ความฝันเล็ก ๆ จากเอกมัยสู่ก้าวที่ยิ่งใหญ่ในญี่ปุ่นของ STAMP กับ EKAMAI DREAM1
- Writer: Montipa Virojpan
เชื่อว่าหลายคนคงได้ติดตามการเดินทางในสายดนตรีของ STAMP หรือ แสตมป์—อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข มาอย่างยาวนาน ตั้งแต่วง 7th Scene มาจนถึงการออกผลงานเดี่ยว เป็นโค้ชใน The Voice Thailand หลายซีซัน และล่าสุดเขาก็ได้ไปไกลถึงญี่ปุ่นในฐานะศิลปินสังกัด Toy’s Factory รวมถึงเป็นหนึ่งในไลน์อัพเทศกาลดนตรีแนวหน้าระดับโลก Summer Sonic ที่โตเกียว และตอนนี้ เขาก็มีอัลบั้มเต็ม EKAMAI DREAM1 วางขายที่ญี่ปุ่นเป็นที่เรียบร้อย โดยได้ Christopher Chu จากวง POP ETC มาเป็นโปรดิวเซอร์ด้วย ลองไปฟังงานในอัลบั้มนี้ของเขากันเลยดีกว่าว่าจะแตกต่างจากงานที่ผ่าน ๆ มายังไงบ้าง
Jetlagger
อินดี้ร็อกจังหวะกระฉับกระเฉงกับสำเนียงภาษาอังกฤษของแสตมป์ที่ฟังดูก็เนียนกริ๊บราวกับเจ้าของภาษาทำให้เราไม่ติดขัดใด ๆ กับการฟังเพลงในอัลบั้มนี้เลย (ได้ยินมาว่าแสตมป์ไปเรียนคอร์สภาษาอังกฤษสำหรับร้องเพลงโดยเฉพาะเลยนะ) แล้วในท่อนฮุกก็มีพาร์ตที่กระชากอารมณ์ให้พุ่งสุดด้วยเสียงสูง ๆ สร้างความสดชื่นเหมาะจะเปิดเป็นแทร็คแรกในอัลบั้มจริง ๆ ไหนจะมีท่อนเบรกดาวน์ชวนให้ตบมือตามตอนเล่นสดกับกลองเร้า ๆ แล้วยังมีการเปลี่ยนส่วนในเพลง เรียกได้ว่าหลากหลายวาไรตี้มาก ๆ ในเพลงเดียว
Bangkok Summer
คงได้ฟังกันไปบ้างแล้วกับเพลงนี้ในเวอร์ชันภาษาไทย รวมถึงเวอร์ชันภาษาอังกฤษที่ได้ทีมทำมิวสิกวิดิโอมาถ่ายทอดเรื่องราวสองมู้ด แต่ดูแล้วอมยิ้มได้ทั้งคู่ แต่พอได้ฟังเพลงนี้ต่อจากเพลงที่แล้วเหมือนเป็นการพักหู และได้สวิตช์มาฟังสไตล์ใหม่ ๆ ของแสตมป์กับดนตรีที่เน้นหนักความกรูฟและเอเลเมนต์ของอิเล็กทรอนิก นูดิสโก้ชวนโยกเบา ๆ
Die Twice
อีกซิงเกิ้ลที่ถูกปล่อยออกไปก่อนหน้านี้ที่ถูกจัดเรียงไว้ต่อจากเพลงที่แล้วเป็นอะไรที่ลงตัวมาก เป็นการร่วมงานกับ Hiroshi จากวง Five New Old มีกีตาร์ลิกสุดเท่ และกลองไฟฟ้าหนึบ ๆ และเสียงประสานฮู้ฮูทำให้รู้สึกเพลิดเพลินมาก ยิ่งท่อนฮุกที่สอดประสานเข้ามาด้วยการร้องหลบเสียงแบบนี้ แล้วยังได้เสียงแซ็กโซโฟนสุดมาช่วยเพิ่มบรรยากาศความเป็นกลางคืนแสนเซ็กซี่ ด้วย vibe ความเป็นเพลงกึ่ง ๆ เพลงเต้นรำคือถูกต้องมาก
How To Live Without You
เพลงช้า ๆ ที่นำมาด้วยเสียงเปียโนและการร้องโชว์เนื้อเสียง ทำให้เรานึกถึงงานชุดภาษาไทยของแสตมป์ได้มากที่สุด ความเท่ด้วยการเพิ่มเข้ามาของกีตาร์แต่น้อยยิ่งช่วยสะกดให้เราตกอยู่ในภวังค์ของเพลงนี้ได้ดี ที่โหดมาก ๆ คือท่อนฮุกรอบสองที่ได้เสียงเครื่องสาย กลอง และท่อนโซโล่สุดแสนจะไพเราะที่เป็นการผนวกรวมความเป็น guitar band และออเคสตราได้อย่างกลมกลืนมาร่วมสร้างบรรยากาศรวดร้าวแต่หอมหวานทำให้เชื่อว่า ‘ฉันจะอยู่อย่างไรถ้าไม่มีเธอ’ ได้จริงๆ
On the Day He Made You
เมโลดี้ในเพลงนี้เป็นหมัดฮุกกระแทกหูเราตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ฟังเป็นแทร็คจังหวะกลางที่สนุกน่ารักแม้จะเป็นสไตล์ของกีตาร์ที่เราคุ้นเคยดีแต่จริง ๆ ก็มีสีสันของดนตรีที่น่าสนใจมาก ๆ กับเสียงวิบวับที่เข้ามาในท่อนฮุกและการดีไซน์ท่อนร้องในเพลงนี้ก็สนุกไม่แพ้ดนตรีเลย
Coldest Memory
เสียงกีตาร์เย็น ๆ สมกับชื่อเพลง ดนตรีชวนให้นึกถึงเพลงอัลเทอร์เนทิฟต้นยุค 2000s แถมเสียงร้องสบาย ๆ ของแสตมป์เพลงนี้ในช่วง verse จะไม่ค่อยเหมือนเสียงที่เราได้ฟังในเพลงปกติของเขา คือชวนล่องลอยมาก ยิ่งกว่านั้นคือท่อนฮุกทำเอาขนลุกแบบช่วยไม่ได้ เป็นเพลงที่ทำให้นึกถึงฟีลแบบ The Reason ของ Hoobastank เลยแง
OHM feat. P.O.P
อันนี้ไม่ใช่ P.O.P วงป๊อปไทยในตำนานแต่อย่างใดแต่คือวงอิเล็กโทรป๊อปแดนปลาดิบที่แสตมป์ชวนมาร่วมงานด้วยบ่อยๆและที่สำคัญนี่คือเพลงโอมจงเงยที่หยิบมาปัดฝุ่นใหม่ให้มีกลิ่นกีตาร์จัดจ้านและใส่ความนูดิสโก้ให้ได้เต้นยุกยิกท่อนเบรกดาวน์ถูกหยิบมาใส่ในท่อนฮุกแถมด้วยท่อนแร็ปเท่ๆซึ่งเซอร์ไพรส์เราไม่น้อยเลยมาลองสัมผัสรสชาติใหม่ ๆ ในเพลงที่คุ้นเคยกันดีเพลงนี้อร่อยไม่แพ้เวอร์ชันเก่าเลย
Million Views
ใช่แล้วนี่คือเพลง ร้อยล้านวิว เพลงไทยที่เพราะสุดๆด้วยไลน์กีตาร์เท่ ๆ ในท่อนโซโล่ของแสตมป์ที่ถูกมาแปลงเป็นภาษาญี่ปุ่นนั่นเอง
Damn!!
ต่อกันเลยกับ ให้ตายสิพับผ่า ที่ก็ยังเป็นภาษาไทย แต่คราวนี้มาเป็นเวอร์ชันกีตาร์อะคูสติก เพิ่มมาด้วยบีตอิเล็กทรอนิก ทำให้มีความเป็นเฮาส์ คลับมิวสิกเบา ๆ เคลือบในเพลงเท่ ๆ เพลงนี้
It Could Be Love
มันคงเป็นความรัก ถูกนำมาปรับออคเตฟให้สูงขึ้น จากการที่เป็นเพลงอบอุ่นสุด ๆ ในเวอร์ชันก่อนหน้า ก็ถูกเพิ่มดีกรีความหวาน สดใส และน่าจิกหมอนขึ้นอีกหลายเท่าตัวจากเสียงเครื่องสายที่บรรเลงออกมาได้อย่างไพเราะ
Kwam Kid
ปิดท้ายด้วย ความคิด เพลงช้าสุดรวดร้าวที่ทำให้ใครต่อใครตายมานักต่อนัก ก่อนอื่นต้องขอบอกว่า ดีใจมาก ๆ ที่ยังคงท่อนเปียโนในอินโทรเอาไว้ แต่เหมือนเป็นการบันทึกเสียงใหม่ และมีการเรียบเรียงไลน์เครื่องสายใหม่ ดีกรีความทำลายล้างบอกเลยว่าทวีคูณมาก ๆ น้ำตาไหลพรากแล้วตอนนี้
จบลงไปแล้วกับ EKAMAI DREAM1 ทั้ง 11 เพลง เป็นส่วนผสมที่ลงตัวมาก ๆ สำหรับทั้งงานเก่าที่หยิบมาทำใหม่ และงานใหม่ที่ทำให้เราได้เห็นมุมมองและตัวตนที่เราอาจจะไม่ค่อยได้เห็นของแสตมป์ อภิวัชร์ บอกเลยว่าถูกใจแฟนเพลงทุกรุ่นของเขาคนนี้แน่ ๆ ไปฟังเต็ม ๆ กันได้แล้ว ที่นี่ ส่วนในฟังใจรออีกนิดนะ
