Make Some No!se
- Writer: Montipa Virojpan
- Photographer:ปณพรรธน์ แก้วฉ่ำ
9 เมษายน 2559
นับเป็นเรื่องดีที่เราตัดสินใจไปงาน Make Some No!se ที่รวบรวมวงหาดูยาก (เพราะเล่นไม่ค่อยบ่อย) อย่าง Stand Behind the Yellow Line, Plot, Chanudom และ Barbies มาไว้ในงานเดียวกันที่ร้านลอยชาย ราชเทวี เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
ตั้งแต่บริเวณทางเข้าไปจนถึงด้านในของร้านเล็ก ๆ เนืองแน่นไปด้วยแฟนเพลงขาร็อกที่มารอฟังทั้งสี่วง พอเวลาสามทุ่ม Stand Behind the Yellow Line ก็ขึ้นโชว์ สำหรับบางคนอาจจะอยากพุ่งตัวมาที่งานนี้ตั้งแต่เห็นชื่อวงในไลน์อัพ แต่สำหรับคนที่ไม่รู้มาก่อน นี่เป็นโปรเจกต์เดี่ยวของ เย่ Slur ที่ทำมานานแล้วเหมือนกัน ด้วยความที่คน ๆ นึงก็ไม่ได้ชอบเพลงแนวเดียวเสมอไป เขาผู้ซึ่งหลงใหลในเพลง progressive, instrumental rock เช่นเดียวกันกับคนอื่น ก็ได้นำองค์ประกอบในเพลงเหล่านี้มาสร้างสรรค์เป็นงานของเขาเอง มีแฟนเพลงที่ติดตามโปรเจกต์นี้อยู่จำนวนนึง แต่ยังไม่เคยได้ดูแสดงสดเลย เรียกว่างานนี้เป็นงานแรกก็ได้ที่พวกเขามีโอกาสเล่นให้พวกเราได้ดูได้ฟังกัน แล้วยังได้มือกลองในตำนานอย่างเม้ง Desktop Error มาตีให้ด้วย สำหรับวันนี้เราคาดหวังกับการได้ฟังเพลง แค่หายใจเป็นพิเศษ เพลงนี้เป็นเพลงล่าสุดที่เย่ทำออกมา และตอนที่ปล่อยมาใหม่ ๆ จำได้เลยว่าติดมาก ฟังวนอยู่หลายรอบ พอได้มาดูโชว์ตรงหน้าคือใจชื้นแล้ว สิ่งที่คาดหวังมาไม่ถูกทำให้ผิดหวังเลยจริง ๆ ทั้งเมโลดี้ที่สวยงาม และความหนักแน่นในดนตรี อะไรหลาย ๆ อย่างเป็นไปตามที่ควรจะเป็น ลีลาการแสดงสดของนักดนตรีทั้งสี่คนส่งอารมณ์ของเพลงมาได้เป็นอย่างดี ส่วนเพลงอื่น ๆ ก็เป็นดนตรีสไตล์ instrumental, post rock เดือด ๆ เกรี้ยวกราด โยกมัน ฟังกันหูดับ ต่อเนื่องกันทั้งหมด 4 เพลง แต่ก็น่าเสียดายที่หยิบมาเล่นน้อยไปหน่อย เอาเป็นว่า แค่ได้ดูวงนี้ก็เป็นบุญแล้วล่ะฮะ
Plot
ต่อกันที่ Plot อีกวงที่เราคิดถึง เพราะช่วง ๆ หลัง ๆ มาไม่ค่อยได้ดูพวกเขาเล่นสดกันเท่าไหร่ บอกเลยว่ารอบนี้เดือดไม่น้อยหน้าวงอื่น ๆ แน่ กับการ re-arrange ใหม่ยกเซ็ตทุกเพลงในอัลบั้มแรกของพวกเขา ทั้งใครผิด, เสียงแสง, หญิงมหัศจรรย์ และ Artificial Boyfriend แม้วันนี้จะเล่นหลุดไปบางจุด แต่ยังสามารถคุมอารมณ์ให้คนดูมันไปกับพวกเขาได้ สำหรับเพลง 5 ปีที่บางคนอาจจะขัดใจที่สุ้มเสียงเฟี้ยวฟ้าว เปรี้ยวจี๊ด อันแสนคุ้นเคยในเพลงนี้ถูกทอนหายไปจนเป็นเพลงดุ ๆ ไปแล้ว ตอนนี้เรากลับไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจอีกต่อไป เพราะด้วยความที่ทั้งวงโตขึ้นและอยากให้เพลงมีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดให้ซับซ้อนมากยิ่งขึ้นด้วย เราว่าเพลงนี้ก็ลงตัวในแบบใหม่ของมันอีกเหมือนกัน ส่วนเพลง ไม่สนิทอย่าเล่น ก็ยังคงเดือดและลูกเล่นแพรวพราวเหมือนเดิม มีเพียงเพลงใหม่อย่าง ให้แม่และคุณ ที่ฉีกความห้าวออกมาในโทนสุดเซ็กซี่ เดินเบสดุ่ม ๆ ไปพร้อมกับเสียงแซ็กโซโฟนสด ๆ ในท้ายเพลงมันเท่และมีเสน่ห์อะไรได้ขนาดนี้
Chanudom
อีกวงที่เรารอคอย ชนุดมได้ไปเล่นสดครั้งแรกตั้งแต่งานที่ Play Yard แล้วเราก็พลาดอย่างไม่น่าให้อภัย จนรอบนี้ตั้งใจมากจริง ๆ ว่าจะต้องดูให้ได้ เพราะความจริงแล้วเราติดใจผลงานของวงนี้ตั้งแต่ที่พวกเขาร่วมแสดงใน Hedwig and the Angry Inch เรายังจำความรู้สึกที่พลัง rock n’ roll พุ่งพล่านในตัวของชนุดมตอนที่เธอรับบท Hedwig ได้เป็นอย่างดี และวันนี้ เธอและเขาก็กลับมาในฐานะวง theatrical rock เป็นดนตรีที่ผสมผสานศาสตร์ละครเวทีแบบที่พวกเขารัก กับแนวอื่น ๆ ทั้ง soul, R&B, rock n’ roll ช่วง 70s หรือ alternative rock แบบ Arctic Monkeys อัลบั้ม AM ก็มาโผล่อยู่ในเพลงของพวกเขาด้วย เราทึ่งกับพลังการแสดงบนเวที เหมือนได้ดูเธอแสดงละครให้เราดูเรื่องหนึ่ง ละครที่ถ่ายทอดออกมาจากเพลงที่เธอเล่าแล้วเราก็อินไปกับมันด้วยสิ มีเครื่อง brass มาเล่นสด ๆ 3 ชิ้นด้วยกัน แถมได้ ปุณ จริญตนาใก มาช่วยเล่นคีย์บอร์ดด้วย ถึงแม้ว่าชื่อวงนี้จะใหม่มาก แต่เราลองฟังดี ๆ มีคนร้องเพลง เลือดชั่ว ของพวกเขาได้ไม่น้อยเลยนะ แล้วก็มี Only Love Can Hurt Like This ของ Paloma Faith ที่หยิบมาคัฟเวอร์ในแบบของตัวเองได้ทรงพลังไม้แพ้ต้นฉบับ อีกเพลงที่อยากแนะนำให้ไปหาลองฟังคือ ชนุดม เพลงเดียวกันกับชื่อวงและชื่อของนักร้องนำ เป็น alternative folk ที่เพราะมาก ด้วยเนื้อร้องที่ใช้คำสละสลวยถ่ายทอดความรู้สึกออกมาอย่างกินใจ กับดนตรีที่เท่ด้วยส่วนผสมที่หลากหลาย แปลกใหม่ ต้องจับตาดูวงนี้ให้ดี ๆ เพราะพวกเขากำลังมาแรงมาก ๆ
สำหรับวงสุดท้ายอย่าง Barbies ความเศร้าส่วนตัวคือไม่ค่อยได้ฟังเพลงของวงนี้สักเท่าไหร่ การมางานครั้งนี้เลยไม่ได้มีความคาดหวังเท่าวงอื่น ๆ พอวงขึ้นเล่นจริงเราก็ใช้คำว่า ปลุกพลังชายหนุ่ม ก็แล้วกัน คือเราได้เห็นผู้ชายเรนจ์วัยตั้งแต่ 20 ต้น ๆ ไปจนถึง 30 นิด ๆ กระโดดโลดเต้นอย่างบ้าคลั่งกับเพลงที่พวกเขาร้องตามกันได้เรื่อย ๆ ไม่มีแรงตก ส่วนนีน้อยอย่างเราตายไปตั้งแต่วงที่สามแล้ว คือทุกวงพลังล้นเหลือมาก เราก็เต้นให้เขาหนักเลยจ้ะ ผลเป็นไง แรงไม่เหลือให้วงสุดท้าย แต่สัมผัสถึงความมันสะใจของทุกคนในเพลงร็อกที่ใส่บีทหนักของดั๊บและอิเล็กทรอนิกเข้าไปแบบไม่ยั้ง แน่นอนว่าพวกเขาเอาเพลงใหม่อย่าง แค่น้ำตา มาเล่นด้วย สรุปได้ง่าย ๆ ว่านี่คือวงที่เล่นเอามันแบบทุ่มสุดตัว จนบางทีอาจจะดูล้นไปบ้าง และก่นด่าเพื่อความสะใจจริง ๆ แต่เพราะมีหลายคนรอดูวงนี้อยู่และเอนจอยกับโชว์เลยทำให้บรรยากาศสนุกไปโดยปริยาย
ภาพรวมแล้วงานนี้ถือว่าประสบความสำเร็จในแง่ของโชว์ที่สนุกนะ แม้จำนวนคนอาจจะไม่ได้คับร้านแต่คนที่มาและผู้จัดเองคงแฮปปี้พอ ๆ กันกับ performance ที่เต็มที่ขนาดนี้ของทุกวง เราเองก็เพิ่งฟื้นในสองวันให้หลัง คือวันแรกที่ตื่นหลังจบงานนี่ปวดคอมากจ้า โยกแรงเบอร์ไหนถามใจตัวเองดู แล้วที่ดีอีกอย่างคือเราได้เปิดโลก ฟังเพลงของวงที่ไม่เคยฟัง หรือไม่ได้ฟังเยอะขนาดนั้น ได้เห็นว่าพัฒนาการของวงการดนตรีบ้านเราไปถึงจุดไหนแล้ว ซึ่งพูดได้เต็มปากจริง ๆ ว่า คนที่สร้างสรรค์งานพวกนี้มาไกลมากแล้ว เหลือแค่คนที่จะคอยสนับสนุนพวกเขาให้ไปได้ไกลกว่านี้ เกินกว่ากรอบของดนตรีกระแสหลักจะปิดกั้นโอกาสของพวกเขา ลองเปิดหู เปิดใจ แล้วส่งพวกเขาต่อไปให้คนอื่น ๆ ได้ลองฟังกัน
