Article Story

‘Once’ Upon a Time นิยายรักในชีวิตจริงของ Glen Hansard กับ Markéta Irglová ที่สวยงามยิ่งกว่าในหนัง

  • Writer: Geeraphat Yodnil

คุณเชื่อเรื่องเทพนิยายรักในชีวิตจริงรึเปล่า ? ตอนเด็ก ๆ อาจจะใช่ แต่เมื่อโตขึ้นก็คงไม่อีกแล้ว หลายคนอาจจะตอบแบบนี้ แล้วถ้าเราบอกว่ามันมีอยู่จริงในหนังที่คนรักเพลงต่างเทใจให้อย่าง ‘Once’ ล่ะ

ชายหนุ่มกับหญิงสาวที่เจอกันอย่างบังเอิญบนเส้นทางที่เสียงเพลงและตัวโน้ตตกหล่นอยู่ พวกเขาค่อย ๆ หยิบและประกอบมันไปด้วยกัน พร้อมกับความรู้สึกดีที่ทั้งสองฝ่ายแอบเก็บไปฟูมฟักอย่างเงียบ ๆ และในชีวิตจริง Glen Hansard กับ Markéta Irglová ต่างตกหลุมรักกันจากเรื่องราวตรงนั้น     

Marketa Irglova and Glen Hansard in Seoul, South Korea, 2009

A Guy & A Girl Story

ถ้าสมมติว่าตรงนี้คือฉากเปิดของเรื่อง ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในตอนสุดท้าย เราอยากให้พวกคุณได้รู้จักกับที่มา (ก่อนจะรู้ที่ไป) ของพวกเขาทั้งสองก่อนอะไรทั้งสิ้น

มาร์เกตา อีโกลวา (Markéta Irglová) เกิดและเติบโตที่เมืองชื่ออ่านยากอย่าง Valasske Mezirici ในสาธารณรัฐเช็กเธอลืมตาดูโลกครั้งแรกวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 1988 ท่ามกลางอ้อมกอดของผู้เป็นพ่อและแม่ที่ถึงแม้จะไม่ได้เล่นดนตรี แต่ก็เกี่ยวพันกับดนตรีอย่างอ้อม ๆ โดยการที่พวกเขาทั้งคู่มักจะเปิดบ้านเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวที่ผ่านไปผ่านมาที่นี่ ซึ่งเหล่า backpacker หลาย ๆ คนที่เจอล้วนแต่เป็นนักดนตรีไม่ก็คนที่พอจะเล่นดนตรีเป็นอยู่บ้างเสมอ

marketa

จุดเริ่มต้นที่ทำให้มาร์เกตาเริ่มเล่นเครื่องดนตรีที่ทุกคนจำเธอได้ นั่นก็คือเปียโน เกิดขึ้นในตอนที่เธออายุได้ 7 ปี (1994) ณ เวลาที่บ้านอีโกลวาต้อนรับสมาชิกใหม่ ‘ซูซี่’ เข้ามาเป็นบุตรบุญธรรม แม้เธอจะไม่ได้บอกว่าเริ่มเล่นเพราะอะไร แต่การเป็นนักดนตรีก็เคยเป็นความใฝ่ฝันของ ‘จาน่า’ แม่ของเธอมาก่อน แต่สิ่งที่ต่างกันคือชีวิตของเธอกำลังจะเปลี่ยนไปในอีก 6 ปีต่อจากนี้โดยใครบางคนที่เธอเองก็ไม่รู้ตัวเลย…

เกล็น แฮนซาร์ด (Glan Hansard) ลืมตาดูโลกครั้งแรกในฤดูใบไม้ผลิของเดือนเมษายน ปี 1970 ใน Ballymun เขต ๆ หนึ่งของดับลิน ประเทศไอร์แลนด์ แต่พออายุได้ 13 ปี เกล็นรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร เขาลาออกจากโรงเรียนเพื่อตามล่าหาฝันในเสียงเพลงของเขาโดยการเป็นนักดนตรีวณิพก (busker)

glen-hansard

หลังจากตระเวนสั่งสมประสบการณ์มาซักระยะเวลานึง เกล็นตัดสินใจหันหัวเรือตีกลับบ้านเพื่อเริ่มทำเดโม่เพลงเป็นของตัวเองโดยมีผู้เป็นแม่สนับสนุนอยู่ข้างหลังอย่างห่วง ๆ และแล้วเมื่ออัดเสียงเสร็จ เขาก็ก็อปปี้เทปม้วนนั้นออกมาอีก 50 ชุด เพื่อส่งให้ค่ายเพลงต่าง ๆ ในไอร์แลนด์

หวยไปตกที่ Denny Cordell โปรดิวเซอร์ผู้เคยอยู่เบื้องหลังศิลปินอย่าง Tom Petty และ Joe Cocker เขาจับหนุ่มน้อยเกล็นในวัย 17 ปี เซ็นสัญญาทำเพลงด้วยทันที

เกล็นเริ่มตั้งวงดนตรีที่ชื่อว่า The Frames โดยรวบรวมสมาชิกจากกลุ่มเพื่อนนักดนตรีวณิพกที่เขารู้จัก โลกรู้จักพวกเขาครั้งแรกจากอัลบั้มแรกในปี 1995 ของพวกเขาที่ชื่อว่า Fitzcarraldo (เพลง Say It To Me Now จาก ‘Once’ ก็มีจุดกำเนิดมาจากตรงนี้นี่ล่ะ) หลังจากจบอัลบั้มนั้นไปพวกเขาก็ออกทัวร์และอัดเสียงอัลบั้มใหม่มาเรื่อย ๆ จนกระทั่งในปี 2001 ดนตรีพาพวกเขามาที่สาธารณรัฐเช็ก และพาเกล็นมาเจอกับมาร์เกตาเป็นครั้งแรก

เขาเล่นในงานที่พ่อของเธอเป็นโปรโมเตอร์ เขาไปพักที่บ้านของเธอแล้วเห็นเธอร้องเพลงกับครอบครัวอยู่จึงชวนให้ขึ้นมาร้องบนเวทีด้วยกัน ก่อนที่เขาจะต้องจากเธอไปซักระยะนึงโดยที่ทั้งคู่ไม่รู้ตัวเลยว่าจะได้โคจรมาเจอกันใหม่อีกครั้ง

Once Again

“ผมอยากจะเขียนอะไรบางอย่างที่เกี่ยวกับชาวดับลินผู้รู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองอพยพมาจากที่อื่น และรู้สึกว่าคนที่มาจากที่อื่นเป็นคนที่นี่มากกว่าที่คนที่เป็นเสียอีก และตัวเขาเองอยากจะมีความสัมพันธ์กับคนเหล่านั้น” นี่คือคำพูดที่มาจากไอเดียของ John Carney ผู้เคยเป็นมือเบสให้กับ The Frames ของเกล็น และเป็นชายคนเดียวกับที่สร้างโลกของ ‘Once’ ขึ้นมาในปี 2007 จนทำให้พระเอกและนางเอกของเรื่องมาเจอกันอีกครั้งนึง

the-frames

ถ้าใครเคยดูหนังเรื่องนี้แล้ว เราอยากบอกด้วยความรู้สึกที่เราเองก็ตื้นตันมากว่า “ช่วงเวลาต้องมนต์ในหนังของทั้งคู่เป็นของจริง” ใช่ ๆ ทั้งคู่ตกหลุมรักกันจริง ๆ จากข้างในนั้น

และถึงแม้จอห์นจะบอกเราว่าคอนเซ็ปต์ของหนังเรื่องนี้เริ่มมาจากตรงไหน แต่สำหรับคนที่ดูแล้ว (อีกครั้ง) มันก็อดคิดไม่ได้เลยใช่มั้ยว่าทำไมมันเหมือน based on มาจากชีวิตจริงของทั้งเกล็นและมาร์เกตาเลย ในหนังเขาเป็นวณิพกตามหาฝันในเสียงดนตรี และเริ่มสร้างวงดนตรีจากกลุ่มเพื่อนที่รู้จัก ทั้งความบังเอิญที่ทำให้เจอกับนางเอกและชวนเธอมาร้องด้วยกัน และสุดท้าย …

ความรักหลังประสบความสำเร็จ ได้รับรางวัลออสการ์ในปี 2008 ก่อเกิดกลายเป็นวงที่ชื่อ The Swell Season ที่ทั้งคู่ร่วมกันสร้างและบรรเลงไปด้วยกัน

2015-10-06_ent_13453015_i1

Just … Falling Slowly

ทั้งคู่ออกอัลบั้มแรกที่ชื่อ The Swell Season ตอนปี 2006 และออกทัวร์ทัวเพลงร่วมกันไปเรื่อย ๆ ตลอดช่วงเวลานั้น ความน่ารักที่เกิดขึ้นบนเวทีในทุกโชว์คือช่วงเวลาที่สายตาของทั้งคู่บังเอิญหันมาเจอกันพอดี เราจะได้เห็นรอยยิ้ม ความเคอะเขิน ที่ชวนให้ยิ้มตามเดี๋ยวนั้นทันที 🙂

swellseasonnn

แต่นี่คือชีวิตจริง เราอยากให้คุณจำไว้เสมอว่าระหว่างที่อ่านอยู่เรื่องราวทั้งหมดคือเรื่องจริง และในเรื่องจริงอะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอโดยที่ไม่มีใครสามารถรู้ล่วงหน้าได้เลย

ปี 2009 อัลบั้ม Strict Joy ชุดที่ 2 ของทั้งคู่เกิดขึ้นพร้อมกับ … ปี 2011 ระหว่างอัดอัลบั้มที่ 3 ของ The Swell Seaon ทั้งคู่ตัดสินใจปิดหน้าหนังสือของนิยายรักเรื่องนี้ลงอย่างเป็นทางการด้วยเหตุผลของทัศนคติ เรื่องการปรับตัว และเรื่องความสัมพันธ์ที่ไปต่อไม่ไหวอีกแล้ว

In Our Song

หลังจากเรื่องราวมากมายในความสัมพันธ์ครั้งนั้น ปัจจุบันล่าสุดของมาร์เกตาคือเธอมีความสัมพันธ์ครั้งใหม่กับ Tim Iseler ผู้เป็นซาวด์เอ็นจิเนียร์ในสตูดิโอ ทั้งคู่แต่งงานกันและมีลูกร่วมกัน ส่วนในเรื่องของดนตรีนั้นเธอไม่ได้หยุดทำลงไปแต่อย่างไร ตอนนี้มาร์เกตาเป็นศิลปินเดี่ยวแล้ว เธอสังกัดอยู่ที่ Anti- Records (สำนักของ Tom Waits, The Drums, Andy Shauf) และออกอัลบั้มล่าสุดในปี 2014 ที่ชื่อ Muna ออกมา

the-sell-season-album

เรื่องระหว่างเกล็นและเธอถึงแม้จะเป็นอดีตไปแล้ว แต่สิ่งที่ทำให้เชื่อว่าเธอและเขาจบกันไปด้วยคือคำพูดที่เธอเคยทิ้งท้ายไว้กับสื่อที่ว่า “เช่นเดียวกับที่เพื่อนสามารถเปลี่ยนเป็นคนรัก คนรักก็แปรผันไปเป็นอย่างอื่นได้เช่นกัน แม้อัลบั้มสุดท้าย ณ ตอนนั้นจะถูกเรียกว่าอัลบั้มแห่งการเลิกรา แต่เราก็ทำดนตรีออกมาในแบบที่เราเชื่อและตั้งใจ ถึงยังไงความสัมพันธ์ของเราก็จะยังคงเป็นมิตรภาพและดนตรีเสมอไป”

the-swell-season-album-2

ส่วนปัจจุบันของเกล็นนั้น เขายังคงมุ่งมั่นทำในสิ่งที่เขารักมาทั้งชีวิตต่อไป เกล็นพึ่งปล่อยอัลบั้มล่าสุดในฐานะศิลปินเดี่ยวที่ชื่อว่า Between Two Shores เมื่อ 7 มีนาคมที่ผ่านมา ในต้นสังกัดเดียวกันกับมาร์เกตาเลย ซึ่งอาจจะเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าทั้งคู่จบกันด้วยดีและกลายเป็นเพื่อนที่ห่วงใยกันอย่างที่เคยเป็นมาตั้งแต่ได้รู้จักกันครั้งแรก

“จงตามหาคนที่ทำให้คุณสามารถทำทุกอย่างได้ดีขึ้นในแบบที่คุณไม่สามารถทำได้เวลามีเพียงตัวคนเดียว แล้วคุณจะได้พบกับช่วงเวลาที่สวยงาม” – ‘เกล็น แฮนซาร์ด’ ถึงแม้ความรักของทั้งคู่จะจบลงไปแล้ว แต่ครั้งหนึ่งที่เคยเกิดขึ้นนั้นมันจะคงสวยงามเสมอและตลอดไป : )

อ้างอิง

http://www.clashmusic.com/features/director-john-carney-talks-about-hit-film-once
https://www.allmusic.com/artist/glen-hansard-mn0000209086/biography
http://marketairglova.com/about
https://www.irishtimes.com/culture/film/the-swell-season-the-documentary-that-s-stranger-than-fiction-1.1610576
http://www.nytimes.com/2009/10/18/arts/music/18davi.html
https://www.allmusic.com/artist/the-swell-season-mn0001448395/biography
https://www.npr.org/sections/allsongs/2011/11/08/142134817/a-couple-breaks-up-but-the-band-plays-on
http://ew.com/article/2007/08/29/once-star-glen-hansard-gets-personal/

Facebook Comments

Next:


Geerapat Yodnil

จี Loser boy ผู้หลงไหลในหนังของ Woody Allen มี Mac DeMarco เป็นศาสดา และยังคงเชื่ออยู่เล็ก ๆ ว่าตัวเองจะสามารถเป็น William Miller ได้ในซักวัน