เมื่อดวงจันทร์เป็นใจให้เราได้มาเจอกันอีกครั้งใน SangSom presents ฟังใจฟังจันทร์ Episode 2
- Writer: Montipa Virojpan
- Photographer: Teeraphat Janejai
12 พฤษภาคม 2560
จากที่ทุกคนสนุกสุดเหวี่ยงไปกับงาน SangSom presents ฟังใจฟังจันทร์ – Episode 1 เมื่อปลายเดือนที่ผ่านมา ก็ได้เวลาที่จะมาสนุกกับ Episode 2 ที่ฟังใจได้เนรมิตให้ Play Yard ร้านประจำแห่งลาดพร้าวซอย 8 กลายเป็นปาร์ตี้อิเล็กทรอนิกขนาดย่อม ๆ เพราะได้ชักชวนวงดนตรีที่น่าจับตามองและวงระดับตำนานที่มากความสามารถทั้งสิ้นมาอยู่บนเวทีเดียวกัน ทั้ง Yellow Fang, TELEx TELEXs, River Rhyme และ SOLE ซึ่งงานจะสนุกนัวขนาดไหน เชิญติดตามได้ที่ย่อหน้าต่อไปนี้
เวลาสองทุ่มครึ่งไม่ขาดไม่เกิน ภายในโซนเล่นสดของร้านก็คลาคล่ำไปด้วยแฟนเพลงที่เราไม่ค่อยคุ้นหน้า แต่ทุกคนมาประจำที่เพื่อรอดูวงแรก TELEx TELEXs วงซินธ์ป๊อปไฟแรงที่โดดเด่นด้วยซาวด์ 80s แต่มีจังหวะทำนองต่าง ๆ ออกมาเป็นอัลเทอร์เนทิฟร่วมสมัย ซึ่งเพลงแรกที่พวกเขาเล่นคือเพลงดังอย่าง Shibuya แม้ว่าช่วงแรก ๆ ออม นักร้องนำเสียงจะตก แต่ก็มากู้เกมได้ในเพลง 16090 ด้วยเมโลดี้ป๊อปสุดเพราะประหนึ่ง city pop ญี่ปุ่นทำให้ติดใจเพลงนี้เพิ่มอีกเพลง ซึ่งมารู้ภายหลังว่า Mommy’s Boy ที่มาร่วมแร็ปก็คือ นิค Part Time Musicians นั่นเอง จากนั้นก็เป็นเพลง ดีออก และ Bad Old Day อีกหนึ่งเพลงเพราะที่สลับให้ปิ้ว มือซินธ์มาร้อง ซึ่งใช้น้ำเสียงได้เข้ากับเพลงแบบนี้ทีเดียว ต่อด้วยเพลงภาษาอังกฤษ ถาม เรือใบ ปิดท้ายที่ La Belle ซึ่งมีแฟนเพลงร้องตามได้อย่างพร้อมเพรียง จากโชว์แรกที่จบไป ทำให้เราคาดหวังกับ lighting ในโชว์ที่เหลือทันที เพราะแสงสีเขาจัดมาให้สวยงาม ทั้งเฉดชมพู ม่วง แดง ตามสูตรซินธ์ป๊อป 80s ในอุดมคติ
พอสามทุ่มครึ่งก็เป็นโชว์จาก River Rhyme สามหนุ่มแร็ปเปอร์ที่แฟนคลับของพวกเขาล้นหลาม หลังจากไปสร้างชื่อลือกระฉ่อนมาในรายการ Rap Is Now ซึ่งคราวนี้พวกเขาไม่ได้มาเป็นหนุ่มป๊อปบอยแบนด์แบบครั้งก่อน แต่เปิดตัวด้วยเพลง Welcome ที่เป็นร็อก ฮิปฮอป พร้อมด้วยประโยคเด็ด ‘ชื่อกูจำง่ายแค่สามพยางค์’ ทางด้าน Black Sheep หนึ่งใน RR ได้ชื่อว่าเป็นคนที่แร็ปได้เก่งมาก แม้วันนี้เขาจะป่วยแต่แร็ปได้รัวและลื่นไหลจนเราทึ่ง จากนั้นก็เป็นเพลงที่ซอฟต์ลงกว่าเพลงแรก Like a Bird ที่ทำออกมาในสไตล์ R&B ตามด้วย Work ที่เป็นนีโอโซลสุดเพราะ และ Night ที่เป็นป๊อปฟังก์ช้า ๆ หรือเพลง น้อยเกินไป มากกว่าที่เธอรู้ ที่ดึงเรากลับมาทางป๊อปโซล จากนั้นก็เป็นช่วงที่ MAIYARAP โชว์เดี่ยว เรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนคลับอย่างล้นหลามกับเพลง How are You? และ คงจะดี ปิดท้ายด้วยโชว์ครบสามคนที่เพลงแร็ปเพื่อชีวิตชื่อ ขณะที่หายใจ เราพบว่า RR เป็นแร็ปเปอร์อีกกลุ่มที่ผสมผสานแนวเพลงได้หลากหลาย และเลือกจะเอาความป๊อปมาขับให้สเน่ห์ของการแร็ปสามารถเข้าถึงคนฟังได้ง่าย โชว์นี้ได้แอ๊ป Mattnimare มาเล่นคีย์บอร์ดให้ด้วย
โชว์ต่อไปก็เป็นคิวของ SOLE ไซด์โปรเจกต์ที่ได้อิทธิพลจาก rave scene ยุค 80s 90s หรือบางเพลงก็ผสานกลิ่นไซคีเดเลียหน่อย ๆของเติ้ล The Whitest Crow ที่ชักชวนเพื่อนนักดนตรีที่จะหมุ่นเวียนกันไปในแต่ละโชว์ มาเล่นเพลงอิเล็กทรอนิก ทรานซ์ หัวรุนแรง บ้าคลั่ง แต่สนุกสัส ๆ ซึ่งวันนี้ก็ได้ เบ็น และ อ๋อง จาก TWC มาเล่นกลองและคีย์บอร์ด, จิมมี่ Lord Liar Boots เล่นกีตาร์, บี วง Palin เล่นดรัมแพด และแอ๊ป Mattnimare มาเล่นเบส อย่างวันนี้พวกเขาพกซาวด์เอฟเฟกต์เปิดรายการ หรือเสียงตบมุกมาเล่นตลก เอ้ย สร้างความบันเทิงให้กับโชว์ คือคนดูขำกันอร่อยเลยแหละ เพลงเป็นอินโทรที่ร้องว่า ‘ผมเสพดนตรี แล้วผมผิดอะไร’ เป็นอะไรที่เข้ากับธีมเอเย่นต์ค้าเสียงเพลงของวงได้ดี ต่อด้วย Far From Home, Psycho Killer วันนี้พวกเขาเล่นเพลงใหม่ที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ให้มาลองเต้นกันก่อน ตามมาด้วย Call Me, Hope You Like I Did It จากนั้นก็มีแขกรับเชิญอย่าง นิว Shark Boy Alive มาร้องเพลงของวงเขาเองในเวอร์ชันอิเล็กทรอนิกยุคเก่าสุดซิ่ง และเป็นเพลงแดนซ์ที่เน้นไลน์กีตาร์เท่ ๆ หนึ่งเพลง ต่อด้วย Don’t You Know และ สาย 4 อิเล็กทรอนิก โดยให้จิมมี่ขึ้นมาร้องเพลงวงตัวเอง ก็มีแอบเล่นผิดกันเล็กน้อยในตอนแรก ก่อนปิดโชว์ด้วย Like a Magic ให้เต้นยุบยับกันไป
จากนั้นก็ได้เวลาของวงสุดท้ายในค่ำคืนนี้ สามสาวพี่ใหญ่ Yellow Fang กลับมาสร้างความตื่นตาตื่นใจอีกครั้งด้วย electronic set ที่เรายังไม่เคยดูเธอเล่นมาก่อนเลย ได้ยินมาว่าดีงามมาก ซึ่งวันนี้ก็กำลังจะได้ดูได้ฟังกับหูตัวเอง เปิดมาด้วยเพลง Morning งานสไตล์ใหม่ที่เซอร์ไพรส์เรามากในช่วงแรกที่ออกมา ในโชว์นี้ก็ถูกปรับให้เป็นซาวด์อิเล็กทรอนิกมากขึ้นเป็นพิเศษ ตามมาด้วย Unreal ที่ค่อนข้างไปทาง house เต้นเพลิน ๆ หน่อย ก่อนที่จะชวน พีท Plern Pan Perth ขึ้นมาแจมในเพลง Valentinos ที่ดนตรีทำให้เรานึงถึงสไตล์เพลงดิสโก้เบา ๆ แบบ Sophie Ellis-Bextor คือน้อย เก๋ ดูมีสไตล์ ไม่โฉ่งฉ่าง ซึ่งพีทก็ดึงเอาอุปกรณ์ทดลองทางเสียงอย่างวิทยุทรานซิสเตอร์ของเขามาใช้ในโชว์นี้เช่นกัน ถือว่ายังเรียกความขลังความเหวอจากคนดูได้เช่นเคย และเรารู้สึกว่าเวอร์ชันนี้เป็นการแจมกันที่เท่มากของทั้งสี่คน เพราะนอกจากเสียงสด ๆ จากวิทยุแล้ว ก็ยังมีเสียงขลุ่ยอิมโพรไวส์คลอไปกับซินธ์ที่เดินทำนองหลักด้วย
หลังจากพีทจบโชว์พาร์ตของเขาแล้ว จึงเป็นเพลง พลั้ง ที่ออกไปทาง chill wave ซึ่งตอนนี้ทีม lighting ผสมสีสวยมาก ไล่จากชมพู ฟ้าอมเขียว ไปน้ำเงินนวล และสีเขียวสว่าง เข้ากันดีมากกับอารมณ์เพลง แต่พอเล่นไปได้ครึ่งนึง วงก็สลับกลับมาเล่นแบนด์ตามปกติ แม้จะดูขลุกขลักบ้างแต่ชื่นชมที่มีการผสานแนวดนตรีทั้งอิเล็กทรอนิกแบบใหม่และแบบเก่าที่เป็นการาจสด ๆ เหมือนเอาใจแฟนเพลงที่รอมาฟังวงแบบดิบ ๆ ด้วยเหมือนกัน แล้วพวกเธอก็ต่อกันด้วยเพลง ห่มผ้า ที่คนดูเริ่มร้องตามกันเสียงดัง ก่อนจะเป็นเพลง แค่เพียง ซึ่งเป็นเพลงล่าสุดที่ปล่อยออกมาให้ฟังกัน และปิดด้วยเพลง ห่มผ้า อิเล็กทรอนิก ที่แป๋ง นักร้องนำ พยายามชวนให้คนดูขึ้นมาร้องด้วยกันบนเวที แต่ไม่เป็นผลจนโชว์จบไป
แต่งานยังไม่จบเสียทีเดียว เพราะแฟนเพลงเรียกร้องให้พวกเธอเล่นเพิ่ม หลายคนรีเควสต์ให้เล่นเพลงดังอย่าง เก็บผ้า (ส่วนฉันเองอยากฟัง หมึก ใหม่ ปิ๊กโก้ มาก) แต่พวกเธอก็เลือกที่จะเล่นเพลง I Don’t Know และ หมึก ใหม่ ปิ๊กโก้ ค่าาาาาา บอกเลยว่าเต้นยับ ร้องสุดเสียงจริง ๆ ฮะ เป็นโชว์ที่สนุก ครบรส และมีเซอร์ไพรส์ตลอดโชว์จริง ๆ
ถือว่างานนี้เป็นอีกงานที่ unlock อะไรหลาย ๆ อย่าง เราเซอร์ไพรส์กับความสามารถของศิลปินหลาย ๆ คน ได้ฟังเพลงโปรดในเวอร์ชันที่ต่างออกไป และเต้นแบบลืมเหนื่อย นอกจากนี้เราแอบสังเกตคนดูรอบ ๆ งาน เห็นว่ามีคนฝรั่งเศสสามคนตั้งใจมาดูงานนี้โดยเฉพาะ แล้วระหว่างที่พวกเขาดูวงอย่าง River Rhyme เขาโยกหัวและหันมองหน้ากันพร้อมยิ้มชอบใจ ยิ่งพอเป็น SOLE ก็เต้นยับอยู่ข้าง ๆ เราเนี่ย แต่ที่ไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่คือครึ่งหลังของกลุ่มคนดูตะโกนคุยกันเสียงดังเกินกว่าที่รับได้จนต้องย้ายมาอยู่โซนข้าง ๆ หรือหน้า ๆ มีตอนที่อิฉันดู TELEx TELEXs หนุ่มสาวข้าง ๆ ยืนคุยกันแบบที่นี่ก็ไม่ได้อยากจะเสือกแต่รู้ใจความหมดแล้ว ไหนเจ้าหล่อนจะอัดคลิปศิลปิน พร้อมด้วยการวิดิโอเซลฟี่ตัวเองอยู่นานสองนาน ขอบคุณนะคะที่ออกไปสูบบุหรี่กันตอนวงจะเล่นจบแล้ว (หึ) หรือแฟนเพลงบางกลุ่มที่ไม่ค่อยน่ารัก ตะโกนโหวกเหวกตลอดโชว์ ได้ยินชัดแจ้งเต็มสองรูหูว่า “ใครเหยียบเล็บขบกู” ไม่รู้ว่าเมาแล้วโดนเหยียบเล็บขบจริง ๆ จนเจ็บและโมโห หรือตั้งใจสร้างสีสัน (?) ในงานกันแน่
ก็ฝากกันไว้นะฮะเพื่อสังคมการชมการแสดงสดที่นอกจากจะได้ฟังเพลงดี ๆ แล้วทุกฝ่ายจะได้สนุกและมีความทรงจำดี ๆ กลับบ้าน แล้วมาเจอกันอีกในระเห็ดเตร็ดเตร่ SangSom presents ฟังใจฟังจันทร์ – Episode 3 งานสุดท้าย ไม่นานเกินรอจ้า
