Article ระเห็ดเตร็ดเตร่

How Many Shrimps Do You Have To Eat.. คอนเสิร์ตชื่อยาวที่แค่นี้ยังเขียนไม่จบ

  • Story nd photos by Montipa Virojpan

9 สิงหาคม 2561

เมื่อวานนี้ก็เป็นอีกวันที่อีเวนต์ชนกันโครมครามแม้จะเป็นคืนวันพฤหัส ดังนั้นทีมงานจึงต้องแยกร่างกันไประเห็ด ตามงานต่าง ซึ่งเราขอรับอาสามาที่งาน How many shrimps do you have to eat before you make your skin turn pink? (นี่ชื่องานหรอ) จัดโดย Conflakes โปรโมเตอร์ที่ชอบจัดคอนเสิร์ตแล้วมีธีมเพี้ยน มาให้เราสนุกเพิ่มขึ้นนอกเหนือจากวงดนตรีที่จะมาเล่นในงาน

อย่างครั้งนี้ชื่องานของพวกเขาก็มาจากเนื้อเพลง Flamingo ของ Kero Kero Bonito ที่พูดถึงนกฟลามิงโก้ประมาณว่าอะไรทำให้ตัวแกเป็นสีชมพู อะไรแบบนั้น คอนเซ็ปต์เลยถูกนำมาใช้กับศิลปินแต่ละคนโดยเป็นกุ้ง ซึ่งงานครั้งนี้ก็มีวงรุ่นใหม่ไฟแรงน่าจับตามอง และวงมากฝีมือหลายวง ทั้ง Game of Sounds, Gorn Clw, Fwends, Cloud Behind และ Two Pills After Meal ส่วนคนดูก็เป็นนกฟลามิงโก้ที่กินกุ้งอีกที งานนี้เขาเลยมีเดรสโค้ดเป็นสีชมพูหรือถ้าใครสะดวกจะใส่อะไรวิบวับกากเพชรมาเพิ่มความปั๊วปังก็ได้ตามใจชอบ

เดิมทีตารางแจ้งว่าวงแรกจะเริ่มตอนสองทุ่ม แต่เริ่มเล่นจริง ก็ประมาณสองทุ่มครึ่งเพราะคนดูยังมากันไม่ค่อยเยอะ ระหว่างนั้นเราก็ได้เดินสำรวจบริเวณงานที่ตรงข้าง บูธดีเจก็มีที่นั่งให้ถ่ายรูปในบรรยากาศน่ารักสไตล์ห้องพักริมทะเลแคริบเบียน มีนกฟลามิงโก้ตั้งอยู่ด้วยเอ้อ แถมบาร์วันนี้ก็มีเครื่องดื่มพิเศษเข้าธีมอย่าง pink gin & tonic และ bubble gum yogurt ด้วย พอวงเตรียมตัวกันเรียบร้อยแล้ว เราก็มาประจำที่หน้าเวทีกันเลย

Game of Sounds วงดนตรีอิเล็กทรอนิก r&b รูปแบบใหม่ที่ขยันออกเพลงมาให้เราฟังเรื่อย แบบไม่หยุดหย่อน วันนี้พวกเขาก็มาตามธีมได้น่ารักมาก คือไม่ได้ใส่เสื้อสีชมพูอย่างเดียว แต่มีเข็มกลัดกุ้งทำมือจากกระดาษติดกันคนละตัว เต๊นท์นักร้องนำเอาติดไว้บนหมวกแล้วกลายเป็น Forrest Gump ไปเลย เริ่มด้วยเพลงแรกกับ Haha Sea เพลงจังหวะช้า ให้เราได้โยกกันเบา กันก่อน แต่ช่วงท้ายเพลงนี่อัดซาวด์ซินธ์ยับทำให้เราต้องเปลี่ยนมาโยกหัวแรง แทน ตามด้วยเพลงช้าหวาน ที่เต๊นท์แต่งให้แฟน ซึ่งเพิ่งปล่อยไปเมื่อวีคก่อน จริง ไม่ใช่เพลงใหม่แต่เหมือนเป็นการอัดร้องใหม่ให้ เบล นักร้องนำคนปัจจุบันเป็นคนร้อง นั่นคือ Secret From You ก่อนจะกลับมาเป็นเพลงให้ได้ขยับเขยื้อนตัวใน Need Lyrics ยิ่งตอนท้าย แล้วยิ่งเต้นเพลิน แล้วจึงส่งเพลง Mr. Hot มาให้ฟังกัน ที่ช่วงท้ายอิมโพรไวส์ใส่กันเดือดสมชื่อเพลง ตามด้วยอีกเพลงเพราะ เพลงใหม่แกะกล่องอย่าง Want To Feel ที่เต๊นท์บอกว่าใครจะเต้นตามในมิวสิกวิดิโอก็ได้ และปิดท้ายกันไปในเพลงสนุก กรูฟ ซาวด์เท่ที่มีคนร้องตามได้บ้างแล้วใน Durian

เพิ่มจังหวะกันขึ้นมาอีกหน่อยที่วงต่อไป Gorn Clw โดยเสิร์ฟเพลงจังหวะสนุกอย่าง Honey I’m Lonely มาให้เราเต้นกันก่อนเลยเป็นเพลงแรก ตอนนี้คนดูเริ่มมากันเยอะขึ้นแล้ว และนอกจากแถวที่เรายืนจะมีคนเต้นก็ยังมีคนที่ร้องตามเพลงได้ด้วย จนเพลงต่อไป อยู่ดี กล้วย มือเบส ก็พูดขึ้นมาว่า ‘spicy mama’ นี่คือคำที่ Mac DeMarco พูดในโชว์ที่เพิ่งผ่านไปที่พวกเขาได้ไปเล่นเปิดให้ จากเพลง Freaky Guy ซึม เลยกลายมาเป็นเพลง ‘Spicy Guy’ ที่ท่อนฮุคปกติจะร้องว่า ‘This old freaky guy’ เลยก็เป็น ‘This old spicy!!!’ ที่ชวนคนดูร้องตามเรียกเสียงฮากันไปตาม กันทั้งเพลง แต่ความสนุกก็ถูกพอสไว้เมื่อกล้วยบอกว่าจะเป็นการแสดงร่วมกันครั้งสุดท้ายของพี มือกลอง ที่จะไปเรียนต่อที่นิวยอร์ก และพัด มือกีตาร์ เพราะเหมือนว่าจะต้องไปทัวร์กับ Folk9 ยาว เราก็รอดูว่าสมาชิกที่จะมาเสริมทัพคนต่อไปจะเป็นใคร ก่อนจะซึมกันไปกว่านี้ วงเลยเล่นเพลงเพราะ เพลงล่าสุดให้เราฟังกันใน Hit Me (Ride) และปิดท้ายไปแบบเดือด ร็อกแอนด์โรลใน Rush Love ที่ทุกคนใส่กันหมดแม็ก กล้วยขึ้นไปเหยียบกลองแล้ววิ่งออกมาลากเต๊นท์เข้าไปในเวที เล่นไปได้พักนึงก็วิ่งไปแท็กก่อนกับพัด แล้วไปยืนอัดสองคนเข้าผนังเล่นกันต่อในช่วงท้าย จากนั้นก็ซัดกันยับ เล่นแน่นมาก มันมาก เสียดายที่โชว์นี้จะเป็นโชว์สุดท้ายของไลน์อัพนี้จริง เพราะตั้งแต่ต้นเราก็ดูพวกเขาสี่คนด้วยกันมาตลอด หวังว่าจะได้กลับมารวมตัวกันอีก แต่อย่างน้อยเพลงของ Gorn Clw ก็ยังคงมีออกมาให้ฟังเรื่อย แน่นอน

ต่อกันด้วยวงที่สามของค่ำคืนนี้ Fwends เปิดโชว์ด้วยอินโทรสดใสล่องลอยกับซินธ์สว่าง แล้วเพลงน่ารัก เมโลดี้ชวนฝันอย่าง Summer Love ก็ถูกบรรเลง จากนั้นก็เป็นเพลงจังหวะสนุก ที่ร้องตามได้ง่ายทุกท่อนใน Where Do We Go แล้วเรารู้สึกว่าวันนี้วงเล่นกันดีด้วย สนุกสนานมาก จากนั้นก็เข้าสู่ช่วงเพลงเศร้า เป็นเพลงช้าชื่อ For A While ฉบับอะเรนจ์ใหม่ที่พวกเขาบอกว่าแก้กันหลายรอบมากและคิดว่านี่น่าจะเป็นเวอร์ชันไฟนอลแล้ว ตามด้วยเพลง Dear Friend ที่เมย์ นักร้องนำ แต่งให้เพื่อนที่เสียชีวิต ดึงซึมกันไปพักนึง ก่อนจะเล่นเพลงล่าสุดที่พวกเขาเพิ่งปล่อยให้ได้ฟังกันไปไม่กี่วันก่อนนี้อย่าง Morning ที่บอกว่าเล่นที่นี่เป็นที่แรกด้วย เพลงนี้มีความเป็นนีโอไซคีเดเลียอย่างหนักหน่วงกว่างานก่อนหน้าที่ผ่าน มา ใครชอบสายเมา ดนตรีหนักหน่วงแต่ยังติดความป๊อปอยู่น่าจะชอบเพลงนี้กัน แล้วจึงเป็นเพลงแรกที่ทำให้เรารู้จักกับพวกเขาใน Fade Away ที่เมย์ กับ ตอง มือกีตาร์เกิดอาการปิ๊กหายก่อนเล่นในเพลงต่อ กัน ก่อนจะจบด้วยเพลง Why Can’t You See ให้เราอุ่นเครื่องเตรียมไปเต้นกันต่อกับวงต่อไป

Cloud Behind มาประจำที่พร้อมขับกล่อมเราด้วยดนตรีนีโอไซคีเดเลียที่ทั้งล่องลอยและเกรี้ยวกราดในขณะเดียวกันให้เราฟังกันแล้ว บัดนี้ เปิดมาด้วยเพลงจากงานยุคก่อนหน้าที่ยังเป็นดรีมป๊อปเมโลดี้งดงามในเพลง นกนางนวล ที่มีแฟนเพลงร้องตามได้หลายคน แล้วจึงกลับมาที่เพลงยุคปัจจุบันอย่าง แค่แปลกตา กับจังหวะกลองน่าผงกหัว ตามด้วยเพลงใหม่ที่เพิ่งทำกันเสร็จสด ร้อน ที่เราเองก็ยังไม่รู้ชื่อ แต่บอกไว้ก่อนว่าไลน์เบสเพลงนี้เอาเรื่องมาก ติดตามกันให้ดี แล้วจึงเป็นอีกเพลงที่ไม่ได้ฟังกันนานพอสมควรอย่าง เสน่หา ตรงที่เรายืนก็มีสมาชิก Fwends บางคนที่เคยเป็นไลน์อัพเดิมของ Cloud Behind (ที่มือกลองก็ควบทั้งสองวง) มาตะโกนร้องเพลงนี้ด้วยกัน เป็นภาพที่น่ารักมาก ตามด้วยเพลง ในท้องฟ้า กับสีสันของเพลงที่ชวนทำให้จิตใจเบิกบานสุด แต่แล้วก็ต้องกลับมาซึมเซาในเพลง เทา เพลงดังของวงที่หลายคนร้องได้ ก่อนสลับไปทบทวนความทรงจำดี กันในเพลง ลาฝัน คนก็เริ่มกอดคอกันร้องเพลงตามและเต้นกันอย่างสนุกสนาน และปิดท้ายด้วยเพลงมัน โยกกันได้แบบสุดตัวใน 3rd

งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกราเมื่อเราเดินทางมาถึงวงสุดท้ายของงานนั่นคือ Two Pills After Meals อิเล็กทรอนิกดูโอ้ทรงพลังเพราะแค่สองชิ้นก็เอาอยู่ เริ่มกันที่เพลงสนุก ที่เราไม่ค่อยได้ยินพวกเขาเล่นที่ไหนอย่าง เสียงรบกวน ตามด้วยซาวด์ซินธ์คุ้นหูของซิงเกิ้ลแรกที่ทำให้เรารู้จักพวกเขานั่นคือ เข็มฉีดยา ที่ตอนนี้ก็มีแฟนเพลงตะโกนร้องไปพร้อมกันสุดเสียง ตามด้วยเพลงใหม่ที่บอกว่าเล่นที่นี่เป็นที่แรก ชื่อ Sugar โดย เติ้ล มือซินธ์เล่าคอนเซปต์ของเพลงนี้คือถ้าเรากินน้ำตาลมากเกินไป มันก็ฆ่าเราได้เหมือนกันพอลองฟังดูแล้วก็จัดว่าเป็นซินธ์ป๊อปที่ดีงาม แล้ว โอม มือกลองก็ถามว่า ไหนใครเบื่อโลกบ้าง เท่านี้ก็พอรู้แล้วว่าเพลงต่อไปที่จะเล่นคือ ดาวอังคาร และเพลงใหม่อีกเพลงชื่อ Away ที่มีใจความประมาณว่าดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ แต่บางคนมองแล้วก็ไม่ได้รับความรู้สึกอะไรเลยฮือ จบจากเพลงนั้นก็เกิดอุบัติเหตุเล็กน้อยเมื่อขาตั้งคีย์บอร์ดพับเข้าไปทำให้ซินธ์ร่วง ดีที่ไม่เสียหายอะไร ระหว่างนี้โอมก็ตี single stroke รอเซ็ตอัพเรียบร้อย ก่อนจะส่งงานคัฟเวอร์เท่ ของวงฝรั่งเศส The Dø ในเพลง Slippery Slope เป็นบีตชนเผ่า ก่อนจะทะลุถึงจุดเดือดในเพลง Setting Sun ของ The Chemical Brothers ตอนนี้เริ่มโดดไปรอบ แบบคนบ้ากันหลายคนแล้วเหมือนกัน (เพราะคนทยอยกลับกันบ้างแล้วเลยมีพื้นที่ให้เต้นกันได้สุด) และจากกันไปด้วยเพลงใหม่ที่ได้ยินกันมาในโชว์ก่อนหน้าบ้างแล้วกับ Try Again ที่เอาเสียงสแกนนิ้วว่าลองใหม่อีกครั้งค่ะกับบันทึกสำเร็จค่ะมาใส่ในเพลง และเมื่อพวกเขาเล่นจบก็มีคนบ้าสองคน (คือฉันและเพื่อน) ฮึมฮัมเพลง By The Way ของ Red Hot Chili Peppers เป็นการอังกอร์ เพราะก่อนหน้านี้ได้ดูพวกเขาเล่น live session ใน Rock On Radio แล้วเท่มาก ถ้าได้ฟังเองกับหูคงจะดี แต่ด้วยเวลา ตอนนั้นล่วงเลยไปถึงตีหนึ่งกว่าแล้วเห็นทีต้องแยกย้ายกันจริง

อยากบอกว่าข้อดีของงานเล็ก คือวงดนตรีส่วนใหญ่ชอบเอาเพลงใหม่ มาให้ลองฟังกันก่อนออกสู่ตลาดจริง นอกจากจะได้ฟังเป็นที่แรกแล้วบางเพลงเขาก็เก็บไว้ไม่ไปเล่นกับงานใหญ่ เพราะคนฟังคนละกลุ่มกัน เลยไม่อยากให้ผู้อ่านที่รักการเปิดประสบการณ์ทางดนตรีได้ลองแวะเวียนมาที่งานเล็ก วงหน้าใหม่ ที่มักจะมีอะไรที่เราคาดไม่ถึงให้ได้ฟังเสมอ อ่านกันมาจนถึงตรงนี้แล้ว ตอนนี้ขอตัวไปพักร่างเตรียมไปลุยอีเวนต์คืนนี้ต่อก่อนเด้อ /อ๊อก

Facebook Comments

Next:


Montipa Virojpan

อิ๊ก เนิร์ดดนตรีที่เพิ่งกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นนักเขียนตอนอายุ 25 ชอบเดินเร็ว นอกจากขนมปังกับกาแฟดำแล้วก็สามารถกินไอศกรีมกับคราฟต์เบียร์แทนมื้อเช้าได้