มารู้จักกับวงร็อกที่เกรียนที่สุด ณ ขณะนี้ He Men Crown ที่แปรเปลี่ยนความเครียดให้กลายมาเป็นความสนุกฉุดไม่อยู่ และอยากเผยแพร่ความฮานี้ไปสู่ผู้ฟัง

Interview

He Men Crown วงร็อกไม่ห่วงลุค ที่อยากนำความสนุกในการเล่นดนตรีกลับมา

มารู้จักกับวงร็อกที่เกรียนที่สุด ณ ขณะนี้ He Men Crown ที่แปรเปลี่ยนความเครียดให้กลายมาเป็นความสนุกฉุดไม่อยู่ และอยากเผยแพร่ความฮานี้ไปสู่ผู้ฟัง

สมาชิก

มีน จิมฮี (ร้องนำ)
คิม ยวยยวย (กีตาร์)
จิ๋ว เฮี้ยว (เบส)
ตองแผด (กลอง)
Pap Yeah (โปรดิวเซอร์)

He Men Crown

เป็นวงสัญชาติเกาหลีหรอ ทำไมชื่อ He Men Crown

มีน: นึกภาพก่อนนะครับ มันจะเป็นผู้ชายคนนึง มีมงกุฎ อยู่ท่ามกลาง ผู้ชายหลายคน เราอยากเป็นคิงในสายร็อก จริง ก็แล้วแต่คนจะคิด เราตั้งให้คนได้วิเคราะห์กันต่อไป ถ้าไปเล่นอเมริกานี่วงเราชื่อเท่เลยนะ พ่อแฟนผมเป็นฝรั่ง ชอบชื่อนี้มาก (จิ๋ว: โดยที่ไม่รู้ว่าแปลว่าอะไร (หัวเราะ)) แต่ก็เอาไว้วัดคนเหมือนกันนะ เพราะหลาย คนก็ไม่รู้

แป๊ป: คนที่รู้แสดงว่ามีความคิดสร้างสรรค์ในเรื่องนั้นมากกว่าคนอื่นแหละ

มีน: เราก็ไม่ได้ตั้งใจกวนคนฟัง กะจะตั้งไว้สนุกกันเอง เพราะถ้าเราสนุกแล้วคนอื่นก็น่าจะสนุกด้วย ถ้าไม่สนุกด้วยแสดงว่าจริตไม่ตรงกันก็ไม่เป็นไร

จุดเริ่มต้นของ He Men Crown มีเกณฑ์การเลือกสมาชิกเข้าวงอย่างไร

มีน: พวกเราเรียนมหิดล ผมเป็นรุ่นพี่สุด เรียนจบมาแล้วปีนึง เปิดห้องซ้อมอยู่หน้ามหาลัย แป๊ปนี่รู้จักกัน คนอื่นก็มาซ้อมกันที่ห้องซ้อมเลยเจอกันอยู่แล้ว

แป๊ป: ช่วงที่ผมเรียนจบมาประมาณปีนึง ทุกคนทำแต่งานอย่างคร่ำเครียด มีนก็สอนดนตรี เล่นดนตรี ทำวง เคยอยู่ค่าย Lazerface ผมทำเบื้องหลัง ห้องอัด อยู่กับศิลปิน ทำกับพี่โน่ Wayfer Records พวก Sweet Mullet คิมก็เป็นซาวด์เอนจิเนียร์ทัวร์กับ Blue Shade เก่ง ธชญ

มีน: ทั้งที่เป็นงานดนตรีที่เราเลือก ที่เราชอบ แม่งเสือกเครียด มันทำแล้วเสือกโอ้ยยยย เหี้ยเอ๊ย’ ผมทำจนเป็น panic ไอ้นี่ (แป๊ป) ทำจนนอนไม่หลับ แป๊ปก็เลยโทรมาเลย

แป๊ป: ตอนนั้นผมกินข้าวอยู่ตอนเช้า ประมาณ 11 โมง ผมเปิด YouTube ดูเพลง TNT ของ AC/DC แล้วผมรู้สึกว่ายุคนั้นประมาณ 80s พวกเขาเล่นกันสนุกมาก ก็คิดว่าทำไมเราไม่ได้เห็นภาพนี้แล้วในประเทศไทย คนที่เล่นดนตรีสนุกจริง โดยที่ไม่ต้องยืดแอคเท่

มีน: มึงตั้งใจเล่นไปอะ เล่นสดให้เนียนเหมือนเล่นแบบในแผ่น การเรียกคนให้เอาด้วยมันก็หายไป

แป๊ป: คุณภาพในการเล่นสดทุกวันนี้ส่วนใหญ่ก็เล่นดีแล้ว แต่เราไม่เห็นความไม่คิดมาก ความร็อกจากใจ รู้สึกยังไง อยากร้องยังไง ก็เล่นแบบนั้นออกมา ที่ไม่ต้องแคร์อะไร แล้วผมรู้สึกว่ารับพลังจากเพลง TNT มา อยากเล่นดนตรีแบบนี้ว่ะ ไม่ได้เล่นอะไรแบบนี้มานานแล้ว เลยโทรไป ปึ้งพี่มีน ทำวงกัน

He Men Crown วงร็อกไม่ห่วงลุค ที่อยากนำความสนุกในการเล่นดนตรีกลับมา

มีน: ตอนนั้นผมกำลังถอนหญ้าอยู่ ช่วงนั้นช่วงสงกรานต์ พ่อกำลังใช้ตัดหญ้า รับโทรศัพท์แป๊ปแล้วก็เอาน่าสนุกว่ะ มึงไปรวบรวมสมาชิกแล้วมาคุยกัน แป๊ปก็ไปหาคนที่คิดคล้าย กันว่างานที่เราทำอยู่เนี่ย เป็นงานดนตรีที่เราคิดว่าเราชอบจริง แต่มันไม่ใช่แบบนั้น มันก็ชอบในส่วนนึงที่เรามีแพชชัน มันได้เงินไง แต่เราอยากสนุกเหมือนตอนเราเล่นดนตรีครั้งแรกกับเพื่อน เลยมีคอนเซ็ปต์ว่าวงนี้ ทำจริงจังน้า แต่ถ้าทำแล้วเครียดปุ๊บก็ออกได้เลย แป๊ปก็ทำเดโม่ง่าย มาให้ก่อน แล้วบอกว่าพี่เล่นประมาณนี้น้า แล้วจะร้องอะไรก็ร้องเลย แล้วพอเข้าห้องซ้อมครั้งแรก เฮ้ย มันสนุกว่ะ ทั้งที่ยังไม่มีเนื้อร้อง ผมก็ตะโกนมั่ว เล่นมั่วซั่วไปเชี่ย มันมากเลยว่ะ กูไปทำเหี้ยอะไรอยู่ตั้งหลายปีวะ’ งั้นเราต้องเจอกันทุกอาทิตย์

แป๊ป: เหมือนนัดมาเจอกัน พักผ่อนทุกอาทิตย์ ยังอยู่ในตัวศาลายา แถวมหิดล ไม่เกินสองครั้ง ก็ได้เพลงละ คือเพลง Hey เพลงนึง

มีน: แล้วก็เริ่มทำมาเรื่อย เอาเนื้อมาเขียน เริ่มใส่นู่นใส่นี่ จริงจัง เข้าห้องอัดปึบปับ มาสเตอร์ ทำไปสักพักรู้สึกจริงจัง ก็รวบรวมสมาชิกเพิ่มมีตอง คิม กอ แป๊ป เป็นไลน์อัพแรกตอนเพลงขนมหวาน

ตอนได้แรงบันดาลใจจาก TNT คิดแล้วหรือเปล่าว่าจะทำแต่เพลงแนวนี้

แป๊ป: แค่ร็อกอย่างเดียวเลย จะร็อกยังไงก็ได้ ฟรีเลย

มีน: อย่างที่เคยบอก เป็นฮาร์ดร็อกอะ ไม่ใช่ hard นะ ‘heart’ หัวใจอะ ร็อกที่มาจากหัวใจ

แป๊ป: เคยส่ง Tiger Jams ทีนึง ก็เขียนว่า ‘Heart Rock’ เนี่ยแหละ

แต่จบจากนั้น กอ กับ แป๊ป ก็ออกเพราะหายเครียดแล้ว

มีน: เหมือนตอนทำ EP แรกจบไปแล้ว เราพยายามเข็นกันมาก ทำ ไปงานเล่นก็ไม่มี ความสนุกมันยังมีอยู่แต่เริ่มเสียเงินเยอะ เราทำอัลบั้มกันตอนเราไม่มีค่าย ก็รู้สึกว่าแค่ได้เล่นกันก็ฟินแล้วแม้มันอาจจะไม่ได้รับผลตอบรับที่ดี ตอนนั้นไอ้กอทำแคสต์เกมอะไรอยู่ด้วย แล้วไอ้แป๊ปก็ทำ Pap Yeah แต่เป็นช่วงที่แต่ง Kodomo ไว้แล้ว ผมอยากสู้ต่อเพราะยังสนุกอยู่ ตอนแรกผมก็มีวงมีอะไร แต่ออกจากทุกวงจริง ก็ไม่ได้ตั้งใจออกหรอก แล้ววงนี้สนุกที่สุดแล้ว ก็ ไปลองทำซักเพลงนึง แล้วเพลงมันก็ดัง 

แป๊ป: ผมทำ Pap Yeah อยู่แล้ว แต่พอเครียดก็มาทำ He Men Crown พอได้มาสนุก ปลดปล่อยความเครียดอะไรไปแล้วก็กลับไปโฟกัส Pap Yeah เพราะตรงนี้มันมีคนดูแลแล้ว ไปต่อกันได้ (มีน: ตอนนั้น Pap Yeah ก็จะมาเข้า Macrowave เหมือนกัน) จะพยายามให้ไม่ต้องมีสองวง เพราะไม่ว่าจะทำกี่วง สุดท้ายจะเหลือวงเดียว ผมทำเป็นศิลปินเดี่ยวมาก่อน ก็เลยให้ He Men Crown เป็นงานรองไป

มีน: มึงจะออกก็ออกไป แต่กูจะไปทำเพลงบ้านมึง ทำไมอะ (หัวเราะ) สุดท้ายแป๊ปก็กลายมาเป็นโปรดิวเซอร์อยู่ดี มึงไปไหนไม่รอดหรอก

‘ไอ้หน้ากาก’ ในวงนี่คือใคร

มีน: บางทีก็เป็นแป๊ป หน้ากากผมมีหลายอาชีพมาก ทั้งทหาร คุณครู นักมวย

He Men Crown

เคาะคอนเซ็ปต์ไว้แต่แรกหรือเปล่าว่าอยากเป็นวงตลก

มีน: ไม่นะ แค่ลองโวยวายใส่เพลงเฉย แล้วถ้าหัวเราะพร้อมกันในคอนเซ็ปต์ไหน ก็เอา สมมติดนตรีมา เราก็ร้องเมโลดี้ใส่เข้าไป ขนมหวาน เป็นเพลงคอร์ดเดียวทั้งเพลง คิดดูว่ามันจะไปร้องยังไงวะ ช่วงนั้นอาจจะไม่ได้กินน้ำหวาน เป๊ปซี่นาน ก็ร้องว่าอยากกินขนมหวาน ๆๆๆ’ ก็หัวเราะกัน เอาเลย

ตอง: ตอนนั้นจำได้ว่ามีเพลงมาแล้ว เป็น กึกแก๊บ กึกแก๊บกึก แก๊บ พอได้ดนตรีจบไปรอบนึง พี่มีนเลยบอก เอางี้ละกัน เดี๋ยวเพลงนี้ชื่อ ขนมหวาน แล้วท่อนฮุกจะมีแค่กูอยากกินขนมหวาน’ แค่นั้นพอ อันนั้นเป็นคอนเซ็ปต์แรกที่พี่มีนพูดในห้องซ้อม จากนั้นก็ไปเรียบเรียงกัน

Kodomo มาได้ยังไง

มีน: ช่วงนั้นกอยังมาอัดเบสให้อยู่ แล้วเราก็หาเงินทำ mv กัน แต่กอบอกว่า ไม่เอาแล้วพี่ ผมไปแคสต์เกมดีกว่า อย่างน้อยได้อาทิตย์ละพันสองพัน สนุกด้วย (ตอง: มันเป็นช่วงหมดไฟอะ) สุดท้ายก็ดึงไอ้จิ๋วมา แต่มันก็ยังเล่นไม่ได้ ก็ซ้อมอีกตั้งนาน

แป๊ป: แล้วจิ๋วมันจะไม่ค่อยว่าง พอไม่ว่างก็จะมีเจสันที่เคยเล่นกับ The Toys ตอนนี้เล่นให้ Scrubb มาเล่นแทน แล้วก็ทำ Quicksand Bed

มีน: นอกเรื่องไปได้ไง อะ เพลง Kodomo มันมาจากไอ้แป๊ปไอ้คิมไปดูหนัง X Japan ‘We Are X’ มา แล้วมันอิน ก็ถึงวันที่ต้องไปซ้อมกันพอดี มันก็บอก ‘เฮ้ยพี่ อยากทำแบบ X Japan อะ ญี่ปุ่น ๆ’ แล้วเราก็แจมกันมั่วซั่วไปหมด เราก็พยายามจะร้อง อยู่ดี ก็มีคำว่า ‘Kodomo’ ขึ้นมา แล้วอย่างที่บอกว่าถ้ามีคำไหนคนหลุดขำมาพร้อมกัน ก็เอา แล้วพอเราร้องว่า ‘Kodomo แม่ใช้ให้ไปซื้อ Kodomo’ ขำละ ลุยเลย

จากตรงนั้นเลยยึดให้ทำเพลง parody เลยหรือเปล่า

แป๊ป: เหมือนตอนนั้นเราอยากกวนตีนอะไรเราก็ทำ แต่เราไม่ได้ตั้งใจจะไปล้อเลียนทุก mv ทุกเพลง แต่กับบางเพลงเราไม่ได้อยากกวนตีนใครเราก็ทำเพลงจริงจัง เราจะไปกวนตีนเรื่องอื่นแทน ไม่ได้ไปแซวศิลปินแบบนั้น เช่น เหตุการณ์อะไรบางอย่าง แล้วแต่อารมณ์ตอนนั้นจะนึกออก

มีน: มันไม่ 100% ว่าจะเป็นอย่างนั้น แต่มันด้วยนิสัยส่วนตัวของแต่ละคนว่าชอบแกล้ง ชอบแซว ก็เลยเป็นแบบนั้นไป

แป๊ป: ที่เล่นดนตรีออกมาแล้วรู้สึกว่าเป็นอย่างนั้นเพราะ อย่างผมกับพี่มีนเชื่อว่า นิสัยเป็นยังไง เล่นดนตรีออกมาก็เป็นอย่างนั้น ไอ้เพลง He Men Crown มันก็คือนิสัยของแต่ละคนถ่ายทอดออกมาเป็นแบบนี้

เป็นช่วงที่มาทำงานกับ Macrowave พอดี

มีน: ช่วงวางแผนถ่าย mv Kodomo ไว้เรียบร้อยแล้ว เราเซ็นสัญญาช่วงเดือน 5 ปล่อยเดือน 6 แต่เรามีการวางแผนไว้แล้ว ก็เลยไปหลอกขอเงินค่ายมาทำ mv ไม่ต้องออกเงิน 100% ก็ดีขึ้น

รู้สึกยังไงที่เขาให้ความเชื่อมั่นเราในการทำเพลง

มีน: นี่อัดเสียงอยู่ปะ (FJZ: ใช่) งั้นก็ต้องเล่าเรื่องโกหกแล้วสิ (หัวเราะ) อะ ความหวังของนักดนตรีทุกคนนะ พวกเราทุกคนจบงานได้อยู่แล้ว อัดเอง มิกซ์ มาสเตอร์เองได้หมด ถึงอยากจะจ้างคนอื่นก็ตาม ค่ายคือสิ่งที่จะทำงานจุกจิกที่เราไม่อยากทำ ค่ายคือเอาไปเสนอคนโน้นคนนี้ โปรโมตให้ อย่างผมจะติดต่อกับฟังใจเองก็จะไม่ค่อยสะดวก มันก็เป็นงานน่ารำคาญเหมือนกันนะที่ร้อยวงต้องทำอย่างนั้น เราเข้าใจทุกสื่อ (แป๊ป: ศิลปินมันไม่น่าเข้าไปมั่ว แบบไม่มีระบบอะ) แล้วยังมีเรื่องรับเงิน เราเป็นคนเล่นดนตรี จะให้คุยเรื่องเงิน 100% กับลูกค้ามันรู้สึกกระดากเหมือนกัน แบบ ช่วยหน่อยได้ไหมพี่ กูก็อยากจะช่วยมึงนะ แต่เราพูดแบบนั้นไม่ได้ไง การที่มีค่ายเขาก็มาช่วยจัดการเรื่องจุกจิกนี้ให้ แล้วข้อเสนออะไรของเขา เขาไม่มาแตะเพลง อยากปล่อยเพลงเมื่อไหร่ก็มาบอก แค่นั้นเอง เราก็โอเค ไม่ต้องมานั่งเคาะเพลงกัน เงินไม่ได้ไม่เป็นไร แต่เพลงเป็นของเรา เยี่ยม คุณขายให้เรานะ จบ

เวลาทำเพลงแบบนี้ แล้วลูกศิษย์มาเจอ เขารู้สึกยังไงบ้าง

มีน: ก็มีเด็กอนุบาลตามไปดูที่ Big Mountain แม่ส่งรูปมาให้ในไลน์ด้วยว่าไปดูมานะคะอย่างที่บอกเมื่อกี้คือมันคิดมาแล้วว่าดูหยาบ แต่พอคนไปดูก็ไม่ได้รู้สึกขนาดนั้น ไม่เป็นไร ครูมีน ครูตองเป็นคนตลก

แป๊ป: เราก็พูดอย่างนี้กันอยู่แล้ว ก็แค่เป็น expression ออกมาจากหัวใจตรง โดยที่ไม่ต้องสแกนอะไรมากทั้งหมดเลย แบบเอาก็เป็นเอาอกเอาใจ’ ‘น่าโดนก็คือโดนความรักของฉัน

ตอนนี้คนก็เริ่มให้ความสนใจวงแล้ว

มีน: พูดตามตรงว่า ถ้า Kodomo ไม่มา ผมเลิก ไปเลี้ยงงูขายแล้ว

ตอง: ช่วงที่เล่าก่อนหน้านี้คือหมดไฟ แล้วไหน เพลงนี้ก็จะเสร็จแล้ว ก็ทำให้เสร็จเลยแล้วกัน ก็ปล่อย ไป แต่แล้วพอจุดติดขึ้นมาปุ๊บ ก็กลับมามีไฟใหม่

จิ๋ว: เนี่ย พอกูเข้ามาอยู่ ทุกอย่างก็ดีขึ้น โดยที่กูไม่ต้องทำอะไรเลย

เหงาจนปวด ทำไมถึงต้องปวด?

มีน: มันเป็นหลักการแพทย์ พูดให้เข้าใจคำว่าปวดไข่ดันก่อน จริง การปวดไข่ดันสามารถเกิดขึ้นได้ มันคือปวดจุก แต่อาการปวดมันจะดันขึ้น มันเกิดจากวัยรุ่นอันนี้ไปถามผู้หญิงมาด้วย ผู้หญิงจะเป็นอีกแบบนึง แต่ของผู้ชายมันจะเป็นแบบ อาการที่เอาจริง เลย มันคือไปนัวเนียมา แล้วมันไม่เสร็จ ไม่ได้ ทำให้เกิดอาการอัดอั้น แล้วพอแยกกัน มันก็ปวดดันขึ้น (ตอง: ผู้ชายเป็นกันเยอะนะ) ผู้หญิงก็เป็น เออ มันคือเหงาจนปวดไข่ดัน จริง ช่วงนึงเพลงนี้หยาบกว่านั้น ทำตอนไม่สนอะไรแล้ว แต่ตอนนี้เสือกมีค่าย (หัวเราะ) จริง มันคือเงี่ยนจน…’ เพลงนี้เป็นหนึ่งในเพลงที่แต่งบนเวที แต่ท่อนฮุกท่อนเดียว มันเป็นฟีลเราไปเล่น แล้วคนขอเอาอีก แต่เพลงกูหมด อย่างเพลง แว่นกูอยู่ไหน ก็แต่งบนเวที พอเพลงหมดก็ยืนโง่ ไม่ได้ อะไรขึ้นมาก็ร้องไป (ตอง: mv มีความคอเมดี้นิดนึง)

โซโล่ผมอยาก Slash อยู่แล้ว อยากเดินลงจากโบสถ์ หรือวัดด้วยซ้ำ แต่ความที่ผมเพิ่งโดนเรื่องศาสนาไปก็เลยไปทำอย่างอื่น แต่ตัว mv อยากเล่นใหญ่อยู่แล้ว ก็มีคนอาสา ก็ขอบคุณทีมน้อง ที่มาช่วย ด้วยราคาย่อมเยาว์สุด เพลงมันเป็นเพลงช้า ภาพมันต้องช่วยเยอะ แล้วเพลงวงเราเป็นเพลงเล่าเรื่องหมด mv มันสำคัญ ไม่ได้แค่มีธีมมาแล้วพูดถึงธีมนั้น มันก็เป็นอีกแบบ ต้องจัดเต็ม storyboard แน่น จิ๋วแต่งเป็นคุณแม่ ตองเป็นนางเอก (ตอง: เป็นตองแผดเวอร์ชันแรก จุดกำเนิด)

เพลง ติดเมีย เลยมี ตองแผด เวอร์ชันสอง

มีน: เป็น ‘ใบตองแผด’ รุนแรงกว่าเดิม

ตอง: เครียดเลย พ่อแม่ต้องมานั่งดู จริง นะ สงสารพ่อแม่กับญาติ ที่มาเห็นเราเป็นแบบนี้

มีน: หลานกูอยู่อนุบาล แล้วฟังเพลงลุง ก็ร้องเพลง ‘He he men crownnnn’ ที่โรงเรียนอนุบาลอะ ไอ้เหี้ยยยยย ครูเขาก็หัวเราะกัน แล้วก็บอกว่าเพลงอื่นได้ไหมลูก’ (หัวเราะ) เนี่ย กูปวดหัวเลย

มีใครเคยเจอประสบการณ์จริงแบบในเพลงบ้างหรือเปล่า

มีน: ดนตรีไอ้แป๊ปทำมา แล้วเราก็เคยเล่น X Japan มาแล้ว เราก็อยากทำ hair band บ้าง แป๊ปก็ทำเดโม่โง่ มา ชื่อเพลงว่า Hair ด้วยความที่เป็นโปรดิวซ์ถามว่า เอาไม่เอา ถ้าไม่เอาก็ทิ้ง ส่งมาหลายเพลงเลยนะ หน้าที่ผมก็จะเอาเดโม่มาใส่ในรถ แล้วก็ร้องออกมาเลย

ช่วงนั้นเป็นช่วงที่มีแฟนพอดี เริ่มออกไปเที่ยวยาก วงนัดกันก็ไม่ค่อยได้ไป ไปไหนต้องมีแฟนไปด้วย เวลาของเพื่อนมันก็จะเปลี่ยนไป เลยเป็นความอัดอั้นส่วนตัว เนื้อมันเลยโฟลวนิดนึง ก็คิดว่าเพลงเนี้ยแหละ โคตรขาย แล้วมาโปรโมตช่วงไข้หวัดโคโรน่า ซวยอีก เพลงไม่ขายเลย

แป๊ป: mv เลยทำออกมาตามเรื่องเลย

มีน: เป็นทีมที่ทำขนมหวาน ทำ Kodomo ผู้กำกับคู่บุญที่ทำ Bomb At Track ด้วย ไอ้แจมนั่นแหละครับ อะไรเกรียน มาจากมันทั้งนั้น คือหลาย mv ทางวงก็มีส่วนนึง แล้วไอ้แจมก็จะพี่ เอาแบบนั้นเพลง He Men Crown ไอ้แจมก็ทำ บอก ครีเอตเลย ให้คอนเซ็ปต์ว่าล้อ Queen จะไปถ่ายที่ไหนได้ มีงบเท่านี้ เอามั้ย เอา

ที่ออกมาตอนสุดท้ายคือแฟนตัวจริง?

มีน: ใช่ครับ (FJZ: สรุปคือการแสดงใช่ไหม) มันคือการแสดงที่ เล่น จริง จัง จน เกินไป (เสียงสั่นจะร้องไห้) (ตอง: ตอนนั้นหน้าพี่มีนเหวอจริง ) ไอ้ตบช็อตแรกไม่เท่าไหร่ ช็อตหลังนี่มึงจริงปะเนี่ย ไอ้เราก็พยายามเซฟตัวเองเวลาน้อง เขามาถ่ายด้วย พยายามจะไม่เข้าใกล้ แต่มันไม่ได้ภาพครับ แจมบอก ชิดอีก ๆๆๆ หลายเทคจัด เราก็ เอาวะ!

เวลาทำเพลงสายนี้ต้องใช้ความครีเอทิฟมาก ช่วงที่ตันทำให้หายตันยังไง

มีน: บางทีเพลงดนตรีเสร็จแล้ว แต่งเนื้อไม่ออก ไม่รู้จะเล่าอะไร เราไม่อยากแต่งเพลงที่คาดเดาได้ ไม่อยากแต่งเพลงธรรมดา ไม่อยากไปสู้กับคนอื่น วงเราต้องมีอะไรตลอดเวลา ถ้าจะเป็นเพลงรักก็ต้องมีความ เอ๊ะ แบบ ติดเมีย อกหักก็ต้อง เหงาจนปวด

แป๊ป: ช่วงที่ตันก็คือตอนที่ไม่ค่อยได้คุยกัน สังเกตนะ พอคนในวงแค่มานั่งคุยกัน กินข้าวสักวัน มีคำมานิดนึงมันก็สะกิด (มีน: บางคนพูดแล้วก็แบบ เออว่ะ ใช่ว่ะ เอาเลย) ก็เอาตรงนั้นมาแต่งเพลง เนื้อเพลงของพี่มีนก็มักจะเกิดจากเหตุการณ์ในชีวิตประจำวัน

มีน: เวลาตันทำไง ก็ไม่ต้องทำอะไร เดี๋ยวมันก็ไม่ตัน ให้เวลานิดนึง

ในอนาคตจะไปล้อวงไหนอีก

แป๊ป: แล้วแต่เลยว่าใครจะมาสะกิดเรา แต่ซิงเกิ้ลต่อไปจะเปลี่ยนนิดนึง ได้เจอเราในอีกรูปแบบนึงแน่ ออกมาตอนมีนาคม เราจะพยายามให้ทุกคนไม่สามารถคาดเดาได้

การแสดงสดของวง มีงานนึงที่โปรยถุงยางและเล่นแป้ง

มีน: งานฟังใจมันเนี่ยแหละ ที่เริ่มแจกถุงยางและเล่นแป้งจริง คือเขาติดต่อเรามาเล่นก่อนที่เราจะปล่อยเพลง Kodomo ตอนนั้นก็แบบ เขาคิดยังไงวะ แล้วมี Younggu วิ่งแบบพี่ตูน กำลังมา แล้วเรารู้อยู่แล้วว่ามี Kodomo ต้องเล่น แล้วมันก็ดังช่วงนั้นพอดี เราก็ยับเลย ทำตัวเป็นศิลปิน แจกถุงยาง เอาแป้งมาเล่น ก็สนุกดี แต่ทำไมถึงต้องเล่นแป้ง เอาจริง เลยนะ มันเหนื่อย ร้องไม่ไหว เลยหาไรทำไป ใช่ไหม

ตอง: บางทีผมก็อิจฉาพี่มีน เพราะผมเล่นไม่ไหว แต่ต้องฝืนเล่น อยากหาแป้งมาเล่นเหมือนกัน (หัวเราะ)

มีงานไหนพีค อีก

มีน: หลังจากนั้นก็แทบจะเล่นทุกงาน แล้วทุกงานที่เล่นเราก็เล่นเหมือนจะไม่มีพรุ่งนี้อีกแล้ว ก็คือไม่มีอยู่แล้ว งานน้อย (หัวเราะ) งานที่คนดูน้อย เราก็ต้องเล่นให้มันสนุกที่สุด (แป๊ป: เล่นที่ De Commune วิ่งไปชั้นสอง) เอาให้คนดูรู้สึกว่าไอ้พวกนี้เต็มที่

จิ๋ว: อย่างวงผมอะ ต่อให้เล่นในห้องซ้อมมันก็โคตรมันอยู่แล้ว มันมันกันเอง การแสดงบนเวทีก็เหมือนสนุกกันเองอยู่แล้วต่อให้ไม่มีคนก็เถอะ ต่อให้เพลงมันเหมือนเดิมแต่ก็ไม่ได้มีคนมาดูเราทุกวัน คนไม่ใช่คนเดิม เราก็ต้องเสิร์ฟคนดูให้เต็มที่เรื่อย (ตอง: จะบอกว่า ร้องไม่ไหวแล้ว ช่วยกูร้องหน่อย) ไอ้นี่ช่วงเล่นกีตาร์ก็เล่นไป พวกเราก็พักเหนื่อย

มีงานนึงที่ให้คนขึ้นมาช่วยเล่น

มีน: ไม่ได้ให้ช่วยครับ มันอยากขึ้นไปเล่น ก็ขึ้นมาดิ แล้วช่วงหลัง เราก็ไปเล่นกับ The Ginkz จะให้แจมกันแหละ ไป มา มันขึ้นมาแจมทั้งวงเลย เราก็ออกมา ไม่มี He Men Crown

ตอง: กลายเป็น The Ginkz อยู่บนเวทีทั้งวง ให้เขาเล่นอีกเพลงนึง

เสียดายไหมที่ The Ginkz พักวงไปแล้ว

มีน: เสียดาย ผมรู้จักกับไอ้วินมัน เกือบสิบปี ก็คุยกันตลอด จริง มีแพลนจะทำทัวร์ด้วยกันด้วย แต่เอ้า ไม่เป็นไร ก็เรื่องส่วนตัวของแต่ละคน ก็เจอวิน บูม กันอยู่ แป๊ปก็ไปทำงานกับพวกนี้อยู่

ปี 2020 เพลงร็อกจะกลับมาไหม

มีน: มันไม่ได้ไปไหน มันอยู่กับพวกผม (ฮิ้ววววว)

จิ๋ว: ผมว่าร็อกมันอยู่ในทุก ภาคส่วนของดนตรีทุก แบบอยู่แล้ว พื้นฐานของทุกคนก็คือดนตรีร็อกซะส่วนใหญ่ ความสนุก ความโยก มันก็เริ่มมาจากจุดนี้ทุกคน จริง ร็อกไม่ได้ไปไหนหรอก แค่คนไปได้ยินอย่างอื่นที่ใหม่กว่า กับของที่อยู่มานานหลายปีแล้ว อย่างฮิปฮอปจริง ก็อยู่มานานแล้ว แต่มันก็วนกลับมา แบบนี้มันก็จะมี nu metal ร็อกก็จะกลับมา ความที่ร็อกมันอาจจะโดดยากขึ้น เต้นตามได้ยากขึ้น คนก็เริ่มจะห่างจากตรงนี้ ก็ต้องรอพักนึง เดี๋ยวคนจะเริ่มทำอะไรที่มัน simple ขึ้น

มีน: คนทั่วไปเขาก็คงจะอินกับอะไรที่กินง่ายฟังง่ายของเขา อันอื่นอาจจะยากไปหน่อย คำว่าร็อกของแต่ละคนไม่เหมือนกันอีก

แป๊ป: บางคนมองว่าร็อกคือเสียงแตก คือกีตาร์ การร้องแบบนี้ เนื้อเพลงตรงไปตรงมา จังหวะ stable แต่จริง ผมรู้สึกว่า Linkin Park อัลบั้มสุดท้ายก่อนเชสเตอร์จะตาย นั่นก็ร็อก ผมรู้สึกว่ามันก็ตั้งร็อก ทั้งอิเล็กทรอนิกอะ ผมรู้สึกว่าร็อกมันคือพลังงาน Eminem เขาบอกฮิปฮอป ผมว่าก็ร็อก

มีน: ผมไปดู UrBoyTJ มา ผมรู้สึกว่าวิธีที่เขาทำให้คน hype ก็ร็อกนะ (แป๊ป: พี่กอล์ฟ F. Hero เนี่ยโคตรร็อกเลย) เสียงนี่โคตรร็อกเลย ถ้าได้มาร้องแทนกูนี่ดีเลย (แป๊ป: มึงขี้เกียจแหละ)

การทำ bedroom studio จบเพลงได้ด้วยตัวเองกับคอมเครื่องเดียวเลยทำให้ความเป็นวงหายไปหรือเปล่า

แป๊ป: ใช่ครับ แล้วมันเป็นสิ่งที่เด็ก ยุคใหม่ทำได้เร็ว มันไม่ต้องมานั่งอัดกลองอย่างเมื่อก่อน ไม่ต้องฝึกตีกลองกว่าจะตีตรง อันนี้ก็แค่ใส่จังหวะ เลือกเสียงเข้าไป กีตาร์ ซินธ์ มีหมด คนเล่นกีตาร์กว่าจะได้อัดกี่ขั้นตอน กว่าจะได้อัดเบส แต่ทุกวันนี้มันง่าย เร็ว แล้วจินตนาการถึงทั้งเพลงได้เห็นภาพมากกว่า

มีน: ไม่เกี่ยว ผมว่าด้วยสภาพสังคม มันเย็นขึ้น เหงื่อออกน้อยลง รึเปล่า เพราะร็อกมันต้องกบฎเล็ก เดี๋ยวนี้กบฎไปอยู่กับฮิปฮอปแล้ว มันก็ตามช่วงแหละ ฮิปฮอปสมัยนี้ก็เหมือนร็อกสมัยก่อนแหละ จริง จะเล่นเร็กเก้แล้วคุณกบฎก็ได้ เหมือนกัน อยู่ที่จิตวิญญาณ มันไม่ได้หายไปหรอก แค่เด็ก นิ่มขึ้นหรือเปล่า

แป๊ป: แต่เรื่อง bedroom studio มันเป็นเรื่องวิธีการทำเพลงมากกว่า มันง่ายขึ้น พอง่ายขึ้นก็ทำให้คนมาเจอกันน้อยลง เราไม่จำเป็นต้องออกไปเจอกัน ห้องซ้อมก็เจ๊ง ๆๆๆๆ คนไม่ค่อยเล่นดนตรี ไม่ค่อยซ้อมกีตาร์ ไม่ต้องมาห้องซ้อม (มีน: เออ พอไม่ได้เจอคน ไม่ได้สื่อสาร ปฏิสัมพันธ์กับคน) อยู่แต่หน้าคอม ทำเพลงเสร็จแล้วเขียนชื่อเลยก็ได้

เกี่ยวไหมว่าการที่โดนกดขี่ หรือถูกกดทับการแสดงออกบางอย่าง ทำให้เกิดเป็นเพลงแนวใหม่ ขึ้นมา

มีน: บางทีอาจจะไม่ใช่เรื่องนั้น แต่เป็นความสร้างสรรค์ส่วนตัวก็ได้ ไม่งั้นดนตรีใหม่ ก็ต้องก้าวร้าวหมด หรือฉีกขนบหมด บางคนเขาก็สวยงามเหลือเกินก็ต้องสวยงามขึ้นไปอีก บางคนอยากฟังดนตรีทดลอง ผมมีเพื่อนสมัยเรียนมันเอาสายแจ๊กมาจี้กับขาตัวเอง แล้วทำเอฟเฟกต์ลูปแบบ จึด จึดดดด จึดจึด แล้วก็เป็นเสียง วู้วววว หวอบ วุ้ว สนุกของมันคนเดียว ทำไมมันไม่ไปทำงานเป็นช่างว้าาาาา แต่เข้าใจใช่ไหม ดนตรีแนวใหม่คนเขาอยากสร้างแหละ

แป๊ป: ขึ้นอยู่กับที่มาแหละครับ บางทีเราอาจจะโดนกด หรือโดนคลายโดยที่เราไม่รู้ตัว จะโดนแบบไหน ดนตรีก็จะออกมาแบบนั้น

มีน: อีกส่วนคือทุกคนเขาก็อยากมีตัวตนแหละ ก็ต้องสร้างความแตกต่าง ผมว่าตรงนี้แหละที่มันทำให้มีแนวใหม่มากกว่า

มารู้จักกับวงร็อกที่เกรียนที่สุด ณ ขณะนี้ He Men Crown ที่แปรเปลี่ยนความเครียดให้กลายมาเป็นความสนุกฉุดไม่อยู่ และอยากเผยแพร่ความฮานี้ไปสู่ผู้ฟัง

ฝากถึงเด็ก ที่กำลังทำเพลงอยู่ตอนนี้

มีน: ไม่ต้องทำ ฟังเพลงกูอย่างเดียว! (ตอง: ชอบที่พี่บอกว่า เพลงร็อกอย่าไปทำอะ) เดี๋ยวมันทำซ้ำกู! (จิ๋ว: ไม่ดังหรอก มีพวกกูอยู่เนี่ย)

เอ้า ดังไม่ดังไม่รู้ แต่ไปฟังเพลงของ He Men Crown บนฟังใจได้เลย

อ่านต่อ

He Men Crown แม่ฝากซื้อ Kodomo ไม่ใช่มังกรโคโมโด แล้วก็ไม่ใช่อายิโนะโมโตะ

Facebook Comments

Next:


Montipa Virojpan

อิ๊ก เนิร์ดดนตรีที่เพิ่งกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นนักเขียนตอนอายุ 25 ชอบเดินเร็ว นอกจากขนมปังกับกาแฟดำแล้วก็สามารถกินไอศกรีมกับคราฟต์เบียร์แทนมื้อเช้าได้