Article Interview

ค้นหาความหมายชีวิตผ่านเสียงเพลง YENA

  • Writer: Thanaporn Sopolpacharakun
  • Photographer: Duck & Aurayap

yena

เดินทางมาพบบรรจบกัน

โฟน: วงเรามันมีจุดเริ่มต้นมาจากผมกับกุลเป็นเพื่อนเล่นดนตรีด้วยกันมาตั้งแต่สมัยมัธยม จนกระทั่งอยู่มาวันนึงเราสองคนคุยกันว่า อยากจะตั้งวงดนตรีที่มีสมาชิกในวงเพียง 3 คนเท่านั้นจึงตัดสินใจเริ่มฟอร์มวงขึ้น โดยมีผมและกุลเป็นสมาชิกเพียง 2 คน ซึ่งก็ต้องมาตามหามือกลองต่อไปว่าจะเป็นใครที่สามารถมาตีกลองให้เราได้ดี ผมก็เลยหามือกลองมาให้กุลเลือก 3 คน หนึ่งในนั้นมี “เย” อยู่ด้วย

กุล: เรื่องของ “เย” มันเป็นเรื่องบังเอิญมาก ๆ ที่วันนั้นเราสองคนพึ่งคุยกันเองว่าจะทำวงกัน ประจวบเหมาะกับช่วงเย็นผมกับโฟนก็ไปนั่งดื่มกันอยู่แถวตรงป้ายรถเมล์ BTS พระโขนง ไม่รู้อะไรดลใจอยู่ ๆ คนที่ชื่อ เย ที่ไอ้โฟนมันเพิ่งเอามาเสนอเราก็เดินมาจากไหนไม่รู้ แล้วโฟนก็บอกว่านี่คนนี้คือ เย ผมเลยรีบบอกโฟนไปเลยว่าเอาคนนี้มาอยู่วงเราเลยละกัน

เย: วันนั้นผมพึ่งกลับจากมหาวิทยาลัยครับ ตอนนั้นประมาณ 5 ทุ่ม อยู่ดี ๆ เดินมาเจอไอ้สองคนนี้กำลังนั่งให้อาหารหมากันอยู่ (หัวเราะ) ก็มาชวนเราเข้าวงเลยรู้สึกแปลกใจตรงที่มันฉับพลันมากไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้ จากนั้นอีกซักพักเราทั้งหมดก็นัดซ้อมดนตรีกัน โดยปกติแล้วผมไม่เคยมีวงดนตรีมาก่อนเลย อยู่บ้านก็จะสนุกกับการตีกลองคนเดียวมาตลอด เลยแอบเกิดความรู้สึกกับตัวเองว่า เราจะไปเข้ากับคนอื่นได้หรือเปล่า ถ้าโฟนไม่ชวนเข้าวงผมก็ยังคงตีคนเดียวต่อไปครับ (หัวเราะ)

dsc_0101fwdsc_0105fwdsc_0143

 

 

วงดนตรีชื่อแปลก

โฟน: ที่มาของชื่อวงเป็นนามสกุลของเยครับ  ตอนแรกตั้งชื่อวงว่า วงเย ซึ่งชื่อเยเนี่ยจริง ๆ แล้วก็ไม่ใช่ชื่อเขานะครับเป็นชื่อที่เพื่อนมหาลัยเขาเรียกกัน

เย: เพื่อนที่มัธยมชอบเรียกนามสกุลผมมานานแล้วว่า เยเหย่เย้ ตอนแรกผมเถียงกับโฟนว่าต้องขออนุญาตคุณพ่อก่อนนะจะเอาชื่อนี้มาตั้งเป็นชื่อวงเนี้ย แต่พอมาโหวตเรื่องนี้กันเองในวงสามคน สุดท้ายก็ได้ชื่อ เยนา

กุล: ผมรู้สึกว่ามันใช่อ่ะ เลยขอเอานามสกุลเขามาตั้งเลย

เพลงแรกที่ใช้เวลาค้นหาตัวเองถึง 7 ปี

กุล: เราลองกันมาเยอะครับกว่าจะเจอเพลงที่คิดว่าใช่สำหรับเรา อย่างเพลง ‘กรุงเทพ’ นี่ทำมาตั้งหลายเวอร์ชั่นมาก จนรู้สึกว่าเปลี่ยนเพลงก่อนแล้วกัน ก็เลยหันมาทำเพลง ‘คนรับใช้’ ก่อน ซึ่งเพลงนี้มันทำให้พอจับทางได้ ว่าเราต้องเดินไปทางไหน

เย: ช่วงแรกที่ทำเพลงตัวผมจะไปตีกลองเหมือนชาวบ้านเขาหมดเลย พยายามตีคล้ายเพื่อนคนอื่นมาก ๆ  จนรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่ฝืนเลยกลับไปเป็นตัวเองดีกว่า ทุกอย่างมันเริ่มง่ายขึ้น แต่อย่างไรก็ตามเมื่อทำออกมามันก็โดนเรื่องการเปรียบเทียบอยู่ดี มีคนเคยบอกว่าวง Yena คือ ภูมิจิต2 ด้วย แต่เราไม่เคยเปลี่ยนอะไร ถ้าเราฟังแล้วตัวเราเองพอใจเราก็ทำต่อไป

โฟน: เราเข้าใจเรื่องการเปรียบเทียบนะ เพราะหลาย ๆวงก็ต้องเจอเรื่องนี้อยู่ดี ซึ่งสุดท้ายแล้วเราก็เป็น Yena พวกเราไม่เคยท้อและไม่กดดันด้วย ทำเรื่อย ๆ แล้วไม่เคยมีความคิดว่าจะเลิกเล่นกันไป

yenaa-02 yenaayennaaa

แนวเพลงที่หลายคนมองว่า Yena คือ วงเพื่อชีวิต

เย: เราไม่ได้จำกัดในตัวแนวเพลงเท่าไหร่ เพราะเวลาฟังเพลง ผมก็ไม่รู้ว่าเพลงแต่ละเพลงที่ฟังคือแนวอะไรเหมือนกัน เราไม่ค่อยมีความรู้ด้านนี้ จึงไม่ขอกำหนดดีกว่า แต่ถ้าจะบอกว่าเพลงของเราเป็นเพลงเพื่อชีวิตคงเป็นแค่เฉพาะเนื้อเพลง แต่ดนตรีคงไม่เหมือนวงเพื่อชีวิตที่ปกติได้ฟังกัน

โฟน: ในความคิดของผมเพลงเพื่อชีวิต คือการเอาชีวิตมาเล่าให้ฟังและเป็นทุกชีวิตนะครับ ไม่ใช่เรื่องคนอย่างเดียวเป็นสัตว์หรือทุกอย่างที่มีชีวิตมันเป็นเพลงชีวิตมากกว่า

กุล: วงเราเป็นเพลงชีวิตที่ไม่ค่อยดีด้วยนะครับ เราแต่งเพลงมาเพื่อจะเล่าให้ทุกคนรู้ว่าสังคมในปัจจุบันของเรามันไม่ดีนะ เรื่องดี ๆ คนเขาพูดกันเยอะแล้วจึงไม่อยากเล่าเหมือนคนอื่น

ที่มาของชื่อวงเป็นนามสกุลของเยครับ ตอนแรกตั้งชื่อวงว่า วงเย ซึ่งชื่อเยเนี่ยจริง ๆ แล้วก็ไม่ใช่ชื่อเขานะครับเป็นชื่อที่เพื่อนมหาลัยเขาเรียกกัน

ฬเย โปรเจคยามว่างของสมาชิกในวง

โฟน: เวลาเยไม่อยู่พวกเราจะกลายเป็นวง ฬเย (รอ-เย) โดยเราก็จะเล่นเป็นเพลงแนวโฟล์คกันสองคน ซึ่งมีที่ประจำที่ไปนั่งเล่นด้วยกันตั้งแต่เด็ก ๆ อย่างเพลงล่าสุด ‘โถขี้’ ที่ปล่อยไปทาง Youtube สถานที่ถ่ายทำก็ตรงนั้นแหละครับ เราจะไปนั่งเล่นไปดื่มด้วยกับเพื่อน ๆ เป็นประจำ

เย: วงฬเยเขาจะคุยเรื่องเนื้อร้องกันสองคนครับ (หัวเราะ) ในเวลาช่วงที่ผมไม่อยู่ก็จะเป็นแบบนี้ตลอด เราก็ปล่อยให้เขาทำฬเยอยู่อย่างนั้น บางทีงานผมยุ่งเขาสองคนก็จะแยกไปทำเพลงกันสองคนแล้วส่งมาให้ผมฟังครับ

กุล: การทำวงฬเยขึ้นมาเราทำเพราะ อยากให้เพลงมันได้ขยับมีรูปร่างของมันคร่าว ๆ ไว้หน่อย ไม่งั้นถ้าเราอยู่สองคนทางนี้เครียดแน่ไม่ได้ทำเพลงกันเลยก็เลยเกิดเป็นโปรเจคนี้ขึ้นมาครับ

ต้นกำเนิดความคิดชื่อเพลงสุดแปลก

โฟน: ยกตัวอย่าง การคิดชื่อเพลงอย่างเพลง’แกงไตปลา’เลยครับระหว่างที่ทำเพลงนี้เราอยากให้แสดงถึงความเป็นภาคใต้ ซึ่งตอนนั้นมันมีปัญหาเรื่องภาคใต้กันอยู่ และมีหนังสือพิมพ์พาดหัวข่าวประมาณว่ากำลังสั่งรถถังยานเกราะเข้ามา แต่เขาบอกว่าเขาจะแก้ปัญหาอย่างสันติวิธี ซึ่งความเป็นจริงแล้วมันเป็นไปแบบขัดแย้งมาก ๆ เลย

กุล: พวกเราคิดกันว่าเป็นไปไม่ได้แน่นอน ถ้าเกิดเขายังจะสั่งอะไรแบบนี้กันอยู่สิ่งที่เกิดขึ้นมันคงไม่ใช่สันติแน่นอน แค่รู้สึกอย่างงั้นเลย ดังนั้นทุกชื่อเพลงที่ได้มาแค่ต้องการให้สอดคล้องกับเนื้อเพลงแค่นั้น

img_6782fw img_6785fw img_6800fw

เสื้อวงที่สื่อถึงเรื่องราวของ ราชสีห์กับหนู

โฟน: มันพูดถึงเรื่องของการแบ่งชนชั้นครับ เรื่องราชสีห์กับหนูเนี่ยมันเป็นนิทานที่ตรงกับเนื้อเพลงของวงเรา โดยทุกอย่างไม่ว่าคุณจะรวยหรือจะจน แต่ทุกสรรพสิ่งก็กำลังช่วยเหลือกันอยู่ มันมีความหมายในตัวของมัน อย่างอาชีพคนรับใช้ ความหมายไม่ใช่ต่ำ ผมคิดว่าใคร  ๆ ก็ต้องรับใช้กัน ทุกอย่างมันไม่สามารถเท่าเทียมกันหมดได้ แต่อยู่ที่การเลือกปฏิบัติต่อคนให้เท่ากันเพียงแค่นั้นเอง

ค่ายเพลงมาจีบ YENA 

กุล: ย้อนกลับไปพวกผมเคยส่งเพลงไปทางคลื่นวิทยุคลื่นหนึ่งครับ ทุกวันนี้ก็ยังส่งอยู่นะ แต่เขาไม่เคยเปิดเพลงของพวกเราเลย ทุกอย่างมันเงียบและหายไป โดยเราไม่เคยหวังอะไรในเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว

โฟน: แต่ผมก็ไม่แปลกใจนะที่เขาไม่เปิดเพลงเรา ช่วงนั้นเพลงวงเรามันยังดิบเกินไป ไม่เหมือนปัจจุบันที่ทุกคนได้ยินกัน วงเราก็เคยมีค่ายอินดี้ของทางค่ายใหญ่ค่ายหนึ่งมาติดต่อ แต่พอคุยแล้วมันไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการ คุยกับทางนั้นแล้วรู้สึกไม่รู้เรื่อง เขาว่าเพลงเราทำนองมันไม่ได้หลาย ๆ อย่างมันไม่ได้ เลยรู้สึกว่าไม่มีค่ายดีกว่า ซึ่งถ้ามีค่ายเพลงเข้ามาจริงๆ ก็อยากจะคุยกับเขาเยอะ ๆ อยากให้เขาเข้าใจเราและเราเองก็ต้องเข้าใจเขาด้วย

สมัยนี้อะไรมันไปไว นักดนตรีทุกวงมันเริ่มเลี้ยงตัวเองยากแล้ว เราไม่สามารถไปขายแผ่นซีดีกันได้ง่าย ๆ อีกแล้ว เพราะเดี๋ยวนี้คนไม่ค่อยซื้อ ความต้องการของนักดนตรีตอนนี้ คือ ได้ไปแสดงสดอย่างเดียวก็เพียงพอแล้ว

สมมติฐานวงการเพลงไทย

โฟน: ผมรู้สึกเฉย ๆ นะ เพราะว่า เพลงของเราที่คนส่วนมากได้ฟังมันมากจาก ยูทูป และ mp3  ซึ่งเราทำอะไรไม่ได้หรอกครับ ยุคสมัยมันเปลี่ยนไป ซึ่งพอมันเปลี่ยนเราก็ต้องปรับตัวเราให้เข้ากับยุคสมัย เพราะว่าเราจะไปเปลี่ยนยุคสมัยไม่ได้

เย: สมัยนี้อะไรมันไปไว นักดนตรีทุกวงมันเริ่มเลี้ยงตัวเองยากแล้ว เราไม่สามารถไปขายแผ่นซีดีกันได้ง่าย ๆ อีกแล้ว เพราะเดี๋ยวนี้คนไม่ค่อยซื้อ ความต้องการของนักดนตรีตอนนี้ คือ ได้ไปแสดงสดอย่างเดียวก็เพียงพอแล้ว

กุล: แต่ผมก็รู้สึกดีใจมากๆ นะที่มีคนมาซื้อแผ่นวงเรา มาฟังเพลงของเราด้วย

มองการณ์ไกลอนาคตของ YENA 

โฟน: อยากได้งานเล่นสดเยอะ ๆ ครับ มาจ้างเราไปเล่นได้เลยครับ ที่สำคัญเราจะทำเพลงต่อไปอย่างไม่หยุดยั้งแน่นอน

กุล: อยากทำอัลบั้มเต็มครับซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา ทุกวงก็อยากมีอัลบัมเต็มอยู่แล้ว พวกเราก็อยากมีบ้าง หวังว่าจะได้ฟังกันในอนาคตอันใกล้นี้ครับ

ฝากไว้ในอ้อมอกอ้อมใจแฟนเพลง

YENA: อยากให้ลองฟังกันดูครับชอบไม่ชอบไม่ว่ากันยังไงก็ติดตามพวกเราด้วยนะครับ

yena

ไปทำความรู้จักกับพวกเขาได้ใน https://www.facebook.com/yenastore หรือจะเข้าไปฟังเพลงทั้งหมดของพวกเราได้ที่เว็บไซต์ฟังใจได้เหมือนกันนะครับ http://fungjai.com/artist/Yena

Facebook Comments

Next:


Sarun Pinyarat

ท้อป ศรัณย์ ภิญญรัตน์ เคย: เรียนออกแบบที่ไทยและฟินแลนด์ / ทำงานที่ Startup ใน Sillicon Valley ชอบ: ฟังเพลง / ดูหนัง / อ่าน / การเล่าเรื่อง / บูมบูม เป็น: ผู้ก่อตั้งฟังใจ / นักออกแบบ / คนคิด / คนเจรจา / คนลงมือทำ / นักเขียนจำเป็น