OD Rock Fest 2017
- Writer: Phongpatch Thanattrai
- Photographer: Keerati Jarunakarin
8 ธันวาคม 2560
งานชาวร็อก OD Rock Fest 2017 ประกอบด้วยศิลปินร็อก/เมทัลไทยคุณภาพถึง 6 วงได้แก่ DOSE, Hopeless, Carnivora, Ebola, Dezember และ Retrospect และปิดท้ายด้วยศิลปิน old school death/thrash metal จากบราซิลอย่าง Sepultura ถือเป็นไฮไลต์ของงานเลยทีเดียว
พวกเราไปถึงหน้างานประมาณ 5 โมงครึ่งตามเวลาประตูเปิด แต่เหมือนว่าจะเกิดปัญหาขัดข้องเล็กน้อยทำให้ประตูเข้างานเปิดเลต เราก็เลยไปเดินดูบูธขายของหน้างานรอเวลาประมาณ 5-6 บูธ ส่วนใหญ่ก็จะมีขายเสื้อและซีดีของศิลปินที่เล่นในงานนี่แหละ
กว่าประตูจะเปิดก็ประมาณหกโมงครึ่ง เราเองก็เริ่มจะอิ่มเบียร์หน้างานจนได้ที่เลยตัดสินใจเข้างานไปดูวงแรกก่อนจะเมามากไปกว่านี้ วงนั้นคือ DOSE ที่คนดูยังบางตาอยู่ แต่ทางวงก็บรรเลงเพลงคัฟเวอร์มาอย่างหนักหน่วง พาฝูงชนที่ยืนอยู่รอบ ๆ โยกหัวกันตามไปได้ แล้วก็ทิ้งท้ายไว้ด้วยซิงเกิ้ลแรกของวงคือเพลง ปลิ้นปล้อน
ระหว่างรอ Hopeless เซตเครื่อง เราก็ได้ออกไปเดินดูงานข้างนอก พบกับศิลปินชื่อดังมากหน้าหลายตาที่มาดูงาน ไม่ว่าจะเป็นพี่ชัช Bodyslam พี่เคนวง Zeal พี่เอส กล้วยไทย หรือแม้แต่น้อง ๆ Overdoze ที่กำลังมาแรงในขณะนี้ก็มาดูวงรุ่นพี่เหมือนกัน พอกลับเข้ามา Hopeless ก็พร้อมแสดงพอดี วงเริ่มเล่นเพลงจากอัลบั้มแรกซึ่งยังเป็นเพลงสากลอยู่ประมาณสามเพลงได้ โยกกันมันมาก เริ่มมีคนพยายามจะก่อมอชพิต แต่เหมือนคนส่วนใหญ่อารมณ์จะยังไม่มา หรือไม่ก็ยังเมาไม่พอ พอเพลงที่สี่เป็นซิงเกิ้ลเพลงไทยล่าสุดที่เพิ่งออกในปีนี้ ชื่อเพลง เงา ก็เริ่มมีคนร้องตามกันได้ละ ปิดท้ายไปด้วยเพลงสากลอีกเพลงซึ่งก็จบไปได้อย่างสวยงาม
มาถึงวงที่สาม Carnivora วงเดธเมทัลที่มีสมาชิกเพียงแค่ 3 คน แต่สามารถสะกดคนดูให้ก่อมอชพิตตั้งแต่เพลงแรก สัตว์ทรยศ ได้เป็นวงแรกของคืนนี้ ชาวร็อกผมยาวหน้าเวทีก็เริ่มหมุนหัวตามจังหวะ blast beat ของกลองละจากนั้นก็เป็น 4-5 เพลงที่ประเคนความปวดคอให้กับฝูงชนล่างเวที จังหวะ breakdown แบบ old school และ blast beat แบบดิบเถื่อนมีมาให้เห็นทุกเพลง หลังจากนี้ก็เป็นช่วงพักกินเบียร์ของทีมเรา
กลับเข้ามาวงที่สี่ Ebola ความเดือดดาลเริ่มกำเนิดขึ้นแล้ว คนดูเตรียมเปิดวงมอชพิตตั้งแต่เพลงแรกยังไม่เริ่ม พอวงขึ้นมา วงข้างล่างก็เริ่มกว้างออก เปิดมาด้วยเพลงแรก หักคอเทวดา ทุกคนเริ่มทุ่มพลังมอชพิตใส่กันแบบไม่ยั้ง ตามมาติด ๆ ด้วยเพลงที่คุ้นหูกันดีอย่าง เอาให้ตาย หลังจากนั้นทางวงก็ประเคนเพลงดิบ ๆ จากอัลบั้มเก่ากันมาอย่างต่อเนื่อง ข้างล่างก็เดือดกันอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ปิดท้ายโชว์ของ Ebola ไปกับเพลง Survivor ไปอย่างสวยงาม ซึ่งทุกคนก็ให้ความร่วมมือกันเป็นอย่างดี
ต่อกันที่วงที่ห้า เป็นวงโปรเกรสิฟเมทัลรุ่นใหญ่อย่าง Dezember ทุกคนเริ่มเปลี่ยนจากวงมอชพิตเป็นการยืนโยกหัวตั้งใจฟังอย่างดีไปกับสัดส่วนอันซับซ้อนของเพลง เปิดมาด้วยเพลงแรกจากอัลบั้มปี 1994 อย่างเพลง ลัทธิซาตาน ต่อด้วยเมดเลย์ที่เซอร์ไพรส์ผมเป็นอย่างมากคือการเล่นเพลงตั้งแต่ปี 1994-1998 เพลงที่ผมจำได้ก็น่าจะมี เธอ นายทุนญาติสิ้น ศิลปินดินน้ำมัน และปิดท้ายไปด้วยเพลงชาติอย่าง ดอกทอง แด่เธอ ชาวเมทัลรุ่นใหญ่ทุกคนร้องได้กันเป็นอย่างดี พี่ต้น Dezember ยังคงความเก๋าในการเล่นริฟฟ์ดิบ ๆ และโซโล่สุดแพรวพราว
มาถึงอีกวงที่น่าดูอย่าง Retrospect ซึ่งเราพูดตรง ๆ ว่าแอบเสียดายมากที่โฟลวงานค่อนข้างเลตไปหนึ่งชั่วโมง ทำให้โชว์ที่ Retrospect เตรียมมา 45 นาที ถูกตัดเหลือแค่ 4 เพลงเท่านั้น แต่ก็เป็น 4 เพลงที่อิ่มมากสำหรับเรา เปิดมาด้วยซิงเกิ้ลจากอัลบั้ม Unleashed อย่าง เพราะว่ารัก คนดูทุกคนร้องได้และทำ wall of death กันอย่างดุเดือด ต่อมาด้วยสองเพลงจากอัลบั้ม PATHFINDER ล่าสุดปี 2017 อย่าง เจ็บกว่าคือฉัน และ หักหลัง ก่อนปิดท้ายด้วยเพลงชาติสุดเดือดอย่าง ไม่มีเธอ ถึงจะได้เล่นน้อย แต่สำหรับผม วงก็ยังคงคุณภาพความเดือดและ performance ที่ดีไว้ได้ตามมาตรฐาน
มาถึงไฮไลต์ของงานกัน Sepultura วง death/thrash metal จากบราซิล คนดูหนาแน่นฮอลขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดโดยเฉพาะชาวต่างชาติประดังกันหน้าเวที ประเดิมเพลงชุดแรกมาอย่างดุเดือดอย่าง I Am the Enemy, Phantom Self, Kairos ผมได้เห็น circle pit ที่ยิ่งใหญ่และประกอบไปด้วยทั้งคนดูชาวไทย ชาวต่างชาติ หรือแม้แต่ศิลปินชื่อดังหลายคนก็ไปร่วมสนุกด้วย ต่อมาด้วยเพลงจากหลากหลายอัลบั้มประเคนให้กับผู้ชมอย่างต่อเนื่อง คนดูเหมือนเก็บแรงวงช่วงแรก ๆ เพื่อมาปลดปล่อยเต็มที่ให้กับ Sepultura โดยเฉพาะ จบโชว์ชุดแรกไปด้วยเพลงที่คุ้นหูกันอย่าง Territory, Refuse/Resist และ Arise จากนั้นทางวงก็จัด encore มาอีกหนึ่งชุด ให้คนดูได้ใส่พลังกันยับในช่วงสุดท้ายไปกับเพลง Sepultura Under My Skin, Ratamahatta และปิดด้วย Roots Bloody Roots ถือว่าเป็นโชว์ที่จัดเต็ม 19 เพลงและอิ่มสำหรับคนดูมาก พวกเราเองก็มึนและแบกร่างพัง ๆ ช้ำใน ๆ ของตัวเองกลับบ้านไปนอนตายอย่างอิ่มและมีความสุข ถือว่าเป็น 7 วงคุณภาพและ 6 ชั่วโมงที่คุ้มค่าจริง ๆ สำหรับงานชาวร็อกส่งท้ายปี 2017 ครับ
