The TOYS

Article Interview

เจ้าดอกไม้ตอนนี้เธอไปอยู่ไหน ? ต้องถาม The TOYS เจ้าของซิงเกิล หน้าหนาวที่แล้ว

  • Writer: Teeraphat Janejai
  • Photographer: Chavit Mayot

‘เด็กสมัยนี้โตไวเนอะ’ คือประโยคเปิดของเพลงหน้าหนาวที่แล้ว ของศิลปินหนุ่มหนึ่งเดียวนามว่า The TOYS ที่ทำผลงานด้วยตัวเองทุกขั้นตอน ตั้งแต่เนื้อเพลง เรียบเรียง และทำดนตรีในสไตล์ soul r&b

แม้ว่าเมื่อฟังในครั้งแรกอาจจะรู้สึกว่าเพลงยังไม่เข้าที่เข้าทาง แต่ไป ๆ มา ๆ เราก็ฮัมเพลงนี้และร้องตามได้ในการฟังอีกไม่กี่ครั้งถัดมา ซึ่งด้วยยอดวิว 25 ล้านครั้งบน YouTube ของเพลงหน้าหนาวที่แล้ว พวกเราก็เห็นว่า The TOYS น่าจะไปได้สวยในเส้นทางนี้

และไม่นานเกินรอก็มีข่าวว่าเขาได้เซ็นสัญญากับค่าย What The Duck เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงสมควรแก่เวลาที่เราจะไปพูดคุยทำความรู้จักกับศิลปินหนุ่มผู้นี้ว่าเขาเป็นเด็กที่ไหนโตมาอย่างไร

000039

แนะนำตัวหน่อย

สวัสดีครับ ผมชื่อ ทอย—ธันวา บุญสูงเนิน จริง ๆ แล้วผมเป็นศิลปินที่ไม่ได้เริ่มต้นมาจากการร้องเพลง ผมเล่นกีตาร์มาก่อน เคยเป็นแชมป์รายการ Overdrive Guitar Contest ครั้งที่ 9 แล้วพอวันหนึ่งผมมีโอกาสได้เรียบเรียงและโปรดิวซ์เพลงให้กับ Room39, เบียร์ The Voice, นิว – จิ๋ว และเพลงล่าสุดที่กำลังจะปล่อยของเบล สุพล แล้วเพลง หน้าหนาวที่แล้ว เป็นหนึ่งในเพลงที่ผมเอาไปเสนอให้กับศิลปิน แต่ไม่ผ่าน ผมก็เลยเอามาเรียบเรียงแล้วร้องเอง

แล้วทำไมถึงได้มีโอกาสทำโปรดิวซ์เพลงให้กับศิลปินใหญ่ ๆ ตั้งแต่อายุยังน้อย

ตอนแรกผมมีวงดนตรีที่ทำกับเพื่อน ๆ ก็ไปซ้อมอยู่ที่ห้องซ้อมและห้องอัดของพี่มือกีตาร์ในแกรมมี่ ก็มีโอกาสได้เป็นมือปืนอัดกีตาร์แทนเขา ช่วงที่ผมอัดให้เขา ผมกลับไปสนใจพวกมิกเซอร์ หรือพวกเครื่องมือในการอัดเสียงมากกว่า หลังจากนั้นผมก็ได้ไปนั่งเล่นอยู่กับเขาบ่อย ๆ จนวันหนึ่งเขาไม่ว่างทำเพลงของพี่อะตอม Mic idol เขาก็เลยให้ผมลองทำดู ผมก็ไม่ค่อยกลัวที่จะลองอะไรใหม่ ๆ อยู่แล้ว ตอนนั้นผมแค่ม.4 มันเหมือนฝันมาก ๆ ที่ได้ทำงานระดับนี้ ต้องขอบคุณผู้ใหญ่หลาย ๆ ท่านที่ให้โอกาส ผมก็เลยคิดว่าควรมุ่งทางนี้ไปเลยและตัดสินใจที่จะไม่เรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยด้วย

ทั้ง ๆ ที่ได้คลุกคลีและทำงานเบื้องหลังมาตั้งแต่ม.4 แล้วทำไมถึงไม่เลือกเรียนต่อทางด้านนี้

ผมไม่เคยต้องการความรู้จากดนตรี ไม่ใช่เพราะผมเก่งหรืออะไร แต่ผมแฮปปี้กับสิ่งที่ผมเป็นอยู่ตอนนี้ ถ้าเกิดผมเรียนมันก็จะเกิดข้อจำกัดหรือกรอบความคิด ผมเลยเลือกที่จะเรียนและคลุกคลีจากคนที่เขาทำงานอยู่แล้ว เราเรียนรู้ต่อจากคนเหล่านี้ดีกว่า

แล้วที่บ้านสนับสนุนหรือว่าคิดเห็นอย่างไรที่เราไม่เรียนต่อแต่เลือกที่จะมุ่งทำงานทางด้านนี้

แรก ๆ ก็ไม่มีใครโอเคสักเท่าไหร่ เขาคิดว่าเราคงไปได้ไม่ไกลขนาดนั้น เพราะผมอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมทั้งวัน โรงเรียนก็ไม่ไป เขาก็ต้องมองว่าผมเกเร แต่ผมกลับคิดว่าตอนที่ผมอยู่ในห้องสี่เหลี่ยม ทำงานเพลง ผมได้อะไรมากกว่าที่ไปโรงเรียน ก็ใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะพิสูจน์ตัวเองจนทุกคนในบ้านยอมรับ น่าจะเกือบ ๆ 5 ปีได้

และก็ไม่เคยเรียนดนตรีมาก่อนด้วย? แล้วไปเอาไอเดียหรือฝึกฝนจากไหน

มันเหมือนภาษา ถ้าเราจับเด็กเล็ก ๆ  คนหนึ่งไปไว้ที่ญี่ปุ่น วันหนึ่งเขาก็จะสามารถใช้ภาษาญี่ปุ่นได้คล่องแคล่วไปเองโดยธรรมชาติ แล้วผมก็โตมาในลักษณะนั้น คุณแม่ (นิตยา บุญสูงเนิน) คุณป้า (เจินเจิน บุญสูงเนิน) และแทบทุกคนในบ้านเป็นนักร้องนักดนตรี เราก็ซึบซับมาเรื่อย ๆ

000036

คิดว่าทำไม The TOYS ถึงชนะ Overdrive Guitar Contest

ผมคิดว่าตัวเองถนัดในเรื่องการคิดไอเดียใหม่ ๆ ทฤษฎีผมไม่มีเลย ตอนที่เข้ารอบ 8 คนสุดท้ายของประเทศไทย แต่ละคนนี่โคตรเก่ง ผมสู้เรื่องทักษะพวกเขาไม่ได้เลย ผมก็เลยคิดว่าเราพลิกความคิดดีกว่า เราเล่นกีตาร์เหมือนไม่ใช่กีตาร์ ผมก็เลยใช้เทคนิกอื่น ๆ ที่ไม่มีอยู่บนกีตาร์ เทคนิกแปลก ๆ เล่นเหมือนใช้ฮาร์พ ฮาร์โมนิกา คิดว่ากรรมการก็คงชอบที่ผมแตกต่างจากคนอื่น

ทำไมถึงเลือกทำเพลงแนวนี้ที่ไม่ค่อยได้โชว์ทักษะกีตาร์เท่าไหร่

ผมร้องเพลงไม่เก่ง ผมอาจจะมีแนวการร้องเพลงในแบบตัวเองคือเน้นใช้ลม แต่กลับกันว่าแนวกีตาร์ที่ผมเล่นเป็นร็อก ถ้าผมจะทำเพลงร็อกแต่เสียงผมเป็นแบบนั้นมันก็คงไม่เวิร์ก หรือจะให้ผมเล่นกีตาร์แบบนุ่ม ๆ ผมก็ไม่ถนัดอยู่ดี ผมก็เลยหาจุดที่มันพอดีก็คือ ไม่เล่นกีตาร์ (หัวเราะ)

ทำไมเพลงหน้าหนาวที่แล้ว ต้องขึ้นต้นด้วยคำว่า ‘เด็กสมัยนี้โตไวเนอะ’

เป็นเหมือนมุขที่ใส่ไว้ให้คนสงสัยว่ามันหมายถึงอะไร ถ้ามีใครถามผมก็จะตอบว่า ไว้โตก่อนแล้วจะบอก (หัวเราะ) แล้วถ้าเคยฟังเพลงใต้ดินจะพบว่ามีบางเพลงที่มีประโยคนี้ซ่อนอยู่ เพลงพวกนั้นจะเป็นเพลงที่ผมมีส่วนในการเขียนเนื้อร้องด้วย ก็เหมือนเป็นลายเซ็นของผมไปในตัวด้วย

000038

รู้สึกอย่างไรที่เพลงของเราไปได้ไกลขนาดนั้นทั้ง ๆ ที่ตอนนั้นยังไม่ได้สังกัดค่ายไหน

ตกใจมาก ช่วงแรกที่ปล่อยเพลงนี้ออกมามันก็ค้างอยู่ที่ห้าพันวิวได้ ค้างอยู่ปีนึง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าอะไรที่ทำให้กลายเป็นกระแสขึ้นมาได้ พอคนสนใจเยอะก็ทำให้ผมรู้สึกว่าต้องพัฒนาตัวเองในเรื่องการร้องเพลงแล้ว ส่วนชีวิตผมก็เปลี่ยนไปแทบทุกอย่าง จากที่เคยทำตัวสบาย ๆ ออกไปกินข้าวข้างนอกจะแต่งตัวยังไงก็ได้ แต่ตอนนี้เริ่มมีคนสนใจ มีคนจำเราได้ ก็ต้องปรับตัว หรืออย่างมีงานไปเล่นตามร้าน จากที่เราก็เล่นของเรา อินของเรา เคยเล่นแต่กีตาร์ ก็กลายเป็นว่าต้องเริ่มคุยกับคนมากขึ้น ตอนเล่นแรก ๆ นี่ผมสวัสดีแล้วหันหน้าเข้าเวทีเลย แต่ก็เริ่มปรับตัวได้แล้ว

การเข้ามาร่วมงานกับ What the Duck ทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง

ผมเป็นคนไม่ค่อยชอบอยู่ในระบบ ไม่ค่อยชินเท่าไหร่กับการที่มีความคิดของคนอื่นมาครอบความคิดของผม ซึ่งที่นี่ให้อิสระในการทำงานมาก ไอเดียที่เราคิดมาก็ถูกใช้อย่างเต็มที่ ก็แฮปปี้มากที่ได้มาอยู่ที่นี่

แล้วยังอยากกลับไปทำวงหรือทำเพลงแนวอื่นอีกมั้ย

ก็อยากครับ แต่ที่ทำอยู่ตอนนี้ก็โอเคมาก เพราะเราได้ลองได้ทำทุกอย่างด้วยตัวเองทั้งหมด ไม่ใช่แค่เนื้อร้องและเรียบเรียง ผม mix & mastering เอง อัดกลอง อัดเบสเอง ในห้องอัดที่เราทำเอง ผมอัดกลองจากในตู้ซาวน่าซึ่งผมคิดของผมเองว่า ตู้ซาวน่าเป็นที่ที่คุม resonant (ความก้องกังวาล) และเสียงรบกวนจากภายนอกได้ดีในระดับหนึ่ง

สุดท้ายนี้ฝากผลงานหน่อย

ก็เดี๋ยวจะมีเพลงใหม่ชื่อ ก่อนฤดูฝน เป็นซิงเกิลแรกของผมในฐานะศิลปินของ What the Duck และก็ติดตามข่าวสารได้จากเพจของ What the duck และแชนแนลยูทูป TheTOYS ครับ

000040

 

The TOYS สร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่! เซอร์ไพร์สแฟนเพลงทั่วประเทศ ปล่อยรวด 2 เพลง 2 อารมณ์

Facebook Comments

Next:


Teeraphat Janejai

ธีรภัทร์ เจนใจ กองบรรณาธิการ Fungjaizine ที่มักสนุกกับการเปิดเพลงในรถมากกว่าการไปคอนเสิร์ต และชอบนั่งสวนพอๆ กับนั่งบาร์