Article Guru

Psychedelic Rock 101 : ประวัติศาสตร์อย่างย่นย่อของไซคีเดลิกร็อก

  • Writer: Piyakul Phusri

ถ้าพูดถึง psychedelic rock คุณจะนึกถึงอะไรเป็นสิ่งแรก? สีสันลวดลายฉูดฉาดที่เคลื่อนไหวอย่างอิสระ ยาเสพติด ฮิปปี้ เสียงออแกน Woodstock ’69 Jimi Hendrix, Pink Floyd, หรือ The Doors?

Oxford English Dictionary อธิบายคำว่า psychedelia ว่า ‘ดนตรี วัฒนธรรม หรืองานศิลปะที่มีที่มาจากประสบการณ์อันเกิดจากการใช้ยาเสพติด’ ถ้าเราเชื่อตามนี้ ไซคีเดลิกร็อก ก็คงจะมีความหมายว่า ‘ดนตรีร็อกที่มีที่มาจากประสบการณ์ในการใช้ยาเสพติด’

ฟังดูไม่เข้าท่าเลยใช่มั้ย? เราก็คิดว่าอย่างนั้น เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะต้องใช้ยาเสพติดเพื่อที่จะเล่นหรือฟังไซคีเดลิกร็อก มันไม่มีดนตรีแนวไหนหรอกที่จำเป็นต้องใช้ยาก่อนถึงจะอิน แม้ว่าประวัติศาสตร์ของไซคีเดลิกร็อกจะเกี่ยวข้องกับยาเสพติดก็จริงอยู่ แต่ว่ามันไม่ใช่ทั้งหมด หรือ ไม่ใช่ ‘แก่น’ ของดนตรีแนวนี้

และ ไซคีเดลิก ไม่ใช่ ‘จุดหมายปลายทาง’ แต่คือ ‘การเดินทาง’ ต่างหากล่ะ…..

ไซคีเดลิกร็อก ถือกำเนิดขึ้นในช่วงปลายยุค 60s ถือว่าเป็นแนวดนตรีที่เป็นเหมือนสะพานเชื่อมระหว่างดนตรีร็อกในยุคแรกที่มีพื้นฐานจากดนตรีบลูส์ ไปสู่ progressive rock และ heavy metal ไซคีเดลิกร็อกเป็นผลผลิตจากขบวนความคิดต่อต้านโลกแบบผู้ใหญ่ของวัยรุ่นตะวันตกโดยเฉพาะในอเมริกาและอังกฤษ หรือที่รู้จักกันในชื่อขบวนการฮิปปี้ พวกเขาเบื่อหน่ายสังคมทุนนิยม เบื่อหน่ายโลกที่มีแต่ความรุนแรง สงคราม ความเอาเปรียบของนายทุน จึงหันหลังให้ระบบดังกล่าวแล้วหันมาให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมกันของมนุษย์ มิตรภาพ สันติภาพ ธรรมชาติ และความรัก ต่อต้านระเบียบกฎเกณฑ์ของสังคม ปฏิเสธความรู้แบบโลกตะวันตกและหันมาศึกษาหาความรู้จากโลกตะวันออก โดยเฉพาะปรัชญาจากอินเดียและทิเบต รวมไปถึงการใช้ยาเสพติดเพื่อการเข้าถึงประสบการณ์พิเศษทางจิตต่าง ๆ

ไซคีเดลิกร็อก เกิดขึ้นจากแรงบันดาลใจที่นักดนตรีได้รับจากสิ่งเหล่านี้ การใช้ยาเสพติดหลอนประสาท โดยเฉพาะ LSD หรือที่เรียกกันว่า acid ทำให้ผู้ใช้สามารถ ‘เดินทางในจิตใจ’ เพื่อไปพบกับประสบการณ์ทางจิตที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ในยามปกติ รวมไปถึงประสบการณ์ในการมองเห็นที่ผิดเพี้ยนแต่สวยงาม และประสาทที่ไวต่อสิ่งเร้าจำพวกแสงสีมากขึ้น นักดนตรีไซคีเดลิกร็อกยุคแรก ๆ จึงพยายามถ่ายทอดประสบการณ์ทางจิตเหล่านี้ออกมาในรูปแบบของเพลง

The Psychedelic Sounds Of The 13th Floor Elevators อัลบั้มจากปี 1966 ของวง The 13th Floor Elevators วงดนตรีจาก Texas ที่เป็นหนึ่งในวงดนตรีแนวไซคีเดลิกร็อกวงแรก ๆ

Grateful Dead ไซคีเดลิกร็อกที่เป็นเสมือนไอดอลของหนุ่มสาวชาวฮิปปี้ในปลายยุค 60s (คลิปวีดีโอมีภาพการเสพยาเสพติด และการเปลือยกายจนเห็นอวัยวะเพศ)

คาแร็กเตอร์เด่น ๆ ของไซคีเดลิกร็อกคือเมโลดี้ที่สื่อถึงอารมณ์เบื้องลึก เนื้อเพลงที่มีเนื้อหาซับซ้อน หรือเป็นบทกวีที่มักจะพูดถึงความฝัน การอธิบายถึงโลกที่แตกต่างไปจากโลกที่เป็นอยู่จริง หรือแม้แต่การพูดถึงความหลอนจากยาเสพติดแบบตรงไปตรงมา ภาคดนตรีมักมีความยาวมากกว่าดนตรีร็อกในยุคก่อนหน้านี้และมักจะมีท่อนโซโล่ที่ยาวนาน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเอาเสียงอิเล็กทรอนิกมาใช้ในภาคดนตรีอย่างเข้มข้น ทั้งเสียง distortion, reverb, reversed, delay, feedback, wah-wah และเอฟเฟกต์อื่น ๆ อีกมากมายสารพัด รวมไปถึงการนำเสียงเครื่องดนตรีอินเดียอย่างซิตาร์หรือ table มาใช้ประกอบในเพลง

เพลง White Rabbit ของ Jefferson Airplane มีเนื้อหาพูดถึงยาเสพติดอย่างชัดเจนตั้งแต่ท่อนแรก

เพลง Light My Fire ของ The Doors หนึ่งในเพลง ไซคีเดลิกร็อก ที่มีชื่อเสียงที่สุดในประวัติศาสตร์ของดนตรีแนวนี้

ศูนย์กลางของไซคีเดลิกร็อกในยุคเริ่มแรกมาจากแถบชายฝั่งตะวันตกของอเมริกา ก่อนจะขยายความนิยมไปทั่วประเทศ และข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกมาจนถึงยุโรป โดยเฉพาะในอังกฤษ ขณะที่เพลงไซคีเดลิกร็อกจากฝั่งอเมริกาจะมีความเกรี้ยวกราดมากกว่าเพลงไซคีเดลิกร็อกจากเกาะอังกฤษที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากแนวคิด surrealism กลับลดทอนความเกรี้ยวกราดทางเนื้อหาลง และมีความมินิมัลมากกว่า และแน่นอนว่าวงดนตรีไซคีเดลิกร็อก – progressive rock จากอังกฤษที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดก็คือ Pink Floyd และอัลบั้ม Dark Side of the Moon ของพวกเขาก็ถือเป็นอัลบั้มที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับมือกีตาร์ไทยยุคคลาสสิกหลาย ๆ คนเลยก็ว่าได้

แม้ว่า Dark Side of the Moon จะเป็นอัลบั้ม progressive rock ขึ้นหิ้งของพวกเขา แต่อยากให้ลองฟัง Ummagumma สตูดิโออัลบั้มชุดที่สี่ที่มีความไซคีเดลิกมาก ๆ

สี่หนุ่มจากเมืองลิเวอร์พูล The Beatles ก็หลงใหลในรสชาติของดนตรีแนวไซคีเดลิกร็อก และหยิบเอามาใช้เป็นส่วนประกอบสำคัญในอัลบั้ม Sgt. Pepper’s Lonely Hearts Club Band ที่วางจำหน่ายในปี 1967 ทั้งในส่วนของดนตรี การออกแบบศิลป์สีสันฉูดฉาด ไปจนถึงเนื้อเพลงที่แฝงนัยยะถึงเรื่องยาเสพติด (Paul McCartney ยังเคยกล่าวชื่นชม LSD ว่าเป็นยาเสพติดที่ช่วยเปิดสมองให้เห็นโลกทัศน์ใหม่ ๆ ได้เป็นอย่างมาก)

Lucy in the Sky with Diamonds เพลงของ The Beatles ที่มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างกันว่าแฝงนัยยะถึงยาเสพติด LSD

ก่อนถึงช่วงกลางยุค 1960 เพลงป๊อปทั่วไปมักจะใช้เวลาบันทึกเสียงไม่นาน กระบวนการบันทึกเสียงไม่ซับซ้อน แต่ละเพลงบันทึกเสียงกันรอบเดียว และสามารถบันทึกเสียงเสร็จทั้งอัลบั้มภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง แต่ไซคีเดลิกร็อกเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดการปรับปรุงสตูดิโอให้เป็นเสมือนเครื่องดนตรีอีกชิ้นหนึ่งด้วย เนื่องจากความต้องการในการอัดเสียงแบบ multi-track และ การใช้เอฟเฟกต์ และเทคนิคพิเศษด้านเสียงเป็นจำนวนมากของศิลปินไซคีเดลิกร็อก สตูดิโอจึงต้องสามารถตอบสนองความต้องการที่มากขึ้นนี้ด้วยการเพิ่มทั้งอุปกรณ์ คน และ การปรับปรุงปัจจัยแวดล้อมทางเสียงต่าง ๆ ตัวอย่างที่ชัดเจนคือการบันทึกเสียงอัลบั้ม Please Please Me ของ The Beatles ในปี 1963 ทำเสร็จได้ภายในวันเดียว แต่ อัลบั้ม Sgt. Pepper’s Lonely Hearts Club Band ที่เริ่มบันทึกเสียงในปี 1966 สี่เต่าทองต้องใช้เวลากว่า 700 ชั่วโมงในสตูดิโอ หรือ มากกว่า 6 เดือน ในการผลิตอัลบั้มระดับตำนานชุดนี้ออกมา

จุดสูงสุดของดนตรีไซคีเดลิกร็อก คือ ปี 1969 ปีแห่งการจัดมหกรรมดนตรีและศิลปะ Woodstock ที่ผู้คน 400,000 คน ต่อสู้กับสายฝน โคลน ความเฉอะแฉะตลอด 3 วัน 3 คืน เพื่อเสพดนตรีของศิลปินมากกว่า 30 ชีวิต และเสพวิถีชีวิตฮิปปี้ในชุมชนอุดมคติที่ใครใคร่เสพยาก็เสพ ใคร่เปลือยกายก็เปลือย งานนี้มีศิลปินแนวไซคีเดลิกร็อกจำนวนมากขึ้นทำการแสดง ทั้ง Janis Joplin, Grateful Dead, Jefferson Airplane, Jimi Hendrix ไปจนถึง Ravi Shankar นักซีตาร์ชั้นครูจากอินเดีย Woodstock จึงเป็นทั้งหมุดหมายสำคัญในประวัติศาสตร์ดนตรีตะวันตก ขบวนการเคลื่อนไหวของฮิปปี้ และการระเบิดพลังของดนตรีไซคีเดลิกร็อกให้ปรากฏสู่สายตาชาวโลกในงานเดียว (จริง ๆ แล้ว Woodstock เป็นเทศกาลดนตรีที่ต้องเสียค่าบัตรเพื่อเข้างาน แต่เนื่องจากจำนวนผู้ร่วมงานเยอะเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก สุดท้ายคนที่แห่กันมาทีหลังก็ได้เข้างานแบบฟรี ๆ)

แต่หลังจากผ่านพ้นจุดสูงสุดในช่วงสุดท้ายของทศวรรษ 60 จนถึงช่วงสั้น ๆ ในปีแรก ๆ ของทศวรรษที่ 70 ความนิยมในแนวดนตรีไซคีเดลิกร็อกก็เสื่อมลงอย่างรวดเร็วตามปัจจัยทางการเมืองที่มีการเปลี่ยนแปลง ขบวนการฮิปปี้ที่เริ่มเสื่อมสลาย และผลกระทบจากการยาใช้ยาเสพติดมากเกินไปจนกลายเป็นปัญหาทั้งในระดับปัจเจกและระดับสังคมของผู้คนที่อยู่ในซีนนี้ ความตายของศิลปินที่ใช้ยาเสพติดอย่างหนักไม่ใช่รูปแบบชีวิตของไอดอลที่เยาวชนควรจะเอาเป็นแบบอย่างอีกต่อไป ปัจจัยเหล่านี้เป็นเหมือนสนิมที่เกิดในตัวเองที่กัดกร่อนแวดวงไซคีเดลิกร็อก ประกอบกับศิลปินไซคีเดลิกร็อกก็เปลี่ยนไปทำเพลงแนวอื่นไซคีเดลิกร็อกจึงซบเซาไปตามกาลเวลาที่เปลี่ยนแปลง และรสนิยมทางดนตรีของผู้คนที่เปลี่ยนไป

แต่ไม่ว่าอย่างไรไซคีเดลิกร็อก ก็เป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งใหม่ ๆ หลายอย่าง ทั้งแนวดนตรีที่เติบโต หรือ หยิบองค์ประกอบของไซคีเดลิกร็อกไปใช้ ตั้งแต่ heavy metal, progressive rock, nu-wave ไปจนถึงดนตรีเต้นรำอย่าง psy trance เมื่อทหารอเมริกาเดินทางมาสู่ประเทศไทยเพื่อภารกิจสงครามในเวียดนาม และลาว พวกเขาตั้งฐานทัพหลายแห่งในภาคอีสาน และอิทธิพลของดนตรีร็อก ฟังก์ ตลอดจนไซคีเดลิกร็อก ที่มหารอเมริกันนำเข้ามาด้วยก็เข้าไปผสมกับดนตรีหมอลำอย่างกลมกลืน และเกิดเป็นเอกลักษณ์ใหม่ของหมอลำอีสาน และเพลงลูกทุ่งไทยในสมัยหนึ่ง เทคนิคในการจัดไฟในงานคอนเสิร์ตหลายอย่างก็มาจากเทคนิคการจัดไฟในคอนเสิร์ตไซคีเดลิกร็อกยุคแรก ๆ ที่มุ่งสร้างประสบการณ์การมองเห็นที่แปลกประหลาดให้กับผู้ชม และแน่นอนว่าเสื้อมัดย้อมสีเยอะ ๆ ที่ฝรั่งชอบใส่ไปปาร์ตี้ตามชายหาดนั่นก็ได้รับแรงบันดาลใจจากไซคีเดลิกร็อก

(เพลง แม่จอมกะล่อน ของ ดาว บ้านดอน คือตัวอย่างที่ดีของการผสมซาวด์แบบอีสาน เข้ากับไซคีเดลิกร็อก)

(วงการดนตรีกัมพูชายุคก่อนเขมรแดงครองประเทศก็มีการผสมผสานความเป็นท้องถิ่นเข้ากับดนตรีตะวันตก รวมถึงซาวด์แบบไซคีเดลิกร็อกด้วย)

และสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ไซคีเดลิกร็อกมอบให้เราก็คือ การเปิดความคิด เปิดจิตใจ สู่สิ่งใหม่ ๆ และการมองโลกในมิติใหม่ ๆ ว่าโลกของเรานั้นมีความบิดเบี้ยว และความลึกลับซับซ้อน ที่ต้องอาศัยการเดินทางในจิตใจเท่านั้นที่จะนำไปสู่การเปิดประตูอันลึกลับของจิตใต้สำนึก ระบบโลก และ จักรวาล ที่เราไม่สามารถสัมผัสได้หากมองอย่างผิวเผิน

 

Source

A Brief History of Psychedelic Rock
A brief history of psychedelia in eight colours
Psychedelic rock
Psychedelic rock
Thailand’s Forgotten Country-Psychedelic Music Is Having a Global Renaissance

Facebook Comments

Next:


Piyakul Phusri

Piyakul Phusri นักฟังเพลงจับฉ่ายที่มีความเชื่อว่านอกจากการกินอิ่ม-นอนอุ่น การบริโภคงานศิลปะที่ถูกใจก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยของการมีชีวิตที่ดี