Virtual Reality VR เพลงคลาสสิค

Article Story

สัมผัสเหนือจินตนาการ! คนรุ่นใหม่หันมาฟังเพลง Classic กันมากขึ้น ผ่านแว่น VR

  • Writer: Peerapong Kaewthae
  • Art Director: Karin Lertchaiprasert

Virtual Reality เทคโนโลยี  (VR) กำลังเติบโตและมีที่ทางในอุตสาหกรรมเกมชัดเจนมากขึ้น ช่วงปีที่ผ่านมาเราได้เห็นเกม VR ที่น่าตื่นตาทั้งภาพและเกมเพลย์ที่สนุกเกินจินตนาการ แถมเกมดัง ๆ หลายเกมก็หันมาทำเวอร์ชั่น VR เพื่อเพิ่มอรรถรสในการเล่นมากขึ้น ด้วยความที่แว่น VR กำลังกลายเป็นแมสโปรดักซ์ ทำให้ราคาของมันก็ถูกลงเรื่อย ๆ หลายคนก็สามารถจับจองเป็นเจ้าของไว้ในบ้านได้

แต่รู้มั้ยว่าเทคโนโลยี VR เข้าไปสร้างแรงกระเพื่อมให้กับทุกตลาดได้อย่างน่าทึ่ง โดยเฉพาะดนตรีคลาสสิก แนวเพลงนี้มักถูกพวงมาด้วยวัฒนธรรมที่สูงส่งหรือความเป็นศิลปะที่เข้าถึงยาก ทำให้คนฟังเพลงทั่วไปไม่ค่อยได้สัมผัสถึงความงามของมันเพราะต้องใช้สมาธิสูงมาก จนหลายคนคิดว่าเพลงคลาสสิกเป็นศิลปะที่ต้องปีนบันไดเสพ ทำให้มีคนอยากนำดนตรีคลาสสิกมาผสมกับ VR เพื่อให้เข้าถึงทุกคนได้

หนึ่งในโปรเจกต์ที่น่าสนใจมาก ๆ มาจากนักไวโอลินรุ่นใหม่อย่าง Joshua Bell ที่ลดช่องว่างระหว่างระหว่างคนทุกระดับกับศิลปะเหนือกาลเวลาเหล่านี้ลง ด้วยการหยิบเสียงดนตรีคลาสสิกมาใส่ไว้ในเครื่องเกมที่ทุกคนมีอย่าง PlayStation 4 กับ ‘Joshua Bell VR Experience’ สิ่งที่ต้องมีก็แค่แว่น VR และหูฟังดี ๆ ซักตัว เราก็จะได้ฟัง Hungarian Dance No. 1 ของ Brahms โดยนักไวโอลินมืออาชีพทันที โดยที่ใช้วิธีการอัดอย่างพิถีพิถันโดยเทคนิก Binaural Sound ด้วยทิศทางของเสียงที่สร้างความสมจริง ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับการฟังเพลงคลาสสิกภายในฮอล Lyndhurst ในลอนดอน ใครยังไม่เคยร้องฟังเพลงคลาสสิกในฮอลระดับโลกก็สามารถดาวน์โหลดได้ฟรีที่นี่

Four Strings Around the World ก็เป็นอีกหนึ่งโปรเจกต์ที่เป็นมิตรกับคนรักดนตรีมาก ซึ่ง Irina Muresanu จะพาเราไปรอบโลก ตามโลเคชั่นชื่อดังหรือบรรยากาศที่ชวนผ่อนคลาย พร้อมกับไวโอลินตัวโปรดของเธอแล้วบรรเลงเพลงคลาสสิกเพราะ ๆ มากมาย ส่วนหนึ่งเธออยากละลายเส้นแบ่งระหว่างรสนิยมทางดนตรี โดยใช้ไวโอลินของเธอในการส่งต่อเสียงเพลงที่หลากหลาย เผื่อทุกคนจะเข้าถึงความงามของมัน แต่ความตั้งใจจริงของโปรเจกต์นี้คือเธออยากสอนไวโอลินผ่าน VR โดยให้ทุกคนสามารถสังเกตการวางนิ้วและท่าทางระหว่างเล่นได้อย่างชัดเจน เหมือนการสอนไวโอลินแบบตัวต่อตัว ซึ่งคาดหวังว่าความบันเทิงก็จะเป็นผลพลอยได้จากความสามารถของเธอ

การหยิบ Virtual Reality มาสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ในการเสพดนตรีก็ดูจะเป็นไอเดียที่เก๋ไก๋อยู่ แต่ที่สำคัญ คือทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงเพลงคลาสสิกได้โดยที่ไม่ต้องแต่งสูทเพื่อไปนั่งในโรงละครเป็นชั่วโมง ก็ทำให้เด็กรุ่นใหม่หันมาสนใจมันมากขึ้น เพลงคลาสสิกที่ทุกคนเชื่อว่าอยู่เหนือการเวลาก็อาจจะอยู่ต่อไปได้อีกนานผ่านเทคโนโลยีที่ทันสมัยด้วย

บทความอื่น ๆ ที่คุณอาจจะสนใจ

AR กำลังทำให้การฟังเพลงเปลี่ยนไปตลอดกาล เมื่อเสียงดนตรีเล่นกับพื้นที่ได้น่าตื่นเต้น

Mozart Effect ความเชื่อผิด ๆ ที่คิดว่าเปิดเพลงคลาสสิกให้ลูกฟังแล้วจะฉลาดขึ้น

Facebook Comments

Next:


Peerapong Kaewthae

แม็ค เป็นคนชอบฟังเพลงเพราะเป็นกิจกรรมที่ทำคนเดียวได้ และก็ชอบแนะนำวงดนตรีหรือเพลงใหม่ ๆ ให้คนอื่นรู้จักผ่านตัวอักษรตลอดเวลา