Article Interview

New Kids in the Boxx 5 ศิลปินน้องใหม่แกะกล่องที่เราอยากชวนมารู้จัก

  • Writer: Montipa Virojpan
  • Photographer: Chavit Mayot

NEW KIDS IN THE BOXX

Yellow Lips

หยุนลี่—จินต์จุฑา คงปรัชญา (ร้องนำ)
เพียว—ขจรศักดิ์ พันพิพัฒน์ (กีตาร์)

The Kayei

โอม—รัฐการณ์ นาควิโรจน์ (ร้องนำ)
โรม—ภูวนารถ รอดพงษ์พันธ์ (กีตาร์)
นนท์—ธรรม เลิศวิไลมณีวงศ์ (เบส)
มาธา—มาทวี สมใจ (กลอง)
เบนซ์—ภวัต โอภาสสิริโชติ กีตาร์

โบ๊ด—ธานิศ จงคดีกิจ

บีน—นภสร ชัยพรเรืองเดช

ฟ้อนเล็บ เจ็บมาเยอะ

img_7849

New Kids in the Boxx มีที่มาจากอะไร

โอม: ช่วงต้นปีค่าย Boxx Music เปิดโอกาสให้ศิลปินส่งเดโม่เข้าไป แล้วพี่พล พี่ยักษ์ (Clash) ก็หยิบมา 5 ศิลปิน รวมเป็น New Kids in the Boxx เป็นสนามเด็กเล่นให้ศิลปินหน้าใหม่

บีน: บีนรู้จักกับพี่พลจากค่ายเก่าที่ Duck Bar อยู่แล้ว ตอนนั้นยังไม่มีโอกาสได้ทำเพลงด้วยกัน แต่พอพี่พลย้ายมาทำค่ายนี้ก็มีโปรเจกต์นี้ขึ้นมา เขาก็นึกถึงบีนเลยลองชวนบีนมา บีนก็สนใจมากเพราะอยากทำเพลง แล้วพี่พล พี่ยักษ์ พี่ปอย Portrait ก็ช่วยซัพพอร์ต ช่วยโปรดิวซ์

คิดว่าทำไมถึงได้มาอยู่ในโปรเจกต์นี้

บีน: บีนชอบ r&b โซล ป๊อป บีนอยากให้มีเพลงไทยที่เป็นแนวแปลกใหม่บ้าง สมัยนี้คนก็เริ่มหันมาฟังแนวนี้กันมากขึ้น

โบ๊ด: ปกติผมจะส่งเพลงกับ Cat Radio ในช่วง Bedroom Studio ของพี่ฤทธิ์อยู่แล้ว แล้วเหมือนพี่ปอยเข้าไปที่ Cat Radio พอดี พี่ฤทธิ์ก็อาจจะเปิดเพลงให้พี่ปอยฟังแล้วเขาเกิดสนใจเลยติดต่อมา ผมชอบแนว Brit pop ครับ แล้วก็อยากให้เพลงมีกลิ่น EDM เลยเอาอิเล็กทรอนิกจากฝั่งอเมริกามาใส่ไว้ในเพลงล่าสุด

โอม: สำหรับ The Kayei น่าจะเป็นแนวที่ Boxx Music ยังไม่เคยมีครับ ก็จะเป็นร็อก สาด ๆ เป็นเรื่อง sound design ด้วย

หยุน: ของเราจะมาในแนวโฟล์กป๊อปค่ะ เพียวเล่นกีตาร์แล้วหยุนร้อง เป็นอะไรที่พี่พลบอกว่าเขาไม่ได้เห็นลักษณะนี้มานานแล้ว คือหญิงชายเล่นโฟล์ก กับสไตล์ดนตรีที่เป็นยุคเก่า ที่เขาชอบและสนใจค่ะ

บีน: ส่วน ฟ้อนเล็บ เจ็บมาเยอะ อยู่เบื้องหลังศิลปินมา 60 กว่ารายแล้ว เขาอยากทำเพลงที่ชอบโดยไม่เปิดเผยตัวตน แล้วก็ร้องเองด้วย ชื่อฟ้อนเล็บก็มาจากที่เขาได้วาดลวดลายในวงการ เขียนเพลงมาด้วยมือของเขาเอง เจ็บมาเยอะก็เป็นคำที่แทนตัวตนของเขาได้มากที่สุด เหมือนเขาเจออะไรมาเยอะค่ะ (หัวเราะ)

img_7888

ก่อนที่แต่ละคนจะมาทำโปรเจกต์นี้เคยมีผลงานอะไรบ้าง

บีน: เคยประกวด The Voice season 2 ค่ะ แล้วก็รายการ The Winner Is season 2 มีคอรัสให้วง Getsunova บ้าง

โบ๊ด: ผมเคยขายในงาน Cat Expo เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ทำเพลง ดีไซน์ปกเอง แล้วทำมีทำเพลงขายที่นอนให้รุ่นพี่ เป็นเพลงอยู่ใน YouTube ของผมครับ

โอม: ก่อนหน้านี้มีซิงเกิ้ลทำกันเองชื่อ ผู้รอดชีวิต ฟังได้ใน YouTube ของ The Kayei แล้วก็มีใน ฟังใจ ด้วย

หยุน: เรารับงานอีเวนต์แล้วก็เล่นตามร้านอาหาร ร้านกลางคืน มีทำเพลงลง YouTube กันเอง ชื่อเพลง ฝาก กับเพลง เก็บ แต่สองอันนั้นจะเป็นแนวร็อก

ทีมาที่ไปของเพลงในโปรเจกต์

บีน: เพลง ครั้งสุดท้าย เป็นเพลงเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของคนสองคนที่เดินทางมาสู่จุดจบ ฝ่ายชายเปลี่ยนไปแล้ว ฝ่ายหญิงยังรักอยู่ แต่ผู้หญิงไม่ได้แสดงออก ทำตัวเหมือนเข้มแข็ง พี่แอ้มเป็นคนคิดเนื้อเพลงให้ พี่พลโปรดิวซ์กับช่วยบีนคิดเมโลดี้ พาร์ตดนตรีเป็นฝีมือของพี่คริสค่ะ เขาทำเพลงเบื้องหลังมาเยอะ บีนส่งศิลปินที่เป็นแรงบันดาลใจอย่าง Jose James หรือ Emily King ให้เขาฟังแล้วเทสต์ดนตรีเราก็เข้ากัน ก็คิดว่าคนนี้แหละที่ต้องมาทำเพลงให้เรา แล้วเขาทำออกมาได้ดีมาก

โบ๊ด: เพลง เดินออกมาจากฝัน เหมือนเราใช้ชีวิตกับคนคนนึงแล้วผ่านเรื่องดีเรื่องร้ายมาด้วยกัน มันเป็นตัวพิสูจน์ว่าเขาเป็นรักจริง และทำให้รู้สึกว่าคนที่เราอยู่ด้วยเหมือนเขาเดินออกมาจากฝัน ส่วนตัวดนตรีผมค่อนข้างไปทาง Billboard Chart เป็นอิเล็กทรอนิก การร้องเป็น r&b ตอนแรกผมทำเดโม่ร้องส่งให้พี่พล พี่ยักษ์ พี่ปอย พี่พลก็ส่งกลับมาบอกว่าให้เมโลดี้กลมขึ้นกว่าหน่อย แล้วเรื่องเนื้อร้องพี่ยักษ์พี่พลก็ช่วยกันตบ ส่งกันไปส่งกันมาก็ได้ประมาณนี้ แล้วไปอัดกันที่บ้านพี่ปอยครับ

โอม: เนื้อเพลง โอ้ เกิดมาจากที่เอาดนตรีกับเมโลดี้ที่ทำเสร็จแล้วมานั่งฟังกับพี่พล แล้วพี่พลรู้สึกว่าดนตรีประมาณนี้ เมโลดี้ประมาณนี้ควรจะเป็นการจีบสาวหรือเปล่า เข้ากับตัววงที่เป็นวัยรุ่น ด้วย ผมก็ลองหาคำมาใส่ ก็ได้คำว่า ‘โอ้ เธอ’ ตอนท่อนฮุค ทีนี้เลยมาขยายเรื่องราว เพลงนี้มันแสดงถึงอาการ โอ้ ของการที่เราไปเจอสาว แล้วรู้สึกว่าโดนมาก ไม่อยากจะปล่อยเธอไป เลยเข้าไปจีบ

หยุน: พี่ยักษ์เป็นโปรดิวเซอร์ให้เรา แล้วพี่พลถามเราว่าเรามองเห็นตัวเองเป็นแบบไหน หยุนกับเพียวก็บอกว่าเราชอบ The Carpenters เขาก็บอก เออ อยากฟังในแบบไทย  หยุนก็อยากแต่งเพลงโรแมนติก แล้วอยากจะให้มันเป็นตัวเองที่สุด หยุนเป็นคนชอบนั่งรถเมล์ แล้วการนั่งรถเมล์กับคนรักเป็นเรื่องโรแมนติกมาก ออกมาเป็นเพลง ป้ายรถเมล์ เล่าความรู้สึกและบรรยากาศระหว่างการเดินทางของคนสองคน 

บีน: ของ ฟ้อนเล็บ เจ็บมาเยอะ เพลงชื่อ โลกหมุน เป็นเพลงเกี่ยวกับความรักที่จบไปแล้ว แต่มีคนคนนึงที่ยังอยู่กับอะไรแบบเดิม เจออะไรก็คิดถึงเรื่องเดิม และรอให้อีกคนกลับมา

img_0817

การเป็นศิลปินเต็มตัวหรือร่วมงานกับมืออาชีพต้องเจอความยากยังไงบ้าง

บีน: ก็ยากในการวางตัวค่ะ เราต้องปรับตัวเองในการเดินสาย เจอคนเยอะขึ้น ต้องทำตัวเองให้ดูเป็นศิลปิน เหมือนมีคนฟังเพลงเราแล้วนะ เราเป็นคนที่คนอื่นรู้จักเราแล้ว แล้วการทำงานกับพี่ปอย พี่พล พี่ยักษ์ เขาเป็นตัวเด็ดเลย พอทำงานด้วยก็เกร็ง แต่จริง เขาขี้เล่นมาก เปิดโอกาสให้เราออกความเห็นตลอดเวลา ส่วนใหญ่ก็รับฟังสิ่งที่เราเสนอตลอด เขาแค่เอาไปทำให้มันเป็นหนึ่งเดียวมากขึ้น แล้วทำทุกแนวออกมาได้ดีทุกเพลง

โบ๊ด: ถ้ามาทำตรงนี้ก็ต้องปรับตัวให้กล้า หน่อย มั่นใจให้มากขึ้น เพราะผมยังออกสื่อน้อย ตอนเข้าไปที่ค่ายก็เกร็ง เหมือนกัน ต้องเจอคนในวงการ แต่พอได้ทำจริง แล้วเขาก็ทำให้เรา relax ดูอบอุ่น เขาให้เราออกไอเดียได้เต็มที่ จะไม่เปลี่ยนเรามาก เขาจะถามว่าเราชอบแบบไหนแล้วสุดท้ายก็เอาที่สองฝ่ายรู้สึกโอเคร่วมกัน

นนท์: The Kayei ก็ทำวงกันก่อนหน้าที่จะเข้ามาในโปรเจกต์นี้แล้ว เราก็จะขึ้นเพลงกันเอง ทำพวกโปรโมต โลโก้วง ทำ mv คอนเซปต์อะไรมีหมด แต่พอเราเข้ามาอยู่ในระบบค่าย การทำงานก็จะต่างจากเดิม พวกเราก็ต้องปรับรูปแบบการทำงาน

โอม: แรก มันเกร็งมากเลยนะเพราะเราเป็นหน้าใหม่ด้วย แล้วศิลปินที่เขาทำกันอยู่ในค่ายเขาก็ใหญ่นะ แต่เขาดูแลเราไม่ต่างจากศิลปินคนอื่นเลย อบอุ่น ออกความเห็นได้เต็มที่ทั้งเพลงและโปรดักชันต่าง เราต้องการอะไรบอกได้หมด

โรม: ตอนนี้ความกลัวน้อยลง สบายใจมากขึ้น กลายเป็นครอบครัว

เพียว: ตื่นเต้นครับ พอได้ใช้คำว่าเป็นศิลปินจริง ก็อยากจะทำให้ดีที่สุด เราพยายามเอา commercial art มาผสมกับ pure art ให้มันกึ่งกลางมากที่สุด นั่นคือสิ่งที่เราพยายามจะสื่อออกมา

หยุน: ก็พยายามจะทำเพลงให้ถึงคนฟังด้วย แต่ก่อนหยุนกับเพียวทำเพลงกันเองมันจะมีความเอาแต่ใจ แต่พอเข้าค่ายเราจะเอาแต่ใจตัวเองไม่ได้ ต้องคิดถึงคนฟังมากขึ้น คิดถึงปัจจัยหลายอย่าง เหมือนหยุนได้เรียนรู้วิธีการทำงานให้คนฟังจริง  แล้วเขาก็สอนเยอะ อย่างเวลาเราร้องเขาจะบอกวิธี ก็รู้สึกว่ามันไม่ได้ยาก เป็นเรื่องใหม่ ที่เราได้รับแล้วเป็นอะไรที่ดีมาก พี่เขาตบจนเรารู้สึกว่ามันใช่

img_7876

คิดว่าคนฟังจะได้อะไรจากเพลงของเรา

บีน: ความแปลกใหม่ค่ะ บีนชอบดนตรีคนผิวสีอยู่แล้ว แล้วอยากให้คนไทยได้ฟังอะไรที่ใหม่ บ้างแต่ยังมีความป๊อป ฟังง่ายอยู่ แต่จะได้เจอกรูฟของกลอง อยากให้ทุกคนเปิดใจฟังแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก

โบ๊ด: คนฟังจะได้มีทางเลือกมากขึ้นกับดนตรีที่แตกต่างจากทั่วไปที่ฟัง อย่างของผมก็ไม่เชิงเป็นแนวตลาด คนไทยอาจจะไม่ค่อยทำเท่าไหร่ แต่เพลงเราก็จะเข้าใจง่ายขึ้นด้วย mv ที่สื่อสารออกมาให้เพลงสมบูรณ์ขึ้น

โรม: เรารู้สึกว่ามันก็ควรจะมีอะไรที่เดือดพล่านบ้าง สำหรับคนมัน ก็น่าจะชอบเพลงพวกเรา เพราะทุกวันนี้อะไรร็อก ในวงใหม่ ไม่ค่อยมี แล้วในมุมของค่าย Boxx Music ที่พรีเซนต์ออกมาก็ไม่ค่อยมีวงร็อกขนาดเรา เขาก็พยายามนำเสนอตรงนี้ให้คนฟัง

หยุน: ห้าวงใน New Kids in the Boxx เป็นทางเลือกใหม่ทั้งหมด จะแตกต่างจากที่ทุกคนเคยได้ยินมา ของเราเป็นโฟล์กป๊อปผสมกลิ่น 70s บาง คนก็จะได้รับฟังแนวดนตรีใหม่ มากขึ้น

แต่ละคนชอบเพลงของใครบ้างในโปรเจกต์นี้

หยุน: ชอบหมดเลยค่ะ ชอบเพลงของน้องบีน มีความรู้สึกว่ามันเข้าถึงอารมณ์ ดนตรีก็ดีไซน์มาดี ของ The Kayei ก็ชอบ

เพียว: ชอบ The Kayei ครับ มีความเร้าใจ แล้วก็ซาบซ่านมาก มันพุ่งพล่านดี

โรม: ชอบเพลงของพี่บีนครับ เนื้อหามันโดนใจ

นนท์: ผมชอบ ฟ้อนเล็บ ครับ อาจจะเรื่องเนื้อหา ดนตรี แล้วก็น้ำเสียงของเขาทำให้องค์ประกอบของเพลงดูกลมเป็นเรื่องราวเดียวกันด้วย เรื่องอารมณ์อีก ชอบทุกอย่างเลยครับ

โอม: ผมชอบเพลงของพี่โบ๊ดครับ ฟังแล้วร้องตามเลย เพลงติดหูมาก มีความฟังสบายมีทางบ้านอีกสองคนส่งมาบอกว่า ชอบเพลง ครั้งสุดท้าย กับ ป้ายรถเมล์ ด้วยครับ (หัวเราะ) แต่สุดท้ายไม่มีใครชอบเพลงตัวเองเลย

โบ๊ด: ผมชอบทุกวงเลยครับ แต่เคยเปิดเพลงของ The Kayei แล้วเล่นกีตาร์ตาม ชอบมาก มันมาก แต่ที่ผมชอบเป็นพิเศษคือเพลงของน้องบีน เพราะชอบจังหวะกรูฟ แล้วมีสกิลเยอะดี น่าติดตามครับ

บีน: บีนชอบทุกคนเลย (หัวเราะ) ชอบเนื้อเพลงของ Yellow Lips เพราะเขาเขียนเนื้อเอง โอ้ ก็ชอบนะ นับถือคนที่เขียนเนื้อเองเพราะบีนยังทำได้ไม่เก่ง ยังไม่กล้าแสดงออกมา ก็ยังฝึกอยู่ อยากทำได้บ้าง

img_7875

จบจากโปรเจกต์นี้แล้วแต่ละคนจะทำอะไรต่อ

หยุน: ก็ยังทำกับ Boxx Music ต่อแหละค่ะ ผลงานต่อ ไปก็ยังตอบไม่ได้เพราะยังโฟกัสกับเพลงที่เพิ่งปล่อยอยู่ค่ะ ถ้ามีเพลงก็จะเสนอเขาอยู่เรื่อย ๆ 

โรม: พวกเราก็ยังทำเพลงกันอยู่เรื่อย แล้วก็อยากทำ EP เลยจะทำเพลงไปขายพี่ เขา อยากทำอะไรที่จับต้องได้และอยากทำให้เห็นความคิดของเรา

โบ๊ด: ผมก็เหมือนเจ้าพ่อสต๊อกเพลงอยู่แล้ว ทำเก็บไว้เพื่อไม่ให้อยู่นิ่งเกินไป อาจจะทำเป็นโปรเจกต์เล่น กับเพื่อน

บีน: กำลังทำอยู่ แต่ว่าจะลองทำเองบ้าง ให้คนรู้จักที่เป็นนักดนตรีที่ชอบแนวเดียวกัน เริ่มรู้จักคนที่ชอบแนวเดียวกันมากขึ้น จะลองขอคำปรึกษาดูค่ะ

 img_7852

ฝากผลงาน

โอม: พวกเรา 5 ศิลปินจาก New Kids in the Boxx ด้วยนะครับ ตอนนี้ปล่อยออกไปทุกเพลงแล้วในแชแนลของ Boxx Music และ ฟังใจ ฝากด้วยนะครับ

รับฟังเพลงของศิลปิน New Kids in the Boxx บนเว็บไซต์ฟังใจได้ ที่นี่

Facebook Comments

Next:


Montipa Virojpan

อิ๊ก เนิร์ดดนตรีที่เพิ่งกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นนักเขียนตอนอายุ 25 ชอบเดินเร็ว นอกจากขนมปังกับกาแฟดำแล้วก็สามารถกินไอศกรีมกับคราฟต์เบียร์แทนมื้อเช้าได้