Feature เห็ดหูหนู

Tuna Dunn Playlist

  • Writer: Gandit Panthong
  • Photographer: Neungburuj

TUNA SELECTS

“เราไม่เคยเข้าไปคุ้ยงานใครแล้วรู้สึกว่าเขามีเรื่องให้เซอร์ไพรส์ตลอดเวลาเยอะเท่า David Bowie เพราะการที่เขาเปลี่ยนไปแต่ละยุคทำให้เราเจอเพลงใหม่ ๆ ได้ตลอด”

download-14

HeroesDavid Bowie

https://www.youtube.com/watch?v=Tgcc5V9Hu3g

ที่แน่ ๆ คือต้องมีเพลงนี้เพราะว่าเขาเป็นที่หนึ่งมาก แล้วก็เพลงนี้เป็นเพลงแรกที่ทำให้เราเริ่มเข้าไปดูงานเขา ที่เราได้ยินแล้วก็ my god! คน ๆ นี้… เราเป็นคนที่ชอบฟังเพลงแล้วมันดูพุ่งทะยานออก แล้วเพลงนี้มันเป็นอะไรที่กังวานมาก เป็นเพลงปลุกใจที่โอเค คือถ้าเราเครียด ๆ หรือ down แล้วเราฟังเพลงนี้จะคิดว่าเออ ไม่เป็นไรเว้ย ทุกอย่างมันจะโอเค

คือเราไม่เคยเข้าไปคุ้ยงานใครแล้วรู้สึกว่าเขามีเรื่องให้เซอร์ไพรส์ตลอดเวลาเยอะเท่าคนนี้ เพราะการที่เขาเปลี่ยนไปแต่ละยุคทำให้เราเจอเพลงใหม่ ๆ ได้ตลอด คน ๆ นี้โคตร cool เลย ทำได้ไงวะ เราไม่รู้สึกว่าเขาสูญเสียตัวเองในการที่เขาเปลี่ยนไปตลอด เพราะยังไงเขาก็คือ Bowie มันไม่มีใครที่จะเป็นเขาแล้ว เหมือนตีตราสินค้าแล้วว่านี่คือ Bowie ตอนนั้นเราเพิ่งเข้ามหาลัย แล้วมันเป็นอะไรที่บังเอิญมาก ตอนที่เราเข้ามาคุ้ย พอเข้าช่วงปีใหม่ เขาออกเพลงใหม่เลย เราก็ดีใจมากที่ช่วงชีวิตนี้เราได้ฟังเพลงใหม่ของ David Bowie ด้วยว่ะ มันดูไม่ใช่สิ่งที่ generation เราจะได้เจอ

IFHYTyler, The Creator

เราชอบ rapper คนนี้เพราะเขาไม่เหมือน rapper คนอื่น จริง ๆ เราชอบงานที่เขาไปแจมกับ modern jazz เพราะพอมี jazz เข้ามาแล้วมันมีส่วนผสมที่แปลกมาก บวกกับที่เขามีอะไรของเขาเอง จริง ๆ Tyler เป็นคนที่มี personality ที่บ้ามาก ถ้าเป็นเพื่อนด้วยนี่ประสาทแดกแน่เลยอะ ในเพลงนี้มันเป็นอะไรที่ honest มันเป็นความโมโหของคนหนึ่งคน rap ของเขาจะมีความดุดันอยู่แล้ว แล้วมันเป็นเพลงที่พูดถึงแฟนเก่า มันเริ่มต้นด้วยการที่เขางึมงัม ๆ อยู่คนเดียว แล้วมันดูจริง เป็นความโมโหโวยวาย ๆ อยู่คนเดียว I fucking hate you, but I love you รู้สึกว่ามันใช่ ไม่มีการเสแสร้งว่า ฉันเห็นตรงนั้นแล้วคิดถึงเธอ ไม่ขนาดนั้น แต่จะโวยวายแบบ อีเหี้ย อะไรแบบนี้ แล้วเขาทำออกมาได้ดี

เขาเป็นคนบ้า ๆ บอ ๆ คือถ้าไปนั่งดู Vine เขาจะพบว่าเป็นคนที่มี energy เกินร้อยมาก ล้นมาก ๆ เคยเห็นเขาทำ Vine โยนเครื่องปิ้งขนมปังออกนอก tour bus หรือตอนที่โดน prank ที่ระเบิดรถทาโก้แล้ววิ่งหนีเข้ารถกระบะ ดูเป็นคนโวยวาย บ้าบอ แต่กลับทำงานออกมาได้ unique กว่าคนอื่น เราชอบเวลาที่เขาเริ่ม jazz มาก ๆ คือเราไม่ได้เป็นคนฟัง rap เยอะ แต่พอมี r&b กับ jazz เข้ามาผสมจะแบบ เฮ้ย ดีอะ

All My FriendsLCD Soundsystem

อย่างที่เราบอก เราชอบเพลงที่พุ่ง แต่บางเพลงเป็นเพลงที่ต้องเปิดในรถตอนกลางคืน เพลงนี้เป็นเพลงหลัก ๆ ที่ถ้าเปิดในรถตอนไปขับรถเล่นกับเพื่อนตอนกลางคืนมันเป็นอะไรที่เข้าฟีลมาก จังหวะกับ motion มันเข้ากับแบบนี้อยู่แล้ว ถ้าให้นึกเพลงที่เปิดตอนขับรถเล่นตอนกลางคืนก็จะนึกถึงเพลงนี้ เราไม่ได้อินวงเขามาก แต่มันมีเพลงนี้ที่โดดขึ้นมาแล้วเราชอบมาก

My Foolish HeartBill Evans

เขาเป็นนักเปียโนแจ๊ซ อยู่ดี ๆ เราก็มาชอบเพลงนี้ เป็นคนฟังเพลงเก่ามากในบางที แล้วไปเห็น trailer หนังเรื่อง ‘Carol’ ที่ Cate Blanchett กับ Rooney Mara แล้วมันขึ้นมาก็รู้สึกว่ามันเพราะมาก ก็เลยกลับไปตาม แล้วไปเจอเวอร์ชันที่เป็นเปียโนเฉย ๆ ของ Bill Evans แล้วมันนุ่มมาก บางทีเราต้องฟังแจ๊ซบ้างเพื่อที่จะผ่อนคลาย อยู่ดี ๆ ช่วงหลังก็มาฟังแจ๊ซ งง ๆ เหมือนกัน เป็นเพลงที่สงบมาก แล้วก็โรแมนติกจริง ๆ ต้องดูเวอร์ชันที่เขาเล่นสดด้วย เราเคยดูคลิปที่เขาเล่นแล้วตัวห่อลงไปแทบจะติดกับเปียโน รู้สึกว่าเขาอินมาก posture เขาหลอมลงไปกับเปียโนเลย

505Arctic Monkeys

Arctic Monkeys เป็นวงที่ทำให้เรามาฟังเพลง indie rock ตอนมัธยม brit rock แล้วอัลบั้มแรกที่ซื้อคือ Favorite Worst Nightmare เพลงนี้ก็เป็นเพลงที่อยู่ในอัลบั้ม จริง ๆ เราชอบโครงสร้างเพลงที่มานิ่ง ๆ แล้วมัน explode ตอนสุดท้าย หรือเหมือนของวง Foals เพลง Spanish Sahara ที่มันจะค่อย ๆ มา อันนี้มันนิ่งมาก แล้วจะมีท่อนที่ Alex Turner พุ่งขึ้นพรวด อารมณ์มันถึงมาก เป็นเพลง Arctic Monkeys  ที่เราชอบมาก ไปเริ่มฟังได้เพราะดูพี่แจ๊บ The Richman Toy กำลังพูดถึง inspiration ของเขา แล้วก็พูดถึงเพลงนี้ขึ้นมา แล้วทีวีมันก็โชว์ MV Teddy Picker แล้วเราก็ตกใจว่า เฮ้ย นี่คืออะไร แล้วก็เข้าไปเสิร์ช แล้วก็ชอบเลย จริง ๆ ก็ดีด้วยที่ว่าตอนมอปลายเรามีครูฝรั่งสองคนที่เขาฟังเพลงดีมาก แล้วตอนที่เพลง Humbug ออกมา ครูฝรั่งคนนั้นก็เอาเพลงมาลงที่ห้องเรียนทั้งอัลบั้ม เพื่อน ๆ ก็แบบ เชี่ยยยย ตลกดี แล้วมีบอกให้ไปฟังวง Vampire Weekend ตอนมัธยมก็จะเอ๋อ ๆ แบบ เฮ้ย ดีอะ

CeremonyNew Order

เพราะมันเป็นความรู้สึกคล้าย ๆ กันกับ All My Friends ค่ะที่มันทะยานออกไป คือมันเป็นเพลงที่ประหลาดมากเพราะมันทำให้ฮึด มีความหวังและเศร้าในเวลาเดียวกัน เพราะเรารู้ประวัติของ Ian Curtis แล้วมันหดหู่มาก ที่เขาว่าในทุก ๆ เพลงของเขามันมี cry for help อยู่เพราะเขาไม่สบาย รู้สึกว่าเพลง Ceremony มันก็เหมือนงานศพของเขา เพราะมันเป็นเพลงสุดท้ายของวง Joy Division ก่อนที่เขาจะตาย ขณะเดียวกันที่เขาตายมันก็เป็นจุดเริ่มต้นใหม่ของวง New Order คือมันตายและเกิดใหม่ในเพลงเดียวกัน เราชอบเพลงที่ intro ด้วยเครื่องดนตรีเดียวแล้วค่อย ๆ มีเครื่องดนตรีอื่นตามมา มันมีพลัง

My Kind of Woman Mac DeMarco

ดีใจมากที่ได้ไปดูเขาเล่นสดตอนนั้น เขาต้องไม่มาอีกแล้วแน่ ๆ เลย แต่ถ้าคราวนี้มาสงสัยจะต้องใหญ่กว่าเดิม ตอนนั้นยังช็อกอยู่เลยที่ได้ตั๋วว่าคนนี้มาด้วยหรอ เป็นคนที่เราชอบมาก แล้วเสียดายมากที่เขาไม่ได้เล่นสดเพลงนี้ สงสัยว่ามันคง cheesy ไป เล่นสดแล้วจะไม่สนุก แต่มันเป็นเพลงที่ถ้ามีคนมาเล่นเพลงนี้ให้ฟังนี่คือยอมเลยอะ โอเค เราว่าจริง ๆ แล้วเขาเป็นคนที่โรแมนติกมาก แต่ดันออกมาในภาพลักษณ์ที่แบบ ใส่เสื้อยืดเก่า ๆ ไปยืนใส่หน้ากาก Michael Jackson อยู่บนโขดหินอะไรของเขาก็ไม่รู้ หรือวิดีโอ Salad Days คือเขามีความเพี้ยนของเขาอยู่แต่จริง ๆ เขาโรแมนติกมาก แล้วมันเป็นเพลงที่ทำให้เรามาฟัง Mac DeMarco ด้วย เริ่มจากอัลบั้ม 2 แต่ตอนนี้เขาเหมือนคนวัยกลางคนแล้วอะ ทั้งที่ยังไม่ 30 เลย เขาไม่ดูแลตัวเอง แล้วเขาใส่หมวกมากไป ผมเขาเริ่มโล้น อ้วนขึ้น แล้วพอยิ่งไม่แต่งตัวเข้าไปอีก บ้านอยู่ใกล้ ๆ น้ำ พายเรือ สูบซิการ์ เราก็แบบ ตายแล้ว แก่เร็วมาก ขอให้ยังอยู่ต่อไป อย่าเพิ่งตายเร็ว เขาดูตายเร็วมากเลยอะ

Come On EileenDexys Midnight Runners

มีช่วงนึงเป็นเพลงประจำชาติมากเลย จริง ๆ มันก็มาจากที่ดูหนังเรื่อง ‘The Perks of Being a Wallflower’ มันเป็นช่วงที่เข้ามหาลัย ปี 1 ปี 2 อยู่กับเพื่อนแล้วทุกคนไปดูเรื่องนี้พร้อมกัน แล้วก็ชอบพร้อมกันหมด แล้ววันฮาโลวีนก็จัดปาร์ตี้แล้วทุกคนทำตัวเหมือนอยู่ในงานพรอม เป็น American highschool มาก แล้วพอเพลงนี้ขึ้นคือทุกคนพร้อมเต้นอะ ทุกคนจะพยายามทำตัวเป็น living room routine มาก แล้วเรารู้สึกว่าพอฟังเพลงนี้แล้วเราจะนึกถึงเพื่อน ๆ ตลอด มีช่วงนึงที่เปิดตลอดเวลา ค่อนข้างเป็นปาร์ตี้ที่ successful ที่สุดตอนช่วงประมาณปีนั้นที่ ‘The Perks of Being a Wallflower’ ออกมา

CreepRadiohead

รู้สึกว่าเป็นเพลงที่ยัง relate ได้จนถึงทุกวันนี้ จริง ๆ มันเป็นอะไรที่โหลมาก แล้วทุกคนก็ชอบ มันเป็นเพลงที่เข้าถึงคนได้มากที่สุด เราว่าหลายคนก็รู้สึกว่าตัวเองเป็น creep แต่ Radiohead เขาไม่ชอบเล่นเพลงนี้ แต่เพราะมันเข้าถึงคนหลายคนมากที่สุด เราเลยว่ามันโอเค มันเข้าใจเรา คือคนหลายคนเป็น creep แล้วเราก็เป็น creep คือถ้าได้ฟังเพลงนี้สดกันทุกคนก็จะเป็น unity มาก จริง ๆ ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้อินมาก คือวงใหญ่ ๆ มาแล้วเราก็พลาดไปเยอะ อย่าง Bloc Party เพราะตอนนั้นไม่ได้อิน ตอนนี้เขากลายเป็นวงดังไปแล้ว แล้วก็เป็น electronic เยอะ แล้วเราเป็นคนที่จะชั่งใจมากเวลาซื้อตั๋วคอนเสิร์ต ว่าระดับความอินกับราคามันเหมาะสมไหม ถ้าไม่ได้อินมาก แล้วราคาแพงเกิน มันก็จะ โอเค ดังแค่ไหนก็จะไม่ไป

ก่อนModerndog

รู้สึกว่ามันฟังยังไงก็เพราะ แล้วจะต้องเป็นเพลงที่เป็นหนึ่งในเพลงที่จะต้องคลาสสิกไปตลอดกาลแน่ ๆ มันเป็นเพลงไทยที่ฟังแล้วรู้สึกว่ามันสวย

Exclusive Talk With Tuna Dunn

download-15

ทำไมต้องชื่อ Tuna Dunn

Tuna เป็นชื่อที่เพี้ยนมาจากชื่อเล่นค่ะ ชื่อ ตุล หรือ ตุลยา แล้วเพี้ยนมาตอนอยู่โรงเรียน มีอยู่สอง source เท่าที่เข้าใจ คือครูที่เป็นคนโรมาเนียที่สอนภาษาอังกฤษเขาชอบย่อชื่อเด็ก แล้วเขาก็เรียกเหมือนเป็น ตุนย่า ตุนย่า แล้วกับอีก source ที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ คือเพราะเราดำ เพื่อนเลยล้อว่าเป็น ทูน่า โอบามา หรือ ทูน่า แบงค์ส แบบ Tyra Banks ซึ่งจริง ๆ ก็ดีนะเพราะเป็นประธานาธิบดีกับซูเปอร์โมเดลของสหรัฐอเมริกา แล้วอยู่ดี ๆ ก็หายไป พอเข้ามหาลัยมันก็กลับมาเฉยเลย จากการที่เราไม่เขียนชื่อเต็มเวลาส่งงานเพราะเราขี้เกียจ ก็เป็น Tunlaya Dunn แล้วก็มีเพื่อนที่ไม่ได้เรียนมาด้วยกันเขาก็เรียกเราว่า Tuna Dunn เฉยเลยอะ แบบ ทูน่า ดุล ทูน่า ดุล มีเอาไปแต่งเป็นเพลงด้วย ก็เลยเก็บมาใช้

ทำไมอยู่ดี ๆ มาทำเพจวาดรูปของตัวเอง

เพราะมีรุ่นพี่บอกให้ทำ คือเราวาดรูปเล่นลงเฟซตัวเอง แล้วก็มีรุ่นพี่ มีเพื่อน ๆ ชอบงาน มีพี่ Chatchanok Wong ที่เป็น illustrator ตอนนั้นบอกว่า เฮ้ย เปิดเพจสิ เราก็ โอเค เปิดก็ได้ แล้วก็เปิดเลย (หัวเราะ) แล้วมีพี่กาย จาก Salmon Books โผล่มาเลย บอกให้เข้าไปคุย ให้ไปร่วมงานด้วย ตอนนี้ก็ยังเป็น บก. ของตุลอยู่

พอเพจดังแล้วเราตกใจไหม

จริง ๆ ก็เฉย ๆ กับการที่มีคน approach จากข้างนอกเข้ามาในชีวิตจริง แต่บางคนก็น่ากลัว มาแบบ creepy มาก คือถ้าเราไม่สนิท เราจะไม่เล่นด้วย ถ้าไม่ใช่เรื่องที่เราต้องพูดหรือไม่ค่อยสนใจก็จะไม่พูด แต่ถ้าเป็นเรื่องที่สนใจหรือมีอะไรจะพูดก็จะพูด ๆๆๆ

พูดวันนึงเยอะไหม

จริง ๆ คือถ้าเทียบกับเพื่อนคนอื่นคือน้อย แต่ถ้าเทียบกับที่บ้านคือพูดเยอะที่สุดแล้ว คือที่บ้านต่างคนต่างอยู่

ในเพจชอบพูดเรื่องความรัก ตุลไปเอาเรื่องพวกนี้มาจากไหน

เราจะดูหนังเยอะหรือฟังเพลงเยอะมากกว่า มันเป็นอะไรที่ paradox มาก เพราะไม่เคยมีแฟนมาก่อนเลย แล้วเราไป relate กับมันได้ยังไง ซึ่งจริง ๆ แล้วเราไม่ได้ relate กับมันแต่คนอื่นกลับเห็นแล้ว relate ก็แปลกดีเหมือนกัน หรือบางทีก็ฟังคนอื่นมา มันก็จะรวมกันเป็นก้อน ๆ นึงมากกว่า

มีสเปกหนุ่มในฝันไหม

ชอบคนเก่ง ต้องเก่งกว่าเรา เราไม่อยากเป็นคนตามดูแล เราเคยชอบเพื่อนคนนึงแล้วรู้สึกว่า ถ้าอยู่กับไอ้นี่ต้องเหนื่อยมากแน่เลย ก็เลยไม่เอาดีกว่า ต้องเป็นคนที่ดูแลตัวเองได้ แล้วดูแลเราได้ด้วย

จะมีช่วงนึงที่เนื้อหาในเพจออกแนวจิกกัดชาวบ้านเขาไปทั่ว ดาร์ก ๆ ตอนนั้นคิดอะไรอยู่

เราไม่ใช่คนสดใสอยู่แล้ว เป็นพวก sunshine ไม่ได้ จะเป็นเมฆที่ลอยมาแล้วฝนตกใส่ทุกคน บางทีมันก็เลยจะหลุด ๆ ออกมาบ้างว่าเราเป็นคนดาร์ก ๆ เราอยู่ในสถานที่ที่ positive มากเกินไปไม่ได้ คือเราเคยไปเรียนเต้นสวิง แล้วครั้งนึงที่รู้สึกว่าที่นี่มีความสุขมากเกินไปจนเรา depressed อะ คือแทนที่มันจะเกิด effect ให้เราแฮปปี้ มันดันกลายเป็น reverse effect ที่ทำให้เราอยากกลับบ้าน ทุกคนจะแบบ เย้ let’s have fun, let’s dance สดใสมาก จนเราแบบ oh my god เขา sunshine เปล่งประกายมาก ๆ ซึ่งเราเป็นไม่ได้ คนละขั้วเลย

เห็นบอกว่าจะเปลี่ยนเรื่องที่จะวาดแล้วหรือเปล่า

ใช่ เบื่อเรื่องรัก ๆ แล้ว อยากวาดอะไรที่เป็น sci-fi เพราะจริง ๆ เราเคยมีพล็อตค้าง ๆ ไว้อยู่แล้ว อยากจะลองทำดู ในเล่มล่าสุดมันมีส่วนเล็ก ๆ ที่พระเอกทำ zine เป็น comic แล้วก็มีตัวประหลาดเป็นแอ็กชัน เราก็ทำตอนพิเศษที่มันสู้กัน แล้วมีเพื่อนหลายคนบอกว่า เออ ตลก กวนดี ชอบ ก็คิดว่าน่าจะทำได้อยู่นะ

ช่วงหลัง ๆ มีเพจออกมาคล้าย ๆ เราเยอะมาก รู้สึกยังไง

ก็คงต้องรู้ตัวบ้างนิดนึงอยู่แล้ว… ก็เป็นเรื่องช่วยไม่ได้ มันเป็นอินเทอร์เน็ตอะ บางทีที่มีคนเอารูปไปใช้โดยที่ไม่ได้ขอ ก็ช่วยไม่ได้ ก็เราโพสต์ลงเฟซบุ๊กอะ เราเองก็เคยไปเซฟรูปคนอื่นเขามาเหมือนกัน พวกรูปศิลปินดัง ๆ เอามาใช้เป็นรูปโปรไฟล์ เรื่องเพจก็มีเพื่อนเราเยอะแหละ เราก็ไม่อยากจะไปยุ่งเท่าไหร่

ไม่หวงงานหรอ

ก็ถ้าหวงแล้วจะทำอะไรได้ มันทำอะไรไม่ได้ ก็เลยปล่อยไปดีกว่า เครียดไปทำไม

พอมีมาซ้ำ ๆ แบบนี้แล้ว อะไรทำให้งานของตุลโดดเด่นขึ้นมา

งานเราจะดาร์ก มันจะไม่ใช่แบบ เตงงงง วันนี้พาเราไปกินข้าวหน่อยสิ มันไม่ใช่เรา จริง ๆ เราชอบทำร้ายคนอ่านนิดนึงด้วยนะ แบบ ฉันจะไม่ให้ happy ending เหมือนตอนจบจะดีละ แต่ต้องจบให้เลวร้าย เพราะในความจริงมันไม่ค่อยมีใครสมหวังปะ เหมือนเวลาเราเขียนอะไรที่มันเป็นแอบรักแล้วมันขายได้เพราะว่าคนแอบรักแล้วไม่สมหวังเยอะ เลยไม่แปลกใจเลยที่คนชอบ

มีเรื่องอื่นที่อยากพูดถึงในงานเราอีกไหม

จริง ๆ มีเรื่องครอบครัวที่อยากเขียน แต่ถ้าเอามาพูดนี่ตายแน่ แม่ต้องมาเห็นแล้วก็จะมาถาม คือแม่เข้ามาดูเพจด้วย เราเป็นโรคจิต จะไม่ค่อยชอบให้พ่อแม่ดูงาน แต่บางทีก็จะให้พ่อดูบ้าง เพราะพ่อเขาไม่ค่อยอะไรมาก แต่แม่จะค่อนข้างมีปฏิกิริยา คือเขา sensitive มาก ถ้าทำอะไรมาแล้วมาเห็นทีหลังว่าเป็นงานที่เราทำเขาจะโมโหมากว่าทำไมไม่ยอมเอางานเราให้เขาดู เขาเลยต้องมาไลก์เพจเราโดยอัตโนมัติ แล้วคือถ้าเราเขียนอะไรเกี่ยวกับครอบครัวลงไปนี่อาจจะโดนเรียกไปนั่งอบรม เคยจะเขียนเป็นเรื่องเหมือนแม่เป็นคน overprotective หน่อย ๆ ก็เลยเขียนทำเป็นลิสต์ว่าต้องตอบแม่ว่าอะไรบ้างก่อนออกจากบ้าน รู้สึกว่าก็คงตลกดี แต่พอมาคิดอีกทีก็อย่าดีกว่า เดี๋ยวตาย จริง ๆ เขาไม่ได้ดุมากหรอก แค่มีความเป็นห่วงมาก

ปกติงานของตุลจะใช้ภาษาอังกฤษเล่าเรื่อง แต่พอออกหนังสือแล้วต้องใช้ภาษาไทยรู้สึกไม่ชินบ้างไหม

ก็ตะกุกตะกักมากเลย จริง ๆ ไม่อยากพูดอย่างนี้เพราะมีคนชอบหาว่าเรากระแดะที่ใช้ภาษาอังกฤษ แต่บางทีมันไม่ลื่น แล้วเราก็มีความยากลำบากในการเขียนภาษาไทยมาตลอด แล้วเป็นคนที่ส่งต้นฉบับแล้วจะไม่ค่อยโดนแก้อาร์ตเวิร์ก แต่จะโดนแก้คำตัวแดง ๆ หรือเวลาที่เขียนเล่ม ‘I LIKE LIKE YOU’ แล้วลายมือแย่ ก็ต้องมาคัดให้มันอ่านออก ก็ยากอยู่เหมือนกัน แล้วอยู่ดี ๆ เล่มสาม ‘BEST BEFORE’ เขาก็เปิดโอกาสให้เป็นภาษาอังกฤษ ก็ดี แต่เขาไม่ได้บอกตั้งแต่แรกนะ จริง ๆ แล้ว คือเราเขียนภาษาไทยมาสักพักแล้วเขาก็บอก เป็นภาษาอังกฤษก็ได้นะ ก็รีบตีตัวกลับ เกือบแก้ไม่ทันเลยอะ

ที่บอกว่าตอนเด็ก ๆ พ่อแม่ชอบให้ดูการ์ตูนฝรั่ง มีผลกับแนวทางการเขียนหรือการออกแบบตัวละครที่มีความเป็นต่างชาติด้วยหรือเปล่า

ตอนเด็ก ๆ คือเสพสื่อฝรั่งเยอะ เพราะที่บ้านสนับสนุนให้ได้ภาษาอะ ก็เลยอาจจะเป็นแบบนั้น อย่างดูหนังซับอังกฤษหรืออ่าน ‘TIME’, ‘National Geographic’ อะ ตอนเด็ก ๆ เต็มบ้านเลย

แล้วอยากลองเขียนในบริบทไทย ๆ บ้างไหม แบบลองถามจากเพื่อน ๆ ที่วัฒนธรรมที่บ้านไทยจ๋า

รู้สึกหน้าตาตัวละครเรามันไม่ค่อยเข้าอะ (หัวเราะ) คือมันจะคุมยาก มันจะดูขัด ๆ กันนิดนึง

ทำไมถึงมาเรียนกราฟิกดีไซน์

คือก็ชอบวาดรูปอยู่แล้ว แล้วก็ค้นพบว่า ถ้าเราไปเรียนจิตรกรรมก็ไม่น่าจะมีตังค์ใช้ เราเลยหาอะไรที่ใกล้ตัวเราที่สุดคือกราฟิกดีไซน์ แล้วจริง ๆ เราก็ชอบดีไซน์อยู่แล้วก็เลยเรียนกราฟิกดีไซน์ละกัน ซึ่งก็ถือว่า enjoy กับอาชีพนี้ แต่ยังไม่ค่อยได้ทำอะไรที่เป็นกราฟิกเท่าไหร่เพราะดันวาดรูปมาก่อนแล้ว แล้วเวลาคนมาจ้างก็จะบอกให้วาดแบบเรา

แล้วไม่ดีหรอ

เราโรคจิตหน่อย ๆ ที่มีความรู้สึกว่า ถ้าเป็นคนอื่นอาจจะรู้สึกว่าเป็นนักวาดภาพประกอบไปเลยก็ได้นี่ มันดู successful แล้ว คือมันยังไม่ถึงกับเป็นแบบพี่โอ-ธีรวัฒน์ เฑียรฆประสิทธิ์ แต่มันก็ดูมีทางที่ดูจะไปถึงจุดนั้นได้หนิ แต่เรามีความรู้สึกว่า ไม่อะ เราจะไม่เป็นแค่นี้ ถ้าใช้ term ฝรั่งคือ เราไม่อยากเป็น one-trick pony เราต้องทำได้มากกว่านี้ ก็เกิดความบ้าระห่ำขึ้นมาอีกว่าจะต้องดีไซน์ให้เก่งด้วย บางทีไม่ชอบเวลาพอทำอะไรที่เป็นพวกเวกเตอร์ออกไปจะโดนคนบอกว่าวาดรูปสิ ๆ ทำเป็นเส้นเราสิ เราจะโมโหในตัวเองว่า เอาอีกแล้วหรอ ไม่เอาอะ แต่ถ้าเขาอยากได้ก็ช่วยไม่ได้

ศิลปินในดวงใจของตุลคือใคร

ไอดอลมันก็ต้อง Bowie เราพูดทุกสัมภาษณ์เลย เวลาเพื่อนที่เป็นติ่งเกาหลีพูดถึงเราก็จะบอกว่าเราเป็นติ่ง Bowie แต่เราก็ไม่ใช่ติ่งปะ (หัวเราะ)

การที่รู้เบื้องหลังชีวิตของศิลปินที่ชอบแปลว่าตุลชอบ research อะไรพวกนี้อยู่แล้วหรือเปล่า

นิดนึง แล้วแต่วง ถ้าชอบบางเพลงก็ไม่รู้หรอกว่าเป็นใครมาจากไหน โดยเฉพาะช่วงหลัง ๆ เราเข้า SoundCloud บ่อย จะเข้าไปฟังพวกที่เป็น chillhop ที่มีบีทฮิปฮอปแต่เป็นเพลงชิลล์ ๆ เขาก็ไม่ได้มี background อะไรกันมาก แค่เอา sample มาตัด ๆ แต่ถ้าเป็นวงที่เราอินมา โตมากับ Arctic Monkeys เลยก็จะรู้เอง

download-17

แนวเพลงที่ตุลชอบ

ส่วนใหญ่ก็เป็นอินดี้ร็อก ช่วงหลัง ๆ ก็หลุดไปโซล แจ๊ซบ้าง มีช่วงนึงเราคลั่ง subculture หน่อย ๆ northern soul มันเป็น subculture ของอังกฤษตอนเหนือใน working class ยุค 70s ที่เขาจะมีดีเจที่ไปคุ้ยเพลงที่ไม่ดังในยุค motown มาเปิด แล้วคนก็เต้นทั้งคืนเลย เขาจะมีท่าเต้นของเขาเอง ต้องใส่กางเกงเอวสูง ขาบาน เต้นอยู่มืด ๆ แล้วเต้นคนเดียว เราแค่ชอบความรู้สึกว่าถ้าเต้นอย่างอื่นมันจะต้องมีคู่ มี lead และ follow ผู้หญิงใส่กระโปรงสวย ๆ แต่ northern soul มันมีแค่คนกับเพลง แล้วมันเป็นเพลง soul มีพลังอะ ทุกคนเต้นจนเหงื่อออก เสพยา อะไรยังงี้ (หัวเราะ) แต่มันเท่นะ อยู่ดี ๆ ก็มาฟังพวกนี้เฉยเลย แล้วก็มี chillhop ใน SoundCloud บ้าง

เมื่อก่อนฟังเพลงไทยไหม

จริง ๆ แล้วตอนมอต้นเราชอบโปเตโต้มาก ชอบแบบต้องไปตาม จริงนะ กับเพื่อนอีกคน แล้วได้ปิ๊กกีตาร์พี่ วิน มาด้วย แต่ว่า พอช่วงหลัง ๆ ก็ไม่ได้ชอบเขาแล้ว แล้วก็หาย ๆ ไปเอง จริง ๆ มันก็เริ่มเลิกชอบช่วงพี่ บ๋อม มือกลองออก ก็เบื่อ ๆ แล้ว จริง ๆ ค่อนข้างจะเบื่อความที่เขาเปลี่ยนคนบ่อย เราก็ไม่ได้ฟังเพลงแนวนั้นมาสักพักแล้ว ก็ไม่ได้สนใจแล้ว แต่เท่าที่นับมา โปเตโต้เป็นวงไทยที่กรี๊ดมากที่สุด แล้วก็ไม่ได้กรี๊ดวงไทยอีกเลย

ตอนมอต้นเราคือโปเตโต้ แล้วพอมอปลายก็ค่อยย้ายมาเป็นฝรั่ง แล้วพอมหาลัยก็หลุดยาวไปเลย ตอนนี้ก็ไม่ได้ฟังเพลงไทยเลยเพราะไม่ค่อยได้ตาม ตอนเด็ก ๆ ก็ไม่ค่อยได้ฟังด้วย แบบ คนเขาจะฟัง Triumphs Kingdom อะไรแบบนี้ พวกที่อยู่ใน Majung จะไม่เคยอยู่ใน memory จำได้อย่างเดียวคือ อนัน อันวา ไม่รู้สิ คิดว่าที่บ้านไม่ค่อยเปิดช่องไทยให้ดู แล้วเขาชอบเอานิตยสารเมืองนอกให้อ่าน ไม่ได้เป็นเด็กไทยเหมือนคนอื่นมากเท่าไหร่ คือรู้สึกว่าคุยกันไม่ค่อยรู้เรื่อง แล้วเวลาดูการ์ตูนฝรั่ง พ่อแม่จะไม่เปิดเวอร์ชันไทยให้ ไม่เคยฟังพากย์ไทยเลย ช่อง 9 ก็ดูบ้าง แต่พ่อแม่ไม่ค่อยได้ expose เราเท่าไหร่ หรือเราไม่อินก็ไม่รู้

โปเตโต้นี่กรี๊ดแบบต้องไปตาม วิ่งไปหลังเวที ส่วนที่ได้ปิ๊กนี่หน้าเวที แล้วตอนนั้นทำเพื่อนโกรธมากเพราะเพื่อนชอบพี่ วิน แล้วเราชอบพี่ ปั๊ป แต่เราไม่ยอมให้ เลวมาก (หัวเราะ)

ฟังเพลงไทยล่าสุดเมื่อไหร่

เห็นคนแชร์ มันเป็นใคร ของ Polycat ก็ดีนะ จริง ๆ แล้ว ชอบ direction ที่เขาทำมาตั้งแต่ปีที่แล้ว เพราะรู้สึกว่ามันไม่ค่อยมีแบบนี้ แล้วก็มี DCNXTR เขาก็เปิดหลายงาน ถึงจะดูบ่อยแต่ก็รู้สึกว่ามันไม่ได้มีวงเท่ ๆ แบบนี้เยอะ ที่ดูเข้ากับคอนเสิร์ตที่มีอยู่ช่วงนี้ จะเอา Jelly Rocket ไปเปิดงาน Alterverse ก็ไม่ใช่ แล้วก็ชอบ Cloud Behind นะ เพลง ลาฝัน ตอน intro กลองมาคือมันใช่ Yellow Fang ก็ดี จำได้ว่าไปซื้ออัลบั้มเขาที่งาน Mac DeMarco แล้วอีกวันเขาทำอันใหม่ออกมา เราเด๋อมาก แต่มองอีกแง่ว่าเราได้อันที่เป็น limited edition เว้ย (หัวเราะ) จริง ๆ มันก็แคบ ๆ นะ Yellow Fang ก็เป็นรุ่นพี่ที่สินกัม Jelly Rocket ก็เป็นเพื่อนของเพื่อน นักร้องนำ Part Time Musicians ก็เป็นน้องสาวของแฟนเพื่อน รู้สึกพอโต ๆ ขึ้นเราก็วน ๆ กันอยู่แถวนี้

download-19

เพจ Tuna Select มาได้ยังไง

มาก่อน Tuna Dunn อีก คือมันติงต๊องมากเลย เราแค่อยากทำตัวเป็นดีเจ ก็เลยเปิดเพจแล้วโพสต์ลิงก์ไปอย่างนั้นเอง แค่แชร์เพลง แต่ช่วงหลัง ๆ เราไม่อยากแชร์เท่าไหร่เพราะเรากลัวแฟนคลับคนนึงอยู่ แต่ก็นั่นแหละ อยากพยายามทำตัวเป็นดีเจ แล้วเคยได้ลองไปยืนเด๋อเป็นดีเจที่ Badmotel 4 ครั้ง ก็ ตัวแข็งมากเลย (หัวเราะ) คือปกติเขาก็จะโยก ๆ กัน แต่เรายืนเฉยมาก มันเกร็งอะ บูธดีเจ Badmotel มันอยู่หน้าร้านเลยอะ เปิดมาก็เจอหน้าดีเจแล้ว

Feedback จากการไปเป็นดีเจเป็นไงบ้าง

มีแค่ครั้งแรกที่มีพี่คนนึงเขามาบอกว่าเปิดเพลงดีจังครับ ฟังแนวนี้อยู่พอดีเลย เปิดที่ไหนอีกหรือเปล่า เราก็แบบ เปล่าค่ะ เขาให้เล่นแค่ 4 ครั้งค่ะพี่

แล้วไปเป็นดีเจได้ยังไง

พี่ไปป์ SuperZaap เขาให้ส่ง playlist ไปประกวด Badkids DJs แล้วก็ติดใน 10 คน แล้วเขาก็จัดให้ 10 คนนี้ไปเปิดที่ Badmotel แต่ตอนนี้ก็หมดช่วงไปแล้ว

แสดงว่าชอบไปงานคอนเสิร์ตอยู่แล้ว ไปคนเดียวหรือเปล่า

ใช่ แต่ไม่ได้ไปคนเดียว คือจะมีเพื่อนที่ฟังเพลงคล้าย ๆ กัน หรืออย่าง Mac DeMarco ก็ลากเพื่อนที่ไม่ได้ฟัง Mac DeMarco ไป เพราะเหมือนมันไม่มีอะไรทำ แล้วตั๋วมันก็ไม่ได้แพงเกินไป จริง ๆ แล้วก็รู้สึกว่ามันเป็นคอนเสิร์ตที่ประสบความสำเร็จนะ เพราะเพื่อนที่ไม่เคยฟังเลยรู้สึกสนุก มันดูเป็นมาตรวัดอย่างนึงว่าถ้าเราเอาคนที่ไม่ฟังเพลงวงนี้ไปคอนเสิร์ตแล้วเขาสนุกได้แสดงว่าคนนี้เจ๋งจริง

แล้วเคยโดนเพื่อนลากไปบ้างไหม

ไม่ค่อย เพราะเพื่อนบางคนก็ฟังเกาหลีก็รู้ว่าเราไม่ไปอยู่แล้ว แล้วจะลากไปทำไม เขาก็มีแก๊งติ่งของเขา

อยากแนะนำให้คนอื่นฟังเพลงแบบไหน

ก็… ลองฟังแจ๊ซไหมคะ (หัวเราะ) ก็ลองไปฟังเพลงเก่า ๆ ดูก็ได้ Sam Cooke ก็เพราะ สวย ๆ ไม่ก็ วง lo-fi ดิบ ๆ แต่ก็น่ารัก อย่าง Shannon and the Clams มีความเปรี้ยวอยู่ แต่บีทจะดูเก่า ๆ

ตอนนี้ตุลมีผลงานอะไรบ้าง

‘BEST BEFORE’ เพิ่งออกไปค่ะ ล่าสุด กับอีกสองเล่มก่อนหน้า ‘MISSED’ กับ ‘I LIKE LIKE YOU’ จริง ๆ ตอนนี้ก็มีอยู่ใน process หลายงานนะ

ฝากอะไรกับแฟน ๆ หน่อย

ซื้อหนังสือกันด้วยนะคะ (หัวเราะ) ฝากติดตามด้วย ใน ‘BEST BEFORE’ อาจจะไม่ได้สังเกตกัน มันมีหน้าที่เราเขียน playlist ไว้ เป็นเพลงประกอบของเล่ม ใครที่มีแล้วอย่าลืมไปดู แอบเห็นว่ามีคนทำ playlist ใน YouTube ด้วย

ติดตามผลงานการวาดของตุลที่แฟนเพจ Tuna Dunn ส่วนใครอยากตามไปดูว่าตุลฟังเพลงแบบไหนอีกบ้างก็ลองแวะไปที่ Tuna Selects กันได้

Facebook Comments

Next:


Neungburuj

หนึ่งบุรุษ นักสร้างวิดิโอคอนเทนต์และช่างภาพแห่งฟังใจ เป็นฝาแฝดกับแรปเปอร์ไทยนาม Repaze ปัจจุบัน หนึ่งบุรุษกำลังมีผลงานเพลงเป็นของตัวเอง ติดตามฟังได้เร็ว ๆ นี้