Article ระเห็ดเตร็ดเตร่

PLOT ชวนมาร้องเพลงปลอบประโลมวิญญาณในโชว์สุดท้ายก่อนพักวง PLOT ANON

  • Story and photos by Montipa Virojpan

21 สิงหาคม 2561

นานแค่ไหนแล้วนะที่เราไม่ได้ไปคอนเสิร์ตไซส์เล็กกะทัดรัด แต่ปริมาณผู้เข้าชมแน่นขนัดและปรอทความมันพุ่งถึงขีดสุดแบบงานเมื่อคืนนี้ เมื่อ PLOT วงอัลเทอร์เนทิฟร็อก โพสต์พังก์ หรืออะไรก็ตามที่ดุเดือดเลือดพล่านอันเกิดจากการรวมตัวกันของสามเพื่อน ไผ่ วิทย์ วง ก่นด่าความสัมพันธ์ของตัวเองไปพร้อม กับวิพากษ์สังคมอันเน่าเฟะผ่านดนตรีดิบกร้านของพวกเขา ประกาศว่าจะเล่นโชว์ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย

เหตุการณ์นี้ใช่ว่าจะไม่เคยเกิดขึ้น เพราะคุ้น ว่ามีอยู่ช่วงหนึ่งที่ PLOT ก็ห่างหายไปจากการทำเพลงหลังปล่อย EP ออกมาตอนที่ยังอยู่ค่าย SO::ON Dry Flower จนเมื่อมีเพลง ไม่สนิทอย่าเล่น ออกมาพร้อมกับ compilation album Ghosted Note II ก็ถือได้ว่าเป็นการกลับมาของวงนี้ ซึ่งได้นำเสนอรสชาติดนตรีใหม่ พร้อมกับการได้มือกลองคนใหม่อย่าง ปูน มาเสริมทัพ และก็เป็นเหมือนช่วงแรก ที่เราได้กลับมามีโอกาสตามดูการแสดงสดของ PLOT ด้วย

จากการเป็นผู้ฟังก็กลายมาเป็นผู้ชมอยู่บ่อยครั้ง จึงได้พบว่าพวกเขาหยิบเพลงจาก EP มารีอะเรนจ์ใหม่แทบทั้งหมด รวมถึงมีแพตเทิร์นเท่ ในการเชื่อมเข้าแต่ละเพลงเสมอ จนเวลาล่วงเลยไป PLOT เริ่มมีเพลงใหม่ ออกมาให้ฟังบ่อยขึ้นจนเรียกได้ว่ากลับมาทำเพลงเต็มตัว และยิ่งทำให้เราตื่นเต้นขึ้นเรื่อย เมื่อเพลงใหม่เหล่านั้นแทบจะแตกต่างจากงานที่ผ่าน มาโดยสิ้นเชิง เมื่อเพลงปล่อยออกมาได้จำนวนหนึ่งแล้วก็ทำให้ได้เห็นมู้ดโทนของ PLOT ในยุคปัจจุบัน การเติบโตและผ่านประสบการณ์มามากมายจึงทำให้เพลงที่เคยเต็มไปด้วยความเดือดดาลพุ่งพล่าน เริ่มมีความลุ่มลึก มีลูกล่อลูกชน ความขี้เล่นแบบผู้ใหญ่ที่ยังไม่อยากโต รวมถึงความเศร้าในความเกรี้ยวกราด ซึ่งมันชัดเจนและสมบูรณ์เพียงพอที่จะนำไปสู่บทสรุปของการเดินทางในช่วงชีวิตการเป็นนักดนตรีของพวกเขาใน phase นี้ และมันกำลังจะออกมาในรูปแบบของอัลบั้มเต็มที่มีชื่อว่า PLOT ANON

PLOT ANON

แต่ก่อนที่อัลบั้มเต็มจะถูกปล่อยออกมาให้เราได้จับจองกัน ก็เป็นจังหวะที่ ไผ่ นักร้องนำจะไปเรียนต่อต่างประเทศ ทำให้วงจำเป็นต้องหยุดพักอีกครั้งเป็นระยะเวลาสองปี นี่จึงเป็นโอกาสที่เหมาะควรที่ PLOT จะเรียกรวมพลแฟนเพลงที่รักพวกเขาให้กลับมาคืนสู่เหย้ากันเป็นครั้งสุดท้าย (แค่ช่วงนี้นะ) พร้อมทั้งชวนเพื่อน พี่ น้อง นักดนตรีใกล้ชิดที่เห็นหน้าค่าตากันอยู่บ่อย ทั้ง Desktop Error และ Summer Dress มาร่วมทำให้ค่ำคืนนี้เป็นที่น่าจดจำที่สุดของทั้งวงและแฟนเพลง ต้องบอกว่าทั้งสามวงนี้นับเป็นวงดนตรีนอกกระแสวงแรก ที่เราติดตามฟังเพลงและดูโชว์ของพวกเขามาตลอดระยะเวลาที่ใช้ชีวิตอยู่ในซีนนี้ โดยนี่ถือเป็นครั้งแรกที่ PLOT เป็นตัวตั้งตัวตีในการจัดอีเวนต์เองและบัตรก็ขายหมดเกลี้ยงในระยะเวลาอันรวดเร็ว ทำให้เห็นแฟนเพลงที่ชะล่าใจโพสต์ตามหาบัตรจน event page ของงานนี้แทบลุกเป็นไฟ ภายหลังวงจึงเพิ่มบัตรอีก 15 ใบสุดท้าย แต่ก็ถูกจับจองหมดเกลี้ยงในพริบตา

ด้านหน้าเวที Play Yard เนืองแน่นตั้งแต่ก่อนเวลาที่วงแรกจะเริ่ม นี่เป็นภาพที่เราไม่ค่อยเห็นในงานเล็ก มานานมาก ยังดีที่เราสามารถแทรกตัวไปด้านหน้าได้ (ขอปฏิญาณตนว่าถ้ามาดูไลฟ์ที่นี่ขอไม่ยืนข้างหลังอีกแล้วเพราะจะไม่เห็นอะไรเลย) เวลา 20.40 Desktop Error พร้อมแล้วที่จะบรรเลงเพลงอัลเทอร์เนทิฟร็อก ชูเกซหนักหน่วงให้เราได้ฟังกัน หลังจากที่ไม่ได้ดูพวกเขามาพักใหญ่ นี่ก็เหมือนเป็นการรียูเนียนของเรากับวงอีกเหมือนกัน เริ่มกันที่อินโทรดุดันเรียกเสียงเฮจากคนฟังได้ในทันทีกับเพลง หลังจากฝัน ในอัลบั้ม Ghosted Note II ซึ่งคนดูก็ร้องกันได้ตั้งแต่เพลงแรกนี้เลย ชักจะเริ่มสนุกแล้วสิ คือเราจะรักบรรยากาศที่คนดูสามารถร้องตาม โดด เต้นแบบไม่เขินอาย และอินกับเพลงของศิลปินอยู่เสมอ ตามด้วยเพลงที่สองที่แค่ขึ้นอินโทรคนก็กรีดร้องกันอีกแล้วในเพลง ปัจจุบันนา ทั้งริฟฟ์กีตาร์เท่ จังหวะกลองชวนโยกทำให้เราหยุดตัวเองไม่อยู่จริง เมื่อจบเพลงวงก็ทักทายกับคนดูเล็กน้อยก่อนจะต่อด้วย ควันจางลา การร้องประสานเสียงของผู้ชมยังไม่ลดละ แถมยังเปล่งดังขึ้นเรื่อย ในเพลงต่อไปอย่าง ทุกทุกวัน เพลงชาติของแฟนเพลง Desktop Error ที่ช่วงหลังพวกเขาไม่ค่อยจะหยิบมาเล่นนอกเสียจากว่าจะมีการอังกอร์ คอมโบเพลงฮิตยังไม่หยุดแค่นี้เมื่อเพลงต่อไปคือ ต่างด้าว ที่ระเบิดความมันจนแทบหมดตัว ถึงจะยอมให้เราได้พักหายใจกันในเพลง น้ำค้าง ปล่อยให้เสียงเอฟเฟกต์กีตาร์เคว้งคว้างโอบกอดเราระหว่างกำลังดำดิ่งสู่ห้วงอาวรณ์

จบจากเพลงนี้ เล็ก ฟรอนต์แมนก็ได้เล่าถึงความสัมพันธ์ของ Desktop Error กับ PLOT ว่าเป็นวงร่วมค่าย SO::ON Dry Flower มาด้วยกัน มีความสนิทสนมกันมาเป็นเวลานาน รวมถึงฝากแฟนเพลงให้รอพวกเขาอีกสองปี และเมื่อกลับมาก็ให้ตามฟังตามสนับสนุนด้วย ก่อนจะปิดท้ายด้วยเพลง กุญแจผี ที่ทีแรกหลายคนคงคิดว่าจะเล่น Ticket To Home เพราะเบิร์ด มือกีตาร์เอาพิณมาสะพาย แต่จากจังหวะกลองที่ เม้ง เล่นแล้วยังไงก็ต้องกุญแจผี แต่นี่คือกุญแจผีเวอร์ชัน world beat จัด ที่ฟังแล้วขนลุกทันที มันมีความ middle east ที่ถึงมาก มีการรีอะเรนจ์แล้วลูกเล่นเต็มไปหมด ไม่คิดว่าเครื่องดนตรีอีสานจะทำให้เกิดซาวด์ที่น่าสนใจในเพลงแบบนี้ ประทับใจมากกับโชว์ของพวกเขา

จากนั้นเวลาประมาณ 21.40 วงต่อไปที่จะมาสร้างความสนุกให้เราคือ Summer Dress ไฟเฮาส์หรี่ลงและคนดูก็ส่งเสียงเฮตื่นเต้นนำไปก่อนแล้ว จน เต๊นท์ ฟรอนต์แมนต้องพูดออกไมค์ว่ายังไม่เรียบร้อยดี และเมื่อมี เอิง สาวลุคเท่ขึ้นมาพูดท่อนหนึ่งในเพลง D-Ok นั่นจึงเป็นสัญญาณว่าโชว์ของพวกเขาเริ่มขึ้นแล้ว ซึ่งความเซอร์ไพรส์ก็ถูกส่งมาให้ฟังกันตั้งแต่เพลงแรกเมื่อพวกเขาเล่น Compress เพลงใหม่ล่าสุดจากอัลบั้มที่สามที่ยังไม่ได้ปล่อยที่ไหนให้เราฟังกันที่นี่เป็นที่แรก เป็นเพลงของ Summer Dress ในแบบที่เหมือนเป็นการผสมผสานเอา element จากชุด Activity และชุด Serious Music เข้าไว้ด้วยกัน และเพิ่มความร็อกเข้าไปผ่านจังหวะกลองเท่ กีตาร์ดุดัน ไลน์เบสเดินทำนองหนักหน่วง การร้องที่ออกจะติดพังก์หน่อย เป็นสีสันดนตรีที่จี๊ดจ๊าดมาก อารมณ์ของความตื่นเต้นคงประมาณตอนที่ชาวโลกได้รู้จักกับดนตรี new wave เป็นครั้งแรก เรารอคอยจะเห็นพวกเขาในโหมดนี้มานานและในที่สุดวันนี้ก็มาถึง อยากให้ทุกคนที่เป็นแฟนเพลงของพวกเขารอติดตามไว้ได้เลย ของดีจริง มาแน่

จากนั้นแค่อินโทรของเพลง The Beatles Fever ขึ้นมา คนดูก็ส่งเสียงร้องและสนุกไปกับเพลงที่พวกเขาเล่นทันที และเรารู้สึกว่าวันนี้เป็นบีเทิลส์ที่เดือดเป็นพิเศษ ก่อนที่จะทักทายคนดูและพูดถึงวง PLOT เล็กน้อย พวกเขาบอกว่าดีใจที่วันนี้คนมาดูกันเยอะเพราะปกติคนดูวงตัวเองจะไม่ค่อยหนาตา เรียกเสียงหัวเราะจากคนดูกันไปช่วงนึงก่อนจะเข้าเพลง 1-10 ซึ่งมีเสียงตะโกนร้องตามแบบสุดตัวอยู่ประปราย คือเพลงนี้เป็นเพลงบอสซาโนว่าที่มีลูกเล่นเยอะ เป็นเพลงที่น่ารักและน่าสนใจมากเพลงนึงที่คนไม่ค่อยพูดถึงจากอัลบั้มชุดล่าสุด ทำให้นึกถึงธีมซอง Sesame Street และเพลงเปิดในลิฟต์แบบ Muzak มีท่อนนึงในเพลงที่เต๊นท์ชวนร้องไล่โน้ต โด เร มี ทำเอาคนดูขำกันอีกรอบ ตามด้วยเพลง Fancy I เพลงจังหวะกรูฟชวนโยกที่ แนท มือกีตาร์เป็นคนร้อง เต๊นท์เลยใช้จังหวะนี้แซวแกล้งแนทซะเลย

แล้วเพลงต่อไปก็เป็นเพลงฮิตที่แฟนเพลงร้องตามได้สุดเสียงใน D-Ok มีท่อนโซโล่ที่ โป้ มือเบสก็ได้จับไลน์เบสขึ้นมาเป็นพระเอก แฟนเพลงส่งเสียงร้องเพราะนาน ทีเขาจะมีบทบาท เต๊นท์ก็ตบมือเชียร์ระหว่างที่โป้โซโล่ จนโป้ต้องบอกว่าพอแล้วไอ้เหี้ยคือโชว์ Summer Dress วันนี้สนุกมากเพราะทุกคนเป็นธรรมชาติ เล่นสนุกกันบนเวที ไม่เกร็งกันเลย แต่แล้วซาวด์สดใสก็ถูกตัดไปเป็นเพลงดาร์กหม่นเท่อย่าง Sunny Talk ที่ทำเอาเฮดแบงจนปวดคอ และปิดท้ายช่วงนี้ด้วย Soundscape กับดนตรีที่งดงามคล้ายพวกเขาร่ายมนต์สะกดใส่พวกเรา ผู้ชมร้องตามและเคลิบเคลิ้มไปกับเพลงนี้และจบโชว์ไปด้วยความอิ่มเอม

20.45 ผู้ชมต้องเขยิบกันมาจนสุดด้านหน้าเวที เรียกได้ว่าแออัด เพราะตอนนี้ก็ได้เวลาที่ทุกคนรอคอยกับวงพ่องานอย่าง PLOT ได้ขึ้นมาประจำที่บนเวที เอิง กลับขึ้นมารับหน้าที่นำเข้าสู่โชว์ด้วยการท่องเนื้อเพลง มาดามอโศก แล้วดนตรีเกรี้ยวกราดก็ถูกบรรเลงขึ้น กลองหนักหน่วงหวดแบบไม่ยั้งในเพลง ไม่สนิทอย่าเล่น พร้อมด้วยเสียงร้องตามของคนดูที่ดังสนั่นแทบกลบเสียงนักร้องไปแล้ว คือร้องได้แบบคำต่อคำ เป๊ะทุกท่อน ไอ้เราก็เอากับเขาด้วยเหมือนกัน จบงานคาดว่าเสียงหายแน่นอน ‘ผมคือคนแรกของคุณ คุณคือคนแรกของผม’ คนดูช่วยกันร้องในท่อนนี้อย่างสุดเสียงกันในเพลงต่อไปพร้อมโยกกันสุดตัวกับท่อนเมทัลจังหวะดึงทึ้งอารมณ์ แล้วก็ไม่ได้พักเหนื่อยกันแม่แต่นิดเดียวเพราะอินโทรเพลง 5 ปี ขึ้นตามกันมาติด ตอนนี้พูดได้เลยว่า เสียงร้องของคนในงานดังกลบเสียงไผ่ไปแล้วจริง ไม่มีอะไรสามารถรั้งกลุ่มคนดูเหล่านี้ที่กำลังคลั่งและอินกับเพลงของ PLOT ได้อีกต่อไป ยิ่งท่อน ‘ฉันถามทำไมไม่ตอบ’ ก็ทำให้ Play Yard กลายเป็นไลฟ์เฮาส์วงอันเดอร์กราวด์ไปในบัดดล และบอกได้ทันทีว่าโชว์นี้เป็นเพลง 5 ปี ที่ดุเดือดที่สุดที่เคยดูมาในชีวิต

พอเล่นจบเพลงแล้วทำนองดนตรียังคงดำเนินไป ไผ่ ว้ากและบิ๊วให้คนดูส่งเสียงอย่างบ้าคลั่ง ซึ่งผู้ชมก็ให้ความร่วมมืออย่างดี เสียงเฮและกรีดร้องดังสนั่นจนบางทีก็กลัวว่าเพดาน Play Yard จะถล่มลงมาจริง ตามด้วยเพลงด่าการเมือง และตัดพ้อที่คนรักหนีไปตีฉิ่งใน ใครผิด เพลงที่มีจังหวะกลองเท่ เบสสุดโยก และการร้องแบบแร็ปทำให้เราต้องเฮดแบงกันอีกรอบ ไม่ใช่แค่เราแต่คนดูรอบ เราก็แร็ปไปพร้อมกับเขาอย่างเสียงดังฟังชัด ก่อนที่จะเป็น ไม่มีอะไรใหม่หรอก ทุกอย่างแม่งก็เก่าหมด เพลงประกอบภาพยนตร์ ‘Mary Is Happy, Mary Is Happy’ ที่พอจะได้เบรกความเดือดกันลงมาบ้างเล็กน้อยในเมโลดี้ใส ของเพลงนี้ แล้วจึงเป็นเพลง หญิงมหัศจรรย์ กับเสียงร้องเดือดดาลของผู้ชมในท่อน ‘ยุคสมัย ยุคสมัย มันคือ’ เออ อีกอย่างในความสนุกของโชว์ PLOT เป็นเพราะว่าเขาจะมีท่อนให้เราได้ร้องตามได้อย่างน้อยก็ท่อนนึงแล้วแน่ ในเพลง แต่สุดท้ายความสนุกสนานและลูกเล่นในการเขียนเนื้อเพลงแทบทุกเพลงของวงนี้ก็ทำให้เราต้องไปนั่งท่องกันมาให้ร้องตามได้อยู่ดีแหละ เพราะถ้าร้องตามได้แล้วจะมันมาก จบจากเพลงนี้ ไผ่ ก็ทักทายแฟนเพลงว่า ‘Hello’ ด้วยเสียงสอง และยิ้มอีกหนึ่งที ก่อนจะส่งเพลงจังหวะหน่วง กับอินโทรกลองย่อง เข้าเพลง เสียงแสง มาให้ฟังเป็นเพลงสุดท้ายสำหรับช่วงแรกที่รวมเพลงจากยุคแรกของ PLOT มาเล่นเกือบหมด

ต่อไปขอเชิญพบกับ TEAM PLOT ครับสิ้นเสียงพูดของไผ่ ทำนองเพลงลูกทุ่งอันแสนคุ้นเคยอย่าง ขอจองในใจ ของ ตั๊กแตน ชลลดา ก็ถูกบรรเลงขึ้นในระหว่างที่สมาชิกทัพเสริมขึ้นมาเซ็ตของบนเวที ความพีคคือคนดูทุกคนพร้อมใจกันร้องเพลงนี้เสียงดังฟังชัด แทบจะเป็นโมเมนต์ที่ดีที่สุดอีกช่วงหนึ่งในงานนี้ ดีงามมาก แล้วอินโทรของเพลง ให้แม่และคุณ เพลงบลูส์ร็อกสุดเซ็กซี่ถูกเล่นทันทีเมื่อสิ้นเสียงเพลงก่อนหน้า เป็นจังหวะการเข้าช่วงใหม่ที่ดีสุด สมาชิกทุกคนพร้อมนำเสนอเรื่องเล่าบทใหม่ รวมถึงคนดูก็ส่งเสียงร้องอย่างบ้าคลั่งพร้อมกับร้องตามในเพลงนี้ แล้วมีท่อนนึงในเพลงที่ได้โชว์ลีดกีตาร์เท่ ขึ้นมาของ แจม มือกีตาร์แบ็คอัพของ เอิ๊ต ภัทรวี ที่เป็นหนึ่งใน TEAM PLOT ให้ความรู้สึกเป็นร็อกแอนด์โรลไปหมด จากนั้นไผ่ก็เรียกให้ ดุ่ย Two Million Thanks ขึ้นมาพูดบนเวที

ดุ่ยเล่าว่า เขาเป็นแฟนเพลงวง PLOT ที่ตามฟังมาประมาณ 8 ปีได้ เขาเองก็เป็นสมาชิกของค่าย SO::ON Dry Flower ซึ่งในวันนี้มีพี่น้องร่วมค่ายมาร่วมงานกันเยอะ รวมไปถึง โคอิชิ ชิมิสึ ผู้ก่อตั้ง ดุ่ยจึงพูดว่า ใครอยากให้ค่ายกลับมาส่งเสียงให้ดังที่สุดหน่อย แน่นอนว่าทุกคน ที่นี้ร้องกันสุดเสียง ทุกคนคิดถึงค่ายเพลงค่ายนี้มากเพราะพวกเขาได้ฝากอะไรกับคนฟังเพลงนอกกระแสไทยไว้เยอะจริง แล้วดุ่ยยังพูดถึง วง มือกลองคนก่อนหน้าที่ก็ทำให้เกิดวงนี้ขึ้นมา พร้อมทิ้งท้ายแบบซึ้ง ว่า PLOT จะเป็นวงดนตรีไทยวงแรกและวงเดียวที่เขาจะขอถ่ายรูปด้วย เป็นโมเมนต์ที่น่ารักมาก ของค่ำคืนนี้ และเมื่อดุ่ยลงไป เสียงซินธ์หวานเย็นในเพลง มาดามอโศก ก็ถูกบรรเลงพร้อมด้วยเสียงเฮจากผู้ชมดังสนั่น ตามด้วยเพลง ผูกพนค่าคุณ extended version ที่บอกว่าเป็นเวอร์ชันยาวขึ้นเพราะมาทั้งท่อนอิมโพรไวส์ โซโล่ หรือการว้ากของไผ่ ไม่ไหวแล้วขอใช้คำว่า ‘แม่งเอ๊ยสนุกเหี้ย ๆ’ ต่อกันทันทีกับเพลง หยาบและห้าว ที่คนดูก็เต้นและโดดกันสุดตัว ไม่มีใครเหนียมอายหรือเบรกตัวเองอีกต่อไป ก่อนที่จะเป็นเพลงจากโปรเจกต์เดี่ยว JITIVI อย่าง คุณ, คนรัก ที่แม้จะเพิ่งปล่อยมาได้ไม่นานแต่ก็มีคนร้องตามได้แล้ว ซึ่งเพลงนี้ก็ถือเป็นช่วงที่ให้ผู้ชมได้พักหายใจไปกับเพลงเย็น เพลงนี้

แล้วก็ได้เวลาที่ไผ่แนะนำสมาชิก TEAM PLOT ได้แก่ เต๊นท์ Summer Dress ที่มาเป็นโปรดิวเซอร์ให้กับอัลบั้ม PLOT ANON ในตำแหน่งซินธ์ แจม มือกีตาร์เพื่อนของปูน และ ตวน Cloud Behind ที่จะเป็นคนมาสเตอร์เพลงในตำแหน่งกีตาร์ ปูน มือกลอง ที่เขาบอกว่าเป็นน้องรัก เป็นคนที่จิตใจดี และตีกลองเก่งชิบหาย และคนสุดท้ายคือ วิทย์ มือเบส เพื่อนเก่าแก่ที่นั่งติดกันมาตั้งแต่สมัยปอห้า โมเมนต์นี้ก็แอบทำเอาเรายิ้มไปด้วยเหมือนกัน และเพลงที่พวกเขาหยิบมาเล่นเป็นเพลงส่งท้ายก็คือเพลงล่าสุดที่เพิ่งปล่อยออกมาอย่าง เพราะคุณ เราเขียน เพลงนี้สามารถเป็นบทสรุปของค่ำคืนนี้ได้แล้วกับท่อนที่ร้องว่า ‘มาเถิด มา มะมา มาเถิดหนา ปลอบประโลมวิญญาณร่างกาย เรามาร่วมกันร้องเพลงรักใจสลาย ร้องด้วยถ้าวงทำนองเดียวดาย’ กับทำนองดนตรีมินิมัลโทนเย็น ผ่อนคลาย คือมันช่วยปลอบประโลมได้อย่างที่เพลงว่าจริง และไม่น่าเชื่อว่าเพลงที่ดูใส เพลงนี้จะเป็นอีกเพลงที่เติมเต็มความอิ่มเอมใจได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นเพลงร็อกเดือดดาลแบบภาพที่เราเคยจำว่า PLOT ต้องเป็นแบบดุ ๆ อย่างเดียว ซึ่งพวกเขาอาจจะเคยเป็นแบบนั้นเมื่อหลายปีที่ผ่านมา แต่จากที่ผ่านอะไรมามากมาย ความเหนื่อยล้า ความผิดหวัง ความเบื่อหน่าย ความรัก ความทรงจำ ความสนุกสนาน พวกเขาคือ PLOT ในปัจจุบันที่เราเห็นและได้ยินในทุกวันนี้ ‘ชีวิตธรรมดาที่เวลาไม่เคยพอ อยู่แห่งไหนที่อบอุ่นเอื้อเฟื้อใจ เตือนผมหน่อยแต่ก่อนนั้นเคยเป็นใคร หยุดตามหาที่นี่ปลอดภัย’

สิ้นสุดเสียงบรรเลงของเพลงนี้ แฟนเพลงส่งเสียงร้องและตบมือพร้อมรอยยิ้มกว้างที่เปื้อนใบหน้า และนี่เป็นครั้งแรกจริง ที่เราได้เห็นน้ำตาของไผ่ เขากล่าวขอบคุณทุกคนที่มารวมตัวอยู่ที่นี่และพูดว่า เขารู้สึกว่าเพลงนี้เป็นเพลงที่เขาเขียนได้ดีที่สุด จากท่อน ‘มาเถิด มา มะมา มาเถิดหนา’ และเขาดีใจที่ทุกคนชอบเพลงนี้ ซึ่งมันอาจจะไม่ได้ตอบคำถามที่ทุกคนมักจะสงสัยว่า ‘ศิลปินอยู่เพื่ออะไร แต่ศิลปินต้องภาคภูมิในใจ’ ซึ่งเราก็ภูมิใจในตัวทุกคนที่อยู่บนเวทีนี้เช่นกัน แต่แล้วผู้ชมก็ไม่ยอมให้ความประทับใจหยุดอยู่แค่นี้ เมื่อขออังกอร์เพลง มาดามอโศก กันอีกซักรอบ ในท่อน ‘ขออย่าให้เรา ต้องเจ็บปวด โดยไม่จำเป็นอีกเลย’ ที่เต๊นท์ร้องขึ้นมา ก็มีแฟนเพลงร้องแซวเขาอีกครั้ง ก่อนที่ไผ่จะกลับมาช่วยร้อง และแฟนเพลงทุกคนก็ประสานเสียงกันจากเสียงดังที่สุด และผ่อนเสียงค่อยไปจนจบเพลง

‘แม้ว่าศิลปินจะร้าวรานใจสลาย แต่เรายังเขียนดวงใจ เพราะคุณเราเขียนดวงใจ’ นี่ก็เป็นอีกครั้งในหลาย ครั้งที่พิสูจน์ว่าคอนเสิร์ตที่ศิลปินตั้งใจ และแฟนเพลงเหนียวแน่นพร้อมสนับสนุน สามารถทำให้เกิดงานดี ขึ้นมาได้งานนึงโดยไม่จำเป็นจะต้องเล่นในที่สเกลใหญ่โปรดักชันอลังการ เป็นอีกครั้งที่เราไม่อยากให้คอนเสิร์ตจบลงไปง่าย แต่งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา เป็นอีกครั้งที่เรากลับบ้านไปแบบต้องเปิดเพลงของศิลปินวงที่เพิ่งได้ดูสดฟังซ้ำวนอีกหลาย รอบเพราะรู้ตัวว่าจะไม่ได้ดูพวกเขาไปอีกนานแต่สองปีมันก็สั้นแปปเดียวแหละ แล้วจะรอนะ

Facebook Comments

Next:


Montipa Virojpan

อิ๊ก เนิร์ดดนตรีที่เพิ่งกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นนักเขียนตอนอายุ 25 ชอบเดินเร็ว นอกจากขนมปังกับกาแฟดำแล้วก็สามารถกินไอศกรีมกับคราฟต์เบียร์แทนมื้อเช้าได้