Article Import

คุยกับ Jeremy Zucker เจ้าของเพลง Comethru ถึงอาหารไทย และการเรียนไปทำเพลงไป

  • Writer: Ratchanon Charoensettasilp
  • Photos: Universal Music Thailand

ก่อนจะไปสนุกกับ Jeremy Zucker Live in Bangkok ในค่ำคืนนี้ เรามาชวนเขาคุยกันหน่อยดีกว่า ว่าเป็นมาทัวร์ไทยเป็นมายังไงบ้าง อาหารไทยอะไรที่เขาชอบ และเคล็ดลับสุดเจ๋งที่ทำให้เขาเรียนไปทำเพลงไปได้แบบไม่สะดุด

Jeremy Zucker

การมาไทยรอบนี้เป็นรอบแรกของคุณเลยหรือเปล่า

ใช่เลย มันเป็นครั้งแรกของผมที่มาไทยและเอเชีย ยังไม่เคยมาแทบนี้เลยสักครั้ง

มีอะไรที่คุณตั้งหน้าตั้งตาอยากลองที่ไทยไหม

อืม ผมพึ่งมาได้สองวันเอง เลยอยากลองอาหารไทย เพราะตอนผมอยู่อเมริกานี่ผมชอบอาหารไทยมาก กินบ่อยสุด ๆ การที่ได้มีโอกาสมาที่นี้แล้วมาลองอาหารไทยแบบต้นฉบับ คงเป็นอะไรที่เจ๋งมาก ๆ ตัวเมืองกรุงเทพ ฯ เองก็ดูมีที่ให้ไปเที่ยวชมมากมาย ผมรอไม่ได้เลยล่ะที่จะไปเที่ยวต่อในกรุงเทพ ฯ

มีอาหารไทยจานไหนที่ชอบเป็นพิเศษไหม

ผมชอบกินแกงมากตอนอยู่อเมริกา แกงเขียวหวาน แกงพะแนง อะไรก็ได้ที่มีกะทิ ผมชอบ! (หัวเราะ) เห็นแบบนี้ผมชอบทานอะไรเผ็ด ๆ ด้วยนะ

จริงหรอ แล้วลองอะไรเผ็ด ๆ ที่นี่หรือยัง อาจจะไม่ไหวก็ได้นะ

ลองแล้ว คือตอนแรกผมไปเที่ยวกับคนไทยที่พาทัวร์ แล้วเขาก็สั่งแบบเผ็ดน้อยมาให้ เพราะเขากลัวมันจะเผ็ดไปสำหรับผม ผมกับทีมงานก็เลยแบบ ไม่เอา! จะเอาแบบเผ็ด ๆ แบบที่คนไทยกิน จัดมา พอได้ลองก็ชอบเลย รสจัดจ้านดีมาก ถึงจะต้องกินน้ำตามตลอด แต่มันอร่อยจริง

Jeremy Zucker

พูดถึงโชว์ของคุณหน่อย คิดว่ามาเล่นในประเทศที่คนไม่ได้คุยภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักแล้วจะมีอะไรแปลกไปไหม

มันก็คงมีต่างไปบ้างแหละ แต่ผมคิดว่าคนน่าจะรู้จักเนื้อเพลงระดับนึง แล้วนั้นจะเป็นสิ่งที่ทำให้เราเข้าใจกัน ผมเองก็ไม่ได้ชอบคุยบนเวทีเท่าไหร่ รู้สึกว่าเวลาขึ้นไปก็โฟกัสกับการเล่นดนตรีดีกว่า ให้เพลงเป็นตัวเชื่อมระหว่างเรากับคนดู แต่ถ้ามีโอกาสได้คุยกับแฟนเพลงหลังโชว์ก็ดีนะ (หัวเราะ) ผมชอบมากที่มีเพลงเป็นสื่อที่ทำให้เราเข้าใจกัน ถึงวัฒนธรรมเราจะต่างกัน คุยกันคนละภาษา แต่พอได้มีเพลงมาเป็นตัวเชื่อมก็เข้าใจกันได้

มีเป้าหมายในการเป็นนักดนตรีไหม

จริง ๆ ตอนผมเริ่มทำดนตรีก็ไม่ได้มีเป้าหมายอะไรใหญ่นะ แค่อยากกินอยู่ได้ด้วยดนตรี และก็ทำดนตรีให้ออกสะท้อนตัวผมมากที่สุด ผมอาจจะดูเห็นแก่ตัวนิดหน่อยในแง่นั้น เพราะผมทำเพลงให้ตัวเอง (หัวเราะ) ผมเริ่มทำเพลงเพราะมันเป็นวิธีหนึ่งที่ผมชอบในการแสดงตัวตนผมออกมา แล้วถ้าคนเข้าใจแล้วรู้สึกแบบเดียวกันก็เหมือนเป็นโบนัส ผมแค่อยากเป็นศิลปินให้ดีที่สุด แล้วจะเกิดอะไรก็เกิด

ได้ยินมาว่าเรียนชีววิทยามาในมหาวิทยาลัย เป็นเด็กสายวิทย์แล้วมาทำดนตรีนี้บาลานซ์ชีวิตยากไหม

เอาจริงมันตลกมากที่ผมไม่เคยรู้สึกว่ามันลำบากเลย คือทุกคนรอบตัวถามตลอดเลยว่าแบ่งชีวิตยังไงระหว่างเวลาเรียนกับทำดนตรี แต่คือจริง ๆ ผมเริ่มทำดนตรีมาตั้งแต่อยู่มัธยม มันเลยไม่รู้สึกว่ามันหนักอะไรเท่าไหร่ เหมือนเป็นกิจวัตรไปแล้ว คือยังไงโรงเรียนก็ต้องไป ดนตรีก็ต้องทำ แล้วคนก็จะแบบ อ้าว แล้วไม่ไปหาเพื่อนหรอ? จะไปทำการบ้านตอนไหนล่ะ? (หัวเราะ)

แล้วถ้าต้องเลือกอย่างใดอย่างนึงล่ะ

ผมว่ามันดีกว่าที่ผมมีอะไรหลายอย่างให้ทำน่ะ เพราะถ้ามีแค่ดนตรีอย่างเดียวก็จะว่างเลยนะ เวลาที่เหลือก็ไม่รู้จะทำอะไร ผมว่ามันไม่จำเป็นที่จะต้องเลิกเรียนเพื่อมาเล่นดนตรี ยังไง 90% ของสิ่งที่นักดนตรีต้องทำก็มาก่อนที่คุณพร้อมจะจบโรงเรียนอยู่ดี กว่าผมจะเซ็นสัญญาก็ตอนอยู่ปีสามเลย ปีท้าย ๆ ของมหาวิทยาลัยก็คือเขียนเพลงไป เรียนไปด้วย ผมว่ามันช่วยให้ผมไม่ต้องรีบด้วยนะ มีเวลาคิดบ้าง

Jeremy Zucker

มาพูดถึง EP Brent ของคุณ การทำเพลงคนเดียวกับทำกับคนอื่นมันต่างกันมากไหม ชอบแบบไหนมากกว่า

เอาจริง ผมไม่เก่งในการทำงานกับคนอื่นเลยนะ ยกเว้น เชลชี คัตเลอร์ ที่มาทำด้วยกันใน EP นั้น ผมรู้สึกว่าผมกับเชลชีมีความเข้าใจกันทางดนตรี คิดคล้าย ๆ กัน แล้วพอทำออกมา เราเหมือนดึงด้านดีของแต่ละคนให้ออกมาเด่นขึ้นไปกว่าเดิม แต่ปกติเเล้วผมชอบที่จะทำเพลงคนเดียวตั้งแต่ต้นจนจบ เพราะผมเริ่มมาจากการที่ผมเขียนเพลงในห้องนอน เล่นกีตาร์สักนิด เพิ่มเปียโนอีกหน่อย แล้วก็มิกซ์เพลงขึ้นมาเองในคอมของผม

แล้วระหว่างเขียนเพลงชอบโมเม้นต์ไหนที่สุด

ผมชอบตอนที่เขียนเพลงละมันออกมา เวลาที่ได้เพลงนึงออกมา มันเหมือนเพลงนั้นมีชีวิตเลยแหละ เป็นเรื่องเล่าของมันเอง แต่พอเราได้ฟังมันบ่อย ๆ หรือเล่นเพลงนั้นบ่อย ๆ ความรู้สึกนั้นก็จะจางลงไปบ้าง มันก็ขึ้นอยู่ว่าเพลงนั้นมันสำคัญกับเราแค่ไหนด้วย มันก็จะมีเพลงอย่าง Comethru ทุกวันนี้เวลาได้ยินผมก็แบบ อีกแล้วหรอ (หัวเราะ) ถึงจะไม่อินเท่าเดิม แต่เวลาได้ไปเล่นผมก็รู้สึกว่าความรู้สึกแรกนั้นก็กลับมา เพราะผมเห็นคนที่ได้ยินเขารู้สึกแบบเดียวกับที่ผมได้ยินมันครั้งแรก มันเป็นความรู้สึกที่ดีมาก ๆ เลย

สุดท้ายแล้ว มีอะไรอยากฝากถึงแฟน ๆ ชาวไทยไหม

ขอบคุณครับ ผมรักพวกคุณทุกคนเลย ขอบคุณที่คอยสนับสนุนผมตลอด ผมคงไม่ได้มายืนจุดนี้ถ้าไม่มีพวกคุณ ยังไงเจอกันที่โชว์ครับ

แล้วนี้ก็เป็นบันทึกที่เราได้ไปคุยกับ Jeremy Zucker มา
ทุกคนพร้อมหรือยังที่จะไปสนุกกับโชว์สุดพิเศษของเขาในค่ำคืนนี้ แล้วเจอกัน

Facebook Comments

Next:


Ratchanon

Part-time writer for Fungjaizine; while listening some sleepy songs around the moon.