Interview

สองสาวซ่า X0809 เตรียมปล่อยซิงเกิ้ลแรกสุดเฟี้ยว เร็ว ๆ นี้

  • Writer: Montipa Virojpan
  • Photographer: Neungburuj

หลังจากที่ปล่อย teaser สุดเท่ XPOSITION ออกมาให้ได้ตื่นเต้นกันไปแล้ว Fungjaizine เลยรีบชวนสองสาว X0809 มาคุยเกี่ยวกับงานที่กำลังจะส่งมาให้เราได้สดับโดยทั่วกันเร็ว ๆ นี้

X0809 เกิดขึ้นมาได้ยังไง

เยล: คือเราเคยมีวงกันมาก่อน The Krrrrr วงนั้นก็มีโอกาสได้เล่นแบบเบลอ ๆ เหมือนกัน หลังจากที่พักวงไปเมื่อต้นปีที่แล้ว แล้วปลายปีวงนี้ก็ได้กลับมาเล่นแบบเบลอ ๆ เหมือนกัน คือมีงานที่ Rockademy พี่แพทเขาให้ไปช่วยเล่นงานเปิด KKBox เพราะเห็นเรามีเครื่องดนตรีเยอะดีแล้วเล่นคนเดียว นทก็เพิ่งกลับจากฝึกงานที่อเมริกาพอดี นางก็อินไงเพราะไปเล่นดนตรีที่นู่นมาแล้วกลับมาก็อยากทำวงต่อ ตอนนั้นไม่มีใครเล่นกลองให้ก็ให้นทมาช่วยเปิดลูปกลองให้ในงานนั้น แล้วนทก็ยังติดสัญญาอยู่กับค่ายเก่า จริง ๆ อาจจะไม่มีอะไรแต่เพื่อความเซฟก็เลยให้ใส่หน้ากากเล่น พอเล่นแล้วเริ่มมัน จบงานนั้นก็บังเอิญได้ไปเล่นอีกงานของพี่รอง The Who ที่ The Jam Factory แล้วพี่ด้วง-ดวงฤทธิ์ บุนนาค มาเห็น ก็ชวนไปเล่นที่ Wonderfruit ที่ซุ้มของเขา ไปเล่นอยู่ 4 วัน แล้วก็มีฝรั่งชอบวงเรา แต่ตอนนั้นยังไม่ได้ตั้งใจจะทำวงนะ

นท: แล้วก็โดนจ้างไปเล่นที่ฮ่องกง แต่ตอนนั้นไม่ได้ไปเพราะเขาขอ press kit วง ซึ่งเรายังไม่มีเลย

เยล: เพลง original ก็ยังไม่มี เพราะเหมือนตอนที่เล่นมันก็เป็นการแจมกัน เป็นคัฟเวอร์ ยังไม่มี arrangement อะไรกันเลย จริง ๆ มีเพลงนึงแล้วแหละ แต่ตอนนั้นยังเป็นเวอร์ชันโคตรเดโม่ ถ้าเขียนแบบก็คงยังเป็นแบบสเกตช์ แบบดินสอเขียน ยังไม่ได้ตกแต่งอะไรเลย ที่เล่นก็มีอยู่ 4 เพลง บวก intro อีกเพลง ก็เป็นเล่น ๆ กันมากกว่า แต่พอกลับมาจาก Wonderfruit แล้วมันรู้สึกดีมากเหมือนเราได้กลับมาเล่นดนตรีด้วยกัน ก็เลยคิดว่าจะจริงจังแล้ว แล้วพอจะจริงจังเนี่ย ก็มีโปรเจกต์ของ Asiola เข้ามาพอดี ก็เลยจริงจังหนักเข้าไปอีก เพราะ Asiola เขาก็มาถามว่ามีโปรเจกต์อะไรอยากทำไหม ตอนทำ The Krrrrr ก็ยังไม่มีโอกาสได้ทำ EP หรือซิงเกิลที่อัดเสียงจริงจัง ได้แค่เล่นสดเฉย ๆ แต่คนอื่นก็มีเพลงที่เป็น studio recording เราก็อยากมีบ้าง พอมีทุกอย่างเข้ามารุมกันพอดีก็เลยลุยเลย

กลับมาเป็นวงหน้าใหม่อีกรอบรู้สึกท้อหรือเหนื่อยบ้างไหม

เยล: ไม่เหนื่อยนะ จริง ๆ ตอน The Krrrrr รู้สึกเสียใจด้วยซ้ำที่ไปต่อไม่สุด คือพวกเราไม่ได้มีปัญหาอะไรกันเลย ทุกวันนี้ก็ยังคุยกัน ทุกคนถามว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมวงแตก คือการทำวง เวลาเราไม่ซิงค์กัน เราไม่ได้ชอบเหมือน ๆ กัน คุยเรื่องทางดนตรีกันคนละภาษา มันก็เหมือนทำได้ไม่ได้เต็มที่ เราก็เริ่มรู้สึกว่าเราไปกันคนละแนวกันแล้ว แต่เยลกับนทไปในทิศทางเดียวกันหมดเลย ด้วยแนวนั้นเราก็ยังไม่เก่งพอ เพราะมันไม่ใช่ electronic เหมือนกึ่ง ๆ rock ด้วยซ้ำ คือเราเล่นกีตาร์ นทร้อง พี่อิ๊กเล่นเบส แล้วพี่อิ๊กก็เหมือนเราคือเพิ่งเล่นดนตรี มีคนเดียวที่ expert คือพี่จุ ตีกลอง โปรเจกต์นั้นมาแบบเบลอ ๆ เราก็อยากทำต่อเพราะรู้สึกว่าได้ส่วนที่ทำให้เราอยากทำวงจากการเล่นดนตรีตรงนั้นเยอะเหมือนกัน อาจจะด้วยเรื่องแนว ไลฟ์สไตล์ คนนั้นคนนี้ไม่ว่าง พอทำ 2 คนแล้วมันเวิร์กกว่า เจอกันแล้วช่วยกัน input ได้เยอะ แนวคิดตรงกัน

นท: ด้วยความที่เราเป็นดีไซเนอร์เหมือนกันด้วย

 

ใครทำอะไรกันบ้างในวง

นท: คือร้องทั้งสองคน พี่เยลจะเล่นซินธ์ นทจะคุมบีท แอมเบียนท์ นอยซ์ คุมเอฟเฟกต์ที่จะดั๊บทุกอย่างอีกรอบ

เยล: เราก็เล่นซินธ์กับกีตาร์

ทำไมถึงสนใจ electronic pop

นท: มันมาจากความชอบของเราสองคน แล้วเราอินกับเทคโนโลยี รู้สึกว่าสมัยนี้เทคโนโลยีมันทำได้เยอะและน่าสนใจ คือดนตรีเราไม่ได้เล่นแค่อิเล็กทรอนิก เราอยากเล่นพวก visual, lighting เพราะเทคโนโลยีมันเชื่อมกัน ด้วยความที่มันเป็นอิเล็กทรอนิกมันจะต่อออกมาเป็น midi ได้เมื่อซิงค์กับหลาย ๆ โปรแกรมที่จะสร้างออกมาเป็นอะไรก็ได้อีกเยอะมาก

เยล: คือมันไม่จำกัดความคิดอะ เอาง่าย ๆ คือเรียนออกแบบมาทั้งคู่ด้วยเราก็อยากทดลองอะไรไปเรื่อย ๆ แล้วถึงดนตรีมันจะมีกันสองคน แต่มันทำได้ไปถึงสุดนะ รู้สึกว่ามันเอาทุกแนวมารวมกันได้ ไม่เฉพาะเจาะจงว่าเราจะเล่นแนวนี้ แนวนั้น เพราะเราก็ฟังเพลงหลายแนว R&B ฮิปฮอป แจ๊ส คือเยอะมาก แล้วกลายมาเป็นอิเล็กทรอนิกเฉยเลย อาจจะเป็นเรื่องกรูฟ เนื้อร้อง วิธีการร้องที่เราเอามารวมกัน แล้วด้วยสกิลพื้นฐานที่เรามีอยู่ เทียบกับการที่เราไม่ใช่นักดนตรีอาชีพ เครื่องพวกนี้มันเป็นสื่อที่ช่วยเราได้ด้วย

 

ตอนเริ่มหัดเองยากไหม

นท: มันไม่ยากแต่มันเหนื่อยมากกว่า คือเรารู้อยู่แล้วว่าเราต้องการอะไร แค่สิ่งนั้นมันใช้เวลามากกว่า

เยล: ก็สนุกดีนะ ทำซิงเกิลแรก ไม่เคยผ่าน process นี้มาก่อนไง การมิกซ์เพลงเอง มันต้องโปรดิวซ์เอง ปกติเราแต่งเพลงมีทำนอง มีเนื้อร้อง มีคอร์ด เมโลดี้ ทำเดโม่ไม่ยาก เพราะมันพอมีโครงสร้าง ดูไม่ยาก แต่พอมาทำจริง ๆ มันมีรายละเอียดอีกเยอะมากที่เราไม่เคยทำเอง พอมานั่งฟังกับซาวด์เอนจิเนียร์เองเป็นล้านรอบ ฟังวนไปอย่างนั้น ทั้งลำโพงใหญ่ ลำโพงหูฟัง เบสต่ำ เบสสูง ต้องเพิ่มเสียงซับ สแนร์ แฮท เยอะมากที่ต้องเรียนรู้ ถ้ายิ่งทำหลาย ๆ เพลงไปเรื่อย ๆ เราจะยิ่งพัฒนาขึ้นไปเรื่อย ๆ นี่เพลงแรกทำมาได้ขนาดนี้ก็รู้สึกดีนะ

นท: ดีในระยะเวลาที่มีจำกัด คือเวลามันสั้นมาก ทำกันเดือนเดียว

 

เพลงของ X0809 โดดเด่นยังไง

นท: มันไม่ใช่แค่อิเล็กทรอนิกอย่างเดียว เพราะมันมีอย่างอื่นที่เราฟังด้วย อย่างนทโตมากับเพลงแจ๊ส พี่เยลโตมากับเพลง R&B มันเลยมีความ mix & match ถ้าเกิดเป็นอาหารก็คงเรียกว่าเป็น fusion อะค่ะ แล้วที่ต่างกับคนอื่นเพราะเราร้องกันสองคนด้วย นทร้องไลน์ต่ำ พี่เยลร้องไลน์สูง มันก็จะมีมิติของเสียงมากขึ้น

 

จะปล่อยเพลงกับ Asiola เลยหรือเปล่า

เยล: ตอนนี้คิดว่าจะปล่อยซิงเกิลพร้อม mv ก่อน เร็ว ๆ นี้ค่ะ

Asiaola พิเศษสำหรับการทำงานครั้งนี้ยังไงบ้าง

นท: คือ Asiola ก็เป็นที่ระดมทุนใหม่ที่สนับสนุนศิลปินที่ทำโปรเจกต์ต่าง ๆ ไม่ใช่แค่ดนตรี แต่ทุกอย่างเลย ทั้งแฟชั่น อาหาร ดีไซน์ สถาปัตยกรรม เวิร์กช็อป สมมติโปรเจกต์เราอยากทำ EP ก็ไปบอกเขา ในนี้จะมีอะไรบ้าง เขาก็จะคิดมาว่า โอเค ถ้าอยากทำ ใน budget ก้อนนี้คุณต้องหา reward อะไรบ้างให้คนมาซื้อเพื่อสนับสนุนคุณ ไม่ใช่แค่เขาให้เงินเรามาอย่างเดียว เขาจะได้ของตอบแทนไปด้วย

เยล: เช่น ถ้าเข้าชอบเพลง เขาก็สามารถเลือกได้ว่า 300 บาท ได้โค้ดดิจิทัลดาวน์โหลด หรือได้เสื้อ แว่นตาที่เราใส่แสดง หรือกิจกรรมต่าง ๆ 500 บาท อาจจะได้ live session คือมันค่อนข้างเปิดสำหรับคนฟังของเราว่าเขาต้องการอะไร

นท: หรือ one day with แฟนแฟน (ตัวเฟร์ริต สัตว์เลี้ยงของนท) พาไปเที่ยวกัน อะไรแบบนี้ (หัวเราะ) เพราะน้องก็ชอบผู้คนมาก

MV ที่กำลังจะปล่อยได้ร่วมงานกับ Eyedropper Fill ด้วย

เยล: วันก่อนเรานอน 9 นทนอน 8 โมงเช้า (หัวเราะ) คือเราก็รู้จักกับพี่เบสท์อยู่แล้วเพราะเคยฝึกงานที่ Very Kind Invention ก็เลยเจอ ๆ ผ่าน ๆ กัน แล้วเป็นคนรู้จักของเพื่อนอีกที แล้วช่วงนี้นทก็มีโปรเจกต์พอดีด้วย

นท: ตอนนี้นทกำลังจะจัดปาร์ตี้กับ NYLON Thailand เป็นสเกลใหญ่เลย จัดที่อู่ซ่อมรถเก่าที่เพชรบุรี แล้วจะเน้น visual lighting พวก multimedia experience ที่ก็จะมี Eyedropper Fill กับ จิโร่ เอ็นโด มาทำให้ แล้วก็มีวงเรา DCNXTR พี่จีน กษิดิศ เป็นงานกึ่งปาร์ตี้ กึ่ง art exhibition แล้วก็จะมี installation เมื่อกี้เพิ่งไปขายสปอนเซอร์มาเหมือนกัน คือนททำทุกอย่างเอง คิดไอเดีย curate งานที่จะมาแสดง (หัวเราะ)

เยล: ส่วน MV คงตัดอยู่แหละ ยังไม่อยากไปเร่งเขา

แล้วปาร์ตี้จะจัดเมื่อไหร่

นท: วางไว้ 11 มิถุนายน ค่ะ ถ้าหาสปอนเซอร์ได้ มีความเป็นไปได้ว่าจะเลื่อน แต่จะพยายามไม่ให้เลื่อน แล้วจะมีทีเซอร์วิดีโอออกมาด้วย อันนี้จะไม่เกี่ยวกับสปอนเซอร์เลย จะเป็น video art ที่รวม influencer ที่เข้ากับธีมเรา แบบ bad ass, swag เพราะรู้สึกว่าความ hipster กำลังจะไปแล้ว ความ swag, bad ass กำลังจะมา ส่วนคนที่ชวนมาก็คือ แก๊ง Slum Boy มีพี่โทนี่ รากแก่น พี่ซัน พี่บุษ ที่เป็นช่างตัดผมอะค่ะ แล้วก็คริส กับ กัน สองพี่น้องเจ้าของร้าน Ceret ที่เขาเคยเป็นเชฟที่นิวยอร์คมาก่อน แล้วเขาแต่งตัวแรง ๆ เลย แล้วก็พี่ฟาน เป็นช่างภาพที่เป็น Face of Olympus อยู่ตอนนี้ แล้วก็มีแก๊งสาว ๆ ชื่อ The Trash Unicorns ก็มี Peary Pie, วี วิโอเลต, หลิน มชณต แล้วก็มีพี่ด้วง พี่รอง พี่โอ๋ ฟูตอง พี่จีน กษิดิศ จะอยู่ใน teaser นี้ด้วย

 

ที่ไปเล่นสดมาชอบบรรยากาศที่ไหนที่สุด

X0809: Wonderfruit ค่ะ

เยล: คือบรรยากาศมันดีมาก ชิลล์ เล่น outdoor รอบ ๆ มีเพลงเล่น แล้วมีคนมานั่ง ๆ นอน ๆ ที่พื้นฟังเรา

อะไรทำให้สนุกกับการแต่งตัว

นท: พี่เยลจะแต่งตัวไม่จัด นทเนี่ยจะเป็นคนจับพี่เยลแต่งตัว มันคือความสนุกของนท

เยล: คือเราใส่เสื้อยืด กางเกงบอล รองเท้าแตะอะ

นท: ครั้งแรกที่พี่เยลมาคอนโดเก่านท ยามไม่ให้ขึ้นมา ยามต้องโทรขึ้นมาว่า คุณนทครับ มีผู้หญิงคนนึงมาหาคุณนทอยู่ที่ล็อบบี้ จะให้ผมพาขึ้นไปให้ไหมครับ นทก็แบบ นั่นเพื่อนนทเองค่ะขึ้นมาได้เลย (หัวเราะ) ตลกมากอะ

เยล: วันนั้นใส่เสื้อมัดย้อมแล้วเดินเซ ๆ แบบเพิ่งตื่น ยามมองว่าอินี่คือใคร

แล้วทำไมยอมให้แต่ง

เยล: ก็หนุกดี จริง ๆ ก็ชอบ คือถ้ามีโอกาสก็แต่งนะ แต่ถ้าไม่ได้ไปไหน ไม่ต้องไปเจอใครก็ไม่แต่งเลย ขี้เกียจ ถาปัดสไตล์ก็คงเข้าใจ มันคงนิสัยคล้าย ๆ กัน แต่เรารู้สึกว่าการแต่งตัว หรือเวที การแสดง เพลง แสงสี ทุกอย่างมันคือดีไซน์อะ ตัวเราพยายามทำทุกอย่างเอง กราฟิกก็ทำเอง มันต้องมาด้วยกันทั้งหมด คือถ้าไปเล่นแบบสเตจเต็ม ๆ หรือถ่าย mv โปรดักชันมาเต็มแล้ว แต่ไม่แต่งตัวเลยมันก็ไม่ใช่ การแต่งตัวมันก็สำคัญเหมือนกันนะ เพราะมันเป็นลุค เป็นแบรนดิ้งของวง

นท: เพราะนทเป็นคนชอบแฟชั่นอยู่แล้ว ชอบครีเอทลุค จะสังเกตว่านทเปลี่ยนทรงผมบ่อยมาก คือนทสนุก ชอบมาก กับการเปลี่ยนลุคต่าง ๆ ทั้งตัวเองและคนอื่น แล้ววงเราก็ค่อนข้างจะเน้นแฟชั่น แบรนด์แฟชั่นก็จะชอบทำงานร่วมกับเรา ก็จะได้สปอนเซอร์เสื้อผ้าตลอด Topshop, Marimekko, Playhound, Vick’s Weekend งี้

ดนตรีกับแฟชั่นให้ความสุขกับเรายังไง

นท: เราได้เป็นตัวของตัวเอง ได้ปลดปล่อย ปล่อยของ แล้วมันก็เป็นการทดลองด้วย

เยล: เหมือนได้ทำในสิ่งที่เราอยากจะสื่อออกไป เหมือนที่เรามีเรื่องอะไรมาก็ลองมาเขียนเพลง แล้วการเล่นดนตรีมันทำให้เราเรียนรู้อะไรหลาย ๆ อย่างขึ้นมาก มันสนุก แล้วเราก็อยากทำไปเรื่อย ๆ ให้มันดีขึ้นไปอีก รู้สึกว่าเราพัฒนาได้อีกเพราะเราก็เริ่มจากศูนย์ มั่ว ๆ กันขึ้นมา ฟัง ๆ เอา ดูคนอื่นเอา แล้วมันไม่เบื่อด้วย เพราะมีหลายเครื่อง หลายเสียง ยังมีแนวเพลงอีกเยอะที่เราจะสามารถเล่นกับมันได้ตลอด เหมือนการดีไซน์ ทำกราฟิก แต่ละเพลงก็จะมี art direction ที่ไม่เหมือนกัน โทนของสี แนวของเพลง ความเป็น electronic pop มันสามารถเอาไปรวมกับแนวอื่น ๆ ได้ สมมติเราอยากให้มันเป็นสไตล์อื่นก็ได้ เพลงหน้าวางแผนจะให้มีแร๊พ เป็น ฮิปฮอป R&B ไปเลย แต่อาจจะไม่ได้เป็นสายแข็งขนาดนั้น แค่ได้อิทธิพลมา ก็จะต่างจากซิงเกิลแรกไปเลย แต่ก็จะมีความเป็นตัวเราอยู่ เราจะชอบเล่นกับเสียงแซมป์อะ หรืออัดเสียงจริง เอาไมค์ไปนั่งอัดแล้วใส่คอม ตัดมาใช้ แล้วเราก็จิ้ม ๆ กด ๆ เป็นอะไรที่สนุกดี

ได้แรงบันดาลใจมาจากอะไร

นท: นทชอบส่องอินสตาแกรมนางแบบ ซูจู, Grimes, Die Antwoord สไตล์ฟรีค ๆ หน่อย แล้วก็ดูแฟชั่นโชว์

เยล: เราจะได้จาก FKA Twigs, Banks ที่เราชอบเขามาก ๆ เพราะเขาทำทุกอย่างเองตั้งแต่โปรดักชัน คือเขาก็กำกับวิดีโอ ตัดต่อเอง แล้วก็ออกไอเดียเองหมดเลย เคยนั่งดูนางให้สัมภาษณ์ ทุกเสียงที่เอามาคือทำขึ้นเองหมดเลย เสียงกลองเทพ ๆ แทนที่จะเล่นปกติก็เอามา reverse แล้วนางก็พูดอะไรก็ไม่รู้ คือขุ่นแม่มาก ชอบทุกศิลปินที่เขามี originality ที่เขาไม่สนใจว่า ถ้าเขาคิดและสื่อออกมาอย่างนี้คนอื่นจะคิดยังไง เพราะเขาทำในสิ่งที่เขารู้สึกแล้วทำออกมาได้ถึงอะ

ซีนแฟชั่นในกรุงเทพ ฯ มาแรงพอ ๆ กับดนตรี คิดว่าบ้านเรามีวงที่รวมสองอย่างนี้ไว้ด้วยกันอีกบ้างไหม

นท: นทรู้สึกว่าน้อยคน น้อยวง ที่จะเอาแฟชั่นมาเล่นด้วยมาก ๆ ที่เห็นชัด ๆ ก็ พี่จีน กษิดิศ ในแง่นี้คือแฟชั่นมันไม่ใช่แค่แต่งตัวจัดอย่างเดียว มันต้องเกี่ยวกับแบรนด์ เขาใช้แบรนด์อะไร เป็นตัวแทนของแบรนด์อะไรได้บ้างไหม อย่างพี่จีนเขาจะชัดเจนเลยว่าต้อง Soda, Issue คนไทยก็แค่จะคิดว่า แต่งตัวสวย แต่งตัวดี ไม่แย่ แต่ไม่ได้แฟชั่นจ๋า

เยล: ด้วยความที่อาจจะไม่อินก็ได้ ถ้าเราไม่ได้อยู่กับนทเราอาจจะแต่งตัวเป็นมาสคอตบ้า ๆ บอ ๆ ผีบ้าสไตล์มากกว่า ไม่แฟชั่น

นท: คือนทรู้สึก appreciate ชิ้นแฟชั่นที่เขาดีไซน์มา มันเหมือนเป็นศิลปะอีกชิ้นนึงด้วย เราอยากเอามาลิงก์กับงานเรา อย่างที่ใส่อยู่เนี่ยเป็นของ Issue คอลเลกชันใหม่ เขาคิดมา แล้วเราชอบ เพราะมันเจ๋ง ก็อยากเอามาใช้ด้วย

นทเซ็งไหมกับการที่คนถามว่า นท The Star ของฉันหายไปไหน

นท: นทอยากให้คนรักนทในแบบที่นทเป็นนท คือเราชัดเจนมาตั้งแต่แรกว่าเราเด่นที่ตัวตน ไม่ใช่เสียงที่ทรงพลัง ไม่ได้เต้นเก่งแบบคนอื่น แต่พอเรามาถึงจุด ๆ นึงที่เราอยู่ในวงการแมส เราไม่สามารถเป็นอย่างนั้นได้ เพราะเราคือสินค้านึงที่เขาต้องขายให้ได้ในตลาดแมส ซึ่งตรงนี้เราเข้าใจมากแล้วเราไม่โกรธเลย appreciate ด้วยซ้ำที่ทำให้นทมีคนรู้จักมากขึ้น แล้วในวันนึงที่เราแข็งแรงพอที่เราจะเดินไปในทางของเราได้ ทางบริษัทเขาก็ปล่อย ทางนทก็หมดสัญญาแล้ว คือเขาใจดีมาก ได้เลยค่ะ น่ารักมาก ไม่พยายามจะกักนทไว้เลย นทมองเขาเหมือนพ่อแม่ที่เลี้ยงเรามาแล้วพอเราโตเขาก็ส่งเราไปมหาวิทยาลัย ปล่อยให้เราไปตามทางของเรา แล้วนทว่าแฟนคลับนทจริง ๆ ส่วนใหญ่เขาเข้าใจนะว่าเราเป็นยังไง ไม่งั้นเขาคงไม่อยู่ถึงตอนนี้ ก็คงมีส่วนนึงแหละที่เสียดายว่าไม่ยอมมาร้องเพลงละครแล้วหรอ ก็ ทำใจนะคะ ไม่มีแล้ว (หัวเราะ) นทจะยกตัวอย่างว่าตัวเองเหมือน Miley Cyrus ที่เมื่อก่อนเขาก็เป็นเด็ก Disney แต่พอเขาหลุดออกมาเขาก็เป็นตัวเอง แต่นทจะไม่หลุดไปถึงขั้นนั้น อันนั้นพีคไป

ฝากอะไรกันหน่อย

เยล: EP เราจะออกกรกฎาคมค่ะ ถ้า crowdfunding สำเร็จนะ แต่ซิงเกิลจะออกช่วงนี้แหละค่ะ เพลงอื่น ๆ จะทำเก็บแล้วปล่อยมาเรื่อย ๆ

นท: แล้วก็ฝากแคมเปญ XPOSITION ที่ทำกับ Asiola เข้าไปสนับสนุนได้ที่ลิงก์นี้ค่ะ http://asiola.co.th/campaign/xposition-by-x0809 แล้วก็ปาร์ตี้ NYLON ด้วยนะคะ ตามในเฟซบุ๊กได้ที่ X0809 แล้วก็อินสตาแกรม X0809band ค่ะ

 

Facebook Comments

Next:


Montipa Virojpan

อิ๊ก เนิร์ดดนตรีที่เพิ่งกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นนักเขียนตอนอายุ 25 ชอบเดินเร็ว นอกจากขนมปังกับกาแฟดำแล้วก็สามารถกินไอศกรีมกับคราฟต์เบียร์แทนมื้อเช้าได้