Article ระเห็ดเตร็ดเตร่

Lindsey Jordan ฉายแววอินดี้ร็อกสตาร์ใน #JAMnight Live! with Snail Mail

11 ตุลาคม 2018

ผ่านไปแล้วกับการแสดงสดในเมืองไทยครั้งแรกของ Snail Mail หรือ Lindsey Jordan อินดี้ร็อกเกอร์สาวดาวรุ่ง จากเมืองบัลติมอร์ รัฐแมรีแลนด์ สหรัฐอเมริกา ที่โชว์ครั้งนี้พ่วงมาด้วยนักร้อง-นักแต่งเพลงสาวอีกสองท่าน ได้แก่ Deun และ Yanin ที่มาเสริมไลน์อัพในฐานะวงเปิด ด้วยบรรยากาศอันอบอุ่นของคืนวันพฤหัส ที่ Rockademy ถนนพระราม 4

สำหรับผู้ชมที่มาถึงงานตั้งแต่วงแรก เราขอแสดงความยินดีและอยากจะบอกว่าคุณคือผู้โชคดีที่ได้เป็นหนึ่งประจักษ์พยานในการแสดงสดครั้งแรกของ เดือน จงมั่นคง นักร้อง/นักแต่งเพลงที่เพิ่งออกโปรเจกต์ล่าสุดในช่ือ Deun ซึ่งก่อนหน้านี้ถ้าใครได้ไป Noise Market หรืองานโฟล์กเป็นประจำก็อาจจะเคยเห็นหน้าค่าตาเธอมาบ้าง และเธอยังเป็นอดีตนักร้องนำแห่งวง Sasi อีกด้วย

เรามาทันพี่เดือนตอนเริ่มเล่นเพลง Bang Bang ของ Sasi ไปได้สักระยะนึงแล้ว ทุกคนตั้งใจฟังกันมาก ๆ และน้ำเสียงของพี่เดือนเองก็สะกดคนดูทั้งฮอลอยู่หมัด แม้จะมีปัญหากับเอฟเฟกต์บ้างแต่ก็ไม่ได้ทำให้ความน่าสนใจบนเวทีลดลงแม้แต่น้อย ต่อจากนั้นก็เป็นเพลง ถ้า (If) ที่เราคุ้นเคยกับเวอร์ชันของ Humming Bert Stereo ซึ่งอันที่จริงแล้วได้พี่เดือนมาร่วมเขียนเนื้อเพลงด้วย แต่ในเวอร์ชันนี้เราได้เห็นความเศร้าหมองของเนื้อเพลงอีกแบบ เป็นเพลงที่เราชอบมาก ทั้งสองเวอร์ชัน 

ไขว่คว้า คือเพลงถัดมาที่พี่เดือนเลือกจะเล่น ซึ่งเป็นเพลงที่เล่นในงานนี้เป็นครั้งแรก สายตาของพี่เดือนสื่อสารกับคนดูได้ดี รอ ซึ่งพี่เดือนเผยได้แรงบรรดาลใจจากเพลงของ The Beatles เป็นเพลงที่ฟังสบาย แต่แอบรู้สึกถึงความเจ็บปวดแบบช้ำ ๆ ข้างใน แต่สุดท้ายแล้วถ้าเรารอได้ ความทุกข์เหล่านั้นก็จะผ่านไป

สุดท้ายพี่เดือนปิดโชว์ด้วยซิงเกิ้ลล่าสุดที่พึ่งปล่อยไป นี่ เป็นเพลงที่น่ารักมาก ๆ แต่ก็แฝงความเหงาในแบบฉบับของพี่เดือน สำนวนการเปรียบเปรยของพี่เดือนมีชั้นเชิงที่น่าสนใจถึงแม้เอฟเฟกต์กีตาร์จะขัดข้องทำให้เดบิวต์โชว์ของเธออาจจะยังไม่สมบูรณ์ตามสิ่งที่ต้องการจะนำเสนอนัก แต่ด้วยการถ่ายทอดอารมณ์และเสน่ห์ของพี่เดือนก็ทำให้บรรยากาศในค่ำคืนนี้รู้สึกได้ถึงความเศร้าผ่านหญิงสาวหนึ่งคนและกีตาร์ของเธอ

Yanin นักร้อง/นักแต่งเพลงที่เราขอยกให้เป็นไฮไลต์ของค่ำคืนนี้อย่างแท้จริง เราขอสารภาพตามตรงว่าแม้เราได้ยินกิตติศัพท์เกี่ยวกับผลงานของเธอค่อนข้างบ่อย และได้ยินเสียงของเธอผ่านการร่วมงานกับวง Mole The Explosion และโปรเจกต์ที่ทำร่วมกับเจ้าพ่อโปรดิวเซอร์เพลงอิเล็กโทรนิก้าในชื่อ Yanin x Casinotone แต่เรากลับไม่เคยได้คลิกเข้าไปฟังผลงานเดี่ยวของเธอเลยจริง ๆ ซึ่งหลังจากได้ฟังเธอสด ๆ เป็นครั้งแรกในวันนี้ถึงกับเขกหัวตัวเองเบา ๆ ก่อนจะถามตัวเองในใจซ้ำ ๆ ว่า มึงไปอยู่ไหนมา

หลังจากกลับบ้านมาหาผลงานของเธอฟังเพิ่มเติมจึงรู้ว่า เพลงของเธอในเวอร์ชันออดิโอมีความแตกต่างกับเวอร์ชันแสดงสดที่เพิ่งได้ดูไปอยู่มากทีเดียว จากบทเพลงอินดี้โฟล์กหม่น ๆ ที่กลิ่นอายของความ avant grade และภาษาที่สละสลวยเหมือนดังบทกวีในแต่เพลง ผ่านเสียงร้องหม่น ๆ แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง สู่เวอร์ชันแสดงสดที่ภาคดนตรีมีความเป็นอัลเทอร์เนทีฟร็อกที่ท่วมท้นไปด้วยอารมณ์ พอมารวมกับ lighting สวย ๆ ของงานคืนนั้น ทำให้การแสดงสดของเธอและเพื่อนในแต่ละเพลงได้พาทุกคนออกเดินทางไปในทะเลของความรู้สึก ทุกคนในงานต่างเงียบและตั้งใจฟังราวกับต้องมนต์สะกด ทางวงกดไปทั้งหมด 6 เพลงรวมถึงเพลงใหม่ที่ยังไม่ได้ปล่อยที่ไหนอย่าง หนังสือเดินทาง สรุปสั้น ๆ โชว์ของเธอวันนี้เป็นโชว์ที่เข้าขั้นสมบูรณ์แบบเลยทีเดียว เชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าหลาย ๆ คนที่เพิ่งได้รู้จักเธอเป็นครั้งแรกในงานครั้งนี้จะหลงรักเธอและเพลงของเธออย่างแน่นอน

และมาถึง headliner ของงานกับ Snail Mail เป็นอีกหนึ่งศิลปินที่เราไม่นึกไม่ฝันว่าจะได้ดูเธอสด ๆ ที่กรุงเทพ ฯ เร็วขนาดนี้ แต่เนื่องด้วยปัญหาสุขภาพที่ได้ทราบมาก่อนหน้านี้ว่าลินด์ซีย์ไม่สบายมาตั้งแต่ช่วงเริ่มของทัวร์ทำให้เธอไม่สามารถแสดงได้อย่างเต็มที่ ตลอดทั้งโชว์เราสามารถสังเกตเห็นอาการอ่อนล้าของเธอจากสีหน้าและเสียงร้องซึ่งต่างจากเวอร์ชันออดิโอที่มีความกระชับและจังหวะชวนโยกกว่า และ dead air ระหว่างโชว์ที่ค่อนข้างเยอะ ส่งผลทำให้บรรยากาศโดยรวมของโชว์ค่อนข้างเนือย

อย่างไรก็ตามเรารู้สึกว่าโชว์ครั้งนี้ของ Snail Mail ไม่ได้แย่ไปทั้งหมด ความประทับใจที่สุดในโชว์นี้สำหรับเราคือสปิริตของ Lindsey Jordan ที่พยายามเล่นและร้องอย่างสุดพลัง แม้จะตะกุกตะกักตามเงื่อนไขด้านสุขภาพและประหม่าที่เกิดการความไม่คุ้นชินในการมาต่างบ้านต่างเมือง ด้วยความสำเร็จที่มาถึงอย่างรวดเร็วด้วยวัยเพียง 19 ปี เราว่ามันคงเรื่องที่ทั้งตื่นเต้นและกดดันในเวลาเดียวที่ต้องเดินทางไกลมาครึ่งโลก มายังประเทศที่เธอไม่รู้จักที่ความแตกต่างทั้งในด้าน ชาติพันธุ์ วัฒนธรรมและภาษา ซึ่งถ้าเป็นเราในวัยเพียงเท่านั้นมันอาจจะออกมาแย่กว่านี้ก็เป็นได้ แต่เธอก็ยังกัดฟันสู้และพยายามเล่นแต่ละเพลงอย่างสุดความสามารถ แม้ปฏิกิริยาตอบรับของคนดูโดยรวมถือว่าค่อนข้างนิ่งแม้ในเพลงเด่นของเธออย่าง Thinning จาก EP Habit หรือ Pristine ที่อาจจะร้องเพลงของเธอกันไม่ค่อยได้ แต่ทุกคนก็ตั้งใจฟังและปรบมือส่งเสียงร้องคอยเอาใจช่วยเธอตลอดทั้งโชว์ ลินด์ซีย์เล่นไปทั้งสิ้น 13 เพลงด้วยเซ็ตลิสต์ที่ครอบคลุมงานผลงานทั้งสองชุดของเธอที่ปิดท้ายด้วยการเล่นคัฟเวอร์เพลง Second Most Beautiful Girl In The World ของ Courtney Love เป็นการปิดท้าย

Snail Mail

สำหรับเรา แม้ว่าโชว์ของน้องอาจจะไม่ได้ออกมาอย่างที่เราหวังนัก แต่ก็ไม่ได้รู้สึกเสียดายอะไร เรารู้สึกดีใจที่ในสุดเราได้พบกับศิลปินที่เราชื่นชอบตัวเป็น ๆ สักทีก่อนหน้านี้ทำได้แค่นั่งดู live session ของเธอใน Audiotree ซ้ำไปซ้ำมาเป็นเวลาร่วมปี ซึ่งเราก็เชื่อจริง ๆ ว่าหลาย ๆ คนในงานก็มีความปิติในแบบเดียวกัน และสุดท้ายเราต้องไม่ลืมว่าศิลปินก็คือมนุษย์คนนึงเหมือนกัน ที่อาจจะมีวันแย่ ๆ บ้าง ดีบ้าง ปะปนกันไป เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีโอกาสได้ดูเธอเล่นสดอีกครั้งในบ้านเราและยังอยากเห็นพัฒนาการของเธอในวันข้างหน้า ขอบคุณ Have You Heard? และ Jameson ที่นำเขาดนตรีดี ๆ ให้เราได้เสพเสมอมา

Facebook Comments

Next:


Krit Promjairux

kicking and screaming in Pistols99 อยากใช้ชีวิตเหมือน William Miller ในหนังเรื่อง Almost Famous.