5 เพลงสุดโปรดของ ‘แพทตี้ อังศุมาลิน’ ที่ฟังได้โดยไม่ต้องกลัวใครมาทวงคืน
- Writer: Gandit Panthong
- Photographer: Chavit Mayot
นี่คือหนึ่งในนักแสดงที่เราอยากคุยที่สุดตั้งแต่เราทำคอลัมน์ เห็ดหูหนู มาครับ และทันทีที่รู้ว่ากำลังจะได้สัมภาษณ์ผู้หญิงคนนี้ลง Fungjaizine ก็เกิดความตื่นเต้นขึ้นมากมายในจิตใจของผม ระหว่างที่นั่งรอเธอก็เกิดคำถามมากมายเด้งขึ้นมาเรื่อย ๆ อย่างไม่เป็นจังหวะ จนกระทั่งประโยคแรกที่เธอเอ่ยออกมาว่า “สวัสดีคะ เรามาลุยกันเลยไหม” ทันใดนั้นผมตื่นจากภวังค์และเริ่มยิ่งคำถามใส่ แพทตี้—อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา ทันที
เพราะฉะนั้นแล้วเรื่องราวที่คุณอยากรู้ทั้งหมดเกี่ยวกับชีวิตของเธอ ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์ I Sea U ฉันรักทะเล…ที่มีเธอ ที่กำลังออนแอร์อยู่ในขณะนี้ ชีวิตส่วนตัวหลาย ๆ เรื่องของแพทตี้ ไปจนถึงเพจทวงคืนแพตตี้อังศุมาลินจากแดนวรเวชในเฟสบุ๊ก เราจะถามทุกเรื่องราวเหล่านี้ โอเคครับ !! เกริ่นกันมาเยอะแล้วเชิญอ่านบทสัมภาษณ์ของ Fungjaizine กับแพทตี้ได้เลย
Pattie Playlist
แพทชอบฟังเพลงเยอะนะ แต่จะฟังเรื่อย ๆ มากกว่า ไม่ได้มีวงโปรดอะไรขนาดนั้น จะชอบฟังเพลงแนวสบาย ๆ เพลย์ลิสต์นี้ที่เลือกมาเป็นเพลย์ลิสต์ที่แพทชอบฟังเวลารถติดอยู่บนถนน ฟังแล้วก็จะร้องฮัมตามได้ด้วย ยังไงลองฟังกันตามดูได้นะ
Boy Peacemaker – เธอเปลี่ยนไป
The Toys – 04.00
Max Jenmana – วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า
Getsunova Feat. Youngohm – รู้ดีว่าไม่ดี
แพทตี้—อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา – โยน ทิ้ง ปล่อย ost. I Sea U ฉันรักทะเล…ที่มีเธอ
Talk Talk Talk
บทบาทที่ได้รับใน I Sea U ฉันรักทะเล…ที่มีเธอ กับตัวละครที่ชื่อว่า ‘ทะเล’
เรื่องนี้แพทคิดว่า มุมมองของตัวละครมันจะโตกว่าเรื่องอื่น ๆ หน่อยนะ แล้วเรื่องนี้คาแร็กเตอร์ของทะเล จะเป็นตัวละครที่เจออุปสรรคชีวิตมาค่อนข้างเยอะ มันจึงทำให้มีความดราม่าในชีวิตอยู่พอสมควร
ความยากของบทบาทนี้ยากกว่าบทอื่น ๆ ที่เคยเล่นมากรึเปล่า
เอาจริง ๆ มันก็ไม่ได้ถึงกับยากขนาดนั้นค่ะ แม้ว่าคาแร็กเตอร์แต่ละตัวที่เราเล่นอาจจะมีความคล้ายคลึงกันก็จริง บทบาทน่ารัก ใส ๆ อะไรแบบนี้ อาจจะไม่ได้แบบฉีกไปเป็นอีกบทบาทนึงเลยขนาดนั้น แต่ข้างในตัวละครเหล่านั้นเขาก็จะไม่ได้เหมือนกันอยู่แล้ว มันคนละคนกัน เราแค่พยายามทำความรู้จักคนที่เรากำลังรับบทบาทให้เยอะที่สุดเท่านั้นเอง บางทีเป็นนักเรียนแล้วก็เป็นผู้ใหญ่สลับกันไป มีขึ้นมีลงตลอดเวลา
ร่วมงานกับ ไบร์ท—วชิรวิชญ์ ชีวอารี และ เจสซี่ เมฆวัฒนา ครั้งแรก
สนุกดีค่ะ น้อง ๆ ทั้ง 2 คน แพทก็เพิ่งเคยเจอกันครั้งแรกในเรื่องนี้ เขาจะมีความคล้ายกันทั้งคู่ เป็นแนวแบบว่าง ๆ จะชอบมาดีดกีต้าร์ร้องเพลงให้เราฟังบ้าง (หัวเราะ) เขาชอบร้องเพลงกันทั้งคู่ ตัวแพทบางทีก็เผลอฮัมเพลงตามน้อง ๆ เขาไปเหมือนกัน
ซีนที่ยากที่สุดในซีรีส์เรื่องนี้
มีหลายซีนอยู่เหมือนกันนะคะ แต่ถ้ายากเรื่องการถ่ายทำก็จะมีซีนแรก ๆ ที่จมน้ำแล้ว เราต้องถ่ายทำกันใต้น้ำ วันนั้นจำได้ว่าถ่ายทั้งวันเลย มันยากตรงที่เราเองก็ต้องมีสมาธิด้วย เรื่องการหายใจในซีนนี้มันสำคัญมาก ๆ บางทีก็เราก็จะเผลอหายใจ น้ำเข้าจมูก ต้องมีอุปกรณ์น้ำหนักมาถ่วงขาไว้ด้วย แต่จริง ๆ หนูก็เป็นคนที่ว่ายน้ำแข็งอยู่แล้วเลยไม่ได้มีปัญหามาก เราเองจะยากเรื่องการโฟกัสมากกว่า เวลาอยู่ใต้น้ำเราก็ต้องเล่นว่าต้องจมน้ำ คล้าย ๆ กับมีอาการการฝันเพ้อ ๆ นิดหน่อยอีก คอนโทรลยากนิดนึง เพราะเราก็ไม่รู้ว่ามันโอเคไหม เราไม่ได้ยินเสียงที่ผู้กำกับบอก การสื่อสารมันก็ยากด้วย กินเวลาไปทั้งวันเลย แต่พอผ่านไปด้วยดีแล้วได้ดูก็รู้สึกแฮปปี้กับฉากนี้มาก ๆ
ก่อนหน้านี้เคยเล่นฉากจมน้ำมาก่อนรึเปล่า
ไม่เคยค่ะ ปกติจะมีแค่จมนิด ๆ หน่อย ๆ แต่ไม่ได้ถึงขนาดถ่ายใต้น้ำเยอะแบบซีนนี้ ในอนาคตถ้ามีให้เล่นอีกก็ได้นะ ไม่ได้เข็ดเลยขนาดนั้น สนุกดี
ไหน ๆ ซีรีส์นี้พูดถึงเรื่องทะเลเป็นส่วนใหญ่ แพทตี้เป็นคนชอบเที่ยวทะเลไหม
ชอบนะคะ ถ้าเป็นทะเลของประเทศไทยเรา แพทจะชอบยู่ที่เกาะหลีเป๊ะ เกาะนี้จะเป็นโซนที่ตัวแพทเองเคยไปเที่ยวเมื่อประมาณ 10-15 ปีที่แล้ว ความทรงจำของเกาะนี้ที่จำได้คือตอนนั้นไม่มีนักท่องเที่ยวเลยจะมีแต่ฝรั่งแนวลุย ๆ ไปเที่ยวเท่านั้นเอง มันเป็นสถานที่ที่สวยงามมาก น้ำทะเลมันแค่เห็นผิวน้ำก็เห็นปะการังเป็น 7 สีแล้ว น้ำมันใสมาก ๆ เป็นสีฟ้าเลย คิดเหมือนกันว่า ถ้ามีโอกาสก็อยากจะกลับไปเที่ยวอีกครั้งเหมือนกัน
กระแสตอบรับที่ได้จากซีรีส์เรื่องนี้
ก็ดีค่ะ มีคนคอมเม้นต์กันเยอะพอสมควรทั้งใน YouTube และทางทวิตเตอร์ ซีรีส์เรื่องนี้จะมีแฟน ๆ ของพี่มุนินตามดูกันอยู่เยอะเหมือนกัน เขาก็จะบอกว่า ชอบฉากนั้น ชอบตัวละครอย่างนี้ อยากให้เราคู่กับคนนี้ ก็จะมีเขียนกันมา เราก็ไปแอบอ่านตลอด ซึ่งก็ทำให้รู้สึกดีใจที่มีคนชอบซีรีส์เรื่องนี้
ส่วนใหญ่คนจะเห็นแพทตี้รับบทเป็นเด็ก ๆ วัยใสตลอด มีบทบาทไหนที่อยากรับเล่นอีกไหม
เมื่อก่อนมีนะ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ได้คิดไว้มากว่าอยากจะรับอันไหน เพราะว่ามันก็ไม่ค่อยได้ตามที่เราอยากเล่นล่ะ สุดท้ายทุกสิ่งที่เขาเสนอมา เราก็แค่อ่านบทดู ถ้าอ่านแล้วเราอยากเล่นเราก็รับเลย มันอยู่ที่ตัวเราเองมากกว่าว่าโอเคกับสิ่งที่อ่านอยู่ไหม
แง่คิดที่คนดูจะได้รับจากการชมซีรีส์เรื่องนี้
จริง ๆ เรื่องนี้ให้แง่คิดเยอะเหมือนกัน ไม่ว่าจะทั้งในพาร์ตของตัวละครเรา ในฝั่งของครอบครัว คู่พี่น้อง คู่แฟน ก็มีให้แง่คิดเยอะเหมือนกัน อย่างล่าสุดมันจะมีแง่คิดที่เกิดขึ้นจากตัวละครของเราที่ชื่อว่า ‘ทะเล’ พูดไปใน EP.5 ว่า “ท้องฟ้ากับทะเล รู้ไหมว่ามีอะไรที่มันเหมือนกัน มันมีวันที่มีคลื่นลมแรงเหมือนกันยังไงล่ะ” จากประโยคนี้มันทำให้เปรียบเทียบแง่คิดได้ว่า วันที่เรามีความสุขมาก ๆ ก็ให้เรามองท้องฟ้าไว้ เพราะอีกไม่นานถ้าวันใดพายุพัดเข้ามาทำให้เรามีความทุกข์ เราก็จะผ่านพ้นมันไปได้เหมือนสองสิ่งนี้ล่ะ ไม่มีอะไรที่อยู่กับเราไปตลอดกาลหรอก คล้ายกับบอกว่าอย่าให้เราไปยึดติดกับอะไรนาน ๆ มันเป็นแง่คิดที่ตัวแพทเองชอบนะในพาร์ตนี้
ได้ร้องเพลงประกอบในซีรีส์ด้วย
ใช่ เพลงนี้เป็นครั้งแรกที่ร้องเพลงเป็นของตัวเองเลย ชื่อเพลง โยน ทิ้ง ปล่อย ตอนอัดสนุกสนานมาก ได้พี่แมน ละอองฟอง (ตนุภพ โนทยานนท์) มาเป็นคนคุมร้อง ทั้งแต่งเนื้อเพลง และเรียบเรียงทั้งหมดเลย ความรู้สึกตอนอัดร้องไม่ตื่นเต้นนะ ก็รู้สึกว่า เออ เป็นสิ่งนึงที่เราจะทำก็ทำได้นะ แปลกดีเหมือนกัน
ตอนฟังเพลงนี้เขินเสียงตัวเองไหม
ฟังบ่อย ไม่เขินเท่าไร ตอนดูซีรีส์นี้มันก็มีบ่อยนะ ก่อนหน้านี้แพทเคยร้องกับพี่โอ้ต—ปราโมทย์ ปาทาน ทีนึงแล้วเหมือนเราเคยทำแล้ว เลยรู้สึกว่า ไม่ได้เขินมาก ครั้งนี้ก็โอเค พอมีประสบการณ์แล้ว เป็นเพลงแรกของฉันแล้ว (หัวเราะ) เพลงนี้มันจะเป็นเพลงที่มีเนื้อร้องทุกอย่างใหม่ มันไม่ได้ไปคัฟเวอร์ รู้สึกใหม่ดีนะ
มีอะไรจะฝากถึงคนที่ดูซีรีส์เรื่องนี้บ้าง
คงไม่ได้บอกอะไรมาก อย่างแรกเลยก็อยากขอบคุณที่ติดตามดูกัน หวังว่าทุกคนจะแฮปปี้แล้วก็ชอบซีรีส์เรื่องนี้ ถ้าเกิดใครดูแล้วได้แง่คิดกลับไปใช้ในชีวิตประจำวันด้วยเราก็ยิ่งแฮปปี้ แค่นี้ก็ดีใจมาก ๆ แล้ว
ปีนี้เข้าวงการมีกี่ปีแล้ว
น่าจะเป็นปีที่ 9 ปีแล้วนะ เป็น 9 ปีที่ดีของแพทเลยล่ะ รู้สึกว่าตัวเองโตขึ้นเยอะมาก ๆ เหมือนกันแล้ววงการบันเทิงเองก็ให้ประสบการณ์หลาย ๆ อย่างเยอะมากเช่นกัน
ภาพจำจากภาพยนตร์ ปิดเทอมใหญ่…หัวใจว้าวุ้น คิดว่าจะมาถึงขนาดนี้ไหม
ไม่คิดเลย ตอนนั้นแค่จำได้ว่ามากองถ่ายเพื่อเล่นภาพยนตร์เรื่อง ปิดเทอมใหญ่…หัวใจว้าวุ่น แค่นั้นเอง เราสนุกที่ได้ทำ ไม่ทันคิดเลยว่าถ่ายเสร็จแล้วเขาต้องเอาไปฉายโรงภาพยนตร์นี่หว่า (หัวเราะ) ตอนหนังจะเข้าตอนนั้น ก็อารมณ์ว่า จะฉายจริง ๆ แล้วเหรอ มันเป็นความรู้สึกที่เด็กมากสำหรับเรา วงการบันเทิงมันเป็นโลกใบใหม่ที่เราไม่เคยสัมผัสมาก่อนเลย เราจำได้ว่า แค่มาสนุก ๆ เห็นพี่ ๆ เขาจัดไฟ เห็นเขาเปลี่ยนม้วนฟิล์มกัน แค่นั้นเราก็แฮปปี้แล้ว ไม่ได้มองไกลเลยว่าเราถ่ายเสร็จแล้วจะเกิดอะไรขึ้นต่อในชีวิต
ได้ย้อนกลับไปดูผลงานตัวเองในภาพยนตร์เรื่องนี้รึเปล่า
มีบ้างค่ะ แต่ก็ไม่ได้มีโอกาสได้ย้อนดูเท่าไร บางทีเปิดทีวีมันมีรีรันเราก็นั่งดูนะ ตอนเห็นตัวเองก็จะแบบ โห ตอนนั้นแก้มป่องมากอะไรแบบนี้
รับมือกับการใช้ชีวิตในวงการบันเทิงอย่างไร
ถ้าช่วงนั้นก็จะรู้สึกแปลก ๆ ค่ะ ปกติเราไปไหนมาไหนจะไม่มีใครสนใจเราอยู่แล้ว หลังจากนั้น โอเคเลย เป็นที่จับตามองของทุกคน (หัวเราะ) ระยะเวลามันก็ค่อย ๆ ทำให้เราชินกับงานตรงนี้ ถ้าเราไปที่ที่คนเยอะเราต้องเจออะไรบ้างก็จะเรียนรู้และปรับไปตามสถานการณ์นะ อะไรที่เราเลี่ยงได้ก็เลี่ยง ทุกวันนี้ก็ยังรู้สึกสนุกกับมันอยู่ ยังไม่เคยคิดเลยว่าหลังจากนี้จะไปทำงานอื่นด้านไหนอีก
ถ้าตอนนั้นไม่ได้เข้าวงการบันเทิง คิดว่าตัวเองจะทำอาชีพอะไรอยู่
น่าจะเป็นแอร์โฮสเตส เพราะเราชอบท่องเที่ยว คิดว่าอาชีพนี้จะเป็นอาชีพที่พาเราไปในที่ต่าง ๆ ได้ โดยที่ทำงานด้วยเที่ยวด้วยได้ แต่ก็ไม่ใช่ความฝันอะไรขนาดนั้นนะ แค่แพลนไว้ว่าอยากจะทำอะไรในอนาคต แต่คงไม่ได้สมัครหรอก ดันมาเป็นดาราก่อน (หัวเราะ)
งานอดิเรกของแพทตี้
เหมือนทั่วไปเลยค่ะ ออกกำลังกาย พาน้องหมาไปเดินเล่น ดูหนังบ้าง ดูซีรีส์บ้างอะไรแบบนี้ล่ะ เท่านี้เอง ชีวิตเราไม่ได้มีอะไรมาก
แพทตี้เป็นคนชอบเข้าวัดด้วย
ใช่ แพทไปวัดบ่อยนะ ตอนเด็ก ๆ แพทจะชอบไปทำบุญไปปล่อยกับที่บ้านบ่อยอยู่ รวมไปถึงโรงเรียนของแพทเองก็มีกิจกรรมส่งเสริมให้เราทำสิ่งนี้ โรงเรียนจะมีวัน sharing day เป็นวันที่ให้เราเข้าไปในสถานที่คนแก่ คนชรา ผู้ป่วยหรือเด็กอ่อน เขาก็จะมีกิจกรรมปลูกฝังเรามาตั้งแต่เด็กเลย การเข้าวัดก็เช่นกัน มันทำให้เราซึบซับตรงนี้มา หลัง ๆ ก็มีโอกาสได้ถือศีลจริงจังอีกด้วย
การถือศีลให้อะไรกับเราบ้าง
ให้เยอะนะคะ อย่างพวกเราใช้ชีวิตประจำวันก็จะเจอเรื่องวุ่นวายมากมาย การไปถือศีลคือการทำให้เราจิตใจนิ่งขึ้น ให้จิตใจเราสงบขึ้น เหมือนพอเราทำตัวเองให้มีสติมาก ๆ เวลาเราเจอปัญหาหรือเจออะไร เราก็จะผ่านมันไปได้ เราจะนิ่งขึ้น เราจะไม่ได้ใช้อารมณ์ในการตัดสินเรื่องราวต่าง ๆ เราจะใช้สติแทน
สิ่งเหล่านี้ทำตัวให้เองเติบโตขึ้น เรื่องนี้เกี่ยวด้วยรึเปล่า
ไม่แน่ใจนะ แต่ปลงขึ้นไหมนี่อาจจะ มันก็เหมือนอย่างที่บอกล่ะว่า สุดท้ายชีวิตเรามันก็ไม่ได้มีอะไรมาก เกิดมาเราก็ใช้ชีวิตไป พอถึงจุดสุดท้ายทุกอย่างระยะเวลามันสั้นหมดอะ ยิ่งคุณพ่อเพิ่งเสียไปเราก็ยิ่งรู้ว่าสุดท้ายแล้ว คนเรายังไงก็ต้องจากกันอยู่ดี มันยิ่งทำให้เรารู้สึกว่า การอยู่ด้วยกันเป็นเพื่อนหรือสถานะใด ๆ ก็ตาม เราควรทำให้แต่ละคนมีความสุขก็พอแล้ว จะไปทะเลาะกันทำไม สุดท้ายการทะเลาะกันไปมันก็ยิ่งทำให้เราทุกข์ใจเปล่า ๆ เราลำบากใจมันก็ไม่ได้ช่วยอะไรให้มันดีขึ้น หรือการที่เราจะไปงอนใคร งอนไปแล้วได้อะไร สุดท้ายเรารู้สึกว่าชีวิตมันสั้นนะ ทำทุกอย่างให้มันดีที่สุดก็พอแล้วให้มันแฮปปี้ ชีวิตเรามันมีอยู่เท่านี้เอง จริง ๆ เรื่องพวกนี้ถ้าใครที่อ่านบทสัมภาษณ์นี้เป็นอยู่ลองหาวิธีแก้ไขกันดูนะ ถ้าเราปลดล็อกเรื่องพวกนี้ได้แล้วมันดีจริง ๆ
ตัวตนของแพทตี้เป็นคนยังไง
ปกติก็จะชิว ๆ เหมือนคนทั่วไปนะ อยากไปทำอะไรก็ทำ ไม่ได้เป็นคนคิดอะไรเยอะมาก
รู้สึกยังไงที่มีคนชอบบอกว่า แพทตี้หน้าเด็กตลอดเวลา
(หัวเราะ) ไม่รู้เหมือนกัน หน้าหนูเป็นอย่างนี้ละมั้งคะ
เป็นคนรักครอบครัวมากน้อยขนาดไหน
มันก็ไม่รู้เหมือนกันนะ แต่สุดท้ายมันก็ผูกพันอ่ะ เราอยู่ด้วยกันทุกวันเราก็ไม่อยากไปไหนไกลอยู่แล้ว สมมุติว่า เราต้องไปที่ไหนนาน ๆ เราก็อยากกลับบ้านอ่ะ เป็นคนติดบ้านมาก ถ้าไม่มีอะไรทำก็จะอยู่บ้าน
มุมมองความรักล่ะมีความเห็นเรื่องนี้ไว้ว่าอย่างไร
เราก็ค่อย ๆ ดูกันไป ถ้าถึงเวลาที่มันเหมาะสมมันก็คงเมื่อนั้นล่ะ เราก็มองว่ามันเป็นความรักที่ต้องดูแลกันไปเรื่อย ๆ มากกว่า
ความใฝ่ฝันของแพทตี้ หลังจากนี้มีเรื่องอะไรที่อยากทำอีกบ้าง
พูดถึงเรื่องอนาคตเหรอ จริง ๆ เป็นคนชอบท่องเที่ยวเคยคิดไว้ตั้งแต่เด็กแล้วว่า โตไปเราอยากท่องเที่ยวรอบโลกนะ ค่อยเก็บแต่ละประเทศไป อยากไปประเทศไอซ์แลนด์อ่ะ พวกโครเอเชียก็อยากไป มีหลายที่ที่อยากพาครอบครัวไปเที่ยวด้วย
10 ปีข้างหน้าคิดว่าชีวิตตัวเองจะเป็นยังไง
คงอายุ 36 ปี น่าจะยังทำงานอยู่คงทำไปเรื่อย ๆ หาตังค์ เก็บตังค์ไว้ แต่คงไม่ได้ทำไปเรื่อย ๆ นะ กะไว้ว่าสักประมาณอายุ 40-45 ปีก็อยากจะเริ่มเกษียณแล้ว อยากเที่ยวแล้ว
รางวัลล่าสุดที่เพิ่งได้รับมาอย่าง รางวัลบุคคลตัวอย่างทางการศึกษา
ดีค่ะ เป็นครั้งแรกเลยที่ได้รับรางวัลกับ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ รู้สึกเป็นเกียรติมาก ๆ ความรู้สึกตอนขึ้นไปรับรางวัลก็ตื่นเต้นนะ เราไม่เคยรับอะไรแบบนี้มาก่อน เหมือนมันเป็นงานพิธีการด้วยมันต้องมีการซ้อมก่อนอะไรแบบเนี่ย เราก็โอเค แต่พอถึงเวลาเราก็ตื่นเต้น ดีใจมาก ๆ ที่ได้รางวัลนี้ค่ะ
แพทตี้เป็นคนชอบออกกำลังกายมาก ๆ
ใช่แล้ว เมื่อก่อนออกทุกวันเลยนะ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้ออกล่ะ มันแล้วแต่ช่วงนะ บางช่วงตีแบดมินตัน บางช่วงว่ายน้ำกับเพื่อน บางช่วงเล่นฟิตเนส บางช่วงไปเล่นกีฬาสควอชกับพี่ชาย แล้วแต่ไทม์ไลน์ของเราเลยจะสลับกันไปกันมาเรื่อย ๆ เล่นกีฬาแมน ๆ หน่อย
กีฬาที่ชอบที่สุด
จริง ๆ ชอบตีแบดมินตัน พวกเล่นเวคบอร์ดก็สนุก สคอวชก็ชอบ
เล่นเฟซบุ๊กบ่อยไหม
จริง ๆ แพทไม่ค่อยได้เล่นนะ account ส่วนตัวก็มีแต่ไม่ได้โพสต์ไม่ได้อะไร เอาไว้ติดตามข่าวสารมากกว่า แต่ถ้าเป็นเพจ Pattie Ungsumalynn อันนั้นจะเล่นเอง ติดตามอ่านคอมเม้นต์ตลอด
คอมเม้นต์ต่าง ๆ เป็นอย่างไรบ้าง
ดีนะเป็นอีกมุมนึงที่น่ารักดี เวลาเราอ่านเราก็ขำดีว่า คิดได้ไงเนอะ บางทีก็แบบเออว่ะ ล้ำนะคิดได้ยังไง ไปเป็นครีเอทีฟกันดีไหม (หัวเราะ) เราอ่านแล้วเราก็มีความสุขในอีกแบบนึงของเรา บางทีเราลงรูปไปแล้วเขามีกระแสตอบรับอะไรกลับมา บางทีก็อยากรู้ว่าอันนี้เราลงไปแล้วจะมีคอมเม้นต์ไหนฮา ๆ กลับมาบ้าง อ่านแล้วก็ตลกตรงที่คิดได้ยังไงกัน
พูดถึงคอมเม้นต์แล้วพี่ แดน วรเวช ได้มาอ่านด้วยกันไหม
มีนะ เขาก็เคยมาอ่านด้วย เขาก็แนวคล้าย ๆ แพทเหมือนกัน ไม่ได้ซีเรียสอะไรมาอ่านแล้วขำ ๆ ตลกมากกว่า
เพจทวงคืนแพตตี้อังศุมาลินจากแดนวรเวช ได้ติดตามรึเปล่า
รู้นะ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกยังไง แรก ๆ จะตกใจนิดนึงว่า เรามีเพจนี้ด้วยเหรอ (หัวเราะ) ก็ไม่ได้คิดว่ามันจะอยู่ยืดยาวขนาดนี้ ตอนนี้เหมือนคนตามประมาณ 7 หมื่นกว่าคน ก็ดีค่ะ อย่างที่บอกด้วยเจตนาที่เขาทำจะออกแนวสนุกสนานมากกว่าไม่ได้แบบคิดแค้นอะไรหรือจะเอาคืนจริงจังขนาดนั้น แพทก็ติดตามปกติ
ถ้าได้มีโอกาสบอกกับเหล่าแฟนคลับในเพจทั้งหลาย อยากบอกอะไรกับเขา
ดีค่ะ ทุกคนเป็นอีกหนึ่งสีสันในเพจของเรา มีหลาย ๆ คนเขาจะชอบมาบอกแพทว่า เฮ้ยแกไปอ่านคอมเม้นต์ ฮาดี มันก็เป็นการสร้างความสุขอีกอย่างนึง (FJZ: น่าจะจัดประกวดคอนเท้นต์ในเพจนะ) แพทก็อยากจัดนะแต่ไม่รู้จะให้รางวัลใครดีมากกว่า เอาจริง ๆ ถ้าหาที่หนึ่งนี่ยากเพราะแต่ละคนก็มีไอเดียของเขาแตกต่างกันไป ทุกรูปที่ลงจะมีคนเก่ง ๆ มาเขียนอะไรเต็มไปหมดเลย
สุดท้ายนี้ฝากคนที่อ่านบทสัมภาษณ์นี้หน่อย
ฝากไว้ด้วยนะคะ สำหรับซีรีส์ I Sea U ฉันรักทะเล…ที่มีเธอ ซีรีส์เรื่องนี้เป็นเรื่องราวความรักที่ตัวเอกของเรื่องชื่อ ทะเล เขามีรักแรกในชีวิต แล้วอยู่มาวันนึงก็มีรักใหม่เข้ามาอีก แล้วรักเก่าก็กลับมาด้วย อยากให้ลองดูมีแง่คิดคติสอนใจด้วยในเรื่อง ส่วนตัวแพทเองก็ขอบคุณที่ทุกคนติดตามก็ฝากไว้ด้วยมีอะไรก็มาตามกันได้ ในไอจี ในแฟนเพจก็คอมเม้นท์กันได้เลย
