Article ระเห็ดเตร็ดเตร่

From Plastic Beach to Saturn Barz งาน Cover Night ของคนรัก Gorillaz กับเวอร์ชันที่คาดไม่ถึง

เป็นเรื่องน่าดีใจที่เดี๋ยวนี้เราเริ่มจะเห็นงาน tribute หรือ cover night วงแปลก มากขึ้น หนึ่งในผู้จัดก็มี Get Out You’re Too Boring ที่เคยสร้างความประทับใจใน After Hour: The Velvet Underground Tribute Night มาแล้ว หนนี้เลยกลับมาชวนทุกคนหนีไปเที่ยวเกาะ จนทะลุไปยันอวกาศกับเพลงของวง Gorillaz ที่บรรเลงโดยศิลปินซึ่งเป็นแฟนเพลงตัวยงของวง ทั้ง เอ้ Beagle Hug ไหม Maitoy/ The Photo Sticker Machine ณป่าน Hariguem Zaboy ตอง Fwends สกาย New Mandarin เอ๊กซ์ ไวกิ้ง Soft Pine อิ๊ก Kunst แดนเนียล ดิษยศริน Jackie และ Club Mascot กับงานที่ชื่อว่า From Plastic Beach to Saturn Barz: Gorillaz Tribute Night ซึ่งจัดขึ้นที่ NOMA เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

งานในวันนี้เริ่มเร็วนิดนึง แต่ก็มีคนตั้งใจมาตั้งแต่ประตูเปิดเลยทีเดียว บิลด์บรรยากาศกันนิดนึงด้วยเพลงจาก DJ Panlert ที่หยิบเพลงจังหวะชวนเต้นมาเปิดสลับกับเพลงของ Gorillaz มีทั้ง D.A.R.E และ Empire Ants รีมิกซ์ ให้แฟน ได้ตื่นเต้นก่อนเข้าโชว์ จากนั้นเขาก็สลัดคราบดีเจ สวมบทศิลปินอิเล็กทรอนิก Club Mascot หยิบเพลง Tomorrow Comes Today มาทำในสไตล์เพลงของตัวเองได้เท่มาก เสียงเข้าฟิลเตอร์แล้วอย่างกับ Damon Albarn มาเอง แล้วยังได้อีกเพลง B side ของชุดแรกอย่าง Dracula มาใส่บรรยากาศอิเล็กทรอนิกหน่วง มืดดำ ร่วมด้วยวิชวลด้านหลังที่ใช้พวกการ์ตูนยุควินเทจขาวดำมาประกอบ เข้ากันมาก ติดตามโชว์ต่อไปของเขาไว้ให้ดี

จากนั้นเวลาสามทุ่ม ตอง Fwends ร่วมด้วย สกาย New Mandarin ก็ขึ้นมาพร้อมกับคีย์บอร์ดและกีตาร์โปร่ง ตอนนี้วิชวลก็เปลี่ยนมาใช้เป็นวิชวลกลางที่รันวิดิโอของ Gorillaz ไปยาว โดยเริ่มที่เพลง Clint Eastwood ที่เอาทำนองของเพลง Redbone โดย Childish Gambino มาสวมทับเข้าไป เลยกลายเป็นอีกอารมณ์นึงเลย กวนดี ซึ่งเราก็แอบทึ่งว่า ตองทั้งร้องและแร็ปได้ดีเหมือนกันนะ ส่วนอีกเพลงก็เอา 19-2000 มาทำซะน่ารัก เปลี่ยนกีตาร์มาใช้กีตาร์ไฟฟ้า ฟังเพลิน ๆ มีคนช่วยร้องท่อน ‘Get the cool shoeshine’ ด้วย

แล้วก็เป็นคิวของ เอ๊กซ์ และไวกิ้งจาก Soft Pine ที่เพลงแรกมีซินธิไซเซอร์คีย์บอร์ดกับกีตาร์ไฟฟ้า เล่น Some Kind of Nature ได้น่ารักมาก อาจจะมีเล่นคร่อมไปบ้างแต่ประคองผ่านมาได้ ก่อนจะชวน เอ้ Beagle Hug มาร้องท่อนเท่ ๆ ท้ายเพลงสวมเสียง Little Dragon เข้าไปในเพลง Empire Ants ความน่าสนใจคือสองคนนี้แกะเพลงมาได้เนียนเลยแหละ จากนั้นเอ๊กซ์ก็เปลี่ยนมาเล่นซินธ์ โดยให้ อิ๊ก Kunst ขึ้นมาแจมร้องใน Andromeda เพลงจังหวะชวนเต้นที่ก็เห็นมีคนโยก ๆ ตาม แล้วปิดท้ายไปด้วยเพลง Kansas ที่เอ๊กซ์เปลี่ยนไปเล่นเบส ก่อนจะร้องพร้อมกันด้วยเสียงลมเบา ๆ ก็ได้อีกฟีลนึงที่แปลกออกไป

ตรงนี้เกิดการสลับตารางเล่นนิดหน่อยเพราะวงที่แล้วเล่นจบเร็วไปนิด และแดนที่ต้องไปเล่นอีกงานก็ยังมาไม่ถึง ผู้จัดกลัวคนรอจะกร่อยเลยเขยิบเอา เอ้ ณป่าน และไหม มาขึ้นต่อกัน เซ็ตของวงนี้เขาน่าสนใจมาก เป็นกีตาร์ไฟฟ้า กับ Ableton launchpad สองตัว โปรแกรมมาอย่างจริงจัง เปิดมาด้วย 5/4 ด้วยเสียงร้องเท่ ๆ ของเอ้กับจังหวะหนึบ ๆ สะกดคนดูได้ทันที ตามด้วย On Melancholy Hill เพลงในดวงใจของหลาย ๆ คน มีขึ้นผิดท่อนไปนิดนึงแต่ทุกคนก็ส่งเสียงเชียร์ ตามด้วย Re Hash มาเป็นเวอร์ชันแจ๊สเบาสบาย ฟังเพลิน ๆ และปิดท้ายด้วย Feel Good Inc. ซึ่งเอ้ก็แร็ปได้เท่มาก ๆ เช่นกัน ขนลุกมาก

ปิดท้ายด้วยวงสุดท้ายของค่ำคืนนี้ แดน ชวน แจ็คกี้ มาเล่นกีตาร์ให้เขาร้องในเพลง Sleeping Powder แล้วก็พูดบิลด์คนดูอย่างเป็นกันเอง ต่อด้วยเพลงสบาย ๆ อีกเพลง To Binge และงานจากชุดล่าสุด Humility สังเกตว่าในงานมีชาวต่างชาติมาด้วย พอขึ้นเพลงสุดท้ายเป็น Latin Simone ที่มาในเวอร์ชันภาษาอังกฤษเขาก็ส่งเสียงเฮกันด้วย

From Plastic Beach to Saturn Barz

จบจากตรงนี้ DJ Iarbuckle ก็รับหน้าที่เปิดเพลง big beat, triphop ที่เธอถนัด แทรกด้วย Gorillaz ทั้งรีมิกซ์และเพลง Tea Tyme ของ Damu the Fudgemunk มาเปิดต่อกัน ที่เอาแซมพ์เพลง Theme: Modesty Blaise ของ John Dankworth มาใช้เหมือนกับ Rock the House มาเปิดด้วย แล้วก็ยาวไปเพลิน ๆ ถึงเที่ยงคืน

From Plastic Beach to Saturn Barz

สำหรับงานทริบิวต์โดย Get Out You’re Too Boring งานหน้า จะเป็นวงอะไรก็ติดตามกันต่อได้ที่เพจนี้นะ

Facebook Comments

Next:


Montipa Virojpan

อิ๊ก เนิร์ดดนตรีที่เพิ่งกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นนักเขียนตอนอายุ 25 ชอบเดินเร็ว นอกจากขนมปังกับกาแฟดำแล้วก็สามารถกินไอศกรีมกับคราฟต์เบียร์แทนมื้อเช้าได้