Article Story

MIDLIFE อัลบั้มล่าสุดของ Poomjit ที่ว่าด้วยชีวิตวัยกลางคนธรรมดาได้ไม่ธรรมดา

  • Writer: Yanabhus Suriyajai

จากการฟังไปแล้วหนึ่งรอบ  MIDLIFE เป็นอัลบั้มที่ทำให้คนฟังได้คิดตลอดทุกเพลง และล้วนเป็นประเด็นรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงิน งาน ความฝัน สังคม และรายละเอียดเล็กน้อยหลายอย่างที่ใกล้ตัว จึงอยากให้คุณผู้อ่านได้ลองฟังเอง จริงเสมอที่ทุกคนมีเวลาจำกัด อัลบั้มนี้อาจจะชี้แนะได้ว่าควรจัดการเวลาอย่างไร

MIDLIFE

Time – Life

เสียงแอมเบียนต์บรรยากาศตอนกลางคืนพร้อมกับเสียงเข็มนาฬิกาเดินไปเรื่อย ๆ จู่ ๆ ก็เกิดหลายเสียงกรูเข้ามาจนไม่สามารถจับใจความได้ เดี๋ยวก็มีเสียงกีตาร์ เดี๋ยวก็มีเสียงกลอง เดี๋ยวก็มีเสียงคนร้องว่าในถ้อยคำต่าง ๆ เช่น ‘ความจริง!’, ‘มีนาฬิกาไม่มีเวลา!’, ‘ทั้งรัก ทั้งฝัน!’ ฯลฯ แต่มีหนึ่งประโยคที่จำได้แม่น คือ ‘ฉันจะจัดการเวลา…’ เพราะได้ยินหลายรอบมาก ทันใดนั้นเองเสียงนาฬิกาเดินที่เคยได้ยินมาตลอดก็แปรเปลี่ยนเป็นเสียงนาฬิกาปลุก ‘กริ๊ง ๆ ! กริ๊ง ๆ !’ คงเป็นอันต้องตื่นมาทำหน้าที่ของเรา

Good Job

เหตุผลในการตื่นของใครหลายคนคงเป็น ‘ทำงาน’ เพลงนี้จึงเหมาะกับฟังในตอนเช้า ในเพลงว่าด้วยความธรรมดาในตอนเช้า แค่ตื่นขึ้นมาจากนาฬิกาปลุกมือถือ และต่อด้วยดูข่าวในเรื่องเล่าเช้านี้ เมื่อจัดการตัวเองจนพร้อม จึงออกไปทำ ‘งาน’ หา ‘เงิน’ แล้วก็จบแทร็คนี้ด้วยเสียงประตูปิด

ชีพจร

ไม่ทำงานก็ไม่ได้เงิน ไม่มีเงินก็ไม่รู้ว่าจะเลี้ยงตัวเองยังไง เป็นเหตุผลที่ทำให้คน ๆ หนึ่งต้องยอมเดินทางลำบาก ๆ ไปทำงานทุกวัน และหวังไว้ว่าสักวันถ้าเก็บเงินเยอะพอจะไปทำตามฝัน อย่างไรก็ตาม คุณค่าในชีวิตไม่ได้มีแค่ ‘เงิน’ กับ ‘งาน’ และนาฬิกาจับเวลาไม่เคยหยุดเดิน เราจึงต้องจัดลำดับความสำคัญในชีวิต เพราะอาจมีสิ่งสำคัญที่เรามองข้ามไปแต่ไม่ได้ทำ เมื่อหมดเวลาเราจะได้ไม่เสียใจภายหลัง

พาร์ตดนตรี ผู้เขียนประทับใจเสียงเครื่องสายในตอน outro ของเพลงเป็นพิเศษ เนื่องจากทำนองมันสวยงาม เรียบง่าย และกินใจมาก ๆ ฟังแล้วทำให้รู้สึกดี และสรุปอารมณ์ของเพลงทั้งหมดได้อย่างซาบซึ้งใจ

นาฬิกา

เป็นอีกครั้งที่ได้ยินเสียงนาฬิกาเดินในอัลบั้มนี้ แล้วก็มีเสียงเบสที่เล่นเพียงสองโน้ตชวนระทึก ดนตรีเพลงนี้จะไล่ระดับไปเรื่อย ๆ จากเสียงนาฬิกาเดิน ต่อด้วยเบส ตามด้วยกีตาร์ และนักร้องที่เล่าถึงที่มาของนาฬิกา และคนงานที่ทำงานในโรงงานผลิตนาฬิกา เล่าจนมาประจบที่คำว่า ‘นาฬิกาแสนแพง’ แล้วดนตรีก็แรงขึ้นทันที คำร้องที่เคยเล่าเรื่องเปลี่ยนเป็นคำบ่น ‘เรามีนาฬิกาแต่เราไม่เคยจะมีเวลา’ ร้องวนในทำนองนี้หลายรอบ เมื่อนักร้องบ่นจนหนำใจมือกีตาร์จึงมารับช่วงต่อเพื่อนำอารมณ์เพลงไปแตะจุดที่สะใจและบ้ากว่า

Drama Addict

เพลงนี้มีเนื้อหาวิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมการติดโซเชียลเน็ตเวิร์กในสังคม พร้อมกับดนตรีอัลเทอร์เนทีฟร็อกที่บ้าไม่แพ้กับเพลงที่แล้ว ด้วยท่อนฮุกที่ชวนคนฟังไปคิดต่อ ‘เธอคิด เธอจึงมี เธอมีความเห็น เธอจึงมี เมื่อเธอโพสต์ เธอจึงมี เมื่อเธอทวีต เธอจึงมี’ อำนาจบนปลายนี้วสามารถก่อเกิดอะไรก็ได้ ขอเพียงคิดให้ดีก่อนจะโพสต์ หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ บนโลกออนไลน์

จริง ๆ

เป็นแทร็คที่ทำให้คนฟังรู้สึกกังวลทั้งเพลง เพราะไม่รู้ว่าจะเชื่ออะไรดีในเพลง เดี๋ยวก็จริงเดี๋ยวก็เท็จ เดี๋ยวก็เท็จเดี๋ยวก็จริง จับจุดอะไรไม่ได้เลย แต่พอฟังไปเรื่อย ๆ ก็เริ่มเข้าใจ ว่าข้อมูลบางอย่างที่รับเข้ามาต้องตรวจสอบเสมอ สุดท้ายมันจะจริงหรือเท็จก็คงหาความสมบูรณ์ไม่ได้ เรื่องบางเรื่องก็ปล่อยให้มันเป็นไปละกัน และอีกอย่างเพลงนี้ใส่ดนตรีหมอลำเข้าไปเกือบทั้งเพลง 

เจ้าพระยา

เบาสมองกันหน่อยด้วยเสียงแอมเบียนต์แม่น้ำบวกกับกีตาร์โปร่งหนึ่งตัว แต่ถึงแม้ว่าดนตรีจะฟังสบาย เนื้อเพลงยังคงน่าเห็นใจ เมื่อชายที่พึ่งเลิกงานเลือกไปนั่งพักผ่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยากับเด็กตกปลา ความน่าเห็นใจเกิดขึ้นจากเด็กน้อยที่ตกปลาไม่ได้สักตัว มีเพียงยางรถกับผักตบชวาที่ตกได้ เด็กน้อยย้อนถามกับชายหนุ่มว่าปลาหายไปไหนหมด ชายหนุ่มที่จบปริญญาก็ไม่ทราบเช่นเดียวกับเด็กน้อย พอฟังจบรู้สึกว่าปัญหามันมีหลายอย่าง ไม่เพียงแต่ปัญหาสิ่งแวดล้อม หลัก ๆ ปัญหาก็มาจากคนด้วย จะมีการศึกษาหรือไม่มีการศึกษา ถ้าบางเรื่องเราไม่เรียนรู้เองมันก็จะไม่รู้อยู่อย่างนั้น ถือว่าเป็นเพลงที่ให้ข้อคิดที่น่าสนใจ

เวลา

เป็นเพลงที่พูดย้ำแต่เรื่องของ ‘เวลา’ ในแง่มุมต่าง ๆ เช่น เวลาคือนาฬิกา หรือเวลาคือการเปลี่ยนผ่าน และยังมีหลายแง่มุมมากต้องลองฟังเอง พอเพลงดำเนินมาได้เกือบสองนาที เนื้อร้องจากเพลงแรกก็วนกลับมาอีกครั้ง ‘ฉันจะจัดการเวลาอย่างไร’ และยังร้องเพิ่มอีกว่า ‘ทั้งรัก ทั้งฝัน ทั้งเงิน ทั้งงาน’ ร้องซ้ำหลายรอบ พร้อมกับดนตรีที่ชวนหลุดลอย และสุดท้ายเพลงก็พาเข้าสู่มิติของเพลงต่อไปอย่างแนบเนียน

Active Income

แทร็คนี้ทำให้เข้าใจและซาบซึ้งกับเนื้อร้อง ‘ทั้งรัก ทั้งฝัน ทั้งเงิน ทั้งงาน’ อย่างมาก เพราะมันถูกเล่าเรื่องผ่านชายคนหนึ่งที่ทำ ‘งาน’ หา ‘เงิน’ อย่างหนัก เพื่อจะทำตาม ‘ฝัน’ คือการมีความ ‘รัก’ ดี ๆ และครอบครัว พอได้ทราบเรื่องราวนี้ ท่อน ‘ทั้งรัก ทั้งฝัน ทั้งเงิน ทั้งงาน’ ก็กลับกลายเป็นท่อนร้องที่ยิ่งใหญ่ขึ้นมาทันที ส่วนตัวผู้เขียนปลื้มปริ่มกับเพลงนี้มาก หวังว่าคุณผู้อ่านถ้าได้ลองฟังจะรู้สึกเหมือนกัน

โลกยังอยู่

เริ่มเพลงได้แป๊บเดียวก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างตกน้ำ แล้วก็เสียงแอมเบียนต์ใต้น้ำเหมือนได้ฟังเพลงนี้ใต้น้ำจริง ๆ เพลงนี้เล่าถึงความเปลี่ยนแปลงและความหลากหลายของโลกใบนี้ ไม่ว่าโลกนี้จะสุขหรือเศร้า หรือเกิดอะไรขึ้นก็ตามแต่ เราก็ยังต้องดำเนินชีวิตต่อไปอยู่ดี เพลงนี้จึงไม่ได้ทำให้รู้สึกเศร้าหรือสุข แต่กลับทำให้ความรู้สึกอยู่ตรงกลาง จะเรียกว่า ‘สงบ’ ก็ได้

หลังท่อนเปียโนบรรเลง ทันใดนั้นเสียงนาฬิกาปลุกก็ดังขึ้น คล้ายจะบอกว่าตลอดการฟังเพลงนี้คือการหลับใหลอะไรทำนองนั้น

ปัจจุบัน

เพลงนี้เปรียบเสมือนทั้งรัก ทั้งฝัน ทั้งเงิน ทั้งงาน มันประสบความสำเร็จเลยก็ว่าได้ เพราะตั้งแต่เพลงแรกยันเพลงนี้ ไม่มีเพลงไหนแฮปปี้กว่าเพลงนี้มาก่อน มันเหมือนความฝันที่เป็นจริง คือการได้มีความรักดี ๆ กับคนที่เราตั้งใจไว้ กว่าจะมีวันนี้ ก็ต้องผ่านเรื่องราวมากมายตั้งแต่เพลงแรก สำหรับเพลงนี้ได้ให้ความคิดแง่บวกกับผู้ฟังมาก ขอเพียงอดทนและพยายาม แล้วเราจะไปถึงฝัน

Life – Time – End Credits

ตามชื่อเพลงเลยครับ นี่คือเพลงปิดท้ายของอัลบั้ม เป็นเพลงนิ่ง ๆ เรียบ ๆ ไม่มีเนื้อร้อง มีแต่เสียงฮึม ๆ และแอมเบียนต์ใต้น้ำ ในตอนท้ายเพลงจู่ ๆ เสียงก็ดังขึ้นแล้วหายวับไปเลย

วิกฤติวัยกลางคน

Hidden track ความยาว 01:13 นาที ที่ร้องถึงชีวิตวัย 30 ปีว่าต้องเจออะไรบ้าง แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญคือการครองรักกับแฟนไปนาน ๆ เพราะถ้าเลิกกับแฟนไปเดี๋ยวชีวิตมันจะงง 

หลาย ๆ คนที่เคยฟังอัลบั้มนี้แล้วมักจะบอกว่า ‘เรียบง่าย ลึกซึ้ง และกินใจ’ ซึ่งผมเห็นด้วย อัลบั้มนี้เหมือนสมุดบันทึกของคนวัยกลางคน ที่เปิดอ่านทีไรมันจะย้ำเตือนว่าหลาย ๆ คนล้วนต้องเจอเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว เรื่องบางเรื่องมันเป็นธรรมดาที่เกินจะควบคุมได้ แต่ที่สำคัญคือเราจะยอมรับเรื่องธรรมดาแบบนี้ได้ไหม ถ้าเราทำได้เราจะปล่อยวาง

Facebook Comments

Next: