Article ระเห็ดเตร็ดเตร่

Seen Scene Space x Lido Connect เต้นตั้งแต่ทุ่มยันเที่ยงคืนในโรงหนังที่เราคิดถึง

  • Story and photos by Montipa Virojpan

เมื่อคืนนี้มีงาน Seen Scene Space x Lido Connect ฟรีคอนเสิร์ตดี ที่เหมือนเป็นการต้อนรับการกลับมาของโรงภาพยนตร์ลิโดมัลติเพล็กซ์ (Lido Multiplex) ในชื่อใหม่ Lido Connect แถมภาษาไทย (ลิโด้) ยังสะกดแบบเพิ่มไม้โทเข้าไปให้เหมือนกับที่เราออกเสียงกัน ซึ่งถือว่าเป็นการรำลึกความหลังและเปิดรับการเปลี่ยนแปลงของสถานที่ที่เราคิดถึงได้ดีมาก เมื่อเราได้กลับเข้าไปเยี่ยมโรงภาพยนตร์ที่ 2 อันแสนคุ้นเคยก็พบว่ามันได้ถูกปรับเปลี่ยนหน้าตาให้ดูร่วมสมัยขึ้นและกลายมาเป็น live house ที่มีชั้นต่างระดับเป็นขั้น ถูกทิ้งให้ดูต่างหน้าแถวเก้าอี้โรงหนังที่แก้มก้นเคยสัมผัส โดยงานวันนี้ก็มีวงคุณภาพถึง 5 วงทั้ง SLUR, electric.neon.lamp, Moving and Cut, Folk9 และ temp. มาร่วมเล่น บอกเลยว่าครบรสมาก แต่ถ้าอยากรู้ละเอียด ก็เลื่อนมาอ่านย่อหน้าต่อไปกันเลย

คอนเสิร์ตครั้งนี้ให้เข้าได้ฟรี แต่ก็ต้องมีการลงทะเบียนเพราะถ้าเกินจำนวนที่สถานที่จุได้อาจจะทำให้ผู้ชมเสียอรรถรส ซึ่งเราได้ยินมาว่ามีถึง 600 ชีวิตที่มาร่วมงานนี้ และทำให้ทางสถานที่ต้องปิดรับลงทะเบียนไปช่วงที่คอนเสิร์ตเริ่มไปได้ไม่นาน (มีคนบอกว่าเป็นไม่กี่ครั้งที่เห็นลิโด้มีคนต่อคิวเข้าโรงเยอะขนาดนี้) ส่วนเรามาถึงตอนเวลาประมาณทุ่มสิบห้า temp. กำลังคัฟเวอร์ Miss You Like Crazy ของ The Moffatts อยู่ แหม๊ ย้อนวัยกันสุด

จนจบเพลง นิค ฟรอนต์แมนถึงกับประกาศออกไมค์ขอพูดถึงความหยาบคายอีกครั้ง ขอความร่วมมือทุกท่านแสดงความเกรี้ยวกราดที่ท่านมีเรียกเสียงฮาครืนและเสียงหวีดได้ตามสั่ง คือเดาว่าก่อนหน้านี้คนดูน่าจะสุภาพ ดูกันอย่างเงียบเชียบใช้ได้ นิคเลยต้องงัดต้องบิลด์กันขนาดนี้ ต่อด้วยเพลง Adult Video ท่อนโซโล่นี่ได้ยินเสียงกรี๊ดลั่น ไม่รู้ว่าใครแต่ทำให้เผลอคิดไปว่า อุณ มือกีตาร์มีแม่ยก ตอนจบเพลงนี่คนดูก็เฮลั่น บรรยากาศเริ่มคึกคักโวยวายกันละ โดยหนึ่งในนั้นก็มีเสียงคุ้น ของ จิน อดีตสมาชิก ที่รอบที่แล้วก็ป่วน temp . ในงาน PLOT ที่ Nineteens Up มาอย่างสนุกสนาน จากนั้นก็เป็นเพลง Señor Hyde กับจังหวะละตินน่ารัก หลังจบจะแจกหนังสือสมบัติผู้ไม่ดีให้ทุกท่านนิคพูดตอนเล่นจบเพราะคนดูก็ยังเรียบร้อยกันอยู่ 

ใครอยากร้องอะไรก้ร้องเลยนะครับจนเพลง Ring Ring ขึ้น คนดูก็เฮดังมาก ตามด้วย Miss Summer ที่โชว์นี้ รุจ มือทรัมเป็ตคนใหม่ก็เป่าเข้าท่อนกิมมิกของเพลงได้คล่องขึ้นแล้ว จากนั้นก็เป็นช่วงพูดคุยอีกครั้งอยู่มาหลายปี  เพิ่งเจอวงชื่อเหมือนพร้อมกับได้ยินเสียง จิน ตะโกนอันนยองฮาเซโยเพราะก่อนหน้าเนี้ย temp. ดันไปเจอวงเกาหลีที่ชื่อ Temp เหมือนกันไม่กลัวว่าเพลงจะสู้ไม่ได้ แต่หน้าเนี่ย…” เอาไปอีกหนึ่งฮาขอตักเตือนเพื่อน ที่ชอบวงชื่อเหมือน วงกูไม่ใช่วงนั้น หาอะไรในทวิตไม่เจอเหี้ยไรเลยแต่ด้วยความออกรสทำให้นิคลืมตัวพูดคำหยาบไปบ้าง แต่บันเทิงมาก ฮ่า ๆๆๆ แล้วก็ตัดเข้าช่วงแนะนำสมาชิกวงได้อย่างลื่นไหล ก่อนจะต่อกันในเพลง Moonshine และ Motel California ซึ่งคนดูช่วยร้องลั่นโรง ขนลุกมาก ต้องบอกว่าโชว์นี้เป็นอะไรที่เต็มสำหรับ temp. เหมือนกัน คือครบถ้วนความสนุก วงเล่นกันเนี้ยบอยู่แล้ว ซาวด์ของโรงหนังก็ดี เพิ่มพาร์ต stand up comedy มุกกระจายยิ่งโคตรบันเทิงเลย

บรรยากาศยังคงคึกครื้นอยู่เมื่อเพลงที่เปิดคั่นระหว่างวงเซ็ตอัพเป็นเพลง นางรอง ของ electric.neon.lamp ผู้ชมหลาย คนก็ร้องออกมาดังลั่น จนเวลาสองทุ่ม Folk9 ก็พร้อมเล่นแล้ว เปิดมาด้วยเพลงแรกจังหวะน่ารัก ใน Plant ต่อด้วย The Waiter กับซาวด์แต๊แนแหน่วสุดจะติดหู โดยครั้งนี้เรารู้สึกว่าเขาเล่นกันร็อกขึ้นแฮะ แล้วก็เป็นเพลงเท่แอบเซ็กซี่ Erotic Scene และเพลงซึม ล่องลอยใน Mermaid

พอจบเพลงก็มีเวลาให้วงเซ็ตนั่นนี่กัน เราได้ยินเสียงเรียกพี่เจื้อก!’ มือเบส จากจารย์จินคนเดิมนั่นเอง ฮ่า แล้วก็เป็นเพลงแจงเกิ้ลป๊อปน่ารัก Morning Day และ China Town ที่เหมือนปรับกีตาร์ตอนอินโทรฟังแล้วนึกถึงวงบริตป๊อปเท่ เลย แล้วโดยรวมทั้งเพลงมีความเป็น dream pop อินเตอร์มาก ก่อนจะเป็น Lavender เพลงนุ่ม ที่ตอนท้ายเพลงนี่ซาวด์อย่างแน่น ตามด้วย Romantic Scene ย้วย ๆ หวาน ๆ แล้วปิดท้ายที่เพลงฮิต แว่นกันแดด แต่เมื่อจบเพลง ก็มีเสียงตะโกนอังกอร์กันลั่นโรง รู้สึกดีใจและขนลุกแทนวง ซึ่งพวกเขาก็จัดเพลง ผลดอกไม้ ให้เป็นของแถม มีคนช่วยตบมือกันอย่างขันแข็ง สนุกมาก

จบจากตรงนี้เราก็นึกขึ้นมาได้ว่าที่โรง 3 เขามีอีกกิจกรรมนึงที่น่าสนใจมาก คือ NYLON Silent Disco ที่เราก็น่าจะคุ้นเคยกันอยู่แล้วกับนิตยสารแฟชันดนตรีหัวนี้ที่จัด slient disco อยู่บ่อย ถามว่ามันคืออะไร มันคือปาร์ตี้ที่ทุกคนจะได้รับหูฟังคนละอัน แล้วสามารถเปลี่ยนช่องได้ตามใจตัวเอง โดยในวันนี้ก็มีดีเจ 4 คนคัดสรรเพลงเด็ด แนวต่าง กันไปให้เราได้ฟัง และสองคนในนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็น ปิ้ว กับ นาว TELEx TELEXs นั่นเอง พอเราลงทะเบียนและรับหูฟังมาเรียบร้อย ก็เข้าไปในฮอล ทุกอย่างเหมือนจะเงียบนะ แต่เราได้ยินคนในฮอลใส่หูฟังมีไฟกระพริบและร้องเพลง Baby ของ Justin Bieber กันอยู่อะแกร๊ เป็นโมเมนต์ที่เซอร์มาก กับคนกลุ่มน้อยที่เต้นไม่ตรงจังหวะกับชาวบ้านเพราะเขาฟังช่องอื่นอยู่ เราก็ลองกดหาช่องที่ชอบและเริ่มเต้นแบบไม่สนใคร เพลงที่เจอก็มีทั้ง JungleHeavy, California แล้วไหนจะฮิปฮอป นูดิสโก้ เฮาส์ ช่องอื่น ก็มี Cardi BBodak Yellow, Chandalier ของ SIA มี Solo ของ Jenny Blackpink ด้วยเอ้อ แต่เต้น ไปซักพักก็เห็นว่าได้เวลาอันสมควรก็ขอกลับไปที่งานเดิม

เรามาทันดู Moving and Cut ตอนเพลงท้าย และทันเห็นทะเลแฟลชจากเบื้องบนส่องไสว เสียงร้องของคนดูคลาคล่ำทำให้พบว่าวงนี้มีแฟนคลับไม่น้อยคอยให้การสนับสนุน ที่สำคัญคือร้องได้ทุกคำ ทุกเพลง! เยี่ยมไปเลยฮะ จนสักพักหนึ่ง electric.neon.lamp ก็พร้อมแล้ว จัดไปหนัก กับเพลงแรก รถไฟแห่งความฝัน แค่นี้ก็เต้นตัวโยกแล้วแม่ ต่อด้วย เธอที่ร้าย ที่ทำเอาคนดูเริ่มอยู่ไม่นิ่ง

แล้วยังได้ใส่อารมณ์กันต่อใน เสียเวลาว่ะ กับเพลงกลาง ในอัลบั้ม How To Disappoint You Parents อย่าง เสมอ และเป็นเพลงช้าเพราะ จากชุดเดียวกัน บางครั้ง..แค่บางครั้ง ที่สะกดเราอยู่จริง แล้วก็เป็นเพลงที่เราจะได้ฟัง เจน ฟรอนต์แมน ได้โชว์เสียงร้องสุด emotional ที่ทำได้ดีมาก ซึมไปพักนึงเลย แล้วขยี้ความช้ำด้วยอีกเพลงฮิตที่หนึ่งในใจคนเจ็บ ภาวิณี ที่ทุกคนช่วยกันร้องได้เสียงดังฟังชัด ก่อนจะเล่นเพลงใหม่ เจ็บแล้วไง ชวนโยกกันให้เอวเคล็ด และปิดท้ายที่ นางรอง รู้ว่าเธอหลอกกกก สุดมันไปเลยพะยะค่ะ

Lido Connect

มาถึงวงสุดท้ายของค่ำคืนนี้ ร็อกรุ่นพี่ SLUR เปิดมาด้วยเพลงสุดเก๋าจังหวะแบ็กกี้ใน อย่าหวัง ที่คนดูก็ยังสนุกอยู่จากวงก่อนหน้าและได้มาดีดกันต่อใน ไม่ใช่มนุษย์ ชอบบรรยากาศที่ทุกคนช่วยกันร้องและตบมือ รวมถึงกระโดดแบบสุดตัวในโชว์นี้ บู้ มือเบส ทักทายแฟนเพลงและบอกว่านี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้มาเล่นที่ลิโด้ เป็นโรงหนังที่อยู่คู่กับเรามาหลายสิบปีซึ่งหนนี้ก็เป็นโอกาสพิเศษมากจริง ที่ลิโด้กลับมาอีกครั้งในรูปโฉมใหม่พร้อมพื้นที่สนับสนุนความบันเทิงเต็มรูปแบบ แล้วพวกเขาก็เล่นเพลง หากใจ จากอัลบั้ม B ละ เพราะทุกครั้ง แล้วก็ขอเบรกความสนุกไว้ด้วยความเศร้าแบบเท่ สักหน่อยใน ช่วงเวลา งานคัฟเวอร์ของ Zweed N’ Roll จากโปรเจกต์ Crossplay ของฟังใจนั่นเองแหละจ้า

Lido Connect

เอ้า ยังซึมไม่พอใช่ไหม ตามไปร้องไห้ต่อใน หรือ ให้หนำใจ แล้วค่อยกลับมาโดดในเพลงที่พวกเขาว่าจะเล่นเป็นเพลงสุดท้ายนั่นคือ โรคจิต แต่พอจบเพลงก็เล่น Fashion Design จากชุกแรกกันต่อ ตามด้วย ว่าแล้ว ที่ไม่ได้ฟังนานมาก ๆๆๆๆ โอ้ย ครบเครื่อง และปิดท้ายด้วย เซโรงัง ริฟฟ์กีตาร์มันชั่งพุ่งพล่านถูกใจวัยมันอะไรยังงี้ แถมท่อนเบรกดาวน์ด้วยเพลง ชิพกะเดล เร็กเก้เวอร์ชันให้ด้วยอีกแน่ะ โห รู้สึกว่าเป็นอีกโชว์ของ SLUR ที่สนุกมาก นึกถึงตอนงานครบรอบร้าน NOMA ที่อันนั้นคนดูจะใกล้ชิดกับวงด้วยสถานที่บังคับและเดือดเหงื่อท่วมสุด แต่อันนี้คือด้วยระบบเสียง เพอร์ฟอร์แมนซ์ และไลท์ติ้ง วิชวลกราฟฟิกด้านหลังที่เท่และสีสวยมาก ทำให้เป็นโชว์ที่สนุกไม่แพ้กันเลย เลิฟ

Lido Connect

สามารถพูดได้ว่า น่าจะฟินทั้งวงที่มาเล่น และคนดูที่ได้รับประสบการณ์การฟังดนตรีสดที่ดีจากโรงหนังที่เราคุ้นเคย ขอบคุณ Seen Scene Space และ Lido Connect ที่จัดงานดี แบบนี้ขึ้นมา ไว้เจอกันระเห็ดหน้าจ้า

Facebook Comments

Next:


Montipa Virojpan

อิ๊ก เนิร์ดดนตรีที่เพิ่งกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นนักเขียนตอนอายุ 25 ชอบเดินเร็ว นอกจากขนมปังกับกาแฟดำแล้วก็สามารถกินไอศกรีมกับคราฟต์เบียร์แทนมื้อเช้าได้