Article ระเห็ดเตร็ดเตร่

Future Perfect การสร้างอนาคตวงการร็อกที่เข้มแข็งเป็นหน้าที่ของพวกเขา

  • Story and photos by Phongpatch Thanattrai
  • Group photo by ShoLar Photography

8 ธันวาคม 2560

25383115_10208527375422016_1223449214_o

เป็นอีเวนต์ที่อยู่ดี ก็เด้งขึ้นมาบนหน้าเฟซบุ๊กเราเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ที่พอดูไลน์อัพก็รู้สึกแบบ เฮ้ยย ไม่ไปไม่ได้ว่ะถึงจะเป็นวันธรรมดาก็เหอะ เพราะแต่ละวงจี๊ด ทั้งนั้น ขอไปดูหน่อยละกัน เราไปถึงงานประมาณทุ่มครึ่ง สิ่งแรกที่เห็นคือฮอลช่างเชื่อม ที่ช่างชุ่ย ช่างว่างเปล่า มีเพียงเหล่าพี่ น้อง ศิลปินที่นั่ง ยืน หงอยเหงากัน เราเลยเดินไปหาพี่โจแห่ง The Young Wolf  แล้วถามว่า จะมีคนจริง หรอพี่…. คำตอบที่ได้คือกูก็ไม่รู้เหมือนกัน จัดวันธรรมดา แถมโปรโมตแค่อาทิตย์เดียว แต่ยังไงเราก็เชื่อนะ ว่าคนจะต้องมาดูงานดี แบบนี้

25371206_10208527375382015_928640559_o

ระหว่างรอครึ่งชั่วโมงเราเลยไม่รอช้า เดินหาเบียร์ทั่วช่างชุ่ยเพื่อเผาหัวตั้วแต่วงแรก พอกลับมาที่ช่างเชื่อมก็พบว่า เริ่มมีศิลปินและคนดูมาเตรียมตัวรอดูวงแรกกันบ้างแล้ว และพี่โจ The Young Wolf  ก็ได้รับมอบหมายหน้าที่ให้เป็นพิธีกรก่อนจับไมค์ประมาณ 2 นาที

25371138_10208527375342014_1530721234_o

เวลา 20.20 . วงแรกอย่าง Flammable Goods ก็พร้อมระเบิดความมันแล้ว เป็นครั้งแรกของเราเลยที่ได้ดูวงนี้เล่นสด เริ่มปลุกอารมณ์กันด้วยเพลงมีจังหวะอย่าง Dragger และต่อกันติด ด้วย Dreadful แม้จะเป็นวงแค่ 3 ชิ้นที่ไม่ได้ใช้ midi ประกอบในการเล่น แต่ซาวด์ที่ออกมามันแน่นและปลุกเร้าอารมณ์มาก เสียงร้องลอย และภาคริธึมที่หนักแน่นมันทำให้เรานึกถึงตอนกลางคืนในเมืองใหญ่ แถบยุโรป พอถึงเพลงที่สาม พี่โต๋นักร้องก็ได้วางกีตาร์และเปลี่ยนไปเล่นเปียโน เพลงที่เขาบรรเลงออกมาคือเพลง Just เป็นเพลงจังหวะช้าและล่องลอยมากขึ้นมาหน่อย ชวนให้ได้กลิ่นอายของท่อนแรกเพลง New Born จาก Muse เลยแหละ ต่อกันด้วยเพลงทีสี่ที่จังหวะหนักแน่นอย่าง Human งานนี้พีเจ้นมือเบสของเราโยกจนผมกระพรือเป็นสายไหมกันเลยทีเดียว แล้วก็มาถึงก่อนเพลงสุดท้าย พีเจ้นมือเบสก็ได้กล่าวว่า เวทีนี้จะเป็นเวทีสุดท้ายที่น้องบอล มือกลอง จะเล่นกับ Flammable Goods จึงขอใส่เต็มส่งท้ายไปกับเพลงสุดท้ายอย่าง Tiger ซึ่งถูกแต่งขึ้นมาให้เป็นเพลงแห่งการลาจาก เป็นการเล่นสดที่เราสัมผัสได้ถึงความ emotional มาก ทุกคนเล่นกันแบบเหมือนจะได้เล่นด้วยกันเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งมันก็เป็นอย่างงั้นจริง น้องบอลซัดกลองแบบงัดทุกอย่างที่มีอยู่ออกมา ตอนจบเพลงก็มีโซโล่ทิ้งทวนจากน้องบอล และพีเจ้นมือเบสก็เดินไปกอดน้องบอลจากข้างหลัง ในขณะที่พี่โต๋นักร้องก็ได้กล่าวว่า ‘We really love you’ หลังการแสดงจบ ทั้งสามคนได้ออกมากอดกันแล้วกล่าวว่า ถึงแม้วันนี้จะเป็นวันแห่งการลาจาก แต่ Flammable Goods ก็จะยังคงเดินทางต่อ ถือว่าเป็นภาพที่ซึ้งและกินใจมาก สำหรับเรา แค่วงแรกยังทำให้เราอิ่มได้ขนาดนี้ แล้วอีกสองวงจะขนาดไหน

25353384_10208527375502018_34504436_o

ระหว่างรอวงที่สองอย่าง Nobuna ซตเครื่องกัน เราก็ได้ออกไปตามหาสิ่งมึนเมามาเสพเพื่อให้ได้อารมณ์มากยิ่งขึ้น วงนี้เป็นวงที่เราสนิทที่สุดเลยก็ว่าได้จากการที่อยู่ด้วยกันมานานและร่วมงานกันมาเยอะ ไม่พูดมากละ พอเมาได้ที่อินโทรของวงก็ได้เริ่มต้นขึ้น สมาชิกค่อย ขึ้นมาบนเวทีทีละคน และระเบิดกับเพลงแรกอย่าง Crown of Blood ตอนนั้นเราไม่ไหวแล้ว เลยอาสาเปิดวงมอชพิตคนแรกเลย หลังจากนั้นฝูงชนที่เริ่มเยอะก็ตามกันมามอชกันอย่างบ้าคลั่ง และก็ต่อเนื่องไม่มีพักกับเพลงสุดติดหูเพลงที่สองอย่าง Your Masquerade เป็นเพลงที่หลาย คนร้องตามกันได้แล้วก็ยังมอชกันยับเหมือนเดิม ลดจังหวะกันลงมานิดกับเพลงที่สามซึ่งเป็นเพลงจากยุคแรกอย่าง The Rise เพลงนี้เราขอตัวออกข้างสนามไปนั่งพักกินเบียร์ก่อน เพราะสองเพลงแรกเหนื่อยจริง ฮ่า ต่อกันกับเพลงในอัลบั้มอย่าง Let There Be Darkness และซิ้งเกิ้ลภาษาอังกฤษล่าสุดที่ปล่อยออกมาอย่าง Gravity เพลงนี้ก็เล่นเอาน่วมเหมือนกัน จากการทำ wall of death ในท่อนเบรกดาวน์ซึ่งเราว่าเป็นเบรกดาวน์ที่เดือดที่สุดของ Nobuna แล้ว พักหูกันอีกซักรอบกับเพลงช้าที่มีกลิ่นอายญี่ปุ่นอย่าง End of the Line (วงแรกอยู่ยุโรป อยู่ดี ตัดอารมณ์มาญี่ปุ่นเฉย) เป็นเพลงช้าที่ยังคงให้ความหนักแน่นและเข้าถึงอารมณ์มาก มาจนถึงช่วงท้ายแล้ว ทางฉั่ง นักร้องนำก็ได้เกริ่นเข้าเพลงต่อไป ซึ่งทุก คนก็คงรู้ว่าเป็นเพลงอะไร แต่ระหว่างที่ทุกคนกำลังจะเตรียมตัวมันไปกับเพลงนี้ ก็เกิดเหตุขัดข้องเล็กน้อยคือ md ดับก่อนเข้าเพลง ทางจิลมือกลองก็งงว่ามันเกิดอะไรขึ้น จนหนุ่ม screamer ต้องเข้าไปเคลียร์คอมให้ซักพัก คนดูก็ไม่รอช้า ชาวร็อกชายทุกคนพร้อมกันตะโกนเป็นเสียงเดียวกันว่าเฌอปราง!!!!’ พร้อมกับที่คอมซ่อมเสร็จพอดี ทุกคนพร้อมกันบ้าคลั่งไปกับเพลง Koisuru Fortune Cookie เพลงคัฟเวอร์จากวงไอดอลชื่อดังอย่าง BNK48 แน่นอนว่าทุกคนร้องได้กันสุดเสียงจนเราทนไม่ไหว ถึงกับต้องปีนลำโพงเพื่อกระโดดบอดี้เซิร์ฟลงมาหลังจบฮุกแรก เราได้เห็นภาพที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนและไม่คิดว่าจะได้เห็นในวงการเมทัลคือ ชายหนุ่มเสื้อดำ (บางคนก็ไม่ใส่เสื้อ) 6-7 คนร่วมด้วยช่วยกันเต้นท่า BNK48 หน้าเวที ทำให้ผมรู้เลยว่า วงไอดอลนี้มันสะเทือนทุกวงการจริง นะ เพลงนี้จบกันไปแบบฟิน โดนใจชาวร็อกโอตะทั้งหลาย แล้วก็ปิดกันด้วยเพลงจากชุดแรกอย่าง My Battle Cry จบแบบเจ็บตัวกันไปจากมอชพิต เซอร์เคิลพิต และ wall of death ต้องบอกเลยว่าไปดู Nobuna มาหลายงานแต่โชว์นี้รู้สึกว่า มันอิ่มและจัดเต็มที่สุดเท่าที่เคยดูมาเลย

25353574_10208527375622021_533550314_o

อะ ยุโรปก็ไปมาแล้ว ญี่ปุ่นก็ไปมาแล้ว ก่อนจะกลับมาสู่ไทยแลนด์แดนไตรรงค์ของเรา ผมก็ได้ออกไปหาเบียร์กินอีกรอบ แต่ร้านมันปิดหมดแล้ว พี่โจ The Young Wolf ได้เดินเข้ามาหาพร้อมกับขวดว้อดก้าไต้หวัน 1 ขวด ข้างขวดเขียนตัวเบ้อเร่อว่า 58% ตอนแรกก็ลังเลอยู่ว่า ถ้ากินแล้วจะรอดมั้ยน้า…. แต่ด้วยความขัดสนและไม่มีทางเลือก และเพื่อปลุกอารมณ์ให้เดือดสุด กับวงต่อไป ผมจำเป็นต้องดื่มสิ่ง นั้น แล้วหลังจากนั้นผมก็จำอะไรไม่ค่อยได้ แต่ก็ยังพอจะมีความสามารถในการเขียนบทความนี้ได้อยู่…..

25400738_10208527375582020_547780035_o

มา!!!! วงสุดท้ายในคืนนี้มีดีกรีเป็นถึงวงที่ได้รับรางวัล Best Performance จาก Fungjai Awards อย่าง Bomb at Track ใครที่รู้จักวงนี้ก็คงไม่มีข้อกังขาใด กับการเล่นสดของพวกเขา ชนวนระเบิดได้ถูกจุดขึ้นตั้งแต่เพลงแรกเมื่อเต้ตะโกนอย่างสุดเสียงว่าคำว่าสันติภาพนั้นไม่มีวันวงมอชพิตขนาดมหึมาได้เกิดขึ้นกลางช่างเชื่อม ทุกคนในฮอลแทบจะร้องได้กันหมด ตามมาติด ด้วยเพลงเซอร์ไพร์สเพลงที่สองอย่าง My Generation จาก Limp Bizkit งานนี้ชาวหูเหล็กยุคมิลเลนเนียมต่างพากันกระโดดและร้องกันอย่างดุเดือด วงมอชพิตตรงกลางยังคงมีคนมาเต้นกันอย่างต่อเนื่อง ถือว่าถูกใจคนดูกันอย่างมากมาย ต่อกันกับเพลงดังเพลงที่สามอย่าง อำนาจเจริญ จัดได้ว่าเป็นเพลงที่ทุกคนรอคอยอีกเพลงท่อนฮุกก็ยังคงเดือดดาลสุด เช่นเคย ต่อกันกลับเพลง เดนนรก ทุกคนเตรียมเปิด wall of death ทันทีที่ข้นเริ่ม slap intro เบสขึ้นมา และตามมาติด ด้วยเพลงคัฟเวอร์อีกเพลงอย่าง Bulls on Parade จากวงรุ่นเก๋า Rage Against the Machine ไฮไลต์ที่ประทับใจจากโชว์เพลงนี้คงจะเป็นการที่เมษ มือกีตาร์ เดินออกมาโซโล่ด้วยถ่าน 9V ทำเอาคนดูหน้าเวทีส่งเสียงเฮให้เมษยกใหญ่เลย ต่อกันด้วยซิงเกิ้ลใหม่ล่าสุดอย่าง ฉวย ทุกคนพร้อมใจกันกระโดดสุดขาเหมือนว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้ดูโชว์นี้ เอาล่ะ.. มาถึงช่วงท้ายๆแน่นอนต้องมีเซอร์ไพร์สอีกแน่ และแล้วปุ้ยก็วางกีตาร์แล้วก็ไปจับไมค์ เดินขึ้นไปชั้นคอนโทรลเลอร์ ตะโกนว่าเชี่ยหยี!!! ไอ้สัส เพื่อนเล่นไม่เคยมาดูเพื่อนเลย ควย!’ (ท่าทางแกจะดื่มไปหนักจริง)

25371173_10208527375542019_12589022_o

แล้วเพลงคัฟเวอร์อีกเพลงก็เริ่มขึ้นคือ เสือกทำไม จาก Dajim งานนี้มีเต้ร้องหลักอยู่บนเวที และมีปุ้ยร้องดั๊บอยู่บนชั้นลอยที่วางคอนโทรลเลอร์ (มึงตกเวที Scrubb แล้วยังไม่เข็ดอีกหรือไง) ทุกคนชอบใจกับท่อนปิดของเพลงมาก แต่ถ้าอยากรูว่าเค้าร้องกันว่าอะไร ก็ไปติดตามกันในโชว์หน้า ของพวกเขากันนะฮะ มาถึงเพลงต่อไปคือเพลง คุก เป็นเพลงในอัลบั้มที่ยังไม่เคยอัดด้วยซ้ำ เขาเล่นมาหลายโชว์แล้วเหมือนกันแต่พึ่งรู้ชื่อเพลง เพลงนี้มีเซอร์เคิลพิตวงใหญ่ถึงสองรอบ และรอบสอง เมษมือกีตาร์ก็ลงมาวิ่งด้วยซะงั้น จนถึงเพลงก่อนสุดท้าย เต้ได้เล่นโต้ตอบกับคนดูด้วยวลีเด็ดประจำปี 2017 คือเพราะความคิดคนมันห่วย สังคมเลยห่วยแตกริฟฟ์อันหนักหน่วงของเพลง ฆาตกรคีย์บอร์ด ได้เริ่มบรรเลงขึ้น คนดูได้ใส่แรงทั้งหมดในการแท๊ก วิ่ง มอช กันจนอิ่มเอม ปิดโชว์ไปด้วยเพลง โจรในเครื่องแบบ หนึ่งในเพลงที่อยู่ใน EP แรก แต่….. เหมือนคนดูจะไม่จบง่าย ทุกคนตะโกนเอาอีก ๆๆๆๆ จนทางวงต้องใจอ่อน ขึ้นมาเล่นอีกเพลง เป็นเพลงที่ยังไม่มีชื่อเพลงด้วยซ้ำแต่เล่นที่นี่ที่แรก เท่าที่จำได้คือท่อนฮุกร้องแค่ หุบปาก ๆๆๆ ถึงจะไม่เคยฟังกันมาก่อนแต่ก็ปิดงานกันไปได้อย่างเดือดดาลกันเลยทีเดียว

25397766_10208527375822026_760282880_o

งานนี้เรารู้สึกว่า เป็นงานเล็ก คนดูพอประมาณ แต่มันกลับอบอุ่นมาก ไม่มีการแบ่งแยกว่าเป็นคนดู ทีมงาน ซาวด์เอนจิเนียร์ หรือศิลปิน ทุกคนช่วยกันทำให้โชว์มันออกมาสมบูรณ์แบบ สร้างความสนุกสนานในคืนวันธรรมดาที่ไม่ธรรมดาอีกต่อไป ท้ายที่สุด ทุกคนได้มาพูดคุยกัน ถ่ายรูปด้วยกัน แลกเฟซบุ๊ก แลกไลน์ แล้วก็กลับบ้านกันโดยสวัสดิภาพ งานนี้ถึงจะเป็นงานที่คนกลุ่มเล็กจัดให้ทั้งคนที่รู้จักกันและไม่รู้จักกันโดยมีตัวเชื่อมง่าย แค่คำว่าดนตรี แต่เรากลับได้มิตรภาพและความทรงจำดี กลับไปด้วย แค่นี้สำหรับเรามันก็อิ่มเอมจิตใจมาก แล้วแหละ อยากให้จัดงานดี แบบนี้ขึ้นมาอีกนะ

Facebook Comments

Next: