Pango fungjaizine หน้า

Article Interview

คุยกับ Pango ที่ยังคงรักการคัฟเวอร์ และ Jason Mraz แรงบันดาลใจของเธอ

  • Writer: Malaivee Swangpol
  • Official photos: Whattheduck

ปัจจุบันมีศิลปินคัฟเวอร์จำนวนมากที่เติบโตและสร้างชื่อเสียงจนได้มาเป็นศิลปินในวงการดนตรี หนึ่งในนั้นคือ Pango ที่เธออาจจะห่างหายจากเสียงเพลงไปซักนิดเพราะวุ่นอยู่กับงานละคร จนปีนี้ที่เราได้ยินเสียงใส ๆ ของเธออีกครั้งกับ EP Cover Project: A Part of Love Story ซึ่งเป็นสามเพลงที่เพราะกินใจมาก ๆ Fungjaizine ได้มีโอกาสพูดคุยกับเธอเป็นครั้งแรก ตามมาคุยกันว่าความผูกพันของเธอกับเพลงคัฟเวอร์ยังคงแน่นแฟ้นขนาดไหน แล้วศิลปินที่เป็นแรงบันดาลใจของเธออย่าง Jason Mraz สร้างพลังบวกให้กับเธออย่างไรบ้าง เปิดเพลงอะตูสติกนุ่ม ๆ แล้วตามมาอ่านกันเลย

Pango sunlight

ที่มาที่ไปของ Cover Project: A Part of Love Story 

พราะว่าถ้าย้อนกลับไปคนส่วนใหญ่ก็จะรู้จักแป้งจากการคัฟเวอร์ มันคือส่ิงที่เราชอบและทำได้ดี เป็นความสนุกและท้าทายอย่างหนึ่ง เรื่องการตีความเพลงที่มีอยู่แล้วให้มันเป็นตัวเรามากที่สุด การทำให้ไดนามิกของคำต่าง ๆ ที่ต่างกับออริจินัล ก็จะทำให้เพลงถูกตีความไปอีกอารมณ์นึง ก็เลยอยากลองทำเพลงคัฟเวอร์ซักโปรเจกต์นึง เลยคุยกับที่ค่ายว่าเป็นสามเพลงนี้ คำอธิบาย ของ Ewery,​ ทำได้เพียง ของ 25 Hours และฉันจะมีเธออยู่ ของ สิงโต นำโชค ที่เลือกเพราะว่าเป็นเพลงที่ชอบอยู่แล้ว คือการทำอัลบั้มคัฟเวอร์มันให้ความรู้สึกที่ต่างจากเวลาที่เราที่มีเพลงของตัวเอง อย่างเพลงของตัวเองแต่งขึ้นมาจากตัวเรา มันก็จะรู้สึกภูมิใจในอีกแบบนึง ไม่เหมือนกัน

ทำไมถึงเลือกเพลง คำอธิบาย มาทำ mv

ก่อนที่จะเป็นสามเพลงนี้ก็เลือกเพลงไว้เยอะมาก สุดท้ายก็เคาะมาเป็นสามเพลงนี้ คือ คำอธิบาย เป็นเพลงที่ตัวเองชอบที่สุด ถึงแม้เพลงนี้มันจะอายุสิบกว่าปีแล้ว แต่ทุกครั้งที่ย้อนกลับไปฟังออริจินัลของ Ewery ก็ยังรู้สึกว่าเป็นเพลงที่ยังทันสมัยมาก แล้วความหมายของมันแปลได้ค่อนข้างกว้าง ถ้าตั้งใจฟังมันนึกภาพตามมันได้หลายแบบมาก ก็เลยรู้สึกว่าอยากถ่ายทอดออกมาในมุมของเรา อย่างแป้งก็ตีความว่า คำอธิบาย คือการที่คนเราจะเลิกกัน แล้วต่างคนต่างหาคำอธิบายมาเพื่อมีเหตุผลเยอะขึ้นในการขอเลิก ทั้ง ๆ ที่จริง  แล้วก็รู้กันอยู่ว่าทำไม

มีส่วนร่วมอะไรใน mv นี้

มีค่ะ อย่างตอนแรกที่คุยกับทีมงาน เราก็บอกเค้าว่าไม่อยากให้ mv มันออกมาในแง่ของคนเป็นแฟนกัน ไม่เอาแบบมาพูดว่า ‘เราเลิกกันเถอะ’  ตรง ๆ แต่แป้งอยากให้มันออกมาในรูปแบบของสเตตัสเฟซบุ๊กมากกว่า เพราะว่าคนเดี๋ยวนี้ชอบสื่อสารด้วยเฟซบุ๊กมาก ๆ แม้กระทั่งเป็นแฟนกัน ก็มารู้ว่าอีกคนจะบอกเลิกเราจะจากสเตตัสที่เค้าโพสต์ ​อย่างเพื่อนหลาย ๆ คนก็มารู้ว่า แฟนรู้สึกไม่แฮปปี้ผ่านสเตตัส ทั้ง ๆ ที่ ที่ผ่านมาเค้าไม่เคยพูดอะไรเลย ก็ต้องมาโทรมาถามอีกว่า ‘เฮ้ย เป็นอะไร’ เลยอยากสื่อสารผ่านพวกสเตตัสพวกนี้ว่า คำอธิบาย นปัจจุบันมันเป็นแบบนี้นะ ก็เลยคุยกับเค้าว่าอยากใส่คอนเซปต์นี้เข้าไป

มีมุมมองอย่างไรกับการบอกทุกอย่างผ่านโซเชียล

จริง คนเราควรจะคุยกันมากกว่า คือถ้ามีปัญหาอะไรก็ตาม ถ้าคุยโทรศัพท์หรือว่าพิมพ์คุยกัน ก็อาจจะไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น 100% มันจะไม่เห็น มือไม้ หน้าตา ท่าทาง แล้วคนมันตีความไปได้หลายแบบ สมมติถามว่าทำอย่างนี้ไปทำไม’ ​ถ้าเราอ่านมันก็ดูกวน ดูหาเรื่องมาก แต่จริง  ความหมายอาจจะแค่อยากรู้ว่า ‘ทำไมเหรอคะ’ มันสื่อความหมายได้ไม่ 100% คือเข้าใจว่าสำหรับสมัยนี้มันก็สะดวกแหละ แต่แป้งแค่รู้สึกว่าอะไรที่เป็นปัญหาส่วนตัวที่ควรสะสางก็ควรพูดคุยกัน

เคยเลือกเพลงอื่นมาลง EP นี้ไหม

เคยค่ะ ตอนนั้นเลือกหลายเพลงแต่จำไม่ค่อยได้ แต่ว่าส่วนใหญ่ที่เลือกจะเป็นของในค่ายเพราะทำงานง่ายกว่า แล้วก็ทำให้เราได้คุยกับเจ้าของเพลงด้วย เล่าให้เขาฟังว่า เราอยากเอาเพลงนี้มาทำนะ อยากตีความใหม่เป็นแบบนี้ ซึ่งพอมันเป็นคนที่เรารู้จักและสนิทสนมด้วย เราก็แชร์ความคิดของเราให้เค้าฟังได้ง่ายกว่า

อะไรทำให้ Pango ผูกพันกับการคัฟเวอร์มาถึงทุกวันนี้

แป้งก็ยังคงชอบเหมือนเดิม อย่างที่บอกว่าการมีเพลงของตัวเองมันเป็นความรู้สึกแบบนึง มันจะรู้สึกว่าเป็นตัวเองมาก  ทื่เราได้สื่อสารสิ่งที่เราพูดออกไปได้เต็มที่ แต่พอเป็นเพลงคัฟเวอร์แป้งก็รู้สึกว่า มันเป็นตัวของตัวเองเหมือนกัน แต่เป็นในแง่ที่เราใช้เพลงของคนอื่นส่งผ่านตัวของเราออกไป คนเราร้องเพลง นึง พอตีความไม่เหมือนกัน อารมณ์เพลงก็ไม่เหมือนกันแล้ว รวมถึงน้ำเสียง ฯลฯ อีก สมมติว่าเพลงออริจินัลอาจจะพาคนไปเศร้าในแบบนึง แต่ว่าพอเราคัฟเวอร์มันอาจจะเป็นอีกความรู้สึกนึง ซึ่งบางทีมันก็ทำให้แป้งรู้สึกว่าสนุกที่ได้ตีความโจทย์เรื่องนี้ 

ชอบเพลงไหนที่เคยคัฟเวอร์มากที่สุด

จริง ชอบที่สุด น่าจะเป็น ทะเลใจ คือมีคนมาคอมเมนต์ใน YouTube ว่าร้องเพลงแนวนี้ด้วยเหรอ แป้งก็ตอบไปว่า แป้งร้องทุกแนวที่แป้งชอบเพลง ไม่ได้จำกัดว่าต้องคัฟเวอร์แนวไหน แล้วก็ที่ชอบเพราะว่าเวลาเราเอามาคัฟเวอร์แล้วเปลี่ยนฟีลมันไปนิดนึง มันทำให้เวลาเด็ก ๆ มาฟังแนว ๆ นี้ เขาก็อาจจะได้เปลี่ยนความคิดจากที่รู้สึกว่า เพลงเก่าไปหน่อย เพลงไม่เท่ แล้วมันก็ทำให้คนได้ฟังจริง ๆ ว่า เพลงพวกนี้ถ้าเค้าเปิดใจฟังเนื้อมันดีมาก อย่างเพลงของพี่ ปู—พงษ์สิทธิ์ คัมภีร์ ก็ชอบอยู่หลายเพลง โดยเฉพาะเพลงช้า ซึ่งส่วนตัวเราก็ชอบฟังเพลงช้าอยู่แล้วด้วย อย่างเพลง คิดถึง เราก็ชอบมาก เคยคัฟเวอร์ไว้แต่ไม่ได้ลงรู้สึกเราร้องไม่เพราะ

อีกอย่างคือแป้งเป็นคนที่ฟังเพลงแบบไม่ได้จำกัดแนวตัวเองเลย คือฟังเรี่ยราดมาก (หัวเราะ) บางวันเราก็ฟัง K-pop บางทีตอนเด็ก ก็ชอบฟัง J-rock แบบ L’arc-en-ciel, X Japan ช่วงหนึ่งก็ชอบฟังเพลง Coldplay, Damien Rice คืิอมันวาไรตี้มาก บางทีเพลงไทยเก่า  อย่างเพลง หยาดเพชร, หรืออย่างวง สุนทราภรณ์ ก็ชอบเพราะพ่อแม่ร้องให้ฟัง หรืออย่าง Queen, the Beatles ก็ชอบ เลยบอกไม่ได้ว่าชอบแบบไหน แต่ที่ชอบที่สุดก็น่าจะเป็นพวกอะคูสติกที่เปิดฟังได้ทั้งวัน 

Pango hand

เล่าเรื่องการหัดเล่นกีตาร์ให้ฟังหน่อย

ตอนนั้นหัดเอง ถึงตอนนี้ก็ยังไปไม่ถึงไหน (หัวเราะ) คือตอนนั้นเรียนหญิงล้วน ก็จะรู้สึกว่ารุ่นพี่ที่เป็นทอมที่เค้าเล่นกีตาร์เค้าเท่มาก อยากเท่แบบนั้นบ้าง ประจวบเหมาะกับช่วงจบม.ปลายที่กลับมาจากนิวซีแลนด์ ลูกชายเพื่อนแม่ที่เค้าเรียนกีตาร์ก็เลิกเรียนพอดี พี่เค้าก็เลยเอากีตาร์มาให้เรา ก็เลยรู้สึกว่าอยากลองหัดเพราะเราก็ชอบร้องเพลงอยู่แล้ว จะได้ไม่ต้องไปคาราโอเกะ อยากเล่นก็เล่นของเราได้เลย ก็เลยไปซื้อหนังสือคอร์ดมาเล่มนึงที่มีเพลงเยอะ แล้วก็หนังสือหัดจับคอร์ดอีกเล่มนึง เราก็จะเปิดดูเพลงนี้ว่าเป็นคอร์ดอะไร แล้วดูว่าคอร์ดนี้เล่นยังไง จับยังไง ร้องเพลงก็หัดเอง เพราะตั้งแต่เด็ก คุณพ่อจะหัดร้องเพลงให้ เพราะคุณพ่อร้องเพลงเพราะ เลยได้ฟังตั้งแต่เด็ก แล้วเราก็ชอบมาตลอด ยิ่งตอนเด็ก ๆ ก็ชอบดูประกวดร้องเพลงแบบ KPN ก็เลยเหมือนถูกปลูกฝังมา เพลงแรกที่หัดร้องหัดเล่นกีตาร์ก็คือ Living on a Jetplane ซึ่งเราเอาไปร้องบ่อยเหมือนกันเพราะว่าเหมือนเราฝังใจ ที่เป็นเพลงแรกที่สามารถร้องไปด้วย เล่นไปด้วยได้ เป็นเพลงที่แบ่งประสาทพอสมควร

มีใครเป็นแรงบันดาลใจ

จริง แป้งเป็นคนที่ไม่ได้มีไอดอลด้านศิลปินเป็นของตัวเองเท่าไหร่ เหมือนเราชอบเป็นช่วง ช่วงนี้เราชอบฟังเพลงใครก็จะรู้สึกว่าเค้าเจ๋ง แล้วเราก็จะเก็บเค้ามาอย่างละนิด ละหน่อยในแต่ละช่วงชีวิต ทำให้เขากลายเป็นไอดอลของเราอย่างละนิดละหน่อยโดยที่เราไม่รู้ตัว ส่วนมากแป้งจะชอบสายเศร้า ๆ แต่ถ้าถามว่าหนึ่งในศิลปินที่ชอบเราอยากไปดูถ้าเขามาก็คือ Damien Rice คือเขาเขียนเพลงได้เศร้ามาก รอบล่าสุดได้ไปดูมาด้วย หรือถ้าเป็นเก่า ก็พวก the Beatles, Queen, the Carpenters เก่า ๆ แบบนี้ก็ชอบ แต่ไม่ได้อินกับประวัติเค้า ชอบเพลงเฉย จนกระทั่งมามีหนังเรื่อง ‘Bophemian Rhapsody’ ก็ได้ไปดู ก็อินมาก ดูไปสามรอบ เลยทำให้รู้สึกว่า เพลงที่เราฟังอยู่แล้วมันมีความหมายกับเรามากขึ้น หรือสายแฮปปี้อย่าง Jason Mraz แป้งก็ชอบพวกเพลงช้าของเค้าอยู่ดี คือคนอื่นอาจจะรู้จักเค้าจาก I’m Yours ที่ดัง ที่สุด แต่แป้งรู้จักเขาครั้งแรกจากเพลง Beautiful Mess คือฟังแล้วรู้สึกว่า เพราะจังเลยเพลงนี้ ก็ชอบจนไปหาดูว่าอันนี้เพลงใคร ก็ อ่อ Jason Mraz คนที่ร้องเพลง I’m Yours ที่เคยได้ยิน หลังจากนั้นก็เลยฟังเพลงเขา ติดตามตลอด คอนเสิร์ตรอบล่าสุดที่มาไทยคราวที่แล้วก็ได้ไปดู สำหรับแป้งจะแปลกอย่างนึง ปกติคนที่ชอบเค้าจะชอบเพลงแฮปปี้หน่อย แต่แป้งอาจจะมองอีกมุม แป้งว่าเพลงเศร้าของเขามันเพราะมากเลย อาจจะเป็นเพราะว่าแป้งชอบฟังเพลงช้าด้วย ทำให้รู้สึกว่าเพลงพวกนี้ทำให้เราอินได้มากกว่า คือเวลาเราเศร้า ถ้าเราฟังเพลงสุนกมันจะเชียร์อัพเราไม่ขึ้น ก็เราเศร้าอะเนอะ หรือต่อให้เวลาที่เรามีความสุข เพลงช้า เราก็สามารถอินได้ มันเลยทำให้แป้งชอบ ซึ่งนอกจาก Beautiful Mess แป้งก็ชอบ Details in the Fabric, If It Kills Me มาก เป็น 3 เพลงโปรดเลย ที่ฟังบ่อย

อย่างเพลงเศร้า  ที่ฟังได้เอาไปใช้เป็นแรงบันดาลใจไหม

มีเพลงที่ชอบเอามาเล่นกีตาร์ ทั้ง Beautiful Mess, Details in the Fabric เคยแกะคอร์ดเล่นกีตาร​์ แล้วชอบฟีลลิ่งที่ดนตรีช้าแต่ไม่ได้เศร้ามาก แต่ด้วยเนื้อหา ด้วยน้ำเสียงของเค้า ทำให้เพลงมันเศร้ามาก อีกอย่างที่เแป้งชอบเขาคือ ตอนเขาแต่งเพลง บางทีมันไม่ใช่คำตรง ที่พูดว่า ‘เฮ้ย ชั้นกำลังเศร้าอยู่นะ’ แต่มันบอกในแง่ของกวีบางอย่างเป็นคำเปรียบเปรย อย่างบางประโยคเราฟังแล้วมันไม่ได้พูดถึงเกี่ยวกับความรักเลยอะ แต่เราก็รู้เศร้าได้ แป้งก็เลยรู้สึกว่าเพลงที่เราทำมันอาจจะไม่ต้องพูดถึงความรักหรือความเศร้าตรง  แต่มันก็สามารถที่จะถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้ ทั้งแง่เขียนเนื้อและทั้งพาร์ตดนตรี อีกอย่างที่ชอบคือ คนที่ฟังแต่เพลงเขาจะรู้สึกว่า เขาเป็นคนสนุก ดูชิล  แต่พอไปดูคอนเสิร์ตคือมันมาก เพลงที่มันก็คือมันมาก พลิกฟีลเราได้สุด เลย

คอนเสิร์ต Jason Mraz ที่ไปดูมาประทับใจไหม

หนึ่งคือประทับใจว่าเขาร้องสดเพราะมาก เสียงเหมือนในซีดีเลย ถ้าไม่มีพูดออกมากลางเพลงนี่คิดว่าลิปซิงก์ปะเนี่ย คือเหมือนจริง ร้องเพราะมาก คือเวลาเราดูคอนเสิร์ตของคนที่เจ๋งมาก ก็จะได้แรงบันดาลใจมา เพราะแป้งเป็นคนที่ชิว บางครั้งแรงขับเคลื่อนเวลาเราทำงานหรืออะไร อาจจะไม่ได้พุ่งพล่านเหมือนคนอื่น ไม่แบบ ‘เฮ้ย วันนี้ฉันอยากจะไปขึ้นคอนเสิร์ต อยากจะให้คนทุกคนร้องตาม!’ เวลาดูคอนเสิร์ตพวกนี้แป้งเลยมีไฟ รู้สึกว่าเติมไฟให้กับเราในการทำหลาย อย่าง แป้งจำได้ว่ามันสนุกมาก แล้วก็ตอนนั้นไปกับเพื่อน แล้วก็มีคนที่ไม่ได้ชอบตั้งแต่แรก แต่พอกลับมาจากคอนเสิร์ตก็เป็นแฟนคลับเลย (หัวเราะโดนตก (หัวเราะ)

มาเล่นที่ไทยรอบนี้ จะไปดูไหม

ไปค่ะ แต่อัลบั้มใหม่อาจจะยังฟังไม่ทะลุปรุโปร่งขนาดนั้น ล่าสุดแป้งก็ได้ฟัง Have It All ที่โปรโมต ที่ร้องยาก พยายามร้องตามแล้วร้องไม่ได้ (หัวเราะ)​ คือเพลงนี้ตอนแรกที่เปิดมาในวิทยุคือรู้เลยว่าแบบ เฮ้ย Jason Mraz ออกเพลงใหม่ ต่อให้ไม่เคยได้ยินแต่จำเสียงเขาได้ มีเอกลักษณ์มาก แล้วปกติหลายไปคนเวลาไปคอนเสิร์ตจะรอฟังเพลงฮิต รอฟังเแต่เพลงที่เราชอบ แล้วก็จะมีคนที่แบบ ‘เฮ้ย อัลบั้มนี้ชั้นยังไม่ได้ฟังเลย’ เราจะไปฟังเดี๋ยวร้องตามไม่ได้ ต้องซ้อม แต่บางครั้งแป้งรู้สึกว่า การได้ฟังเพลงที่เรายังไม่เคยฟังที่นั่น สด มันก็เป็นความรู้สึกที่ดีเหมือนกันนะ แล้วหลังจากนั้นเราอาจจะกลับมาแล้วชอบเพลงนี้มากก็ได้  

ถ้ามีโอกาสเจอกับ Jason Mraz อยากจะคุยเรื่องอะไร

อยากคุยเรื่องแรงบันดาลใจในการแต่งเพลงของเขา อยากรู้ว่าเขามีโจทย์อะไรเวลาสื่อสารเพลง คือเพลงเขาเหมือนจะฟังง่าย แต่ว่าความหมายของเพลงมันค่อนข้างลึกซึ้ง ซึ่งแป้งว่ามันก็ยากเหมือนกันนะการที่ทำให้เพลงที่บางทีเราไม่ได้พูดตรง ออกมาเป็นเพลงที่ค่อนข้างฟังง่าย แล้วก็มีคนเก็ต ด้วยหลาย อย่างของมัน อาจจะเป็นทำนอง เสียงร้อง มันเข้าถึงง่าย คืออยากรู้ว่าเขาทำยังไงมันถึงบาลานซ์สองอย่างนี้ออกมาในเพลงได้

Pango stare

Pango ในฐานะศิลปิน อยากให้กำลังใจน้อง ที่หัดเล่นดนตรีอย่างไรบ้าง

แป้งก็รู้สึกว่าเดี๋ยวนี้โลกมีช่องทางที่เปิดโอกาสให้เราได้แสดงความสามารถเยอะขึ้น อย่าไปกังวลว่าตัวเองยังไม่เก่งพอที่จะเล่นอะไรลง YouTube แป้งรู้สึกว่าจริง แล้ว เรื่องเก่งไม่เก่งขึ้นอยู่กับการฝึกฝนของเรา บางคนอาจจะเก่งมาก ฝึกมานานแล้ว แต่ว่าพอออกมาเล่นต่อหน้าคนอื่น อาจจะทำไม่เป็น ไม่รู้จะเล่นออกมายังไง คือพวกนี้แป้งว่ามันขึ้นอยู่กับประสบการณ์เลย ซึ่งก่อนที่จะมีประสบการณ์ได้ทุกคนก็ต้องมีก้าวแรก ก็เลยอยากให้มั่นใจว่า ถ้าเราชอบ เราอยากไปทางนี้ ก็อย่าเขิน ถ้าอยากโชว์อะ ก็ต้องโชว์ มันก็ยังมีคนอีกหลายคน อย่างแป้งทำคัฟเวอร์ครั้งแรกแป้งก็ไม่เก่ง กีตาร์ก็ห่วยมาก ดีดก็แป้ก หลายคอร์ดเลย แต่มันก็มีคนที่มาคอมเมนต์ว่า เค้าแฮปปี้ที่เค้าเห็นเรา ที่เล่นไม่ได้เก่งมากแต่เราก็มาเล่น มันเป็นแรงบันดาลใจให้เค้ารู้สึกว่า เค้าไม่ได้ต้องดีที่สุด เพื่อที่จะเริ่มกล้าทำอะไรซักอย่าง ทำต่อไป สู้ ค่ะ

จะมีโอกาสได้เห็น Pango ทำอัลบั้มคัฟเวอร์อีกมั้ย

จริง  แป้งอยากทำอยู่เรื่อย  ถึงไม่ได้เป็นซิงเกิ้ล ไม่ได้เป็นอัลบั้มก็อยากจะทำต่อ อยากทำคลิปคัฟเวอร์ด้วย แต่ตอนนี้ค่อนข้างยุ่งมาก ก็เลยเหมือนกับว่า ถ้ามีเวลาก็อยากทำ มันก็ยังเป็นสิ่งที่เราชอบอยู่

ฝากผลงานของ Pango

ยังไงก็ฝาก 3 เพลงนี้ ด้วยนะคะ คำอธิบาย, ฉันจะมีเธออยู่ แล้วก็ ทำได้เพียง ดาวน์โหลดกันได้ ฟังได้ทางออนไลน์นะคะ

Jason Mraz แรงบันดาลใจของ Pango กำลังจะมาเปิดคอนเสิร์ตให้เราชมกันสด ๆ ในวันที่ 21 พฤษภาคมนี้ ที่ Impact Arena ติดตามรายละเอียด ได้ที่ JASON MRAZ GOOD VIBES TOUR

 

อ่านต่อ
ศิลปินเพลงคัฟเวอร์ ตอนที่ 1: คัฟเวอร์เพลงสู่หนทางศิลปิน
ศิลปินเพลงคัฟเวอร์ ตอนที่ 2: คัฟเวอร์เพลงอย่างไรให้ถูกต้องและได้เงิน
Facebook Comments

Next:


Malaivee Swangpol

มิว (เรียกลัยก็ได้)​ โตมาข้าง ๆ วงมอชแต่ตอนนี้ฟังทุกแนว ชอบอ่านหนังสือ ตามหาของกินอร่อย ๆ และตอนนี้ก็คงกำลังวางแผนเที่ยวรอบโลกอยู่