Article ระเห็ดเตร็ดเตร่

Blind Date นัดบอดกับวงดนตรีไม่คุ้นหูที่คุณต้องตกหลุมรัก

  • Writer: Montipa Virojpan
  • Photographer: Tas Suwanasang

ใครกันที่กล้าจัดคอนเสิร์ตในวันวาเลนไทน์ ทั้งที่ก็รู้ว่าทุกคนจะไปดินเนอร์ฉลองกันในบรรยากาศโรแมนติก ก็เห็นจะมีแต่ Cocoon Records และ Soap Opera เนี่ยแหละที่เชื่อมั่นว่าจะยังมีคนที่ทั้งโสดและไม่โสดที่รักในเสียงเพลงและอยากเปิดประสบการณ์แปลกใหม่ที่จะเลือกมางาน Blind Date แทนการเฉลิมฉลองกับคนรัก หรือไม่งั้นก็คือจูงมือแฟนมาดูด้วยกันแหละนะ

14 กุมภาพันธ์ 2562

เรามาถึง De Commune ตอนเวลาประมาณสามทุ่มครึ่ง กับบรรยากาศที่คุ้นแต่ไม่เคยนักเพราะกลุ่มผู้ชมส่วนใหญ่ค่อนข้างแตกต่างจากงานอื่น ที่เคยไป เรียกว่าเป็นประสบการณ์ใหม่ทั้งวงและผู้คน ซึ่งก่อนหน้านี้มี DJ Gym เปิดเพลงบิลด์ผู้ชมอยู่ก่อนแล้ว และสักพักเขาก็ปล่อยให้วงได้ขึ้นมาเตรียมตัวบนเวที Midsvase วงดนตรีที่เราติดใจผลงานนุ่ม ในเพลง คลื่นเหงาเรารักคุณจริง เมื่อหลายปีก่อนที่แชร์กันผ่าน เพื่อนที่คณะ รวมถึง Buttersun เพลงรักสุขปนเศร้าฟังสบาย แต่น่าเสียดายที่วันนี้เราไม่ได้ฟังเพลงที่ว่า เพราะน่าจะเป็นเพลงใหม่ที่มีจังหวะจะโคนมากขึ้น อย่างเพลงแรกก็เป็นสโลว์ร็อกแช่มช้าให้ได้โยกกันเบา ส่วนอีกเพลงเรารู้สึกว่าซาวด์ดนตรีมีความอู้อี้ขึ้นกว่าหน่อยและต้องพยายามแยกย่านเสียงให้จับใจความในเพลงนั้นได้ ดนตรีมีความหม่นขึ้นกว่าเพลงที่แล้ว แต่ช่วงหลังเริ่มเข้าที่เข้าทางมากขึ้น ส่วนเพลงต่อมาก็มีความสว่างขึ้น (พวกเขาบอกว่ายังไม่ได้ตั้งชื่อเพลงเหล่านี้เลย) จังหวะมีความใกล้เคียงกับเพลงแรกที่เป็น bedroom pop แต่แล้วตอนท้ายก็เริ่มมีความเดือดมากขึ้นที่ทำให้แตกต่างจากเพลงอื่น และเพลงสุดท้ายก็คล้าย กับเพลงก่อนแต่มีบรรยากาศเหมือนกำลังพาเราท่องไปในอวกาศ แต่เดือดดาลอยู่ไม่น้อย

Blind Date

จากนั้นเวลาประมาณสี่ทุ่มสิบห้าก็ได้เวลาของ Dogwhine วงที่เราติดอกติดใจจากซิงเกิ้ล Leader ที่ปล่อยออกมาเมื่อประมาณเดือนก่อน แบบที่ฟังหนเดียวก็ต้องเขียนอวยหนัก ซึ่งพวกเขาก็หยิบเพลงนี้มาเล่นเป็นเพลงแรกของโชว์ แน่นอนว่าตัวเพลงยังคงน่าสนใจเพราะเป็น experimental rock ที่ผสมเอาดนตรียุคต่าง ทั้งเคราต์ร็อก แจ๊ส โพสต์พังก์ มารวมกัน อีกอย่างคือในโชว์นี้มีเพิ่งตำแหน่งแซ็กโซโฟนและอิมโพรไวซ์ชวนหัวเป็นพัก ตลอดทั้งเพลง แต่ก็แอบรู้สึกว่าพลังของเพลงนี้ตอนเล่นสดยังไม่ค่อยลงตัว ส่วนเพลงต่อมาก็เท่ด้วยจังหวะหนึบหนับ กลองยก เล่นสาดพลังแบบพังก์ และเพลงต่อมาก็เป็นเพลงช้าที่ให้แซ็กโซโฟนเปิดนำมาก่อน มีความเป็น slacker rock ย้วย อยู่บ้าง แต่ก็มีท่อนแบบเพลงร็อก 70s ดุ ให้ได้ยกหัวแรง ตาม และอีกเพลงที่ขึ้นต่อแบบมีท่อนเชื่อมติดกันให้ความรู้สึกเหมือนกำลังฟัง Teenage Fanclub ยังไงยังงั้น มีท่อนที่มิวต์เครื่องดนตรีและให้ร้องเปล่า ถือเป็นจุดที่วงเลือกหยุดเล่นได้ดี และทำให้พบว่าจริง เพลงนี้เป็นเพลงที่น่ารักมาก มีแทรกแซ็กโซโฟนเป็นระยะ สัดส่วนกลองของเพลงนี้ก็ดีงามเหลือเกิน ถึงกับดูไปยิ้มไปเลย แล้วก็มีช่วงเล่น interlude สั้น กับกีตาร์สับคอร์ด ก่อนจะต่อด้วยการแนะนำตัวเพื่อนมือแซ็กโซโฟนว่าชื่อเฟิร์ส มาจากศิลปากร เป็นคนขี้อาย (เพราะประชากรวงในวันนี้ส่วนใหญ่เป็นเด็กลาดกระบังทั้งสิ้น) แล้วเพลงนี้เขาก็ขึ้นแซ็กโซโฟนมาก่อน จังหวะเป็นป๊อปแจ๊สน่ารัก ฟังทีแรกอาจจะคิดว่า temp. แต่พอเล่นไปเรื่อย แล้วคือความแจ๊สก็ถูกขับออกมาจนกลายเป็น contemporary jazz ไหล และช่วงท้ายเป็นร็อกเดือด กับโซโล่แซ็กโซโฟนเกรี้ยวกราด อยากให้ลองนึกถึงเพลง A Lizard State ของ King Krule เพลงนี้จะให้ความรู้สึกประมาณนั้น และเพลงต่อไปก็เป็นโพสต์พังก์ดุ ไล่สเกลเบสและยังมีเอเลเมนต์ของแจ๊สจัด อยู่เช่นเคย มันมากจนฟรอนต์แมนถึงกับเล่นกีตาร์สายขาด ส่วนเพลงสุดท้ายก็เป็นพังก์แจ๊สที่พาพวกเราไปสู่ความมันขั้นสูงสุด อยากจะให้วงปล่อย official audio เพลงอื่น มาให้ฟังจัง เพราะจากที่ฟังสดในวันนี้แล้วรู้สึกน่าตื่นเต้นไปหมดเลย

แล้วก็ได้เวลาของวงสุดท้ายตอนห้าทุ่มนิด Ok Khlongsansaeb คือหนึ่งในวงที่ถูกพูดกันปากต่อปากมากที่สุดในขณะนี้ และเราก็หวังจะได้ดูพวกเขาเล่นสด สักทีเพราะเคยได้ดูวิดิโอบันทึกการแสดงสด เรียกว่าละมุนไม่แพ้สตูดิโอเวอร์ชันเลย แล้วโอกาสนี้ก็มาถึงแล้ว พวกเขาเปิดด้วยเพลงนุ่ม ที่ทำให้นึกถึงธาริณี ทิวารี มีโซปราโนแซ็กโซโฟนบรรเลงคลอ ท่อนคอรัสไพเราะมาก และตอนท้ายก็แจ๊สซี่ดีงามเหลือเกิน แล้วต่อไปก็เป็นเพลงกรูฟให้โยกกันได้สนุก มีความหนืดหนึบที่เพลิดเพลิน แล้วเพลงต่อไปก็ได้ฟีลแบบ MobyPorcelain ซาวด์สว่าง เป็นแอมเบียนต์กรูฟล่องลอย ต่อด้วย Sunrise เพลงที่พวกเขาปล่อยมาให้ได้ฟัง พอได้มาฟังสด แล้วคือดีงามมากจริง ชอบท่อนที่ร้องว่าหายไป ล่องลอยไป ในนภาแล้วรู้สึกว่าลอยไปกับพวกเขาจริง ตอนท้ายสว่างสไวมาก อัพบีตให้กระปรี้กระเปร่ามาก แล้วเพลงต่อไปก็ช่วยสร้างบรรยากาศได้เข้ากับวันวาเลนไทน์เหลือเกิน ก่อนที่พวกเขาจะบรรเลงเพลงกีตาร์คลาสสิกอย่าง Romance ขึ้นมาเปลี่ยนมู้ด ต่อด้วยเพลงล่าสุดที่พวกเขาปล่อยมาคือ Blank ที่เจ้าตัวบอกว่าเป็นเพลงเร็วสุดแล้วที่ทำมา มีความฟิวชันแจ๊สโยก เพลิน แล้วจึงเป็นเพลง My Junta ผลงานโด่งดังของวงที่ตอนอินโทรเป็นการโชว์น้ำเสียงของฟรอนต์วูแมนที่ปกติก็ร้องดีอยู่แล้ว พอเป็นการถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกก็ทำได้เข้มข้นและเซ็กซี่มาก โดนสะกดไปอย่างจัง จนเมื่อ midi เข้าเพลงถูกเล่นเราก็รู้สึกว่าเพลงนี้กลมกล่อมมาก ท่อนที่เป็นการแร็ปไปด้วยก็กรูฟสุด เหมือนได้ตกหลุมรักเพลงนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก

เมื่อจบโชว์ ดีเจก็กลับมารับหน้าที่เปิดเพลงต่อ ส่วนเราก็มีเพื่อนมารับไปต่อที่ปาร์ตี้ NOMA แบบงง ก็เลยเลยตามเลย ถือเป็นอีกค่ำคืนที่ได้ฟังวงดนตรีที่น่าสนใจทั้งสามวงแบบสด ดีใจที่รู้สึกว่ามีวงที่กล้าทำเพลงฉีกขนบออกมาและมีเรื่องราวที่อยากถ่ายทอดในแบบของตัวเอง ซึ่งไม่ผิดหวังและทำให้อยากติดตามผลงานในอนาคตของพวกเขาเรื่อย

Facebook Comments

Next:


Montipa Virojpan

อิ๊ก เนิร์ดดนตรีที่เพิ่งกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นนักเขียนตอนอายุ 25 ชอบเดินเร็ว นอกจากขนมปังกับกาแฟดำแล้วก็สามารถกินไอศกรีมกับคราฟต์เบียร์แทนมื้อเช้าได้