Article ระเห็ดเตร็ดเตร่

Thundercat Live! by MY BEER ศึกสายเลือด เซียนเบส เซียนกลอง คนดูแทบลืมหายใจ

  • Story and photos by Tas Suwanasang

สิ้นสุดการรอคอยสำหรับยอดมือเบสและโปรดิวเซอร์มือฉมัง Thundercat ที่ได้แวะเวียนมาเล่นที่กรุงเทพ ฯ ซักทีใน Thundercat Live! by MY BEER พร้อมกับวงดนตรีแจ๊สเจ้าบ้านที่ฝีมือจัดจ้านไม่แพ้กัน Scoutland บอกเลยว่าได้ดูสองวงนี้คือหายใจแทบไม่ทัน ปล่อยพลังกันตู้มต้ามมาก ๆ

9 เมษายน 2562

เนื่องจากการจราจรที่น่ารักในกรุงเทพ ฯ เลยทำให้ไปถึงสถานที่เลตนิดหน่อยในเวลา 21:00 น. ก็เลยพลาด Scoutland ไปประมาณ 2 เพลง นี่เป็นโปรเจกต์ทริโอรวมดาวที่ประกอบไปด้วย ณป่าน มือกีตาร์วง Hariguem Zaboy ปอม มือกลองวง Beagle Hug และเพื่อนมือเบสของพวกเขา

ตอนที่เราเข้าไปในฮอลก็พบว่าเพลงที่สามผ่านไปเกือบครึ่งเพลง ในเพลงนี้มีความ avant garde/ experimental ฟังแล้วดูไม่ค่อยชิน แต่ส่วนตัวแล้วชอบองค์ประกอบในเพลงนี้มาก บวกกับการโซโล่เบสยาว ๆ ให้เราลุ้นตาม จบเพลงนี้พวกเขาได้แนะนำตัวและบอกว่าปลายปีจะมีอัลบั้มเต็มมาให้ได้ฟังกัน ใครเป็นสายฟรีแจ๊สต้องติดตามไว้ให้ดี ๆ เพลงต่อไปก็ขึ้นมาโดยมีเมโลดี้สวย ๆ ในตอนต้นเพลง ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นร็อกสาดคอร์ดพุ่งพล่าน แล้วก็มีการโซโล่กลองในตอนท้าย ส่วนเพลงสุดท้ายก็เริ่มมาแบบกรูฟ ๆ แต่ช่วงกลางเพลงมีการเล่นโน้ตแบบคร่อม ๆ ให้ไม่โฟลวไปกับจังหวะกลอง ก่อนที่จะเปลี่ยนอารมณ์กันในช่วงท้ายไปในทางเมทัล พาวเวอร์คอร์ดหนัก ๆ พาคนดูโยกกันน่าดู แล้วก็จบ opening act กันไปแบบเท่ ๆ ถือว่าเป็นออเดิร์ฟที่ไม่จัดจ้านจนเกินไป กำลังกลมกล่อม แต่ก็มีรสชาติเท่ห์มีเสน่ห์พอที่จะทำให้เราตกหลุมรักกัน

หลังจาก Scoutland จบลง ผู้ชมก็แยกย้ายกันไปดื่มเบียร์กันตามอัธยาศัย จนเวลา 21:50 น. โดยประมาณก็เดินกลับเข้าไปในฮอลเพื่อรอชม Thundercat วงขึ้นช้ากว่าตารางไปประมาณ 5 นาทีแต่พวกเราก็ไม่ติดขัดใด ๆ เพราะเพลงแรกที่จัดมาให้ทำเอาเราเซอร์ไพรส์มาก ๆ ใน Rabbot Ho ที่ร่ายมนต์ใส่เบสหนึบหนับ เร่งจังหวะขึ้นมาเป็น magic moment แบบที่ทุกคนต่างตื่นเต้นไปกับเพลง

แล้วก็ตัดเข้าเพลง Captain Stupido ซึ่งเป็นเพลงที่ต่อจากเพลงแรกในอัลบั้ม กลองเข้าจังหวะแจ๊สที่เร่งความเร็วให้เหมือนกับเป็นเพลงพังก์ซะดื้อ ๆ ไม่รีรอก็ตามด้วยเพลง Uh Uh ในเพลงนี้เป็นการเป็นการโชว์โซโล่เบสร่วม 4 นาที ซึ่งเรียกได้ว่าสามารถสะกดจิตคนดูได้ราวกับมีเวตมนต์ ในช่วงท้ายเพลงได้มีการผสมไลน์เปียโนเข้าไป สำหรับผม นี่มันคือ jazz punk ดี ๆ นี่เอง พอจบเพลงทุกคนในฮอลพากันปรบมือพร้อมกับเฮกันลั่น ในระหว่างทีเฮกันอยู่นั้น เจ้าตัว Stephen Bruner กระซิบเบา ๆ ว่า ‘Thank you’ แล้วก็ขึ้นเพลง A Fan’s Mail (Tron Song Suite II) ทันที

เพลงจังหวะ r&b ชวนโยกเบา ๆ ให้คนดูได้พักกัน แล้วก่อนที่จะขึ้นโซโล่คีย์บอร์ดก็ได้แนะนำสั้น ๆ ว่า “Ladies and gentlemen, Dennis Hamm!” เป็นการโซโล่ที่แพรวพราวสวยงาม คนดูต่างพากันชื่นชอบอีกเช่นเคย แล้วก่อนจบเพลงเจ้าตัว Stephen ก็โชว์โซโล่สุดโหดอีกตามเคย โอยยย นั่นนิ้วคนหรือหุ่นยนต์ เว้นซักแปปก็ต่อด้วยเพลง Tron Song เป็นเพลงที่ขึ้นจังหวะไม่เร็วนัก แต่พอเข้าโซโล่คีย์บอร์ด กลับให้ไวบ์เหมือนฟัง Edgar Winter Group เวอร์ชั่น 2019 มาก ถึง Ronald Bruner Jr. น้องชายแท้ ๆ ของ Stephen จะตีพลาดไปบ้างในเพลงนี้ แต่ก้ถือว่าตีได้แน่น (แน่สิ เพราะRonald Bruner ผู้พ่อเป็นมือกลองวง The Temptations เลยนะ) โซโล่เบสก็สุดเหมือนเดิม (เบส 6 สายน่ะเอ้อ) ได้ใจทุกคนกันถ้วนหน้า คิดซะว่าความไวเป็นเรื่องของปีศาจละกัน เพลงนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในไฮไลต์ของงานเลยก็ว่าได้ ทั้งซาวด์ทั้งแสงทั้งการเล่นถือว่าไม่มีที่ติเลยทีเดียว

ไม่พูดพร่ำทำเพลงใด ๆ ทั้งสิ้นเจ้าตัวก็โชว์โซโล่เบสก่อนจะเข้าเพลง Jethro จากอัลบัม Drunk เช่นกัน เพลงนี้ดูเหมือนจะไม่หวือหวาอะไรมาก แต่กลับอัดแน่นไปด้วยไลน์เบสเท่ ๆ กับไลน์คีย์บอร์ดสวย ๆ จนตอนนี้ก็ยังไม่มีการทักทายใด ๆ เกิดขึ้น ก็ขึ้นเพลง Heartbreaks + Setbacks จากอัลบั้ม Apocalypse เหมือนจะให้คนดูได้พักหู แล้วมาโยกตามกันบ้าง  มีการเพิ่มโซโล่คีย์บอร์ดเข้ามา แล้วจบแบบหล่อ ๆ หลักจากที่ทักทายคนดูแล้วเขาก็จัด Lone Wolf and Cub ทันที เพลงนี้เป็นเพลงที่ได้ร่วมงานกับศิลปินชื่อดังอย่าง Flying Lotus ต่อด้วย Mono/Poly คนดูก็ได้ถูกสะกดจากโชว์โซโล่โหด ๆ จากเจ้าตัว Stephen, Dennis และ Ronald อีกครั้ง โดยกลองในเพลงนี้ใส่หนักกว่าทุกเพลง ทุกคนพร้อมใจกันเฮกันหลายยก พักหายใจซักแปปก็ร้องเพลงต่อไปขึ้นมาเลยเป็นเพลงช้าโชว์เสียงร้อง และต้องขออภัยด้วยครับ ไม่ทราบว่าเพลงนี้คือเพลงอะไร แต่ตอนจบเพลง Stephen  ได้กล่าวไว้อาลัยแด่ Nipsey Hassel (ที่เพิ่งได้เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา)

แล้วก็ต่อด้วยเพลง Song for the Dead ที่ยังเป็นเพลงช้าอีกเช่นเคยแต่ก็ได้เพิ่มท่อนโซโล่แน่น ๆ จากเครื่องดนตรีจากทั้งสามชิ้นเข้าไปในช่วงกลางเพลง หลังจากเพลงนี้จบลงก็ได้กล่าวประมาณว่า เพลงนี้สำหรับ Mac Miller แร็ปเปอร์ดาวรุ่งที่จากไป ซึ่งพวกเขาก็เคยร่วมงานกันมาก่อน แล้วเพลง I Am Crazy ก็ขึ้นในเพลงนี้ก็ได้ชมโซโล่คีย์บอร์ดหล่อ ๆ ที่มีไลน์เบสสวย ๆ ช่วยเสริมความเท่ แล้วก็ต่อด้วยเพลง Drunk ทันทีกับจังหวะชวนโยก พอจบเพลงก็เงียบซักพักแล้วถามว่า “Anybody else here drinkin’?” ก่อนจะจัดเพลง Drink Dat แต่ไร้ซึ่งท่อนแร็ปของ Wiz Khalifa ให้คนดูได้ร้องตามในท่อนฮุกอย่างพร้อมเพรียง 

หลังจากจบเพลง Stephen ก็ถามทุกคนว่ามีใครเคยไปโตเกียวบ้าง ผมรักโตเกียวจนต้องเขียนเพลงถึงมันเลยล่ะแล้วก้เริ่มเล่นอินโทรเพลง Tokyo ลูปเบส บวกกับซินธ์ที่ให้อารมณ์เหมือนอยู่ญี่ปุ่นต่างพาทุกคนดิ้นกันไม่หยุด ในเพลงนี้เป็นเพลงแรกที่ได้มีการโต้ตอบระหว่างคนดูกับตัวศิลปิน เขาได้บอกประมาณว่าอยากให้ทุกคนได้เข้าใจว่าเป็นยังไงที่ได้ไปโตเกียวตอนประมาณอายุ 18-19 กับเพื่อน แล้วก็ร้องท่อนต่อไปทันทีที่มีเนื้อหากวนประสาท ประมาณว่า ‘ผมพยายามทำให้คนคนนึงท้อง’ กับ ‘ผมไปหาหมอฟัน แล้วเขาให้ของเล่นมาเป็น Dragon Ball Z’ ก่อนที่จะจบเพลงที่ให้ทุกคนร้องท่อน ‘Goku fucking ruined me!!’ ซึ่งทุกคนให้ความร่วมมือเต็มที่ อินโทรเพลงต่อไปขึ้นทันทีก่อนที่จะปล่อยเป็นลูปแล้วถามคนดูว่าในนี้มีใครเล่นเกมบ้างมั้ย ? แล้วมีใครเล่น Mortal Combat บ้าง ? มีใครเล่น Overwatch บ้าง ? ฮ่า ๆๆ

แล้วเพลง Friend Zone ก็ขึ้นทันที เหมือนกับประมาณว่าเพลงนี้แต่งมาเพื่อไอพวกติดเกม ตอนสาวโทรมาตี 2 ก็จะไม่รับสายเพราะเล่นเกมอยู่จนโดนเฟรนโซน แล้วก็ให้ทุกคนร้องท่อนที่ร้องว่า ‘Friend zone’ ไปพร้อม ๆ กัน ก่อนเพลงสุดท้ายจะขึ้นก็ได้มีการแนะนำสมาชิกแต่ละคน แล้วงก็ขึ้น Them Changes เพลงดังของวงที่ทำให้ทุกคนเฮและเต้นตามกันยกใหญ่ ก่อนจะจบเพลงและลงจากเวทีก็ได้โชว์โซโล่อีกซักชุดให้แฟนเพลงอิ่มหนัมสำราญกันไปพร้อม ๆ กัน พอเพลงจบลงทุกคนต่างเฮดังมาก เขากล่าวขอบคุณเบา ๆ แล้วเดินลงจากเวทีไป แต่เหมือนแฟนเพลงพร้อมใจกันยืนรออังกอร์ และในไม่กี่อึดใจวงก็กลับขึ้นมาบนเวทีอีกครั้งเพื่อเล่นเพลง Oh Sheit, It’s X เป็นเพลงสุดท้าย

ก็ได้จบไปแล้วกับ Thundercat Live! by MY BEER ที่ Live Arena, RCA เมื่อคืนที่ผ่านมา เป็นงานที่ทั้งผมและเพื่อน ๆ ที่ได้ไปด้วยกันต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ‘โหดสัด!!’ ตลอดทั้งโชว์แทบจะไม่มีขอผิดพลาดอะไรเลย เสียอย่างเดียวแค่แอร์ร้อนไปนิดนึงครับ แหะ ๆ แต่ก็ขอบคุณ Have You Heard? มาก ๆ ที่พาวงนี้มาให้เราได้ดูกันและได้ทำความรู้จักกับ Scoutland ด้วยนะ

Facebook Comments

Next: