Article Interview

Bomb At Track บอกเล่าความโหดร้ายของสังคมผ่านดนตรีเมทัลและการแร็ป

  • Writer: Peerapong Kaewthae
  • Photographer: Narawit Suksawat

เพลง อำนาจเจริญ สร้างปรากฎการณ์สั่นสะเทือนสามัญสำนึกชาวเน็ตเป็นวงกว้าง จากจุดเริ่มต้นของนักดนตรีวัยรุ่นเลือดใหม่ทั้งห้าตระหนักถึงความอยุติธรรมของสังคม พวกเขาต้องการบันทึกเรื่องราวอัปยศทั้งหลายให้เป็นประวัติศาสตร์ที่ทุกคนต้องไม่ลืมและช่วยกันแก้ไข ผ่านเพลงแร็ปเมทัลที่สื่อสารตรงไปตรงมาและไม่ประนีประนอม ด้วยภาพลักษณ์ที่น่าเกรงขามกับแนวดนตรีที่ดุดัน ทำให้ Fungjaizine แอบหวั่น ๆ เหมือนกันก่อนจะได้พบปะพูดคุยกับ Bomb At Track แต่ความจริงแล้วพวกเขาก็คือวัยรุ่นธรรมดาที่อยากลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่างเพื่อเปลี่ยนแปลงโลก แถมยังมีนิสัยขี้เล่นทะเล้นเป็นกันเองทั้งวง จนเราแทบไม่เชื่อว่าคือคนคนเดียวกับที่วิจารณ์สังคมอย่างถึงลูกถึงคนในเพลงของพวกเขา

bat6

สมาชิก
เต้ — วงศกร เตมายัง (ร้องนำ)
เมษ — ภควรรษ ประเสริฐศักดิ์ (กีตาร์)
ปุ้ย — ปราชญานนท์ ยุงกลาง (กีตาร์)
ข้น — ศาสตร์ พรมุณีสุนทร (เบส)
นิล — สิรภพ เลิศชวลิต (กลอง)

ทำไมถึงเริ่มสนใจเรื่องสังคมการเมือง

เต้: ตอนนั้นเราทำดนตรีกันมาพักนึง แล้วผมไม่รู้จะแต่งเรื่องอะไรอีก วันนั้นก็นั่งเล่นเฟซบุ๊กแล้วเห็นข่าวรุมทำร้ายคนพิการ ตอนแรกก็ไม่ได้สนใจอะไร หลังจากนั้นวันสองวันเราก็รู้สึกว่าเริ่มเห็นข่าวนี้บ่อยเลยกดเข้าไปดู ก็เริ่มศึกษาติดตามข่าวจนคดีปิดก็รู้สึกว่ามันไม่ควรเป็นแบบนี้ เลยลองเขียนเพลงขึ้นมาใส่กับดนตรีมันก็เข้ากันพอดี ออกมาเป็นเพลงแรกของเรา อำนาจเจริญ เลยทำต่อไปครับ

ก่อนที่จะมาอยู่ค่ายพวกเราเคยจะทำเพลงกันเองด้วย ช่วยเล่าให้ฟังหน่อย

ข้น: เราเคยเป็นวงร็อกเมทัลมาก่อน แต่ยังไม่ได้ใส่วิธีการแร็ป ก็พัฒนาหาตัวเองมาเรื่อย ๆ จนมาถึงเพลง อำนาจเจริญ เราก็ลงทุนกันเอง ทำ EP ไปขายกันเองเลย

พาร์ตดนตรีได้แรงบันดาลใจมากจากไหน เพราะแนวนี้ไม่ได้จะหาฟังง่าย ๆ ในไทย

เต้: สำหรับผมมันเป็นความชอบส่วนตัว ผมก็ฟังเพลงประมาณนี้อยู่แล้ว

ข้น: เหมือนเรื่องที่เราจะเล่าเนี่ยมันมีสิ่งที่อยากจะพูดยาวมาก แล้วอยากให้เพลงของเราออกมาเหมือนการเล่าเรื่องน่ะครับ เราเลยใช้วิธีการแร็ป เป็นวิธีที่เล่าเรื่องได้ชัดเจนและแข็งแรงที่สุด แล้วเอามาผสมกับความชอบในดนตรีร็อกของทุกคนจนมันออกมาเป็นแบบนี้พอดี

ส่วนใหญ่เลือกปัญหาที่เอามาทำเพลงยังไง

เต้: เพื่อน ๆ ก็จะส่งคลิปนู้นนี้ ข่าวนู้นนี้มาให้ดูตลอด เราก็จะดูทั้งหมดแล้วอินกับอันไหนก็จะลองเขียนออกมาดู

bat2

อย่าง เต้ มีวิธีฝึกหรือเทคนิคในการเขียนเนื้อเพลงท่อนแร็ปยังไง

เต้: ผมไม่มีวิธีฝึกครับ เราแค่รู้สึกอะไรก็เขียนลงไปแล้วหาคำที่มันคล้องจองในแต่ละท่อนไปเรื่อย ๆ อย่างผมจะคอยสังเกตตัวเองเวลาแร็ปตอนเล่นสดด้วยว่าแต่ละงานตัวเองร้องโอเคมั้ย แล้วค่อยเก็บมาปรับปรุงตัวเอง

แล้วทำเพลงเนื้อหารุนแรงแบบนี้ เคยต้องเซ็นเซอร์ตัวเองไหม

เต้: มีบ้างครับ เวลาผมเขียนเสร็จก็จะส่งให้เพื่อน ๆ ช่วยกันดู ถ้ามันรุนแรงไปเราก็ต้องเปลี่ยนนิดหน่อย ส่วนใหญ่เป็นแค่บางประโยคน่ะครับ

เราแต่งเพลงวิจารณ์สังคมแบบนี้เคยมีนักวิชาการหรือนักสิทธิมาพูดคุยบ้างไหม

เมษ: ถ้าแบบคุยจริงจังยังไม่มีครับ มีแต่พ่อส่งเพลงเข้าไปในไลน์กลุ่มแล้วมีพวกผู้พิพากษาเขาบอกว่าชอบเพลงของเรา ช่วงนั้นตอนที่ปล่อยเพลงแรก ๆ ก็เหมือนเกร็ง ๆ จะโดนจับมั้ย (หัวเราะ) แต่ก็ไม่ได้มีอะไรรุนแรง

แนวดนตรีของเราสร้างช่องว่างในการทำงานกับค่ายบ้างไหม

เมษ: ไม่มีปัญหาเลยครับ

ข้น: ค่ายค่อนข้างเปิดกว้างมากครับ เขาไม่เปลี่ยนคาแรกเตอร์เราเลย ให้เป็นตัวเองที่สุด เขาจะช่วยเราเคาะเรื่องประเด็นเนื้อหาในเพลงให้กลมขึ้นมากกว่า

เมษ: สมัยก่อนเรามีกันแค่ห้าหัว ตอนนี้ก็มีหลายหัวขึ้น (หัวเราะ) ช่วยกันคิด

แล้วค่ายมีความเห็นยังไงกับเพลงของเราบ้าง

นิล: เขาก็ไม่ได้ว่าอะไรนะครับ ค่ายก็ไม่แทรกแซงการทำงานของเรา จะแนะนำวิธีทำงานมากกว่า

เมษ: ชี้แนวทางในอนาคตให้เรามากกว่า

bat1

แล้วพ่อแม่ของแต่ละคนล่ะ มีความเห็นยังไงกับเพลง

เต้: ของผมเขาไม่ว่าครับ ไม่ยุ่ง แค่ดูอย่างเดียว แล้วก็ฟังเพลงเรา

เมษ: ของแม่ผมตอนปล่อยเพลงแรกออกมา แม่ก็แชร์ไปแล้วถามว่า ‘จะโดนจับมั้ยลูก’ (หัวเราะ) แต่เขาก็ไม่ได้อะไร เขาก็รู้ว่าเราชอบแบบนี้

เต้: มึงอะปุ้ย

ปุ้ย: ผมส่งให้แม่ฟังแล้วแม่โทรกลับมาเร็วมาก แล้วก็บอกว่า ‘ทำเพลงอะไรเนี่ย มีแต่คำหยาบ ไปลบทิ้งเลยนะ แม่ไม่ชอบเลยเนี่ย’ (หัวเราะ) แล้วหลังจากนั้น เขาก็ไม่ฟัง (หัวเราะ) เขาไม่ชอบครับ

เมษ: ตอนแรกแม่ผมบอกว่าฟังไม่ออก แต่ตอนนี้เขาบอกว่าเริ่มร้องได้แล้วครับ (หัวเราะ)

นิล: ของผมนิ่ง ๆ ครับ แม่บอกฟังไม่ทันเฉย ๆ (เมษ: มีเพื่อนมึงปะ ที่เป็นตำรวจอะ) มีครับ ตอนไปเล่นที่เชียงใหม่เขาก็มาดู ตอนแรกคิดว่าจะผิดใจกันละครับ (หัวเราะ)

การทำงานกับค่ายทำให้การทำเพลงหรือแนวคิดของเราเปลี่ยนไปไหม

เต้: ตอนนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนเลยครับ เขาปล่อยให้เราลุยไปก่อน ปล่อยความเป็นตัวเองออกมาให้มากที่สุดก่อน เขาจะค่อย ๆ แนะนำมากกว่า ไม่ได้เปลี่ยนอะไร

ข้น: สำหรับผมการมาอยู่ค่ายแล้วทำให้ความคิดผมเปลี่ยนไปนิดหน่อย เวลาเราอยากทำอะไรซักอย่างหนึ่งจะมีเรื่องการวางแผนเข้ามา เรื่องที่เราจะทำคืออะไรแล้วจะทำตรงไหนให้ดีขึ้นได้อีกมั้ย ก็จะต่างกับก่อนมาอยู่ค่ายตรงที่สมัยก่อนเราอยากทำอะไรก็ทำเลย พอมาอยู่ค่ายก็คิดหน้าคิดหลังมากขึ้น ทำอะไรให้ไปข้างหน้ามากขึ้นทั้งการทำเพลง ทำอัลบั้ม เป็นเรื่องดีครับ

ทำเพลงเนื้อหารุนแรงขนาดนี้ เคยโดนอำนาจมืดคุกคามมั้ย

เต้: ตอนนี้ยังไม่มีครับ

เมษ: มีแต่คนในเครื่องแบบมาเป็นแฟนคลับ มาซื้อซีดี เขาก็มาดูเราเล่นสดด้วย

ตำรวจได้ฟังเพลงของเราแล้วรู้สึกยังไงบ้าง เพราะวงมีเพลงที่วิจารณ์ตำรวจด้วย

เต้: เขาชอบนะครับ บางคนที่เป็นแฟนคลับก็ทักในแฟนเพจมาว่าเล่นที่ไหนเดี๋ยวตามไปดู พาเพื่อน ๆ ไปดูด้วย

เมษ: เขาบอกฟังไปสะดุ้งไป (หัวเราะ)

bat8

คิดว่าดนตรีจะเปลี่ยนโลกได้จริง ๆ ไหม

ข้น: ผมคิดว่าได้ครับ เพลงมันสามารถเปลี่ยนความคิดคนได้ บางทีเราฟังเพลงเศร้าทั้งที่เราไม่มีความเศร้าหรืออกหัก แต่เราก็รู้สึกกับมันได้ ด้วยเสียงที่ประดิษฐ์ขึ้นมันไปแตะความรู้สึกคน มันไม่ต่างกับเพลงร็อกหรือเพลงเมทัลที่มีเนื้อหารุนแรง เพลงพวกผมอาจไม่ได้พูดถึงความรักแต่พูดถึงความจริงในสังคม ผมคิดว่าคนฟังไม่มากก็น้อยจะเกิดการตั้งคำถามขึ้นมาว่ามันเป็นเรื่องจริงรึเปล่า แล้วที่เราอยู่ในสังคมเนี่ยมันเป็นยังไง พอเราคิดและได้พูดคุยกับเพื่อนหรือใครก็ตาม มันจะสามารถเปลี่ยนไปในทางที่ดีได้ไม่มากก็น้อย

เต้: ผมหวังครับ หวังว่ามันจะเปลี่ยนความคิดคนได้ คนก็เปิดใจฟังมากขึ้นกับเพลงของเรา ฟังเนื้อหาหรือฟังอะไร คนมันอินได้อยู่แล้วกับเนื้อหา ท่อนดนตรี ผมว่ามันเปลี่ยนได้แน่นอน

คำว่า ‘คนดี’ ของ Bomb At Track ต้องเป็นยังไง

ข้น: คนมันมีทั้งความดีกับความไม่ดีผสมกันอยู่แล้ว แต่เราเลือกที่จะทำได้ครับ คนดีในความคิดผมอาจจะไม่ต้องช่วยเหลือคนอื่นตลอดเวลาจนตัวเองเดือดร้อน แค่พยายามเข้าใจคนอื่นบ้างและไม่เห็นแก่ตัว ไม่ทำอะไรให้คนอื่นเสียหาย เบียดเบียนคนอื่นทั้งความคิดและการกระทำ แค่นี้ก็ไม่ได้ดูเป็นคนเลวแล้วครับ

อย่างเราเป็นวัยรุ่น คิดว่าอะไรคือสิ่งที่อนาคตของชาติควรมี

เต้: ผมว่าน่าจะเป็นความซื่อสัตย์ ความรับผิดชอบ ถ้าคนเรามีทั้งสองอย่างนี้มันก็ไม่มีทางที่จะเกิดการคดโกงหรือเอาเปรียบกันได้ แต่มันก็ยากเหมือนกันเนอะ (หัวเราะ)

ปุ้ย: ต้องคิดจะพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา เด็กมัธยมผมว่าสำคัญนะ เป็นวัยหัวเลี้ยวหัวต่อ ถ้าดีก็ดีเลย ถ้าเลวก็เลวเลย แต่ก็เลวซะส่วนใหญ่

เมษ: ผมว่าสังคมด้วยน่ะครับ ทั้งเด็กรุ่นใหม่และเด็กรุ่นเก่า (หัวเราะ) ง่าย ๆ เลยครับแค่จะทำอะไรก็คิดเยอะ ๆ เหมือนเพลงที่เราแต่งไปอะครับ ฆาตกรคีย์บอร์ด บางคนแค่เห็นโดยที่ยังไม่ได้ไตร่ตรองก็แชร์ไปโดยไม่ทันได้คิด ก็ทำให้เป็นเรื่องใหญ่ได้

นิล: เรื่องต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในโซเชียลมันเยอะ เวลาเห็นข่าวต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องฆ่าคน เรื่องโกงกัน ไม่อยากให้มันเป็นแฟชัน สนใจมันแค่วันสองวันแล้วก็ลืมไป อยากให้เขาไตร่ตรองนิดนึงว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมันควรแก้นะครับ ไม่ควรละเลย บางข่าวแชร์กันเป็นหมื่นในวันเดียวก็ไม่ได้ทำอะไร ปล่อยมันไป อยากให้สนใจกันจริงจังมากกว่านี้

อะไรคือปัญหาที่สำคัญที่สุดที่วัยรุ่นยุคนี้ควรตระหนักได้แล้ว

ข้น: วัยรุ่นเป็นวัยที่ทำอะไรตามอารมณ์มากประมาณหนึ่ง อยากให้เริ่มตระหนักที่ตัวเองก่อนว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ แล้วมันมีผลดีหรือผลเสีย พยายามดูอารมณ์ตัวเองว่าเราคิดอะไรอยู่

เต้: คิดก่อนทำ

bat3

แรงบันดาลใจหรือต้นแบบของวัยรุ่นที่ทุกคนสนใจหรือชอบ

เต้: พี่ตูน Bodyslam ครับ สุดยอด ช่วยตั้ง 11 โรงพยาบาล

 

ปุ้ย: ชอบพี่ป๊อด Modern Dog อันนี้ส่วนตัว เขาเป็นคนที่… ไม่รู้เหมือนอะ

เมษ: สำหรับผมนี่คือวง Bomb At Track (หัวเราะ) ตอนนี้อาจจะเป็นตัวเท่าเนี่ยอะครับ (ห่อมือ) วันหนึ่งถ้าเราตัวใหญ่ขึ้น (ผายมือออก) ทุกคนอาจจะเปิดใจขึ้นและเป็นต้นแบบที่ดีของวัยรุ่นในอนาคต (หัวเราะ) ผมหวังว่านะครับ

ถ้า Bomb At Track ได้เป็นนายกจะแก้ปัญหาอะไรบ้าง

ปุ้ย: อันดับแรกเรื่องภาษีก่อนครับ… พี่จะเอาไปลงจริง ๆ ปะเนี่ย (หัวเราะ) ผมอยากแก้ปัญหาพื้น ๆ เลยเรื่องรถเมล์ ปัญหาบนถนนยังเงี้ยครับ บ้างทีฟุตบาทที่เราเดิน ๆ อยู่แล้วตกลงไป (เมษ: มึงอ้วนป่าว) (เต้: มึงเมาป่าว) ผมอยากเริ่มแก้ตรงนี้ก่อน เรื่องความเป็นอยู่อะไรเงี้ยครับ

เมษ: ผมอยากแก้รถติดครับ ไม่รู้จะแก้ได้ไหม มันรุนแรงมาก มันทำให้คนเป็นบ้าได้ อยากตายเลย (หัวเราะ)

เต้: มึงมาตัดพ้ออะไรเนี่ย (หัวเราะ) ผมอยากแก้เรื่องคอรัปชันครับ ผมว่าถ้าแก้ปัญหานี้ได้ ปัญหาที่สองคนนี้พูดมาก็จะหมดไปครับ มันเป็นปัญหาใหญ่มากครับ เผลอ ๆ ใหญ่ที่สุดเลยมั้ง

นิล: ถ้าเป็นผม ผมอยากแก้ปัญหาเรื่องคนที่เข้าคุกครับ เรื่องผู้ชายที่ข่นขืมผู้หญิง ผมว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมไม่ชอบที่สุดเลย ผมเห็นความไม่ยุติธรรมบ่อยมากในสมัยนี้ ข่นขืนผู้หญิงเข้าคุกออกมาก็ยังข่มขืนอีก ผมรับเรื่องนี้ไม่ค่อยได้

ถ้าไม่ได้ทำวงนี้ คิดว่าแต่ละคนจะทำอะไรกันอยู่

เมษ: นึกไม่ออกเลยครับ ตั้งแต่เริ่มเล่นดนตรีก็ตั้งใจจะเดินมาทางนี้อยู่แล้ว พวกเราก็เรียนดนตรีกันทุกคน

นิล: ทุกคนก็มีจุดหมายเหมือนกันคือเป็นนักดนตรีกันอยู่แล้ว

เต้: จริง ๆ แล้วทำอย่างอื่นไม่ได้ (หัวเราะ)

เมษ: เรารักในดนตรีไง

ปุ้ย: ก็เคว้งอะพี่ตอนแรก ผมกับนิลมาจากเชียงใหม่ตั้งใจมาเรียนดนตรี (เมษ: เจาะใจเหลือเกิน) ตอนปีสามแล้วก็เริ่มคิดละว่าจะจบออกไปจะทำอะไรดีวะ ตอนนั้นวงก็ไม่ได้ดัง เครียด ๆ ไม่รู้ด้วยว่าจะมีวันนี้มั้ย

เมษ: กูจะร้องไห้แล้วเนี่ย (หัวเราะ)

bat5

ได้ยินว่ากำลังจะไปเล่นที่ฮ่องกงด้วย

เมษ: ใช่ครับ เราเป็นตัวแทนประเทศไทยไปประกวดในงาน Hong Kong Asia-Pacific Youth Band Sound Competition 2017  ที่รวมดนตรีทุกแนว เขาให้เวลา 10 นาทีเราจะโชว์อะไรก็ได้ (นิล: จะกินน้ำ แปรงฟัน) (เต้: หุงข้าวก็ได้) แต่วันอื่นเราก็ไปเล่นตามเฟสติวัลด้วย งานนี้ได้มาจากเพื่อนเราที่เคยไปเล่นที่ไต้หวันมาครับ เขาแนะนำให้

ที่เคยไปเล่นไต้หวันกับเกาหลีมา ซีนเมทัลต่างประเทศเป็นยังไงบ้าง

เมษ: เจ๋งมากครับ ทั้งวงและผู้ชมด้วย ทั้งไต้หวัน ทั้งเกาหลีเลยครับ ถึงเขาจะฟังเราไม่ออก แต่เขาเอ็นจอยกับเรามากครับ

เต้: ไต้หวันนี่คนดูเขาให้เกียรติวงดนตรีมากครับ เขาจะตั้งใจดูมาก สั่งอะไรก็ทำ ให้ยกมือก็ยก ให้วิ่งก็วิ่ง (หัวเราะ) ใช้ดนตรีสื่อกันได้ นักดนตรีต่างประเทศก็เก่งมาด้วยครับ

เมษ: ที่เกาหลีก็เจอแฟนคลับที่เป็นคนไทยด้วยครับ ใส่เสื้อบอมมา เขาถือธงชาติมาด้วย

มีคนไม่ค่อยพอใจ Bomb At Track เท่าไหร่ที่สไตล์ดนตรีไปเหมือนวง Rage Against The Machine มากเกินไป หลายคนยังสังเกตว่าชื่อวงเราก็เอามาจากชื่อเพลงหนึ่งของวงดังด้วย ทุกคนมีความเห็นยังไงบ้าง

ข้น: มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเกิดความไม่พอใจ แต่เราก็ไม่ได้โกรธอะไร ใครไม่พอใจเราก็ไม่อะไรอยู่แล้ว เราก็ทำเพลงของเราด้วยความตั้งใจอยู่แล้ว มันก็เป็นตัวของทุกคน เป็นความชอบของทุกคนรวมกัน ถ้ามันคล้ายมันก็คล้าย เราไม่ได้รู้สึกแย่ที่มันคล้ายครับ

เต้: ตอนที่ตั้งชื่อวงเรายังไม่รู้จักเพลง Bombtrack เลยครับ

นิล: ชื่อวงเรามันมาจากชื่อหนังครับ มันมาจากชื่อหนัง Bomb The System ครับ เวลาทำวงกันเราก็มานั่งเปิดดิกกัน คำนี้แปลว่าอะไรบ้าง

เมษ: มีเป็นร้อยชื่อเลยครับ

ข้น: เราอยากได้ชื่อวงที่ยาวหน่อยเป็นสามคำ ก็เลยคิดมา Bomb Attack ที่แปลว่าโจมตี แล้วก็เปลี่ยนเป็น Bomb At Track มันดันไปคล้ายเพลง Bombtrack แต่เราก็ไม่ได้รู้สึกว่ายัดเยียดอะไร ส่วนหนึ่งเราก็ชอบวงเขาด้วย ส่วนเรื่องทำเพลงเราก็มีวิธีการของเราในการสร้างความแตกต่างอยู่แล้วครับ

เมษ: เราก็คัฟเวอร์เพลงเขาด้วย ส่วนใหญ่คนก็จะพูดในแง่บวกนะครับ ไม่มีใครบอกว่าเราก็อปเขามาหรือเอาของเขามา คนจะเปรียบเปรยว่าเราคือ Rage Against the Machine เมืองไทย เขาเห็นวงเราเขาคิดถึงวงนี้เพราะตอนนี้วงนั้นก็ไม่มีแล้วด้วย

ข้น: ผมคิดว่าแนวเพลง วิธีคิดหรือรายละเอียดดนตรี มันจะเรียกว่าการก็อปปี้หรืออิทธิพลดนตรีก็ได้อยู่ที่เรารู้สึกยังไงกับมันครับ ทุกอย่างมันก็เกิดจากการก็อปปี้แล้วพัฒนาต่อ แทบจะทุกคนหรือทุกวงมันมีการเอาอิทธิพลเข้ามาผสมกับความเป็นตัวเองออกไปอยู่แล้วอะครับ อยู่ที่ภาพที่เห็นมันจะชัดหรือไม่ชัดแค่ไหน เราก็ไม่รู้สึกแย่กับคนที่บอกว่าเราเหมือน Bombtrack หรือ Rage Against the Machine มันก็เป็นอิทธิพลอย่างหนึ่ง แค่ชื่อมันคล้ายหรือแนวเพลงอิทธิพลแนวคิดมันจะคล้ายไปบ้าง แต่มันจะมีความแตกต่างกันในบางรายละเอียด ถ้าคนได้ลองฟัง

เมษ: ดูที่ผลงานดีกว่า

เป้าหมายต่อไปของวง

เมษ: ทำอัลบั้มเต็มครับ สิบเพลงใหม่ วางแผนไว้ปีหน้า กำลังทำกันอยู่ครับ คงค่อย ๆ ปล่อยซิงเกิ้ลตามมา

bat4

ซิงเกิ้ลใหม่จะได้ฟังเพลงใหม่เมื่อไหร่

เต้: ภายในปีนี้แหละครับ

ฝากผลงาน

ปุ้ย: ฝากวงหน้าใหม่ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะครับ จริง ๆ วงเราจะเรียกว่าใหม่ในประเทศไทยก็ได้ครับ น่าจะเป็นวงที่พูดถึงปัญหาสังคมแบบจริงจังนะ เพราะสังคมที่นี่ค่อนข้างจะโหดร้ายพอสมควร ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเหมือนจะถูกลืมไป แต่เรายังหยิบมันมาพูดเพื่อเตือนใจทุกคนนะครับ อยากให้ลองเปิดใจฟังดู

นิล: ฟังใจ ดูครับ

เต้: โคตรเท่ (หัวเราะ)

ล่าสุดก็มีข่าวดีส่งตรงจากฮ่องกงว่า Bomb At Track ชนะการประกวดในงาน Hong Kong Asia-Pacific Youth Band Sound Competition 2017 อย่างสง่าผ่าเผย คนจริงไม่ต้องพูดมากให้ผลงานเป็นตัวตัดสินดีกว่า ทาง Fungjaizine ก็ขอแสดงความยินดีมา ณ ที่นี้ด้วย เพราะน้อง ๆ ก็เป็นนักดนตรีอีกคนที่เราเชียร์จากใจและยังไปได้ไกลอีกแน่นอน ลองเปิดใจฟังเพลง อำนาจเจริญ ของพวกเขาบน ฟังใจ ดูก่อน พวกเขาอาจจะเป็นวงในดวงใจของคุณอีกวงก็ได้

nobat

Facebook Comments

Next:


Peerapong Kaewthae

แม็ค เป็นคนชอบฟังเพลงเพราะเป็นกิจกรรมที่ทำคนเดียวได้ และก็ชอบแนะนำวงดนตรีหรือเพลงใหม่ ๆ ให้คนอื่นรู้จักผ่านตัวอักษรตลอดเวลา