกตดี ๆ เพลงของ Møle The Explosion จะเป็นการตั้งคำถามทั้งหมดเลย เนื้อเพลงหรือแม้แต่ชื่อ ผมตั้งชื่อเพลงมา อย่างน้อย ๆ มันต้องมีคนเอะใจกับชื่อเพลงนั้นแล้ว อันนี้เป็นการตลาดของผมเอง

ใหม่: ตั้งให้ยาว ๆ ยาวจนยังพูดชื่อเพลงตัวเองผิดประจำ

อ๊อฟ: ใช่ ๆ กูพูดผิดตลอดเลย

ใหม่: ชายคนแรกที่มอบดอกไม้@#$% อะไรของมันไม่รู้

อ๊อฟ: แต่ถ้าถามว่ากังวลไหม กังวลจริง ๆ น่าจะเป็นเพลงสุดท้ายที่เรามองว่าอยากให้มันเป็นเพลงฮิต อันนั้นจะกังวลนิดนึง พอมีเรื่องฮิตเข้ามา ผมจะเริ่มเอาละ ซวยละ แก้เยอะละ

ใหม่: จริงเหรอ แต่เราก็ปล่อยเพลงตีหนึ่งเหมือนเดิมนะ

อ๊อฟ: เออพอไปกินเหล้า ก็โอเค ปล่อยเลย ๆ (ฮา) ผมว่ามันวัดแฟนเบสจริง ๆ ได้เลยนะ

ใหม่: ตอนปล่อย ชายคนแรกผู้มอบดอกไม้ให้เธอ เราปล่อยตอนตีหนึ่งครึ่งครับ ผมนั่งกินเบียร์กันอยู่สองคนกับอ๊อฟแล้วแชมป์มิกซ์เพลงเสร็จพอดี พวกเราเลยฟังกันในโทรศัพท์ ฟังเสร็จอ๊อฟก็บอก ‘แม่งเฟี้ยว ๆ’ แล้วแม่งแชร์เลย ผมก็ เฮ้ยใจเย็น แต่ปรากฏว่ามาเฉย คือมีคนแชร์เฉย

แชมป์: ตอนเพลงนั้นผมตกใจจริงนะ เพราะว่าคนมันแชร์เยอะมาก ตั้งแต่ทำ SøAR FLiT มาไม่เคยมีใครแชร์เยอะขนาดนี้ มันอาจจะน้อยสำหรับคนอื่นนะ แต่สำหรับวงเราแบบนี้คือมันเยอะมากแล้ว

ใหม่: มันเป็นเพลงแรกด้วยครับ ในเพจตอนนั้นคือไม่มีอะไรเลย เพิ่งอัพรูป เพิ่งทำเพจแบบใหม่ ๆ เลย เราก็นั่งคุยกับอ๊อฟ จะปล่อยเวลานี้จริงเหรอวะ (แชมป์: เพิ่งมิกซ์เสร็จเลยตอนนั้นอะ) ไม่เช็กมิกซ์ด้วย มิกซ์เสร็จเอาเลย แต่พอตื่นเช้าขึ้นมา แม่งมีคนแชร์ว่ะ

แชมป์: ตอนนั้นมิกซ์เสร็จแล้วผมก็โทรหาอ๊อฟบอกว่า “เฮ้ยอ๊อฟ เอาไงเนี่ยมิกซ์เสร็จแล้ว” มันก็ ‘เฮ้ย ปล่อยเลยจารย์ ๆ’ “อะ งั้นเดี๋ยวกูโพสต์เลยนะ” ผมก็โพสต์เลยหลังจากนั้นอ๊อฟค่อยไปเปลี่ยนแคปชั่น

อ๊อฟ: ปกติเราจะไม่ค่อยฟังกันเอง หมายถึง สมมติว่าผมบอกแชมป์ว่าให้โซโล่เพลงนี้ให้หน่อย เอากีตาร์แบบนี้ ๆ คือผมจะไม่ค่อยฟัง จะเอาเลยอะไรแบบนี้ มิกซ์เสร็จจะไม่มีการมานั่งแก้ เพราะเราเลือกตัวเมมเบอร์มาแล้วตั้งแต่แรก เหมือน BNK48 อะ เรามองว่าเราเป็นบีเอ็นเคแบบนั้น เราวางคาแร็กเตอร์ของเสียงในวงได้ก็เลยไม่จำเป็นต้องเช็ก ทำเป็นเปิดฟังนิดนึงแล้วก็โพสต์เลย (หัวเราะ)

อัลบั้ม Black Hole ที่กำลังเปิด pre-order อยู่ตอนนี้มีคอนเซ็ปต์อะไรไหม

แชมป์: คือตอนแรกอะครับ อ๊อฟอยากได้ชื่อที่เกี่ยวกับรู ๆ ตอนแรกคิดมาหลายชื่อเลย แต่พอพูดไปเรื่อย ๆ อ๊อฟก็บอกว่ายังไม่ได้ว่ะ อยากได้อะไรที่นึกถึงคำว่า ‘hole’

อ๊อฟ: ตอนแรกชื่อ ‘ออกมาจากโพรง’ แต่มันก็ฮาไป

แชมป์:  พออยากได้อะไรที่เกี่ยวกับ hole เนี่ย เราก็นึกถึงพวกแอมเบียนต์ของดวงดาวอะไรพวกนี้ด้วย เลยมาเป็น ‘black hole’ เหมือนอยู่ในห้วงอวกาศ

อ๊อฟ: เป็นหลุม แต่เราจะเป็นหลุมที่แอดวานซ์ไง เป็นตุ่นที่มาจากหลุมดำพร้อมจะมาระเบิดบนพื้นโลก

แชมป์+ใหม่: เริ่มไปไกลละ

ขายเพลงอีกครึ่งอัลบั้มที่ยังไม่ได้ปล่อยออกมาหน่อย

อ๊อฟ: โห ผมว่ามันน่าฟังมากเลยครับ

ใหม่: ดังแน่นอน

อ๊อฟ: ดังที่เปรู… คือผมตั้งใจมากครับ จริง ๆ ผมแต่งไปถึงอัลบั้มที่สี่แล้วเพราะแต่งทุกวัน แต่อัลบั้มนี้ผมตั้งใจคัดเพลงเอามาไว้ในอัลบั้มแรกมากครับผม อยากให้ทุกคนฟังกัน ลองซื้อไปฟังกันก็ได้ครับ

ใหม่: เดี๋ยวเรามีงานเปิดอัลบั้มด้วย ตามแผนก็ 29 กันยา ฯ ครับ

อ๊อฟ: สถานที่น่าจะเป็นพวกอาร์ตแกลลอรี่ เพราะเราเป็นวงดนตรีเพื่ออาร์ตเวิร์คและงานประติมากรรม

ใหม่: ก็ฝากติดตามด้วยครับว่าในอัลบั้มจะมีเพลงฟีลไหนบ้าง ซึ่งตัวผมเองยังไม่รู้เลยเหมือนกัน (หัวเราะ) จริง ๆ พวกผมจะเซอไพรส์กันเองเสมอ อ๊อฟทำเพลงก็จะโยนมา อะใหม่ โซโล่ให้หน่อย คือผมก็รอลุ้นเหมือนกันว่าอัลบั้มจะเป็นยังไง ก็ฝากติดตามด้วยครับ น่าจะเป็นเพลงแนวทดลองอีกแบบนึงในตอนนี้ครับผม

แชมป์: ผมก็ฝากติดตามเพลงที่เหลือในอัลบั้มนะฮะ มันน่าจะใกล้ ๆ ปล่อยออกมาเรื่อย ๆ แล้วล่ะ แล้วก็ฝากพรีออเดอร์อะครับสำหรับคนที่สนใจ อัลบั้มน่าจะเสร็จประมาณวันที่ 15 กันยา ฯ ครับถ้าไม่ติดอะไร

ฝากอะไรถึงคนที่เพิ่งรู้จัก Møle The Explosion หน่อย

อ๊อฟ: ถ้าใครอยากจะฟังอะไรที่มันแปลก ๆ แต่ก็ไม่รู้ว่าใหม่หรือเปล่า… เฮ้ย กูต้องตอบแบบพราว ๆ ดิวะ เดี๋ยวเอาใหม่นะฮะ

(Take 2)

อ๊อฟ: ฝากเพลงที่มันเท่ที่สุดในโลก (ใหม่: นั่นไงกูว่าแล้ว) ฝากเพลงที่ผมว่ามันน่าจะเจ๋งที่สุดในโลกของผม แล้วก็คิดว่ามันน่าจะเป็นเพลงที่ดีที่สุดในชีวิตที่ผมเคยทำแล้วล่ะ เพราะว่าเพลงอื่นที่เคยทำก็จะเป็นเพลงที่ร่วมงานกับคนอื่น ไม่ได้ใช้อีโก้ของตัวเองแรง ๆ แบบนี้ แต่อันนี้เป็นเพลงที่เราใช้อีโก้ทั้งสามคน ก็ฝากเพลงของ Møle The Explosion อัลบั้มแรกด้วยครับ

ใหม่: ฝากอัลบั้มด้วยครับ แล้วก็ฝากติดตามงานที่พวกเราไปเล่นสดด้วย เพราะเวอร์ชันมาสเตอร์กับเล่นสดมันจะมีความต่างกันนิดหน่อย อย่างเช่น ถ้ามือกลองคนนี้ก็จะมีความร็อกขึ้นอะไรแบบนี้ ผมว่ามันจะเป็นบรรยากาศของการฟังดนตรีสดจริง ๆ ฝากติดตามถ้ามีงานก็ไปเชียร์กันด้วยนะครับ

แชมป์: สำหรับคนที่ยังไม่เคยฟังเพลงแปลก ๆ อยากให้ลองเปิดใจฟังดู อาจจะโดน อาจจะชอบ ถ้าชอบก็อยากให้มาดูเราเล่นสด เพราะว่าทุกความชอบหรือทุกคนที่มาดูเป็นแรงบันดาลใจให้เรา ทำให้เรามีกำลังใจ จริง ๆ ก็น่าจะทุกวงแหละครับ เหมือนช่วยสนับสนุนให้เราทำเพลงต่อไป

Facebook Comments

Next:


Kunchanit Liengudom

นิดหน่อย อินเทิร์น ณ ฟังใจ, สิงหา-กันยา ปี 61 ช่วงที่เพื่อนฝึกงานออกกันไปหมดแล้ว รักการดูหนัง ชื่นชอบการฟังเพลงที่ร้องตามได้เป็นพิเศษ