Article ระเห็ดเตร็ดเตร่

Desktop Error 10th Anniversary

  • Writer: Nut Dao
  • Photographer: Nut Dao

28 มกราคม 2560

หลังจากทราบว่า Desktop Error จะจัดคอนเสิร์ตครบรอบ 10 ปี เมื่อสิ้นปีที่แล้ว ผมก็ตัดสินใจไปอย่างไม่ต้องลังเล หลังจากเปิดขายบัตรได้ไม่นาน บัตรก็หมดอย่างรวดเร็ว ในตอนแรกคอนเสิร์ตจะถูกจัดขึ้นวันที่ 19 พฤศจิกายน แต่ต้องถูกเลื่อนเนื่องจากเหตุการณ์การสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ที่ไม่คาดคิดในปีที่ผ่านมา มาเป็นวันที่ 28 มกราคม ทำให้เกิดการ re-sell อีกรอบจากการคืนบัตรของคนที่ติดธุระ แล้วบัตรก็ขายหมดภายในไม่กี่ชั่วโมง สถานที่จัดครั้งนี้คือ Montri Studio ลาดพร้าว 101 ซึ่งสำหรับเด็กฝั่งธนอย่างผมก็ค่อนข้างไกลไปหน่อยแต่ก็ไม่ใช่ปัญหา (เพราะติดรถคนอื่นไป) ขนาดของสถานที่นั้นเหมาะสมกับปริมาณคนดู ไม่แน่นไม่หลวมจนเกินไป ผมเดินทางถึงงานเวลาทุ่มกว่า ๆ คนก็เริ่มยืนรอกันหน้าสตูดิโออย่างหนาตา

de_527

img_1791

ในวันนี้วง Yena ได้ถูกเลือกให้มาเล่นเป็นวงเปิด ซึ่งก็เป็นอีกวงที่ผมอยากดูมาก 19.15 . Yena ขึ้นเล่นและก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ดนตรีสไตล์โฟล์กร็อกเพื่อชีวิต แม้จะไม่หวือหวา แต่สิ่งที่เด็ดของ Yena คือความน้อยชิ้นของเครื่องดนตรีที่ขับความหนักของเนื้อหาของเพลงให้มีพลังมายิ่งขึ้น เพลงถูกถ่ายทอดมาเป็นการอุ่นเครื่องแบบ ซอฟต์ ๆ แต่แฝงไปด้วยเนื้อหาที่มีความจิกจัดสังคม เรื่องราวของชีวิต และชนชั้น ฟังแล้วรู้สึกจุก ๆ ยังไงบอกไม่ถูก ส่วน lighting ช่วงนี้ยังไม่ได้มีอะไรเป็นเพียงไฟปกติ 19.50 . Yena กล่าวขอบคุณและลงจากเวที

เวลา 20.20 . เสียงกรี๊ดของแฟน ๆ ชาว Desktop Error ก็ดังขึ้น ผู้คนที่ออกไปยืนดูดบุหรี่ ยืนพูดคุยกัน หรือรอเข้าห้องน้ำด้านนอกก็ต้องรีบกรูกันเข้ามาด้านใน Montri Studio และอัดแน่นไปด้วยผู้คนในเวลาไม่นาน ครั้งนี้ DE ไม่ได้เปิดตัวแบบดุเดือดเหมือนที่ผ่านมา แต่พวกเขากลับเปิดด้วยเพลงเบา ๆ อย่างเพลง เปลี่ยนทิศ ตอนนี้ lighting บนเวทีก็เริ่มทำงาน ภาพบนเวทีคือพี่เล็ก (ร้องนำ, กีตาร์) กำลังยืนเล่นกีตาร์อยู่ท่ามกลาง spotlight ที่ส่องมาจากด้านบน เสียงกรี๊ดของชาว DE เริ่มดังกระหึ่มยิ่งขึ้นเมื่อสมาชิกวงทั้งหมดเริ่มทยอยขึ้นเวที พี่ตุ้ย (เบส) พี่เบิร์ด (กีตาร์, ร้อง)  พี่เม้ง (กลอง) และ พี่อ๊อฟ (กีตาร์, ร้อง, ซินธิไซเซอร์) หลังจากนั้นไม่นานเป็นเวทีใน Montri Studio ก็ลุกเป็นไฟ!

เริ่มต้นด้วยเพลง Instinct ที่ถูกบรรเลงอย่างดุดัน เสียงกลอง และโซโล่กีตาร์เป็นเหมือนการส่งสัญญาณบอกว่าพวกเขามาแล้ว!! สีแดงของไฟที่สาดไปทั่วสตูดิโอยิ่งช่วยเพิ่มอุณหภูมิให้ร้อนระอุยิ่งขึ้น หลังจากจบ Instinct ก็ต่อด้วย ส่วนลึก คืนที่ไม่ปกติ ท้องฟ้าจำลอง และเพลงย้อน ในเพลงย้อนมีความพิเศษตรงที่มีชายปริศนาใส่ชุดผ้าคุมเหมือนหลุดมาจากฮอกวอตส์ มาสร้างซาวด์หลอน ๆ แปลก ๆ ตลอดทั้งเพลงช่วยเพิ่มมิติของเพลงเข้าไปอีก หลังจบเพลงย้อน ก็เข้าสู่ session ที่ 2

de_6749

img_1821

ใน session ที่ 2 เกิดการเซตเวทีกันอย่างยิ่งใหญ่ มีการจัดฉากเป็นห้องนั่งเล่นสไตล์ vintage มีการยกโคมไฟมาตั้ง และสิ่งที่น่าตื่นเต้นคือมีการนำเครื่องพิมพ์ดีดมาตั้งไว้ สร้างความฮือฮาเป็นกับคนดูเป็นอย่างมาก ผมเชื่อว่าทุกคนคงลุ้นว่าพี่ ๆ จะทำอะไรกับพิมพ์ดีดตัวนี้ ใช้เวลาไม่นานก็เซ็ตเวทีทั้งหมดเสร็จ จากไฟที่ลุกเวทีในช่วงแรกถูก break down ด้วยบรรยากาศอบอุ่นจากโคมไฟ และเครื่องดนตรี ใน session นี่เริ่มต้นด้วยเพลงกุญแจผี ต่อด้วยเพลงขอ เสียงร้องของพี่เบิร์ดบวกกับเสียงดนตรีลอย ๆ เล่นเอานำ้ตาซึมกันเลยทีเดียว และสิ่งที่ทุกคนรอดูก็มาถึง เมื่อพี่ตุ้ยขยับตัวมานั่งที่พิมพ์ดีด ในเพลง วัฏจักร ถูกบรรเลงขึ้นโดยมีเสียงพิมพ์ดีดเป็นซาวด์ประกอบ ทุกอย่างถูกดีไซน์มาเป็นอย่างดี ทุกครั้งที่มีเสียง ‘ติ๊ง’ ของพิมพ์ดีด ทุกคนก็อดอมยิ้มในความน่ารักไม่ได้ อีกทั้งมีการใช้เหรียญมาสร้างซาวด์อีกด้วย ตัวพี่ตุ้ยเองก็ดูจะเล่นแบบเขิน ๆ อยู่เหมือนกัน ส่วนตัวชอบมากในการนำของใกล้ตัวมาผสมผสานสร้างซาวด์แปลกใหม่ได้อย่างจะตัว แถมยังสร้างความรู้สึกแบบเป็นกันเองแบบสุด ๆ หลังจากเพลง วัฏจักร ก็ต่อกันด้วยเพลง พัก และ จบช่วงเบา ๆ ด้วยเพลง เช้า

หลังจากพักกับเพลงชิว ๆ ของ DE ที่ถูกจัดรวมใน session เดียวกันไปแล้ว พี่ ๆ ก็เริ่มเพิ่มอุณหภูมิให้กลับสตูดิโออีกครั้ง ด้วยเพลงควันจางลา พบ พา ลา จาก อย่างน้อย และพาฝัน ซึ่งระหว่างที่เล่นเพลงนี้เป็นการเปิดตัว special guest คนแรกที่ทำให้ทุกคนต้องเซอร์ไพรส์ และกรี๊ดกันสตูแตก เมื่อคุณแม่ปรากฎตัว! พี่จีน กษิดิศ ขึ้นมาสร้างสีสันให้กับเวทีได้อย่างมหาศาล เสียงของพี่จีน เข้ากับเพลงพาฝันได้อย่างลงตัว และต่อกันด้วยเพลง Rich, Baby เพลงของวง Futon

img_1839

หลังจาก guest คนแรกจบไปก็ต่อด้วย อรอรีย์ ในเพลงนำ้ค้าง เรียกเสียงกรี๊ดได้จากแฟน ๆ ไม่น้อย และเพลงที่ทุกคนร้องได้กันสนั่นอย่าง ระหว่างเรา ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ยังมีพี่เมธี น้อยจินดา แห่งวง Moderndog ก็ขึ้นมาแจมกีตาร์ในเพลงระหว่างเรา และ ปัจจุบันนา เสียงกีตาร์ของพี่เมธีช่วยเพิ่มมิติให้กับเพลงได้เป็นอย่างดี พร้อมทั้งขยี้คนดูอย่างดุดัน เป็นอะไรที่หาดูได้ยากและไม่คาดคิดว่าจะได้เห็นมือกีตาร์ระดับเทพอย่างพี่เมธี มาเป็นประสานกันกับ DE มาถึงตรงนี้คิดในใจโครตคุ้มมม!! ต่อมาความร้อนระอุของเวทีเพลงก็ถูกเบรคด้วยเพลง อาบ อบ นวด ที่ถูกขับร้องโดย พี่อ๊อฟ เพื่อระลึกถึง ตึ๋งวนรัฐ ไชยพันธ์ นักร้องนำและมือกีตาร์วงอัศจรรย์จักรวาลผู้ล่วงลับ เป็นการปิด jam session

de_8729

สิ่งที่อดพูดถึงไม่ได้เลยก็คือเรื่อง lighting ที่ถูกจัดออกมาอย่างเรียบง่ายไม่หวือหวา ไม่มีการยิงควัน ยิงเลเซอร์ให้ แสบตา แสบจมูก ที่สังเกตุหลัก ๆ คือจะใช้การยิงไฟเข้ากำแพงเพื่อให้สีของเวทีเปลี่ยนไปตามอารมณ์ของแต่ละเพลง เป็นการจัดไฟที่ใช้สถานที่ได้อย่างคุ้มค่า และเข้าใจอารมณ์ของเพลง มารู้ภายหลังว่าเป็นฝีมือของทีม DuckUnit ก็ยิ่งไม่แปลกใจที่ทำออกมาได้ลงตัวขนาดนี้

de_4507

คอนเสิร์ตได้เดินมาถึงช่วงสุดท้าย โซโล่ของเพลง หลังจากฝัน ดังขึ้นเหมือนเป็นการเริ่มกระตุ้นคนดูให้กลับสู่โหมดเดิมอีกครั้ง และแล้วเพลงที่หลายคนรอคอยก็มาถึง ทุกทุกวัน ทุกคนในคอนเสิร์ตกระโดดกันอย่างสนุกสนาน มีการทำ body surf กันที่มุมขวาของเวทีตลอดคอนเสิร์ต พี่วง DE ใส่กันแบบไม่มีกั๊ก พี่เม้งมือกลองในตำนานตีกันฉาบกระจาย และจบด้วยความเดือดของเพลงต่างด้าว ซึ่งเป็นเพลงสุดท้าย หลังจากจบ พี่ ๆ เริ่มทะยอยกันลงเวที แต่เหมือนชาว DE ยังไม่จุใจ ไม่ยอมกลับบ้าน และช่วยกันโห่ร้องเรียก Desktop Error เป็นจังหวะ จนสุดท้ายพี่ ๆ ก็กลับขึ้นมาอีกครั้งกับเพลงสมใจ และส่งทุกคนกลับบ้านด้วย Ticket to home คอนเสิร์ตจบที่ 23.30น. พอดีเป๊ะ เป็นงานที่เอาคนดูอยู่ตลอด 3 ชั่วโมงแบบไม่รู้สึกเบื่อสมกับการรอคอยมาหลายเดือน จะมีก็แต่สังขารของตัวเองที่รู้สึกเมื่อยขา และเริ่มปวดเข่า T T

img_1854

วง Desktop Error สำหรับผม เป็นวงร็อกที่มีความจริงใจที่สุดวงหนึ่งในทุก ๆ แง่มุม แม้จะไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว แต่ก็สามารถรับรู้ได้ถึงเสียงดนตรี วิธีการจัดงาน การพูดหรือแม้กระทั่ง lighting ที่ถูกถ่ายทอดออกมา ทุกคนใส่ใจในทุกรายละเอียด แม้กระทั่งตอนจบยังมีจัดเตรียมรถสองแถวเพื่อรับส่งทุกคนออกจากซอย เป็นอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่น่าประทับใจ สิ่งเหล่านี้คงเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าตลอด 10 ปีที่ผ่านมาของพวกเขาว่าทำไมสาวก DE จึงเหนียวแน่น และมีแต่เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นใน Montri Studio วันนี้คงเป็นคำตอบที่ดีที่สุด ผมเชื่อว่าทุกคนก็คงรู้สึกเหมือนผม และผมจะติดตามผลงานของพี่ ๆ ต่อไป Desktop Error!!!

Facebook Comments

Next:


Montipa Virojpan

อิ๊ก เนิร์ดดนตรีที่เพิ่งกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นนักเขียนตอนอายุ 25 ชอบเดินเร็ว นอกจากขนมปังกับกาแฟดำแล้วก็สามารถกินไอศกรีมกับคราฟต์เบียร์แทนมื้อเช้าได้