plastic plastic

ระเห็ดเตร็ดเตร่

ย้อนวันวานการเติบโตของ Plastic Plastic และเต็มอิ่มไปกับมวลความสุขใน “Dear Friends’ Concert”

สมกับการรอคอยคอนเสิร์ตครบรอบ 12 ปี PLASTIC PLASTIC Dear Friends’ Concert ที่พาพวกเราอิ่มความสุขไปกับบทเพลงตลอดสามชั่วโมง ณ โรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งบอกได้เลยว่ามูฟออนจากคอนเสิร์ตนี้ยากจริง ๆ เพราะทุกอย่างที่ พี่เพลง และ พี่ปกป้อง จาก Plastic Plastic นำมามอบให้กับทุกคนนั้นเต็มไปด้วยความรักและความตั้งใจที่เปี่ยมของพวกเขา จนสร้างความทรงจำที่ตราตรึงกับพวกเราทุกคนในฐานะแฟนคลับของพวกเขา 

ก่อนที่เราจะมาร่วมย้อนเวลาค่ำคืนแห่งความสุขไปพร้อมกัน เราอยากจะขออวดความน่ารักอบอุ่นหัวใจที่เราไปเจอมาหน้าคอนกันก่อนสักนิด ในช่วงรอเวลาประตูเปิด สิ่งที่เราประทับใจมากอย่างหนึ่งคือ คอมมูชาว Plastic Plastic เขาน่ารักไม่แพ้ศิลปินเลย เพราะนอกจากจะนั่งรอช่วงประตูเปิดกันแบบใจเย็น แถมมีการทำความรู้จักเพื่อนใหม่และชวนคุยจนเกิดบรรยากาศสบาย ๆ แล้ว พวกเขายังมีการทำของมาแจกแบบฟรี ๆ ให้เพื่อนร่วมคอมมูกันอีกด้วย! นอกจากนี้วงนี้ไม่ได้ตกแค่แฟนคลับชาวไทยเท่านั้น แต่ยังสามารถคว้าหัวใจชาวต่างชาติได้อีกด้วย เห็นจากที่มีแฟนเพลงชาวต่างชาติมาฟัง เรียกได้ว่าขยายวัฒนธรรมไปได้กว้างขวางจริง ๆ 

และแน่นอนว่าของขวัญสุดพิเศษที่แฟน ๆ ต่างรอคอยคือโปสการ์ดจากพี่เพลงและพี่ปกป้องที่เขียนด้วยมือจากหัวใจส่งต่อไปยังผู้รับทุกคน แทนคำขอบคุณสำหรับความรักที่ทุกคนได้มอบให้มามากกว่า 12 ปี ซึ่งจุดเด่นของโปสการ์ดนี้นอกจากจะเป็นโปสการ์ดที่เขียนมือทั้งหมดแล้ว ยังเป็นโปสการ์ดที่บรรจุข้อความสุดพิเศษที่เอ่อล้นไปด้วยความอบอุ่นและถ้อยคำให้กำลังใจ ส่วนบรรยากาศการตกแต่งเวทีก็ชวนให้รู้สึกถึงความสบาย ๆ เหมือนเรานั่งฟังเพื่อนเล่นดนตรีในบ้าน คือเหมือนอยู่บ้านจนต้องแอบเม้าท์ก่อนเลยว่าทั้งพี่เพลงและพี่ปกป้องชิลล์จนถอดรองเท้าแสดงโชว์กันเลยทีเดียว น่ารักมาก!

Dear Friends’ Concert

เริ่มต้นคอนเสิร์ตด้วยเสียงเปียโนสดที่ขึ้นเพลง Anything Goes เล่นโดยพี่เพลงคลอเบา ๆ ยิ่งพอเปิดม่านขึ้นประกอบกับ lighting และ decoration ดึงความสนใจ รอยยิ้มและความรู้สึกขนลุกได้จากคนทั้งฮอลล์ เรียกได้ว่าทุกคนต่างนั่งซึมซับบรรยากาศในความเงียบแต่อิ่มไปด้วยเพลงที่นับเป็นจุดเริ่มต้นของคอนเสิร์ตนี้ไปพร้อมกัน

จากนั้นพวกเขาก็ไม่ปล่อยให้อารมณ์ความตื่นเต้นของทุกคนหนีหายไป เพลง Summer Hibernation พาทุกคนอุ่นเครื่องในช่วงต้นคอนเสิร์ตและพาย้อนเวลาไปช่วงหน้าร้อนไปพร้อมกับแสงสีชมพูอมส้มชวนให้อินกับบรรยากาศเพิ่มมากขึ้น ก่อนจะต่อด้วยเพลงสุดน่ารักที่ไม่ว่าใครที่ได้ยินชื่อครั้งแรกก็คงหยุดความสงสัยจนต้องลองฟังเพลงนี้ดูซึ่งก็คือ เพลง หยิบแฮมเป็นแผ่นที่หก ที่จังหวะชวนให้คนฟังห้ามตัวเองไม่ให้ปรบมือไม่ได้ เสียงปรบมือคลอตามเพลงดังกระหึ่มไปทั่วโรงละคร ก่อนจะส่งไม้ต่อไปอีกเพลงที่มีความหมายและเมโลดี้สุดคิวท์อย่างเพลง Pillow Pillow ที่ชวนให้โยกตามเบา ๆ  

หลังออเดิร์ฟช่วงคอนเสิร์ตแรกผ่านไป พวกเขาก็ชวนทักทายแฟน ๆ พร้อมกับพี่เพลงที่แซวตัวเองเล่น ๆ ว่า “ตื่นเต้นไหม ไม่ค่อยเท่าไหร่ (หัวเราะ)” ก่อนพี่เพลงจะเล่าถึงเรื่องราวที่หยิบยกมาจากประสบการณ์ไป Brick Bar ครั้งแรกที่ขึ้นไปเต้นแบบกลับมาก็ยังไม่รู้ตัวจนทำให้เกิดเพลง We’re Dancing like Crazy! ออกมาให้ทุกคนฟังพร้อมกับเชิญชวนทุกคนให้สนุกไปกับโชว์นี้พร้อมกัน เรียกได้ว่าทั้งการแสดงเพลง รวมไปถึงแสงสีบนเวทีคือไม่ทำให้พวกเราผิดหวังเลย เพราะทั่วทั้งเวทีถูกย้อมและรังสรรค์ออกมาให้ฟีลเหมือนอยู่ในบาร์จริง ๆ แล้วจึงส่งต่อความสนุกไปต่อที่เพลง ร้อน ที่ได้แขกพิเศษอย่าง She Is Summer หรือ คุณมิโกะ เจ้าของท่อนภาษาญี่ปุ่นเสียงนุ่มชวนตกหลุมรักมาร่วมแจมแบบ virtual อีกด้วย แต่ถึงจะมาผ่านจอแต่ก็ยังลดความสดใสและความน่ารักลงไปไม่ได้เลย ก่อนจะโชว์เพลงทำนองฟังสบายอย่างเพลง Childhood Paradise และ วันก่อน ต่อไป

ก่อนจะเริ่มทอล์กสั้น ๆ พร้อมกับเปิดตัวศิลปินรับเชิญพิเศษคนแรกซึ่งก็คือวง T_047 ที่เรียกเสียงปรบมือต้อนรับอย่างล้นหลาม โดยพวกเขาได้ร่วมกันร้องเพลงดังอย่างเพลง Magic Hour และเพลง แด่ฉันในวัยเยาว์ จากอัลบั้มใหม่ล่าสุด When The Sky Is Not Blue การร่วมร้องเพลงของพวกเขาเรียกได้ว่าเป็นส่วนผสมที่ลงตัวในการนั่งฟังเพลงท่ามกลางบรรยากาศสบาย ๆ ได้อย่างดี 

หลังจากโบกมือลาแขกรับเชิญพิเศษคนแรกไป พวกเขาก็กลับมาโอบอุ้มทุกคนล่องลอยท่ามกลางบรรยากาศไอเย็นไปกับเพลง Gardening ที่บรรเลงด้วยเครื่องดนตรีหลากหลายประเภท และแม้จะไม่มีเนื้อร้องที่กินใจแต่ท้วงทำนองทุกตัวโน๊ตของแต่ละเครื่องดนตรีได้ค่อย ๆ สลักลงไปในทุกเศษเสี้ยวความรู้สึกของคนฟังทั่วทั้งฮอลล์ 

นอกจากผลงานเพลงที่มักหยิบยกเรื่องราวหรือชิ้นส่วนเล็ก ๆ รอบตัวมาเขียนเพลง แล้วพวกเขาก็ยังมีมุมที่พูดถึงความรักในแง่ต่าง ๆ เช่นกัน พี่เพลงได้สารภาพว่าเพลงรักเป็นเพลงที่พี่เพลงมองว่า สุดท้ายก็เลี่ยงที่จะแต่งไม่ได้ เพราะความรักอยู่ใกล้ตัว อยู่รอบตัว เป็นสิ่งที่ทำให้เราสุขมากที่สุดและทุกข์มากที่สุด โดยความรักของพี่เพลงนั้นมีเยอะมาก ไม่จำเพาะว่าต้องเป็นคนรักเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเพื่อน สัตว์ สถานที่และต้นไม้ พวกเขาจึงได้แสดงอีกด้านหนึ่งของวงซึ่งคือ การเล่นเซทเพลงรัก ไม่ว่าจะเป็นเพลง With Me, Hate you, Love you, The Trip, The Cabin ก่อนให้ทุกคนไปพักท่ามกลางเสียง audio น้ำและเสียงนกร้องบิ้วอารมณ์สบาย ๆ ระหว่างรอโชว์ต่อไป 

หลังจากนั้นไม่นาน บรรยากาศฟุ้ง ๆ จำลองยามค่ำคืนก็กลับมาเรียกความสนใจจากทุกคนพร้อมด้วยอินโทรเพลง Girls don’t cry และเพลง กลิ่นดอกไม้ ก่อนจะต่อด้วยอีกหนึ่งเพลงใหม่ที่เพิ่งปล่อยออกมาเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาอย่าง love is growing ที่มีเนื้อเพลงร้อยเรียงมาจากข้อความของคุณแม่ที่พูดถึงความรักว่า “ความรักจะอยู่ในคนที่เป็นฝ่ายรัก” โดยโชว์นี้ได้พาเราทุกคนดื่มด่ำกับห้วงแห่งความรักที่ไม่ว่าความรักของเรานั้นจะเกิดขึ้นกับอะไร จะสมหวังหรือไม่สมหวัง แต่สุดท้ายความรักก็ยังเป็นสิ่งที่พิเศษอยู่ดี สารภาพเลยว่าตอนที่พวกเราได้ฟังเพลงนี้เล่นสดแล้วพวกเรารู้สึกตื้นตัน รู้สึกอบอวลไปด้วยความรักรอบ ๆ ตัวจนอดไม่ได้ที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายช่วงเวลานั้นเก็บไว้ 

คอนเสิร์ตดำเนินต่อมาถึงอีกหนึ่งเพลงรักอย่างเพลง Butterflies ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องเล่าจากเพื่อนของพี่เพลง ซึ่งเปรียบช่วงเวลาไปกับใครสักคนที่เรารักนั้นเหมือนกับการโบยบินของเหล่าผีเสื้อที่ทุกอย่างดูง่ายดาย เงียบงันและแสนธรรมดา แต่กลับเอ่อล้นไปด้วยความรักระหว่างคนสองคนที่ต่างรับรู้และยินดีการมีอยู่ของอีกคน ยอมรับเลยว่าโชว์นี้เป็นอีกโชว์ที่เรียกเสียงปรบมือจากคนดูได้อย่างกึกก้องและเป็นโชว์ที่พวกเขาถ่ายทอดและส่งต่อความรู้สึกร่วมมาถึงผู้คนจริง ๆ

ก่อนจะมีพูดคุยสั้น ๆ และเปิดตัวอีกหนึ่งศิลปินรับเชิญที่พาหลาย ๆ คนประหลาดใจและคาดไม่ถึงซึ่งก็คือ Whal & Dolph ที่มาพร้อมการแสดงเพลง ยิ้ม ที่พี่เพลงขอให้พี่ ๆ เล่นเพลงนี้ด้วยตัวเองเลย ก่อนพี่เพลงจะโดนเซอร์ไพรส์จาก พี่ปอ และ พี่น้ำวน กลับว่าอยากฟังพี่เพลงร้อง ใจเดียว ซึ่งเป็นเพลงที่พี่เพลงและพี่ปกป้องมีส่วนร่วมในการทำเพลงด้วย เรียกได้ว่าเป็นของขวัญที่ทำทั้งคนร้องและคนดูตื่นเต้นไปพร้อมกันจริง ๆ แต่พี่เพลงก็ไม่ทำให้ผิดหวังอีกเช่นเคย เพราะท่อนฮุกเดียวที่ร้องกลับเป็นหมัดฮุคใหญ่ที่คว้าใจคนฟังและสร้างความประทับใจจนเราเองก็อดยิ้มและปรบมือตามไม่ได้เลย สุดท้ายก่อนจาก Whal & Dolph ก็มอบเพลง ฉันยังเก็บไว้ ที่ได้พี่เพลงมาร่วมร้องและพี่ปกป้องเล่นเปียโนคลอ เพื่อแทนใจ แทนความรู้สึกและเฉลิมฉลองครบรอบ 12 ปีความสัมพันธ์ของพวกเขาและแฟน ๆ ที่ได้เติบโตและผ่านเวลาอันแสนสวยงามมาด้วยกัน

หลังจากนั้นก็เป็นของขวัญสุดพิเศษ อย่างเพลง Dear Friends ที่แทนคำขอบคุณ มอบให้ทุกคนที่เริ่มต้นมาจากการเป็นเพลงแห่งการขอบคุณเพื่อนและคนรอบข้างที่คอยซัพพอร์ตตลอดมา ก่อนที่เพลงนี้ค่อย ๆ เชื่อมโยงไปยังผู้คน แฟน ๆ และทุกสายสัมพันธ์ที่ผ่านเข้ามาตลอดการเดินทาง 12 ปีของวง ซึ่งโชว์ก็เพิ่มความใกล้ชิดมากขึ้นเมื่อพี่เพลงได้ไปนั่งร้องอยู่ใกล้กับผู้คนด้านหน้าเลย เห็นโชว์นี้แล้วก็ให้ความรู้สึกเหมือนกับได้เปิดกล่องความทรงจำท่ามกลางพลังงานบวกและมวลความสุขก้อนโตจากทุกคน จนพวกเราเองก็แอบน้ำตาซึมไปด้วย

การแสดงถัดมาก็เป็นอีกหนึ่งโชว์ที่พาทุกคนร่วมย้อนวันวานไปยังเพลงแรกของวงและเป็นเพลงที่ทำให้เกิดวง Plastic Plastic ขึ้นมาอย่างเพลง Elastic ที่หากเล่นให้ฟังธรรมดาก็คงไม่ได้ ไหน ๆ ครบรอบ 12 ปีทั้งทีทางวงเลยเปิดเวทีให้ทุกคนได้มีโอกาสมีส่วนร่วมในการทำดนตรีแบบ loop ที่มีให้ฟังแค่คอนเสิร์ตนี้ที่เดียวเท่านั้น บอกได้เลยว่าเป็นโชว์ที่ท้าทายสายเลือดความเป็นนักดนตรีของทั้งคู่จนพาพวกเราลุ้นไปด้วยเลยว่าเพลงจะออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งเมโลดี้ที่ทำสด ๆ ณ ตอนนั้นได้ถูกร้อยเรียงออกมาดูน่ารักขี้เล่นเข้ากับเพลงได้ดีมาก ๆ จนทำเอาคนฟังต้องหัวเราะด้วยความสุขออกมา พร้อมกับการจบโชว์ที่เต็มไปด้วยเสียงโห่ร้องและเสียงปรบมือก้องไปทั่วฮอลล์

จากนั้นก็สนุกต่อกับเพลง อยากรู้ ที่ร้องในเวอร์ชั่น someday โดยพี่ปกป้องที่หาฟังยากมาก ๆ แค่ที่ตอนพี่ปกป้องเริ่มร้อง ทุกคนในฮอลล์ต่างส่งเสียงร้องและปรบมือให้กับความกลมกล่อมและความลงตัวระหว่างเคมีเสียงกับจังหวะของเพลงที่เพราะไปอีกแบบจากเวอร์ชั่นที่ร้องด้วยเสียงของพี่เพลง สารภาพเลยว่าเป็นอีกหนึ่งโชว์ที่พวกเราชอบและประทับใจสุด ๆ จนเฝ้ารอวันที่จะได้ไปฟังเวอร์ชั่นนี้สดอีกรอบ ก่อนจะขยับร่างกายอีกรอบไปกับเพลง วันศุกร์ ที่ปล่อยความสดใสและเรียกเสียงร้องตามจากคนฟังได้อย่างล้นหลาม แล้วจึงขยับระดับขีดความมันส์เพิ่มขึ้นไปอีกกับเพลง Merry Go Round ที่ทุกคนต่างลุกขึ้นมาเต้นโยกตัวและโบกมือตามจังหวะเพลงอย่างสนุกสนานท่ามกลางแสงสีที่อาบไปทั่วทั้งฮอลล์ 

หลังจากนั้นไม่นานก็ปิดท้ายค่ำคืนแห่งความสุขไปด้วยเพลงจังหวะติดหูอย่างเพลง ฮัม ที่ทุกคนต่างตะโกนร้องท่อนฮุกไปพร้อมกัน เรียกว่าเป็นการใช้เวลาร่วมกันก่อนจบคอนเสิร์ตตลอดสามชั่วโมงของทุกคนได้อย่างเต็มอิ่มและท่วมท้นไปด้วยรอยยิ้มท่ามกลางไออุ่นจากความรักระหว่างเราทุกคน นับว่าเป็นหนึ่งคืนที่คงจะติดอยู่ในใจพวกเรา รวมถึงแฟน ๆ ไปอีกนานแน่นอน

ก่อนลากันไปพวกเราต้องขอบคุณทางค่าย Whattheduck ที่ชวนพวกเราชาวฟังใจไปเต็มอิ่มและเป็นส่วนหนึ่งในความทรงจำที่แสนพิเศษในครั้งนี้ รวมถึงขอขอบคุณสปอนเซอร์ทุก ๆ ท่านที่ช่วยสนับสนุนให้เกิดคอนเสิร์ตดี ๆ แบบนี้ สุดท้ายที่ขาดไม่ได้เลย พวกเราต้องขอขอบคุณ Plastic Plastic และขอแสดงความยินดีกับวันครบรอบ 12 ปีอีกครั้ง ต่อจากนี้พวกเราก็ขอเป็นกำลังใจกับเส้นทางดนตรีของทั้งคู่ต่อไปในอนาคตนะฮะ!

ใครที่พลาดไป หรืออยากยังคิดถึงช่วงเวลาในคอนเสิร์ตกันอยู่ แวะมาฟังผลงานเพลงขอพวกเขาบนฟังใจได้ที่นี่เลย!

Indie’s Sweetheart ต้องตา จิตดี

Stay at Home บุกบ้านสองพี่น้องจิตดีล้วงลึกอัลบั้มเต็มของพวกเขา

Facebook Comments

Next:


Donratcharat

นัท มีหมาน่ารักสองตัวชื่อหมูตุ๋นกับหมูปิ้ง กาแฟดำยังจำเป็นต่อชีวิต และยกให้กาแฟใส่นมเป็นรางวัล