เวลาผ่านไปหนึ่งชั่วโมงเต็ม เครื่องเสียงกลับมาทำงานอีกครั้งพร้อมกับเสียงเฮลั่นของทั้งทีมงานและคนดู คอนเสิร์ตของเรากลับมาดำเนินต่อไป แม้ว่าจะเกิดข้อบกพร่องขัดข้องในระบบแสงเสียงที่เตรียมไว้ ไม่สามารถนำออกมาเล่นได้อย่างตื่นตาตามที่ตั้งใจ แต่นี่ก็เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่ดีที่สุดแล้วที่พอจะทำได้ ณ ขณะนั้น

Counterclockwise

เวลาหนึ่งทุ่มครึ่งหลังจากเซทเครื่องเสียงที่ช็อตกันใหม่ Counterclockwise อีกวง alternative rock เมืองเชียงใหม่ที่ผสมผสานดนตรีแนวอื่น ๆ ทั้ง pop, post punk, electronic และ dreampop เข้าไป ซึ่งก่อนหน้านี้เราก็เคยติดตามอยู่พักหนึ่ง พวกเขามาพร้อมกับเพลง Carry on, Walking, Fake, รอการกลับมา, Raining Town, Haftmoon และคัฟเวอร์จากวง Barbie ในเพลง ก่อนวันสุดท้าย สำหรับการแสดงของวงนี้จากการฟังไกล ๆ ในโซนขายบัตรสำหรับฉันแล้วจัดว่าโอเคเลย แต่มีทีมงานกระซิบมาว่าช่วงเพลง ก่อนวันสุดท้าย นี่แอบมีเป๋ ๆ ซาวด์แอบบวมไปหน่อย

พอวงเล่นจบเราขออู้งานเก็บค่าบัตรไปเดินดูสิ่งที่น่าสนใจภายในงาน อยากจะเล่าให้ฟังเหลือเกินว่านอกจากจะมีดนตรีให้ชมกันแล้ว งานเห็ดสดครั้งนี้ของเรายังมีกิจกรรมมากมายมาให้ได้ร่วมสนุกกัน ไม่ว่าจะเป็นซุ้มสอยเห็ดสุดคิ้วท์ชิงของรางวัลพรีเมียมจากฟังใจและ Tiger Beer, installation ดงเห็ดเรืองแสง, บอร์ดโชว์ทุกแฮชแท็ก #hedsod จาก Social Media ต่างๆ ที่ได้รับการสนับสนุนจาก Tagboard, flipbook น่ารัก ๆ จาก Flipbo, บูธแจกซิมฟรีจาก AIS, ร้านค้าจากศิลปินที่มาแสดงในงานและค่ายเพลงต่าง ๆ ทั้ง Minimal Records, Summer Disc Music Label, Rat Records รวมไปถึงอาหารสุดอร่อยจากร้านชื่อดังย่านนิมมานในราคากันเอง ทั้ง Minimeal ภูมิใจนำเสนอ ข้าวหมูตุ๋นโอกินาว่า ข้าวไข่เจียวนายห้าง และเห็ดรวกพริกข่า จาก RAREiTEM อิตาเลียนโซดาจาก The Barn, พิซซ่าแป้งบางอบร้อนจาก Barefoot, บาร์บีคิวเห็ดพันเบคอน, แพนเค้กผลไม้สดและเฟรนชโทสต์ฉ่ำ ๆ, ลูกชิ้นปิ้งน้ำจิ้มรสเด็ดไม้โต ๆ พีค ๆ ทั้งนั้น กินกันไม่หยุดปากเลยจ้า

Moving and Cut

กลับมาที่พาร์ทคอนเสิร์ตกันดีกว่า ตอนนี้เป็นเวลาที่ Moving and Cut กำลังแสดง แน่นอนว่าพวกเขาเอาเพลงฮิตติดชาร์ตมามอบความสุขให้แฟน ๆ กันเช่นเคย ทั้งเพลง ฉันไม่เคยรู้, หายใจ, ปลอบ, รักที่เธอบอกมา และ ปล่อยให้ตัวฉันไป ส่วนตัวเราว่าวงนี้มีพัฒนาการในดนตรีเวลาเล่นสดขึ้นมาก ๆ ตอนซาวด์เช็คนี่ดีงามมากจริง ๆ แต่น่าเสียดายที่เสียงร้องนุ่ม ๆ อาจจะไม่ค่อยเข้ากับซาวด์ดนตรีที่เข้มแข็งขึ้นมาก เลยทำให้โชว์ยังไม่ค่อยสุด แต่เชื่อว่าแฟน ๆ คงฟินกันเพราะงานบิ๊วโหวกเหวกนี่เรียกเสียงร้องตามจากคนดูได้ดังกระหึ่ม

Jelly Rocket

ไม่นานนัก สาว ๆ Jelly Rocket ก็ขึ้นโชว์ คือบอกเลยว่าน่าเสียดายมาก ๆ ที่ระบบเสียงเกิดปัญหาทำให้ซาวด์อั้น ๆ เสียงกลองไม่ค่อยออก ไมค์ดังกว่ากีตาร์ รวนกันไปหมด แต่สปิริตศิลปินสู้ตายจริง ๆ ปั้น โม ภัค เอาคนดูได้อยู่หมัด ตอนนี้ที่เรามีโอกาสได้ไปดูพวกเธอเล่นสดแบบเต็ม ๆ บอกเลยว่าการกลับมาครั้งนี้ของพวกเธอไม่ธรรมดาเลยแม้แต่น้อย งานนี้เจ้าตัวขนเพลงใหม่และเพลงฮิตมาเล่นเยอะมาก งานดีทั้งนั้น Stay, อิ่มใจ เพลงใหม่ที่โมแต่งให้น้องอิ่ม น่ารักซะไม่มี แล้วก็มี ลืม, This Is Real, How Long ที่อาจจะร้องผิดคีย์ไปนิด และ เจ้าเหมียว เพลงสุดท้ายนี่ชื่อน่ารักก็จริง แต่เวลาเล่นนี่ก็เล่นมันมาก ๆ

The Whitest Crow

ตามมามันกันต่อที่คณะกาขาวอย่าง The Whitest Crow กับ performance สุดเดือด ขนมาทั้งเพลง Be with you, Bangkok Blondie, Set The Love on Fire, ICSTOY, Give up on love, Follow the heart และเด็ดสุดกับ คัฟเวอร์ ภาวินี ของ Electric Neon Lamp ที่ดึงเอาเพลงนี้มาสร้างสรรค์ให้หนักหน่วงกว่าเดิม ยิ่งเล่นยิ่งพีคยิ่งแน่นจริงวงนี้

Mad Pack It

และอีกวงที่เรารอคอย ร็อคใจ ๆ เดือด ๆ ในตำนานอย่าง Mad Pack It กลับมาเล่นสดให้เราได้ฟินกันไปตาม ๆ กันกับทั้งเพลงฮิตและเพลงใหม่ พร้อมโชว์ที่บิ๊วด้วยคำสบถทั้งหลาย ปลุกความดิบในตัวคุณ ให้คนดูโยกกันแบบลืมตายไปกับเพลง รีบ, เงิน, รักในสันดาน, อยู่เพื่อตัวเอง, ไม่รู้ทำไม, คำให้การ, ฉี่ม่วง และ กวนตีน คือตลอดเวลาที่เราดูโชว์ของพี่ ๆ แกคือเต้นจนเหนื่อย เอาคนดูอยู่หมัด โฟกัสบนเวทีได้ตลอด จุดนี้เริ่มมีคนเมาและเต้นไปรอบ ๆ tackle กันพองาม ทีแรกแอบหวั่นใจว่าจะมีตีกันหรือเปล่าเพราะได้ยินมาว่ามีคนแอบลัดเลาะเข้างานมาจำนวนหนึ่ง ซึ่งมันยากแก่การควบคุมประมาณนึงเลยเนื่องด้วยสถานที่จัดเรากว้างมากจริง ๆ แต่จุดนี้ก็มีผู้ชมท่านหนึ่งที่น่ารักมาก คืออยู่ ๆ เดินมาทางซุ้มฟังใจแล้วถามเราว่า “ซื้อบัตรตรงไหนครับ” เราและทีมงานคนอื่น ๆ ถึงกับช็อค เลยรู้ว่ายังมีมาตรการที่ไม่รัดกุมเท่าใดในการตรวจคนเข้างาน ต้องขออภัยมา ณ จุดนี้ และขอบคุณที่ถึงจะเข้ามาได้ฟรีแต่ก็ยังอยากสนับสนุนพวกเราอยู่ ขอลงกราบแทบเท้าเลย ฮือ

Migrate to the Ocean

ได้เวลาที่อาจารย์ขลุ่ยแห่งลัทธิปลาวาฬจะออกมาเผยแผ่คำสอนแล้ว Migrate to the Ocean ยังท็อปฟอร์มด้วยการแสดงสุดมันและสะกดคนดูด้วยเพลงอย่าง อากาศยาน, เหตุผลที่ทุกคนสวดมนต์ แล้วงานนี้ก็มีเพลงใหม่อย่าง คนนอก มาเล่นด้วย จัดเป็นเพลงร็อคผสมแหล่ที่เท่มาก มีเสน่ห์มาก แล้วยังมีเพลง ปฏิทิน, ข่าวร้ายในทีวี, Insomnia และปิดท้ายโชว์ด้วยเพลง มินิมอล การแสดงวันนี้ยังคงเรียกพลังคลั่งได้ ยิ่งมีช่วงหนึ่งที่อาจารย์ขลุ่ยกรีดร้องออกมาราวกับทึ้งจิตวิญญาณของตัวเอง เป็นศิลปินกลุ่มที่มีอินเนอร์แรงมาก ยอมใจ

Scrubb

ปิดท้ายคอนเสิร์ตด้วยวงขวัญใจคนไทยทั่วประเทศอย่าง Scrubb กับเซอร์ไพรส์ที่นำเอาเพลง side b สุดเพราะที่ไม่ค่อยได้เล่นที่ไหนมาบรรเลงให้แฟน ๆ ได้ฟัง บางคนแถวนี้ได้ฟังเพลงเก่าก็ร้องตามได้อย่างไม่หยุดปาก บางคนนี่ถึงกับร่ำไห้เพราะอินกับเนื้อเพลงสุดง่ายงามแต่บาดลึก การแสดงของพวกเขานี่แน่นอนจริง ๆ ปฏิเสธความเป็นเบอร์หนึ่งของวงดนตรีบ้านเราไม่ได้เลย เป็นวงที่เล่นเข้ากันดีมาก เป๊ะ เนี้ยบ อย่างกับเปิดฟังจากแผ่น แล้วพลังพี่เมื่อยคือถึงจริง คนดูรู้สึกได้กับเพลงที่พี่เมื่อยร้องออกมา ไม่ว่าจะเป็น ทุกอย่าง ที่คราวนี้หยิบมาเล่นแบบเต็มเพลง จากที่ปกติเราจะได้ฟังเวอร์ชันตัดทอนไปเข้าเมดเลย์กับเพลงท็อปชาร์ตอื่น ๆ ไปหมดแล้ว และมีเพลง เธอ, Art Bar, กลัว, ผ่านไปแล้ว อันนี้บาดมาก น้ำตามา ขนลุก ต่อด้วย See Scape, ขอ, ย้อนเวลา, เก็บมันเอาไว้, คำตอบ, เข้ากันดี และจบที่ Inchan Tree โหย จุดนี้คือโดดจนหมดแรง ตะโกนร้องจนเสียงแหบไปหมด เต็มเม็ดเต็มเหนี่ยว ฟินกลับบ้านหลับสบายกันถ้วนทุกคน