ระเห็ดเตร็ดเตร่

Moose Farewell Party

  • Writer and photographer : Montipa Virojpan

31 กรกฎาคม 2559

ช่วง 5-6 ปีที่แล้ว จะมีคนฟังเพลงนอกกระแสสักกี่คนที่ไม่เคยไปขลุกอยู่แถว ๆ Cosmic Cafe RCA แล้ววันนึงเราก็ได้ข่าวว่าเจ้าของร้านเขยิบไปทำ Moose ที่เอกมัย 21 ควบคู่กันไป จนเมื่อ Cosmic จะปิดตัวลง บรรดา concertgoers ก็อกสั่นขวัญแขวนว่าจะไม่มีที่ให้ดู underground gigs กันแล้วหรือเปล่า ซึ่งพอเวลาผ่านไป แม้จะไม่มี Cosmic แล้ว เราก็ได้เห็นว่าเขาไม่ได้ทิ้งอุดมการณ์เดิมไปแม้แต่น้อย ยังมีงานดี ๆ ให้เราได้ดูเกือบทุกสัปดาห์แบบนับไม่ถ้วนในร้านใหม่ของเขา

จนกระทั่งวันนี้มาถึง Moose กำลังจะกล่าวอำลาทุกคน (อีกครั้ง) แต่เรายังคาดหวังว่าจะยังมีร้านที่เป็นพื้นที่ให้วงดนตรีมากหน้าหลายตาทั้งไทยและเทศตบเท้าเข้ามาปล่อยของได้เช่นเดียวกับที่ Cosmic และ Moose ทำไว้ในยุคสมัยของเราเพิ่มมากขึ้น ส่วนร้านอื่น ๆ ที่ยังอยู่ก็อย่าเพิ่งหนีหายกันไปไหนซะล่ะ พวกคุณคือความหวังของเรา !

ทำซึ้งไปสองย่อหน้าแรก ขอตัดกลับมาที่ความสนุกทิ้งท้ายสถานที่ในความทรงจำเมื่อคืนที่ผ่านมา กับ Moose Farewell Party งานเดือด ๆ จากไลน์อัพ แต่อบอุ่นจากมิตรรักแฟนเพลง จัดโดยชาว Conflakes เขาล่ะ ที่ครั้งนี้บัตรก็ถูกแสนถูก แต่ได้ดูทั้งวงขึ้นหิ้งและวงใหม่ที่ฝีมือน่าจับตามอง ทั้ง The ███████ (The Black Codes), Gorn Clw, Fwends, Plotและ Yellow Fang พร้อม after party จากดีเจ Kova O’ Sarin ซึ่งบรรยากาศตลอดงานและคุณภาพของการแสดงสดก็เป็นที่น่าประทับใจสมกับที่เป็นการเลี้ยงร่ำลาส่งท้ายร้าน Moose จริง ๆ

The ███████ 

The ███████

เวลาประมาณสองทุ่มสิบห้า The ███████ ได้เล่นเป็นวงแรก ผลงานของเขาน่าสนใจตั้งแต่กระบวนการออกแบบอาร์ตเวิร์กของซิงเกิ้ลแต่ละชิ้นที่ดูมีคอนเซปต์จับต้องได้ไปเสียหมด บวกกับดนตรีอิเล็กทรอนิกที่ผสานเอาซาวด์แบบ world music เข้ามาใช้ในโทนดนตรีหม่นเท่ ซึ่งวันนั้นก็แสดงไปทั้งหมด 5 เพลงกับเพลงใหม่ และซิงเกิ้ลทั้งสี่อย่าง ‡‡‡‡‡‡, Warp Portal, Delete และ Shelter ซึ่งการแสดงโดยรวมถือว่าจับความสนใจของคนดูได้อยู่หมัดจากดนตรีที่มีเอกลักษณ์ exotic สุด ๆ เพียงแต่เสียงร้องจะดูแห้งและชัดเกินไปเมื่อนำมาใช้กับโทนดนตรีประเภทนี้ กับข้อผิดพลาดทางเทคนิกในช่วงกลางของเพลง Shelter ทำให้ต้องตัดจบโชว์ไปอย่างน่าเสียดาย แต่ไม่เป็นไร technical problem เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้เสมอ ไว้รอได้ดูสดอีกครั้งรอบหน้านะ

Gorn Clw

Gorn Clw

ต่อกันที่ Gorn Clw วงสี่ชิ้นกับดนตรีที่ยืนพื้น chill wave แต่ได้อิทธิพลแนวทางของงานอื่น ๆ ทั้งฮิปฮอป R&B โซล มาอยู่ในเพลงของพวกเขาด้วย ตั้งแต่ Freaky Guy, Honey I’m lonely, Ordinary Day รวมถึงคัฟเวอร์ Mac DeMarco เพลง Chamber of Reflection กับ Ode to Viceroy แล้วปิดท้ายที่ Rush Love ที่รอบนี้มันสุด คนดูหลายคนก็เอากับเพลง ขนาดช่วงท้ายของเพลงนี่นักดนตรีก็เหมือนจะโดนบิ๊ว ฟีลมา จนต้องปีนกลองแต่พลาดร่วงลงไป แต่ทั้งวงยังรักษาฟอร์มได้แบบไม่มีใครเหวอ โปรแล้วยัง rock n’ roll ไปอีกกก อย่างไรก็ตามยังแต่จากที่ดูมาทั้งโชว์นี่เป็นโชว์ที่ Gorn Clw ทำออกมาได้น่าประทับใจอีกโชว์นึงทีเดียว

Fwends

Fwends

แล้วเป็นคิวของ Fwends ตอนนี้คนเนืองแน่นร้านสุด ๆ แค่แวบออกไปแปปเดียว กลับเข้ามาก็แทรกกลับมาแถวหน้าไม่ได้แล้ว ครั้งนี้เป็นครั้งแรกของเราที่ได้ดูพวกเขากับไลน์อัพใหม่ มีการปรับเปลี่ยนท่อนในบางเพลงสำหรับการเล่นสดให้เข้ากับสมาชิกปัจจุบันมากขึ้น สีสันของดนตรีที่หนักหน่วง เมามาย และกลองนี่ตีหนักจนเผลอคิดไปว่า Fwends เป็นวงร็อกไปแล้ว แต่คือเป็นเรื่องดีนะ เรารู้สึกว่าวงเล่นแน่นกระชับขึ้นมาก ซึ่งครั้งนี้จะเป็นโชว์สุดท้ายของพวกเขาก่อนจะพักเล่นสดสามเดือนเพื่อทำอัลบั้มเต็ม คืนนี้มีเพลงที่เราคุ้นเคยดีแต่ในแบบที่แปลกออกไป อย่าง Fade Away ที่เสียงร้องนักร้องชายคนใหม่ก็มีความใกล้เคียงกับคนก่อน ต่อด้วย For A While และเพลงใหม่ Spiral Heart ที่ดนตรีมีความย้วยมึนขนานหนัก แล้วจึงเป็น Summer Love, Why Can’t You See และจบด้วย Where Do We Go?

Plot

Plot

มาถึงวงที่สี่ Plot กับโชว์ที่ต่อเนื่องและล้นเหลือด้วยพลังงานแบบที่วงร็อกควรจะเป็น ความสามารถและฝีมือของสมาชิกทั้งสามคนได้พิสูจน์ตรงนี้แล้วว่าพวกเขาเจ๋งโคตร กับการถ่ายทอดเพลงเก่าในรูปแบบใหม่ รวมถึงเพลงใหม่ที่น่าจะไม่เคยฟังที่ไหนมาก่อน โดยทำออกมาได้แบบไร้ที่ติใส่กันไม่ยั้งสิบเพลง เริ่มที่เพลงแรก กับท่อนที่ร้องว่า ชูนิ้วกลางให้โชคชะตานี่ก็มันจนเผลอยกนิ้วไปกับเขา ต่อด้วย ใครผิด, ไม่สนิทอย่าเล่น, หญิงมหัศจรรย์, ให้แม่และคุณ, จังซี่, 5 ปี, เสียงแสง และ ไม่มีอะไรใหม่หรอก ทุกอย่างแม่งก็เก่าหมด ทั้งหมดทั้งมวลนี้เหมือนจะไม่มีอะไรใหม่ แต่จริง ๆ แล้วพวกเขากำลังจะมาขึ้นสังเวียนทวงความเก๋าอีกครั้งในไม่ช้านี้แน่นอน

คนแน่นมาก แทรกตัวเข้าไปไม่ได้ล้าวววว

คนแน่นมาก แทรกตัวเข้าไปไม่ได้ล้าวววว

ปิดท้ายกันด้วยวงสามชิ้นหญิงล้วน Yellow Fang กับโชว์คุณภาพแบบไม่น่าผิดหวังเช่นทุกครั้ง พวกเธอมาพร้อมเพลง เอาแต่ใจ, พลั้ง, I’m a Feeder, I Don’t Know แล้วมีเซอร์ไพรส์พวกเราด้วยการเล่นเพลงของศิลปินรุ่นก่อนที่เป็นแรงบันดาลใจของศิลปินรุ่นใหม่ อย่างเพลง สบตาของ เจี๊ยบ วรรธณา ที่ใช้ประกอบซีรีส์ “I See You พยาบาลพิเศษ..เคสพิศวง” หรือ ทางแยก ของ Yokee Playboy ที่ถ่ายทอดออกมาจากเสียงของแป๋งได้อย่างมีสเน่ห์สุด ๆ และเพลงอื่น ๆ ในอัลบั้ม และแน่นอน เพลงใหม่ล่าสุด Morning ก่อนจะปิดท้ายกันที่ Unreal

หวังว่าค่ำคืนนี้คงเป็นบรรยากาศที่ประทับใจสำหรับหลายคนที่จะจดจำเสียงดนตรีที่ยังดังอื้ออึงอยู่ในร้านเล็ก ๆ บรรยากาศดีอันคุ้นเคยนี้ไปอีกนาน

Facebook Comments

Next:


Montipa Virojpan

อิ๊ก เนิร์ดดนตรีที่เพิ่งกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นนักเขียนตอนอายุ 25 ชอบเดินเร็ว นอกจากขนมปังกับกาแฟดำแล้วก็สามารถกินไอศกรีมกับคราฟต์เบียร์แทนมื้อเช้าได้