มารู้จัก Produce 48 เรียลลิตี้ไอดอล เฟ้นหาดอกไม้ที่งดงามที่สุดในเกาหลีและญี่ปุ่น
- Writer: Peerapong Kaewthae
- Art Director: Thanaporn Sookthavorn
내꺼야 내꺼야 내꺼야
เนกอยา เนกอยา เนกอยา~
เธอต้องเป็นของฉัน เป็นของฉันคนเดียวนะ~
เชื่อว่าใครได้ฟังท่อนนี้ พร้อมท่าเต้นประสานมือแนบหน้าอกด้วยอาการออดอ้อนของเด็กสาวหลายคนที่ดูน่ารักเต็มขั้น ก็คงต้องโดน ‘ตก’ กันไปทุกรายกับ mv เปิดตัวรายการ Produce 48 ที่กลายเป็นกระแสในชั่วข้ามคืน ทั้งยังทำเอาโซเชียลลุกเป็นไฟไปกับท่าเต้นอันแข็งแรงและสนุกสนาน พร้อมด้วยการโฟกัสไปที่หน้าของว่าที่ไอดอลที่เราคุ้นเคย กับเพลง 내꺼야 (Pick Me) ที่มีทั้งภาษาเกาหลีและภาษาญี่ปุ่นอยู่ด้วยกัน แถมดนตรีก็ยังเป็นอิเล็กทรอนิกแบบที่ทีมงานเกาหลีถนัด แม้ท่าเต้นจะแฝงความน่ารักสไตล์ญี่ปุ่นไว้ แต่ก็ยังแอบมีความเซ็กซี่แบบเกาหลีเจืออยู่เหมือนกัน ทำให้มันเป็นเพลงที่ลงตัวมาก ๆ ในหลาย ๆ ส่วนจนติดหูเราได้ไม่ยากเลย นอกจากจะถูกใจคนฟังเพลงแล้ว หลายคนก็เริ่มจับจองโอชิของตัวเองกันแล้วด้วย ใครยังไม่ได้ฟังต้องลองกดฟังเลยครับ
หลังจากกดฟังและดูท่าเต้นของพวกเธอกันไปสามสี่รอบแล้ว เรามาทำความรู้จักกับ ‘Produce 48’ และมาเป็นโอตะวงนี้ไปพร้อม ๆ กันดีกว่าครับ (ฮา)
‘Produce 48’ คือรายการเรียลลิตี้เฟ้นหาไอดอลระดับโลก ที่เกิดจากการร่วมมือกันระหว่างรายการ ‘Produce 101’ ของ Mnet จากเกาหลี และ AKB48 Group จากญี่ปุ่น ซึ่งแฟน ๆ หลายคนก็คาดเดากันได้ตั้งแต่ในงาน 2017 Mnet Asian Music Awards แล้วจากการที่วง Produce 101, Idol School และ AKB48 ขึ้นแสดงด้วยกัน ว่าทั้งสองเจ้าต้องมาทำอะไรด้วยกันแน่นอน
โดยฝั่งเกาหลีอย่าง Mnet ก็มีดีกรีเป็นหนึ่งในช่องโทรทัศน์ชั้นนำที่สร้างสรรค์วาไรตี้ชื่อดังมากมาย หลายรายการก็ถูกซื้อมาทำใหม่ในไทยด้วยทั้ง ‘I Can See Your Voice’, ‘Let Me In’ รวมถึง ‘Show Me The Money’ ที่กำลังฉายอยู่ตอนนี้ แถมยังมีประสบการณ์ในการปั้นวงไอดอลประสบความสำเร็จมาแล้วในรายการ ‘Produce 101’ ทั้งวง I.O.I เกิร์ลกรุ๊ปที่เดบิวโดยผู้เข้าแข่งขัน 11 คนที่ได้คะแนนโหวตสูงสุด จากซีซันหนึ่ง และ ซีซันสอง ได้ปั้นวงบอยแบนด์อย่าง Wanna One ขึ้นมาจนดังเป็นพลุแตก ส่วนอีกฝั่งคือ AKB48 Group ที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการไอดอล และประสบความสำเร็จสูงสุดในญี่ปุ่น แถมยังมีวงน้องในสังกัดอีกมากมายกระจายไปทั่วประเทศ และอีกหลายประเทศรวมถึงไทยในชื่อว่า BNK48 ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในตอนนี้
ซึ่งรายการ ‘Produce 48’ เหมือนจะนำข้อดีของทั้งสองฝั่งมารวมกัน โดย ‘Produce 101’ จะมีผู้เข้าแข่งขัน 101 คนและคัดเลือกจนเรื่อง 11 คนแล้วให้เดบิวต์ในชื่อวงใหม่ โดยติดสัญญาแค่หนึ่งปี ก่อนสมาชิกในวงจะแยกย้ายกันไปทำตามความฝันของตัวเองต่อ เพราะหลายคนที่เข้ามาแข่งขันในรายการ ก็เป็นเด็กฝึกหัดในค่ายกันมาก่อน เหตุผลหนึ่งที่อยากมาออกในรายการนี้ก็เพื่อลงสนามไอดอลจริง ๆ และอาจเดบิวต์งานเดี่ยวหรือกับวงของค่ายเองในภายหลังที่หมดสัญญากับ Mnet เจ้าของรายการ ส่วนฝั่งญี่ปุ่นก็นำแนวคิด ‘ไอดอลที่พบเจอได้ในทุกวัน’ กับเธียเตอร์ที่มีพื้นที่ให้เด็ก ๆ ได้ออกมาโชว์บ่อย ๆ มาใช้ ซึ่งเราน่าจะเข้าใจกฎกติกาของไอดอลฝั่งญี่ปุ่นกันดีอยู่แล้วจากกระแสที่มีในบ้านเราตอนนี้ ทำให้ Produce 48 กลายเป็นรายการล่าฝันที่ขับเคี่ยวกันได้น่าตื่นเต้น
โดยการแข่งขันครั้งนี้ก็มีผู้เข้าแข่งขันถึง 96 คน โดยแบ่งเป็น เกาหลี และ ญี่ปุ่น ฝั่งละ 48 คน โดยฝั่งญี่ปุ่นก็เป็นสมาชิกในเครือ AKB48 Group ทั้งหมด แต่ฝั่งเกาหลีก็ไม่น้อยหน้า เพราะก็มีไอดอลเกิร์ลกรุ๊ปที่เคยเดบิวต์กับวงดัง ๆ มาเข้าแข่งขันหลายคนอยู่ โดยทุกอาทิตย์ทุกคนจะต้องแสดงอย่างเต็มที่และขโมยหัวใจของคนดูให้ได้ ซึ่งผู้ชี้ชะตาสถานะไอดอลของพวกเธอก็ไม่ใช่ใครที่ไหน คนดูเนี่ยแหละ! โดยในรายการจะเรียกกรรมการเหล่านี้ว่า ‘National Producer’ หรือโปรดิวเซอร์แห่งชาติ ที่ต้องโหวตผู้เข้าแข่งขันที่ชอบให้เข้าไปในรอบลึก ๆ ให้ได้จนเหลือ 12 คนสุดท้าย ซึ่งคะแนนก็มาจากการโหวตของคนดู 100% โดยจะเหลือแค่เกาหลีและญี่ปุ่นฝั่งละ 6 คนเท่านั้น นอกจากนี้คะแนนโหวตของพวกเขายังเป็นของรางวัลให้กับผู้เข้าแข่งขันที่เราเชียร์อีกด้วย ตอนที่รายการประกาศวิธีโหวตออกมาให้คนเกาหลีทางบ้านสามารถโหวตให้กับผู้เข้าแข่งขันฝั่งญี่ปุ่นได้เท่านั้น และคนญี่ปุ่นทางบ้านก็โหวตได้แค่ผู้เข้าแข่งขันฝั่งเกาหลีเหมือนกัน ทำให้เกิดกระแสความไม่พอใจเล็กน้อย เพราะผู้เข้าแข่งขันชาติเดียวกับเขาที่เขาชอบอาจโดนโหวตออกโดยที่พวกเขาทำอะไรไม่ได้เลย แต่นั่นทำให้ผู้เข้าแข่งขันต้องแข่งกันเองในชาติด้วย แค่ฟังก็รู้สึกว่าเป็นการแข่งขันที่ดุเดือดขึ้นมาแล้ว แถมในรายการ ยังมีการแข่งขันมินิเกมเพื่อเพิ่มคะแนนโหวตให้อีกทาง เป็นวาไรตี้ที่ครบรสมาก
และแน่นอน เมื่อผู้เข้าแข่งขันที่เข้ามาในรายการเคยเดบิวต์และมีชื่อเสียงกันมาก่อนก็ย่อมมีตัวเต็งอยู่แล้ว ลองมาทำความรู้จักกับเซ็นเตอร์หรือคนที่อยู่หน้าสุดทั้งสองชาติใน mv เปิดตัวรายการกัน ได้แก่ อีกาอึน จากฝั่งเกาหลี และ มิยาวากิ ซากุระ จากฝั่งญี่ปุ่น
เห็น อีกาอึน เซ็กซี่แบบนี้ เพราะเธอมีประสบการณ์ทางด้านเกิร์ลกรุ๊ปมาอย่างโชกโชน ค่ายที่เธออยู่เคยส่งศิลปินไปแข่งในรายการ ‘Produce 101’ มาแล้วก็น่าจะเล่นเกมเป็น แถมเธอยังเคยเดบิวต์กับวง After School มาแล้ว ซึ่งเป็นวงในตำนาน ที่คนยังพูดถึงกันมาจนทุกวันนี้ แถมเธอยังมีความสามารถครบเครื่องในการเป็นไอดอลอย่างแท้จริง ทั้งการเต้น การร้อง การแร็ป และ ยังใช้ภาษาญี่ปุ่นได้อย่างเชี่ยวชาญอีกด้วย น่าจะได้ใจแฟนคลับของทั้งสองฝั่งไปเต็ม ๆ
ด้วยดีกรีเป็นถึงรองกัปตันของวง HKT48 และเป็นสมาชิกที่ได้รับความนิยมอันดับต้น ๆ แห่ง AKB48 ทำให้ มิยาวากิ ซากุระ ด้วยความมุ่งมั่นอันแรงกล้าของเธอ ทำให้เธอมายืนอยู่บนแถวหน้าของทั้งสองวงได้ในเวลาอันรวดเร็ว นั่นตามมาด้วยความกดดัน และ ความคาดหวังจากทุกคนตั้งแต่อายุยังน้อย แต่สิ่งเหล่านี้ไม่เคยสั่นคลอนเธอในฐานะไอดอลที่มีความสามารถได้เลย ซึ่งหลายคนคาดเดาไว้ว่า เธอจะเป็นหนึ่งในผู้นำของ AKB48 Group ยุคใหม่แน่นอน
แม้ทั้งสองคนจะเป็นตัวเก็งในรายการ แต่อย่าลืมว่ายังมีเด็กสาวอีกเกือบร้อยชีวิต ที่มีความสามารถไม่แพ้พวกเธอรอให้เราโดนตกอยู่ ซึ่งรายการนี้น่าจะมีเนื้อหาคล้าย ๆ กับเรียลลิตี้โชว์ค้นฟ้าคว้าดาวหานักร้องเสียงดีอีกหลายรายการ ที่เราก็เคยดูกันบนทีวีนั่นแหละ เพราะแข่งความสามารถกันอย่างดุเดือด แถมยังมีเทรนเนอร์หรือผู้ฝึกสอนเป็นเหล่าศิลปินหรือคนดังในแวดวงไอดอลเกาหลีอยู่แล้วทั้ง อีฮงกี, โซยู, Cheetah, แบยุนจอง และ May J Lee สิ่งที่น่าสนใจคือหลังจบรายการแล้วผู้ชนะทั้ง 12 คนจะเดบิวต์ออกมาเป็นยังไง เพราะเส้นทางไอดอลของเกาหลีและญี่ปุ่นค่อนข้างที่จะแตกต่างกันอย่างชัดเจน ในใจแอบตลกนิดหน่อยที่ถ้าใครติดตามข่าวจะรู้ว่าเกาหลีกับญี่ปุ่นมีข้อพิพาททางการเมืองมาตลอด แต่กลับมาร่วมมือสร้างไอดอลด้วยกัน นี่อาจจะเป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพอีกรูปแบบหนึ่งรึเปล่า หลังจากเกาหลีใต้เองก็ได้จับมือกับ คิม จอง อึน ผู้นำแห่งเกาหลีเหนือแล้ว
อีกเหตุผลหนึ่งที่เราสนใจรายการนี้เพราะมันคืออีกหนึ่งเส้นทางในอนาคตที่เด็ก ๆ BNK48 สามารถเดินทางไปได้ ก็ต้องรอดูว่ารายการนี้จะเวิร์กมั้ย ถ้าใครสนใจก็อย่าลืมติดตามกันต่อไป รายการจะฉายตอนแรกในวันที่ 15 มิถุนายน ทางช่อง Mnet อาจจะได้เห็นปรากฎการณ์ใหม่ ๆ แห่งการล่าฝันก็เป็นได้
เก็บตกProduce 48 และ 12 ไฟนอลเมมเบอร์ที่จะได้เดบิวต์กับวง ‘IZ*ONE’
