Article Interview

23’O น้องใหม่พุ่งทะยานฉุดไม่อยู่

  • Writer: Montipa Virojpan
  • Photographer: Chavit Mayot

23’O คือวงดนตรีเลือดใหม่ฝีมือจัดจ้านที่ทำให้เราเคยเขียนถึงเพลงของพวกเขาในคอลัมน์ “เห็ดใหม่” จนเมื่อมีโครงการ Tiger Jams ศิลปินกลุ่มนี้ก็สามารถก้าวเข้าสู่การแสดงเวทีใหญ่ร่วมกับศิลปินชั้นนำของไทยและศิลปินระดับโลกในเวลาไม่นาน ตอนนี้เรามาทำความรู้จักพวกเขากันเลย

img_5272

สมาชิก
ต๊ะ ศิวัช ศิริชัย: ร้องนำ, กีตาร์
โซ่ ศิริวัชร ขนอม: กีตาร์
นิว นิธิวัฒน์ พึ่งเจริญ: กลอง
เก็ต สิรายุ เลิศสงคราม: เบส
นัท ฉัตริน จรรยาเวช: ซินธ์

23’O มารวมตัวกันได้ยังไง

เก็ต: ตอนแรกมันมีวงของเก็ต นิว โซ่ ก่อน เล่นด้วยกัน เป็นวงที่ฟอร์มตอนปี 1 เพื่อประกวดเฟรชชี่มหาลัย

โซ่: แล้วพอปลายปีหนึ่งก็เริ่มมีความคิดว่าอยากเล่นดนตรีร้านเหล้า ก็เลยชวน ๆ กันเข้ามา เพราะนิวมือกลองอยู่คณะเดียวกับพี่ต๊ะ

ต๊ะ: ทีแรกผมกับนิวรู้จักกันมาก่อน แล้วก็ไปเล่นโฟล์กซองหาเงินด้วยกันสองคน จนมีพักนึกที่รู้สึกว่าไม่มันว่ะ อยากได้กีตาร์โซโล่ นิวก็รู้จักกับโซ่ก็เลยดึงโซ่เข้ามา แล้วนิวก็บอกว่าอยากตีกลองชุดอีก ก็เลยต้องมีเบสอีก สรุปว่าเป็นเพราะไอ้นิวครับ การอยากตีกลองของมันเป็นศูนย์รวมคอนเน็กชัน

เก็ต: ส่วนนัทมาในวันที่พี่ต๊ะไม่ว่าง โซ่ก็เลยไปร้อง แล้วเจ้าของร้านเขาชอบนัทก็เลยให้เล่น 5 คน 23’O เลยมี 5 คนตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา

ทำไมถึงอยากไปเล่นร้านเหล้า

โซ่: อยากหาตัง แค่นั้นเลย (หัวเราะ)

เก็ต: ขึ้นปี 2 แล้วต้องเลี้ยงรุ่นน้องเยอะขึ้น

ต๊ะ: แล้วมันไม่อยากหยุดเล่นด้วย ปกติถ้าไม่เล่นดนตรีร้านเหล้าก็จะมีงานประกวดให้แค่ปีละครั้ง เราก็จะได้มาเล่นด้วยกันแค่หนเดียว หรือได้จับเครื่องดนตรีปีละหนสองหน ซึ่งก็อยากจะอยู่กับตรงนี้ไปนาน ๆ เพราะถ้าเกิดเล่นดนตรีร้านเหล้าเราจะได้เล่นบ่อย อย่างร้านแรกเขาชอบแบบนี ก็ไปฟังเพลงแบบนี้มาแล้วพยายามจะไปออดิชันเพื่อเล่นร้านนี้ให้ได้ พอร้านนี้ได้แล้วก็จะไปลองอีกร้านนึง ร้านใหญ่กว่าเดิม แต่เขาชอบเพลงอีกแบบ ก็จะหาเพลงใหม่ ๆ ไปเล่นอีก เหมือนเป็นขั้น ๆ สนุกครับ ตอนแรกก็ได้เล่นเยอะ เล่นหลายแนว

23-06

แล้วชื่อ 23’O มาจากอะไร

โซ่: วงเราเล่นตอน 5 ทุ่มของทุกวัน เขาจะเรียกว่าวง 5 ทุ่มครับ มีวันนึงที่ต้องประชุมกันว่าจะเรียกว่าวงอะไรดี เขาให้เขียนฉลากใส่ไปในแก้วแล้วให้พี่เจ้าของร้านจับ ก็ได้ชื่อนี้มา

ต๊ะ: ตอนนั้นเป็นช่วงปฏิวัติแล้วเขาห้ามเล่นดนตรีเกินเที่ยงคืน แล้วความจริงร้านเขาจะให้นักดนตรีขึ้นตอนประมาณ 4 ทุ่ม แล้วจะเลิกประมาณ 5 ทุ่มนิด ๆ แต่ว่าพวกผมจะโดนให้เล่น 5 ทุ่มตลอด ก็จะเลิกเที่ยงคืนกว่า ก็ปรากฏว่าโดนทหารจับ เป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำครับ คือกลัวจริงอะ เล่น ๆ อยู่บนเวทีแล้วกำลังจะร้องเพลง เขาเอาไฟฉายส่องแล้วเอาปืนชี้ บอกว่า “มึงหยุดแล้วลงมา” แต่ผมก็ยังร้องต่อ ไม่สนใจ ตอนนั้นร้องเพลง นาฬิกา ของปลานิลเต็มบ้าน จำได้อย่างดิบดี แต่พอลงมาเขาก็เอาปืนยาวจ่อหัว

โซ่: คือตอนแรกเขาไม่ได้จะจับนักดนตรี แต่เขาจะจับเจ้าของร้านที่ให้นักดนตรีขึ้นมาเล่น ก็เป็นฟีลแบบ “เออ มึงมานี่ แล้วบอกให้เจ้าของร้านมาหาเขา” แต่เจ้าของร้านเขาหนีไปก่อน คนที่จับฉลากชื่อวงผมน่ะครับ

ต๊ะ: เขาน่ากลัวมากพี่ ให้ขึ้นรถไปแล้วรถ ก็เป็นรถทหารที่ผมไม่เคยขึ้น แล้วมันไม่มีเหี้ยอะไรเลย เบาะ หรือตัวรถที่นั่ง ทุกอย่างมันแข็งไปหมด พอมาถึงใต้ทางด่วนเขาก็เปิดไฟส่องรถ แล้วเอาผมไปนั่งคุกเข่าเรียงหน้ากระดานกัน 4-5 คนแล้วเอาไฟส่องหน้า

โซ่: เขาถามว่าใครจะตายก่อน (หัวเราะ)

ต๊ะ: ใจนึงผมก็กลัว แต่อีกใจนึงผมก็คิดว่า เหี้ยอะไรเนี่ย เฮ้ย กูเล่นดนตรีนะเว่ย แล้ววันนั้นไอ้โซ่เป็นคนที่หงุดหงิดอะ ไปถามทหารว่า “พี่เคยมีลูกปะ ถ้าลูกพี่โดนแบบนี้พี่จะเอาไง” ผมกับไอ้นิวก็ “ไอ้โซ่ ไม่เอา เขาถือปืนอยู่” คือผมกับนิวก็พยายามจะตลก แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ได้จะจริงจังมาก ตอนนั้นเขาแค่ไม่อยากให้เล่นเกินเวลา สุดท้ายมันก็เป็นเรื่องตลกครับ มีครั้งนึงผมไปงานคอนเสิร์ตแถวมหาลัยแล้วทหารกลุ่มนี้เป็นคนคุม แต่ผมไม่มีตังซื้อบัตร ผมก็ไปนั่งซื้อเบียร์กินข้างคอนเสิร์ตแล้วชะเงิกดู เขาก็ยังจำหน้าผมได้ ถามว่า “ไอ้หนุ่ม อยากเข้าป่าว” เขาก็พาผมเข้า สุดยอดอะ ผมจำได้เลย

23-02

กลับมาเรื่องเพลงของวงกันบ้าง ตอนทำเพลงได้อิทธิพลมาจากอะไร

โซ่: Input เยอะ เพลงเราจะประมาณนี้เพราะฟัง Last Dinosaurs, The 1975, The Wombats, Coldplay, Foals คือเราจะฟังเพลงเหมือน ๆ กันทั้งวงเลย เพราะเราอยู่รวมกัน ใช้ชีวิตด้วยกันตลอด reference ก็จะออกมาประมาณนี้

ตอนซิงเกิ้ล รักไม่ร้าย ออกมา คนพูดถึงกันเยอะไหม

ต๊ะ: ในมหาลัยก็มีบ้าง ตอนนั้นเราอยู่ปี 2 เขาคงตื่นเต้นว่าเด็กมหาลัยมีเพลงของตัวเอง แต่ส่วนใหญ่ก็พวกเพื่อน ๆ กัน

อะไรคือความโดดเด่นในเพลงของ 23’O

โซ่: ผมว่าความขี้เล่น มันเป็นเพลงที่มีความขี้เล่นของพี่ต๊ะ สำเนียงการร้อง หรือสำเนียงกีตาร์ที่ดูไม่มีที่มาที่ไป

ทำไมถึงลองเข้ามาประกวด Tiger Jams

โซ่: ไม่มีร้านเล่น (หัวเราะ) ไม่มีตัง

ต๊ะ: ช่วงปิดเทอมร้านเหล้าจะไม่ค่อยเอานักดนตรีมาลงครับเพราะนักศึกษาน้อย เขาก็ไม่เต็มใจจ่ายเรา

โซ่: เอาจริงก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องตังมากหรอก คือเราก็ไม่รู้ว่าถ้าเราเข้ารอบ เราจะไปเจอกับอะไรบ้าง

ต๊ะ: อารมณ์ประมาณศิลปินที่ประสบความสำเร็จอย่าง Tattoo Colour เขาก็ผ่านเวทีที่ประกวดโดยเป็นแบรนด์สินค้าจัด สมเกียรติก็เป็นโค้ก สมเกียรตินี่เป็นวงเปิดโลกของพวกผมเลยนะ คือเขาเคยมาเล่นเปิด มีอยู่ช่วงนึงที่ผมหลงตัวเองนิดนึง ตอนนั้นยังไม่มีเพลงของตัวเอง เล่นเพลงตลาดทั่วไป ไปเล่นตามร้านแล้วประมาณว่าคนร้องตาม เลยรู้สึกว่าตัวเองแม่งเก่งว่ะ (หัวเราะ) สักพักพอไปเล่นร้านบางร้านแล้วแบบ …เชี่ย คนแม่งนั่งอยู่แค่ 2-3 โต๊ะ ไอ้สัสเอ๊ย เซ็งว่ะ อะไรวะคนไม่อิน คนไม่ฟัง นั่งคุยกัน แล้วบางทีคนก็จะบอกว่า มึงเล่นเพลงอะไร เล่นเพลงที่คนอื่นเขาฟังกันไม่ได้หรอวะ

โซ่: เล่นเสร็จตะโกนด่ากลางร้านครับ

ต๊ะ: แต่วันนั้น พี่ ๆ สมเกียรติไปเล่นที่ร้าน แล้วผมไปเล่นเปิด แต่วันนั้นฝนตก คนน้อยมาก มากันแค่ 3 โต๊ะ แล้วเหมือนร้านเขากลัวตำรวจลงเลยรีบให้สมเกียรติขึ้นก่อน ทีนี้ผมก็คิดว่า พวกมึงลาดกระบังมาทำอะไรกันแค่นี้ สมเกียรติเขายิ่งใหญ่นะเว้ย ผมก็กลัวพี่เขาจะเฟลไง พอเห็นสมเกียรติขึ้นผมก็รู้สึกว่า เนี่ย ของจริง คือเขาไม่สนเลยว่าคนจะน้อยจะกี่โต๊ะ ผมจำได้เลยว่าวันนั้นพี่โบ๊ทเมาแล้วขึ้นเล่น โดนกีตาร์ฟาดคิ้วแล้วคิ้วแตก เล่นเสร็จก็ลงมากินเบียร์กับพวกผมต่อ (หัวเราะ)

โซ่: รู้สึกเป็นการสับสวิตช์ขึ้นเวที ใครฟังไม่ฟังไม่สน คนดูจะน้อยก็ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด

เก็ต: มีความสุขที่ได้เล่นดนตรีก็พอแล้ว

img_5361

คาดหวังจะได้ร่วมงานกับสมเกียรติไหม

ต๊ะ: ก็ไม่นะครับ… จริง ๆ ก็คิดบ้างนะตอนแรก ๆ

FJZ: ตอนแรกไหนบอกว่าอยากร่วมงานกับ Jelly Rocket

23’O: ไอ้นัทเลยยยยยย

ต๊ะ: จริง ๆ ก็ชอบทั้งสองวง

โซ่: แต่มีวงเดียวที่เป็นผู้หญิงล้วน

วันที่มาขึ้นเล่นให้กรรมการดู รู้สึกยังไงบ้างด้วยความที่เป็นวงสุดท้าย

โซ่: ก่อนขึ้นมันตื่นเต้นมาก แต่พอขึ้นไปแล้วมันสบายใจยังไงไม่รู้แปลก ๆ

ต๊ะ: คือทุกอย่างเพอร์เฟกต์อะตอนนั้น แล้ววันนั้นผมรู้สึกได้ถึงสังคมอีกอย่างนึง เหมือนคนเขามาตั้งใจฟัง ตั้งใจดู พอเวลาผมให้ตบมือ หรือว่าร้องตาม คนก็เล่นด้วย เนี่ย เรารู้สึกว่าคนสนใจ ไม่ใช่แค่แบบมาฟัง ที่ผ่านมาผมเล่นร้านเหล้าไง แล้วถ้าเพลงเพราะ ก็เพราะของมันไปดิ ถึงเวลากูร้องท่อนฮุกพอ จะเป็นแบบนั้นตลอด แต่ที่ไปเล่นวันนั้นเปิดโลกดีครับ ดีใจ

คิดว่าจะเข้ารอบไหม

ต๊ะ: ไม่ครับ คิดแค่ว่าได้เล่นก็พอแล้ว แล้วพอพี่กันต์ (กันดิศ ป้านทอง บก. Fungjaizine) บอกว่าพวกผมได้ที่ 5 ก็หลงตัวเองไปแล้ว (หัวเราะ)

แล้วพอรู้ว่าการคัดเลือกรอบต่อไปจะเป็นการโหวต รู้สึกยังไง

ต๊ะ: โห อันนี้โคตรกดดันที่สุด ตอนแรกก็นำอยู่ แล้วแปปนึงคะแนนก็อะไรก็ไม่รู้

เก็ต: ผมรู้สึกว่าแต่ละวันมันทรมาณแล้วมันนานมาก ๆ

โซ่: เสียสติกันหมดเลยพี่ งงอยู่แปปนึง ตอนนั้นเกือบบวชกันละ (หัวเราะ)

ต๊ะ: แต่ของผมมันสนุกอะ มีการถ่ายรูปโทรศัพท์ที่กดโหวต 40-50 รูป พวกน้อง ๆ ทำให้ ตอนกินก๋วยเตี๋ยว วิ่งมา มันก็ถ่ายให้หมด เก็บไว้หมดเลย

แล้วพอจะได้เล่นเวทีใหญ่ ความรู้สึกของคนที่เล่นร้านเหล้ามาก่อนเป็นยังไงบ้าง

เก็ต: มันก้าวกระโดดมาก ๆ โตเร็วกว่าที่คิดไว้เยอะมาก ๆ

ต๊ะ: เมื่อวานผมยังคุยกับไอ้นิวอยู่เลยว่า “เหี้ย ได้เล่นเวทีใหญ่ทำไมกูรู้สึกฝ่อวะ กูไม่คู่ควรกับเวทีนี้ เรายังเก่งไม่พอ” ไอ้นิวมันฝ่อพี่ ผมไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองเก่งนะ แต่ผมรู้สึกว่า ถ้าเวทีมันใหญ่จริง ผมก็พยายามให้มากขึ้น

23-04

เตรียมตัวยังไง

โซ่: ซ้อมหนักนะ ทุกวัน

เพลง ALL C มีที่มาจากอะไร

โซ่: ตอนนั้นเราอยู่ร้านเกมกัน คิดว่าคอนเซปต์เพราะวันนี้มีแค่ครั้งเดียว ผมบอกพี่ต๊ะว่า เพลงนี้ต้องชื่อ ALL C ว่ะ แล้วก็ทำเลย ส่วน ALL C มันเป็นศัพท์ใน DoTA 1 ครับ มันจะเป็นทีมสองทีม ทีมละ 5 คน เป็นฮีโร่ 5 ตัว ก็แทนเป็นพวกผมเนี่ย แล้วการ ALL C คือการมารวมตรงกลาง จะเป็นการดันครั้งสุดท้ายแล้ว

ต๊ะ: แบบในเกมตอนเล่น คน 5 คนจะไปอยู่ตรงไหนของแผนที่ก็ได้ แต่พอถึงเวลาให้สัญญาณ จะมีคนนึงติ๊กตรงกลาง พอทุกคนเห็นก็จะรู้ว่า ALL Cว่ะ ทุกคนก็จะวิ่งมาตรงกลางแล้วก็พุ่งไปทางเลนกลาง

ทำไมถึงใส่ท่อนแร็ป

ต๊ะ: ผมว่าเพลงนี้มันยังขาดอะไรไป อยากให้เพลงมันมีความพุ่งทะยาน กระโดด รุนแรง อะไรหน่อย อยากมีอะไรแปลก ๆ ตอนนั้นผมอินกับเพลงแรปด้วย แล้วมันเป็นความฝันอย่างนึงว่าเพลงกูสักเพลงควรจะมีท่อนแรป ยังคุยกับเก็ตอยู่เลยว่าอยากทำดิสโก้เป็นภาษาใต้ (หัวเราะ) อยากทำอะไรแปลก ๆ

เพลงล่าสุด เลือนลางและจางหาย (Moon) ทำไมต้องเป็นพระจันทร์

โซ่: มันมีท่อนนึงที่ร้องว่า ปล่อยให้เหงาบนดวงจันทร์

ต๊ะ: เพื่อนผมบอกว่าท่อนนี้เหงามาก คือมันเคยพูดว่า ปล่อยให้กูอยู่คนเดียวบนโลกกูก็เหงาแล้ว นี่มึงเอากูไปเหงาอยู่บนพระจันทร์กูไม่เหงาตายห่าเลยหรอวะ ผมว่าเจ๋งดี เลยทำธีมทุกอย่างให้มันเป็นพระจันทร์

แล้วเป็น dream pop ที่หลุดไปจากเพลงก่อน ๆ ด้วย

ต๊ะ: เพราะว่านัทจะเข้ามาบทบาทมากขึ้น ไลน์ซินธ์นัทเยอะมาก

ทำไมเพลงนี้ถึงร้องสองคน

โซ่: ตอนแรกที่แต่งกัน แต่งกับเก็ตสองคน ไม่มีพี่ต๊ะ ได้แค่ท่อนฮุก แล้วให้พี่ต๊ะไปเสริมท่อนอื่น ท่อนนี้คำมันช้าด้วย

ต๊ะ: ผมว่าโซ่ร้องแล้วดูเหงากว่า ละเอียดกว่า ผมเลยรู้สึกว่าก็ดีเหมือนกัน อยากให้มันร้องด้วย

23-03

ได้ร่วมงานกับ Jelly Rocket แล้วเป็นยังไงบ้าง

โซ่: น่ารักครับ (หัวเราะ)

เก็ต: เพลงก็น่ารัก (หัวเราะ)

ต๊ะ: เหมือนพี่ ๆ Jelly Rocket ก็จะเริ่มทำเพลงจากเรื่องของตัวเอง ก็ได้รู้ว่าหลักการของเขาจะมีข้อตกลงยังไงในการไปดีลกับที่อื่น หรือการดูแลตัวเอง กฎ สัญญา หรือการอัดเพลง ที่ได้คุยกันบ้าง

แล้ว Tuna Dunn ล่ะ

โซ่: โคตรติส เหมือนแกเงียบ ไม่ค่อยพูด แต่สมองแกแล่นไปตลอด คำพูดที่เขาอธิบายกับงานที่ออกมามันเป๊ะมาก

เก็ต: แต่พอเวลาพี่ตุลอธิบายงานนี่โคตรขนลุกอะ

อนาคตจะมีเพลงให้ได้ฟังเร็ว ๆ นี้ไหม

โซ่: คงอีกซักพักครับ ประมาณสามสี่เดือน จริง  ๆ ก็มีทำเก็บไว้เรื่อย ๆ ครับ ช่วงปิดเทอมน่าจะเข้าสตูดิโอกัน

เก็ต: จริง ๆ มีเพลงใหม่ที่จะเอามาเล่นในงานด้วยครับ

ต๊ะ: ผมจะไม่มองไกลมาก จะคิดแบบขั้นบันได ค่อยเป็นค่อยไปครับ

23-01

ฝากผลงานหน่อย

โซ่: ฝากเพลงเลือนลางและจางหายด้วยครับ

ต๊ะ: ติดตามพวกเรากันด้วยนะครับ

เก็ต: ฝากนัทเก็ตไอดอลด้วยครับ (หัวเราะ)

โซ่: พี่ต๊ะนักร้องของเราเป็นแอดมินเพจ นักเย็ด ด้วยครับ (หัวเราะ)

ติดตามผลงานของพวกเขาได้ที่ Facebook fanpage และรับฟังเพลงของพวกเขาบนฟังใจได้ ที่นี่

Facebook Comments

Next:


Montipa Virojpan

อิ๊ก เนิร์ดดนตรีที่เพิ่งกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นนักเขียนตอนอายุ 25 ชอบเดินเร็ว นอกจากขนมปังกับกาแฟดำแล้วก็สามารถกินไอศกรีมกับคราฟต์เบียร์แทนมื้อเช้าได้