‘มหามรดก’ อัลบั้มเต็มที่ The Charapaabs มอบให้เป็น ‘สมบัติผลัดกันฟัง’
- Writer: Montipa Virojpan
- Photos: The Charapaabs and The Uni_form Design Studio
กว่าสามปีที่วง The Charapaabs ได้นำเสนอรูปแบบใหม่ของวงดนตรีให้กับผู้ฟัง นั่นคือการเป็น concept band ที่หยิบยกเรื่องราวของผู้สูงอายุมาตีแผ่ ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกนึกคิด กิจวัตรประจำวัน เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ต้องทำเมื่ออายุมากขึ้น ทำให้เราได้รู้ว่าสังคมผู้สูงวัยไม่ใช่เรื่องไกลตัวอย่างที่คิด ที่สำคัญคือในอนาคตบุคคลกลุ่มนี้จะกลายเป็นประชากรส่วนใหญ่ของโลก ซึ่งพวกเขาอยากให้เราตระหนักถึงเรื่องนี้ไว้ เล่าโดยนักร้องรับเชิญที่จะมาเซอร์ไพรส์ใน 10 แทร็ค จากอัลบั้ม มหามรดก ไว้ให้เป็น ‘สมบัติผลัดกันฟัง’ สืบไป
ศาลาคนเศร้า
เพลงมรณานุสติฉบับสีสันของดนตรีสดใส ท่อนโซโล่เท่ด้วยไลน์กีตาร์ที่ได้กลิ่นอายวงอัลเทอร์เนทิฟฝั่งอังกฤษสาดใส่ซาวด์สะดีดสะดิ้ง ทำให้เรามองเรื่องความตายเป็นเรื่องปกติ ดังเช่นเนื้อหาในเพลงที่ได้เสียงของ อาบู มาจำลองสถานการณ์ที่คุณตาท่านหนึ่งไปงานศพของคนรู้จักที่น่าจะจากไปด้วยโรคชรา แล้วก็พึงระลึกถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น ณ ปัจจุบันขณะรอบ ๆ ตัวว่าเป็นเรื่องธรรมดา
ตรวจสุขภาพประจำปี
ถูกใจสาวกบริตป๊อปแน่ ๆ กับดนตรีในเพลงนี้ ไลน์กีตาร์ขี้เล่นกับเสียงเบสโมโนโทนเล่นรัว ๆ ทำให้รู้สึกกระฉับกระเฉง เป็นการค่อย ๆ บิลด์อารมณ์ขึ้นตลอดเพลง ยิ่งช่วงท้ายก็บรรเลงออกมาอย่างเมามัน เข้ากับคาแร็กเตอร์ของคุณตาที่เล่าเรื่องการมาตรวจสุขภาพประจำปีของแก ว่าทุกวันนี้ก็พยายามดูแลร่างกายของตัวเองให้แข็งแรงไว้จะได้อยู่กับลูกหลานไปอีกนาน ๆ เชื่อว่าปู่ย่าตายายของเราก็คิดแบบนี้กันทั้งนั้น
อัลไซเมอร์
ทางวงต้องการนำเสนอเพลงในรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า ‘testimonial rock’ โดยเป็นการนำเรื่องจริง หรือคำบอกเล่าประสบการณ์จากคนจริง ๆ มาผสมผสานอยู่ในเพลง ซึ่งเพลงนี้ก็ได้เสียงจากญาติของผู้สูงอายุที่เป็นอัลไซเมอร์หลาย ๆ คนมาเล่าเรื่องราวไปพร้อมกับดนตรีโลไฟ อินดี้ป๊อปจังหวะช้า หม่นเศร้า ซึ่งเนื้อเพลงที่เขียนมาแสนจะเรียบง่าย ตรงประเด็น แล้วเนื้อหาตอนหลังก็เป็นการสรุปราวกับหมัดฮุก ที่มาพร้อมกับซาวด์ดนตรีที่ขยับโทนให้มีความเข้มข้นขยี้อารมณ์มากขึ้น และช่วงท้ายสุดที่เหมือนเป็นดนตรี avent-garde หลุดไปจากทั้งเพลง อาจจะเป็นการนำเสนอความรู้สึกสับสน อึดอัด หรือภาวะยอมจำนนของทั้งผู้มีอาการและคนรอบข้าง เมสเสจโดยรวมที่เพลง อัลไซเมอร์ สื่อออกมาจึงทำให้เราน้ำตาซึมโดยไม่รู้ตัว
สวัสดีวันจันทร์
ความโพสต์พังก์ 80s มาเต็ม แต่นำเสนอความน่ารักของผู้ใหญ่ในกรุ๊ปไลน์ที่มักจะส่งรูปดอกไม้ประกอบกับข้อความทักทายประจำวัน เชื่อว่าหลายคนอาจจะเบื่อหรือไม่เข้าใจกับพฤติกรรมของพวกเขา ซึ่งจริง ๆ นี่อาจเป็นแค่การแสดงความปราถนาดีเล็ก ๆ น้อย ๆ ของญาติผู้ใหญ่ของเราก็ได้ ซึ่งเพลงนี้ก็ได้คุณแม่ของ เต๋อ นวพล มาร้องให้ด้วย
เอลวิสยังอยู่
เพลงจังหวะสนุก ๆ นี้ถูกปล่อยในวันครบรอบการจากไปของ Elvis Presley เล่าเรื่องของคนที่เป็นแฟนเอลวิสมากตั้งแต่ยังเป็นหนุ่มสาว และตอนนี้พวกเขาก็ยังรักราชาร็อกแอนด์โรลคนนี้อยู่ โดยสามารถตีความต่อไปได้อีกว่า การที่ชีวิตนึงของเราได้ค้นพบว่าชอบอะไรจริง ๆ และยังคงทำสิ่งนั้นมาเรื่อย ๆ อาจถือได้ว่าเป็นการค้นพบความหมายของชีวิต เพลงนี้ก็ได้ เอลวิสโจ้—สุขนิรันดร์ สุขหลวง นักร้องเอลวิสเมืองไทย การันตีรางวัลชนะการประกวดร้องเพลงเอลวิสจากรายการ Thailand Elvis Presley Singing Contest ประจำปี 2541 มาช่วยทำให้สตอรี่ของเรื่องยิ่งแข็งแรงขึ้น เพราะได้เล่าถึงขั้นตอนการ makeover เป็นเอลวิสให้ฟังโดยละเอียด ทั้งเซ็ตผม ไว้จอน ใส่กางเกงขาบาน น่ารักมาก ๆ
ทนต์
ดนตรีเพลงนี้เท่สุด ๆ มีความเก๋าทั้งในเมโลดี้และเนื้อร้อง จังหวะกลาง ๆ แต่ทำให้เราต้องโยกตาม แถมยังมีท่อนแร็ปโดย ตู้—ดิเรก อมาตยกุล ตำนานเพลงดิสโก้ ฟังก์ แร็ป ในอดีต มืออาชีพในวัยชรา ที่ฟังแล้วอยากแดนซ์เหมือนเพลง สาวบางโพธิ์ แถมยังเล่นกับคำที่เกี่ยวกับ ‘ฟัน’ อย่าง ‘ขบ’ คิด หรือ ‘เคี้ยว’ บรรจงลง ‘ทนต์’ ให้ ‘ทัน(ต์)’ ทุกความคิด รถใดใช้คง ‘ทน(ต์)’ อะไรแบบเนี้ย คือตั้งใจฟังแล้วสนุกมาก
สายเปย์
มาถึงเพลงที่วงไม่ได้ปล่อยออกมาเป็นซิงเกิ้ลกันบ้าง ด้านซาวด์คือวงยังเลือกเกาะกลุ่มในทางอินดี้ร็อก อัลเทอร์เนทิฟร็อกปลายยุค 80s-90s กีตาร์ เบส กลอง อะไรแบบนี้ถูกต้องมาก ๆ แล้วต้องบอกว่าเสียงร้องในเพลงนี้ก็เก๋าเข้ากับเพลงมาก นั่นคือเสียงของ อาต๊อด—วรรณยศ มิตรานนท์ มือกลองรุ่นใหญ่ที่เคยบันทึกเสียงให้วง Soul After Six เนื้อหาเล่าเรื่องของ สายเปย์ ที่ในวัยบั้นปลายของชีวิตรู้สึกว่าเงินเหลือไม่รู้จะเอาไปทำอะไร ก็ขอแบ่งบารมีให้น้อง ๆ หน่อยละกันนะ
บุพการีรอ
เสียงรัวกลองและกีตาร์หนักแน่นในตอนต้นที่ถูกบรรเลงออกมาอย่างแช่มช้ากลับมีความรู้สึกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก ตอนท้ายมีการเล่นกีตาร์โดยใช้เทคนิคและสำเนียงแบบซึงด้วย เพลงนี้ถูกเล่าเป็นภาษาเหนือ เสียงของผู้เป็นพ่อแม่ที่รอคอยให้ลูกที่เข้าไปทำงานในกรุงเทพ ฯ กลับมาเยี่ยมเยียนที่บ้านเกิดช่วงท้ายปี เมื่อได้เจอหน้ากันหลังจากไม่ได้พบกันนานก็ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบด้วยความคิดถึง… เสียงรถสิ่งตอนต้นเพลงที่เป็นสัญญาณของการลับมาถึงบ้านจากการเดินทางไกล ทำให้เรานึกถึงตอนที่แม่ของเราขับรถออกไปทำงาน คือไม่ได้ไปไกลมากแต่คุณยายนั่งรออยู่ที่บ้าน ทันทีที่เสียงรถแม่เริ่มใกล้บ้าน แววตาของคุณยายจะเป็นประกายแล้วรุดออกไปเปิดประตูให้ ถึงจะไม่ได้พูดอะไรกันมากแต่ก็รู้ได้ทันทีว่าคุณยายดีใจที่แม่กลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย
คนที่ไปก่อน
ซึมกันอย่างต่อเนื่องกับเพลงช้า บรรเลงด้วยกีตาร์แต่น้อย แผ่วเบา ทว่าก้องกังวาน กับน้ำเสียงหวานหยาดเยิ้ม ร้องเพลงถึงคู่ชีวิตที่น่าจะผ่านอะไรมาด้วยกันมากมาย แต่กลับจากไปเสียก่อน… คือด้วยความที่เป็นคอนเซ็ปต์ที่ปูมาแต่ต้นว่าเป็นเรื่องราวของผู้สูงอายุ เราก็นึกไปถึงคู่แต่งงานที่อยู่ด้วยกันมากนาน เลยยิ่งทำให้ความเข้มข้นของอารมณ์เพลงมีอะไรมากกว่าเพลงความรักทั่วไปที่เล่าเรื่องความสัมพันธ์สิ้นสุดลง มันคือการจากกันทั้งที่ยังรักกันอยู่… ‘คิดถึงเธอคนที่ไปก่อน รอวันคืนกลืนฉันไปบ้าง’ เสียงประสานโหมเข้ามาทำให้เพลงนี้มีมนต์ขลังขึ้นมา และในความเงียบที่เหลือเพลงเสียงร้องสั่นเครือ ตามมาด้วยกีตาร์ตีคอร์ดกระฉับกระเฉงขึ้นมาเหมือนชั่วขณะที่นึกถึงความทรงจำงดงามอันแสนสั้นในวันวาน
ภวชรา
ไม้ตายที่ซ่อนไว้ในเพลงสุดท้ายของอัลบั้ม กับเสียงเท่ ๆ ของอาจารย์ธเนศ วงศ์ยานนาวา ในเพลงตัดพ้อ ‘สังคมคนแก่’ กับภาวะที่ไม่มีใครดูแลหรือให้ความสำคัญกับผู้สูงอายุจริง ๆ พอเป็นกลอนเปล่าเนื้อหาการเมือง ๆ เสียดสีปรัชญา วาทกรรม big data เทรนด์ต่าง ๆ สารพันเรื่องราวที่คนสมัยใหม่เขาสนใจ แบบนี้โคตรเข้ากับอาจารย์เลย ดนตรีเองก็เรียบเรียงได้แบบร้ายกาจ มีลูกเล่นเหลือร้ายคือแบ่งให้เล่นไม่เหมือนกันตลอดทั้งเพลง เล่าเรื่องเป็นคนละพาร์ต คือรวมของอร่อยของสายเรา ได้ฟีลเหมือนเอา Pulp มาผสมกับ The Jesus and Mary Chain, Joy Division, The Cure, Sonic Youth ยาวไป 7 นาทีครึ่ง เพลินมาก ๆ ยกให้เป็นมาสเตอร์พีซของอัลบั้มไปเลย!!!
มหามรดก อีกหนึ่งงานคุณภาพจาก The Charapaabs ที่เราไม่อยากให้คุณพลาดจริง ๆ คือนอกจากเพลงที่ปล่อยให้ได้ฟังกันก่อนหน้านี้ 6 เพลงแล้ว เพลงที่เหลือ hidden gems ที่แท้จริง ยิ่งฟังยิ่งเซอร์ไพรส์ แถมแพคเกจจิ้งดีไซน์ก็ไม่ธรรมดา ทำออกมาเป็นซองพินัยกรรมด้วย ส่วนด้านในก็มีของที่ระลึกที่ตีความออกมาตามเนื้อหาในแต่ละเพลงครบทั้ง 10 ชิ้น ออกแบบโดยศิลปินและกราฟฟิกดีไซเนอร์มือฉมังทั้ง คุณบิ๊ก คุณซิท The Uni_form Design Studio, คุณหลง Double O Seth, คุณทอม—วรุฒม์ ปันยารชุน อดีต creative director ของ Bakery Music, คุณฟร็อก WAWO Studio, นักรบ มูลมานัส, Jantharot, พริมา อย่างเพลง อัลไซเมอร์ ก็ทำเป็น to do list ลายปลาทองกันลืม, เพลง เพลง สายเปย์ ก็ทำเป็นเช็กเงินสด น่ารักมากกกกก คอนเซ็ปต์สตรองทั้งเพลงทั้งหีบห่อขนาดนี้ อยากให้มีไว้ในครอบครอง
