Article Interview

‘Anything Goes’ อะไรก็เกิดขึ้นได้ในอัลบั้มชุดที่สองของ Plastic Plastic

  • Writer: Montipa Virojpan
  • Photographer: What the Duck Official

ไม่ปล่อยให้เรารอนานนักสำหรับ Plastic Plastic ที่ออกอัลบั้มสอง Anything Goes มาให้เราได้ฟังกันหลังจากงาน Cat Expo ที่ผ่านมา ซึ่งทั้ง 8 เพลงของพวกเขาก็สร้างเซอร์ไพรส์ให้กับเรา ด้วยซาวด์ดนตรีที่เปลี่ยนไปจากงานชุดก่อนหน้าจนเกือบลืมไปว่า จริง ๆ แล้วสองพี่น้อง ปกป้อง-ต้องตา ก็มีลูกเล่นร้ายกาจกับเขาเหมือนกันนะ

ตอนแรกออกไปทำกันเอง แต่ตอนนี้กลับมาอยู่ค่าย

เพลง: อยากมีคนช่วยแมเนจ เพราะที่เราทำเองมันก็เหนื่อย รู้สึกว่าเราทำแค่สิ่งที่เราถนัดดีกว่า มันมีเรื่องหลายเรื่อง ดีลคนทำซีดี โปรโมต เตรียมงานเปิดอัลบั้ม เราก็ทำกันเอง จัดเองหมดเลย คุยกับเบื้องหลัง แบ็กสเตจ คนทำ iTunes Apple Music ต่อไปให้เป็นหน้าที่ค่ายดีกว่า

แล้วตอนอยู่ What the Duck กับตอนอยู่ Believe Records ต่างกันยังไง

เพลง: ระบบมันก็คล้าย แต่ก็ไม่ได้เหมือนเป๊ะนะ คือพอเป็น What the Duck เขามีโมเดลหลายโมเดลให้ศิลปินเลือกว่าเราอยากจะอยู่ในโมเดลไหน (ป้อง: อยากให้ค่ายมีส่วนร่วมกับศิลปินแค่ไหน) อย่างวงใหญ่ จะมีวิธีทำงานคนละแบบ ทั้งเรื่องทัวร์ การทำอัลบั้ม มันจะมีโมเดลแบบ ค่ายจ่ายให้ทุกอย่าง แต่จะไปหักกับซีดีเยอะหน่อย แต่ของเราจะครึ่ง music production จะเป็นเรา แต่เรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวกับเพลงจะเป็นค่าย เป็นโมเดลที่เหมาะกับเรา สบายใจทุกฝ่าย

งานเปิดตัว Little Duck ที่ผ่านมาเป็นยังไงบ้าง

เพลง: เป็นงานของค่าย พอดีมีศิลปินใหม่ที่ออกซิ้งเกิ้ล ออกอัลบั้มพร้อมกันพอดี ก็มี Plastic Plastic, Mints, Bowky Lion, Whal & Dolph

ป้อง: จริง เราก็ไม่ใช่ศิลปินใหม่นะ แต่เพิ่งเข้ามาอยู่ค่ายก็นับว่าใหม่ก็ได้ (หัวเราะ)

เพลง: ก็เป็นงานที่สนุกดีนะคะ แล้วเราก็ตั้งใจไปเล่นเพราะเรารู้ว่า แฟน น่าจะมาเยอะ ที่มันก็ไม่ได้ใหญ่มากเลยดูแน่นมาก ตอนนั้นเป็นครั้งแรกที่เรากลับมาเล่น full band เราเลยทำโชว์ใหม่ เล่นเพลงใหม่ด้วย

ป้อง: พยายามทำวิชวลไปพร้อมกับดนตรี แต่ไม่ได้ซีเรียสขนาดนั้น ลองให้มันซิงก์กับโชว์ อย่างท่อนนี้มีเสียง ปั้ง! ก็ให้รูปมาเชื่อมกัน จากการไปดู Cornelius มา (หัวเราะ) แต่เห็นหลายวงนะที่ทำ ตั้งแต่ ADOY ละ คือเขาก็ไม่ได้ทำอะไรเวอร์วังแบบ Cornelius นะ แต่แค่มีก็ถือว่ามันทำให้รู้สึกสนุกขึ้นแล้ว

เพลง: อย่างสมมติมีเสียง ปั้ง! ก็ให้เป็นรูปน้ำกระจาย คือตอนที่พี่ป้องทำเขารู้สึกว่าไอ้เสียงอย่างเนี้ย รูปมันน่าจะเป็นน้ำนะ แล้วมันช่วยมาก ยิ่งเล่นเพลงใหม่ ก็ทำให้น่าสนใจขึ้น เวลาซ้อมเราก็ลองฉายไปด้วยเล่นไปด้วย

ที่มาของเพลง Summer Hibernation

เพลง: พี่ป้องเขาทำสต๊อกเพลงไว้อยู่แล้ว แล้วกำลังจะหาธีมของเพลง เลยคิดคำขึ้นมาหนึ่งคำคือ ‘hibernation’ ไม่มีเหตุผล ชอบเพราะมันดูเท่ดี แล้วเติม ‘summer’ ข้างหน้า

ป้อง: เพราะจริง hibernation มันเป็นการจำศีลในฤดูหนาว แต่เมืองไทยมันร้อน มันจะหนาวก็ตลกไปหน่อย

เพลง: จริง คำว่าจำศีลในฤดูร้อนมันมีอีกคำนึง แต่ไม่เอาเพราะว่ามันอ่านยาก แล้วพอเป็นคำนี้เพลงก็นึกถึงการนอนนาน การฝัน การที่หลุดไปอีกโลกนึง จะฝันถึงอะไรก็ได้ ใน mv มันคือตีความถึงการแอบชอบคนคนนึง แต่อันที่จริงมันจะตีความเป็นอะไรก็ได้ เพลงเป็นคนชอบฝันว่าไปอยู่ในที่ยาก ไปเที่ยว ไปอยู่ดาว

ป้อง: คอนเซ็ปต์คือไม่อยากหลุดออกมาจากตรงนั้น อยากอยู่ในโลกนั้นต่อไป อย่ามายุ่ง จริง ส่วนดนตรีก็จะออกเป็น J-pop อิเล็กทรอนิก มันจะมีความ chill hop นิดนึงแต่เราก็ไม่ได้ไปถึงขนาดนั้น

มิวสิกวิดิโอตั้งใจทำให้มีความเป็นการ์ตูนญี่ปุ่น

ป้อง: ทีแรกเลยผมตั้งใจจะให้เป็นอนิเมะ แต่ทำไม่ได้เพราะลองเช็กอยู่แล้วในไทยมันไม่มีคนทำจริง เคยมีแต่เขาทำกันจนเจ๊งหมดแล้ว เลยต้องทำเป็น mv ปกติ คิดไปคิดมาก็ได้คุยกับพี่ป้อง (ปกป้อง คุ้มวัน) ก็เลยได้เขามาทำให้ มันก็จะมีความวิ่ง แบบอนิเมะ 80s พวก ending credit

ปกติอ่านหรือดูการ์ตูนบ้างไหม

เพลง: มีบ้าง แต่ไม่ได้อินมาก ไม่ได้ดูการ์ตูนจริงจังนะแต่ชอบ aesthetic ของมัน

เป็นพี่น้องกัน ทำเพลงด้วยกัน แต่ชอบเพลงแนวเดียวกันหรือเปล่า

เพลง: มันมีส่วนที่ชอบเหมือนกัน intersect กันอยู่นะ (ป้อง: ผมก็ฟังไปเรื่อย ล่องลอย ไม่ได้ชอบอันนี้ตลอด) บางทีเพลงก็ล่องลอยนะ แต่ที่ชอบที่สุดและน่าจะเป็นตัวเองที่สุดก็คือซินธ์ป๊อปนี่แหละ

สังเกตว่าในเพลงจะมีเสียงประหลาด เป็นองค์ประกอบอยู่ด้วย

ป้อง: คิดว่าอยากได้เสียงแบบนี้ก็เอามาใส่เลย เสียงที่มันดูเพี้ยน แล้วก็มีความ J-pop อิเล็กทรอนิกอะ มันจะมีความของเล่นอยู่ อัลบั้มนี้จะมีพวกซาวด์กรุบกริบเยอะหน่อย

เพลง: จริง มันก็ค่อนข้างหลากหลาย มันเป็น sound design จะไม่ได้เหมือนกันอย่างเดียว มันจะมีเพลงที่ต่างไปเลยด้วย

ชื่ออัลบั้ม Anything Goes

เพลง: คือเราไม่ได้ตั้งใจตั้งแต่แรกว่าต้องมีชื่อก่อนแล้วค่อยทำเพลง เราทำเพลงไปก่อนเลย ออกมาเป็นแบบไหนค่อยตั้งชื่อ เพลงก็อยากใส่เสียงอะไรตอนนี้ก็ใส่ อยากได้เสียงแบบไหนก็เอาให้สุดไปเลย เสียงน้ำแข็งก็มี แล้วพอเสร็จก็มาคิดว่ามันไม่ได้มีธีมอะ เราเลยไปหาสแลงมาในกูเกิ้ล อะไรที่มันจะแปลว่า ‘อะไรจะเกิดก็เกิด’ ก็เจอคำว่า ‘anything goes’ คิดว่ามันน่าจะเหมาะ เพราะเป็นอะไรที่คาดเดาไม่ได้

ป้อง: คนฟังอัลบั้มแรกแล้วมาฟังอันนี้ก็จะงงนิดนึง เคยเทสต์มาแล้ว (หัวเราะ) เพราะอัลบั้มแรกมันจะออแกนิก นุ่มสุด ไปเลย อันนี้จะมีอะไรบาดหูหน่อย

จากที่เล่าคราวก่อนเห็นบอกว่าปกอัลบั้มก็ได้ Ell illustrator ชาวเกาหลีมาทำให้ บรีฟเขาว่ายังไงบ้าง

เพลง: ตอนที่คุยกับเขาตอนนั้นยังไม่มี Anything Goes ในหัวเลย แต่ทำเพลงออกมาเพลงนึงชื่อ Merry Go Round ก็เลยให้เขาวาดรูปม้าหมุน แล้วตอนนั้นก็รู้สึกนิด ๆ ว่าอัลบั้มจะมีความสนุก ก็เลยนึกถึงสวนสนุก เลยบอกให้เขาวาดบรรยากาศในสวนสนุก ก็จะมีคณะละครสัตว์ด้วย หน้าปกเลยออกมาแบบนั้น

Track by track

Anything Goes

เพลง: เพลงแรกเป็น instrumental เป็นตัวเชื่อมจากอัลบั้มที่แล้วกับอัลบั้มนี้ มันจะเริ่มมาจากการเล่นเปียโนเปล่า แล้วเริ่มมีซินธ์ ซาวด์แปลก เริ่มเข้ามาเรื่อย กวน ๆๆๆ จนมาเต็มตอนหลัง แล้ว mv ที่ทำก็คือ อัลบั้มที่แล้วชื่อ Stay At Home มันเป็นตอนที่เล่นเปียโนอยู่ที่บ้าน สักพักก็เริ่มออกไปนอกบ้านละ

ป้อง: เหมือนค่อย เล่าจากอัลบั้มแรกแล้วกลายร่างเป็นอัลบั้มสอง ก็คือเป็นเพลงที่ปล่อยออกมาเป็นคลิป teaser อันนั้นแหละครับ

Merry Go Round

เพลง: เพลงแรกที่ทำไว้ ทำไว้ปีสองปีแล้ว นานมาก (ป้อง: เหมือนเป็นเพลงแรกไว้เปิดอัลบั้มสนุก เป็นเพลงที่มันสุด) เป็นเพลงที่คึกมาก คนอะไรจะคึกขนาดนี้ อันนี้ดนตรีก็มาก่อน สักพักก็มาเรื่องเนื้อร้อง อยู่ดี เพลงก็คิดประโยคนึงได้แบบ ‘I don’t wanna go on merry go round because I got you all around’ ก็เลยแต่งเนื้อทั้งเพลงให้คล้องจองหมดเลย ถ้าลองอ่านเนื้อจะเจอว่า ‘I sceam for ice cream’ หรือ ‘Go to Mars with Bruno Mars’ ก็พ้องเสียงไปทั้งเพลงเลย

เป็นวงที่ดูจะทำอะไรสนุกในทุกกระบวนการเลย เคยเครียดบ้างไหมเนี่ย

ป้อง: เครียดอย่างเดียวคือจะทำไม่เสร็จเนี่ยแหละครับ (หัวเราะ)

เพลง: จริง  เพลงนี้ได้อีกคนเป็นมือหนึ่งในการเป่าขลุ่ย recorder ถ้าคนไม่เก่งมากจะเป่าได้แค่คีย์เดียว อันนี้เป่าได้ทุกคีย์ มีการกดครึ่งเสียงด้วย

ป้อง: ส่วนใหญ่ถ้าเก่งเขาจะไม่ค่อยเล่นป๊อปกันอะครับ ไปสายคลาสสิก แต่อันนี้เก่งด้วย เล่นป๊อปได้ด้วย จริง เขาคือคนที่เคยเป่าทรัมเป็ตให้ในชุดแรกแหละ (เพลง: แต่เราเพิ่งมาค้นพบว่าเขาเป่าอันนี้ได้ด้วย)

The Cabin

เพลง: เป็นภาคสองของเพลง The Trip จากอัลบั้มที่แล้ว พูดเกี่ยวกับว่าอยากไปข้างนอก อยากออกไปเที่ยวที่ที่มีป่าไม้ แต่อันนี้พูดถึงเรื่องว่า อยากกลับเข้าเมือง คือจริง อยู่คนเดียวไม่ได้หรอก กลับบ้านกัน cabin มันคือบ้านหลังเล็ก ในป่า เหมือนแบบอยู่คนเดียวในบ้านหลังนี้ก็ไม่ได้มีความสุขอะ อยากกลับไปอยู่กับคนอื่น

ป้อง: เพลงนี้จะมีไวโอลิน ซึ่งเราไม่เคยทำเลย ได้เพื่อนเพลง ชื่อซัน เป็นมือไวโอลินอยู่ Bangkok Symphony Orchestra มาช่วย ก็จะเป็นอารมณ์ The Trip เลยที่จะมีทรัมเป็ตรัว ตอนหลัง อันนี้เป็นไวโอลินรัว ตอนหลัง

เพลง: คือเราไม่คิดว่าคาแร็กเตอร์ของไวโอลินมันจะเข้ากับเพลงเราได้ เคยรู้สึกว่า Plastic Plastic ซาวด์มันจะเข้ากับเครื่องเป่ามากกว่า พอเป็นไวโอลิน เครื่องสาย มันก็ดี ก็อีกสไตล์นึง

ป้อง: อัลบั้มนี้จะมีน้องอีกคนมาช่วยร้องด้วย จะแทรกอยู่โดยไม่รู้ตัว แต่ละเพลงที่มีท่อนที่มีคนร้องเยอะ น่ะครับ

เพลง: ประมาณสี่เพลงในอัลบั้มนี้ มี Merry Go Round เพลงนี้ แล้วก็อีกสองเพลง จะมีน้องคนนึงมาช่วยร้อง เป็นตัวละครลับที่ร้องไปพร้อมกับเสียงเพลง แล้วจะทำให้รู้สึกว่ามันพุ่งขึ้น เพราะเสียงเขาพุ่ง มีคาแร็กเตอร์ที่เข้ากับเพลง ซึ่งจริง ก็เป็นญาติกันเนี่ยแหละ (หัวเราะ)

ป้อง: จริง มาร้องตั้งแต่ในอัลบั้มที่แล้วละ เพลง Dancing Like Crazy จริง ตั้งแต่ อยากรู้ เลยอะ คาแร็กเตอร์เสียงเขาเป็นคนไม่ได้ร้องเก่ง แต่ร้องไม่เพี้ยน สำเนียงดี อันนี้คือเข้าคอนเซ็ปต์เราเลย ให้ดูเหมือนคนธรรมดา มาร้อง (เพลง: แล้วเพลงนี้ก็จะมีเสียงแปลก ด้วย พวกเสียงกัดแคร็กเกอร์ เสียงดูด) แล้วก็มีท่อนเบา ที่เราไม่เคยทำอะไรล่องลอยขนาดนี้ใน Plastic Plastic (หัวเราะ)

เมื่อวาน

เพลง: เป็นเพลงที่พี่ปอ Whal & Dolph มาช่วยแต่งเนื้อ ก็เลยจะเป็นเพลงเดียวที่เนื้อหามีความดราม่าอยู่ (หัวเราะ) พี่ปอเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านความรัก เพลงนี้เกี่ยวกับอดีต ไม่ได้มาจากชีวิตเขาหรอกมั้ง แต่เขาแต่งอะไรแบบนี้ได้ ข้อมูลเขาเยอะ (ป้อง: อันนี้จะมีความ lo-fi hiphop เบา ) ตอนแรกก็คิดว่าเพลงนี้ไม่ได้ยากหรอก แต่ฟังไปฟังมาเริ่มยากละ (ป้อง: เมโลดี้น้อย แต่พอมันน้อยปุ๊บก็แต่งยากละ) น้อย แต่มันใช้เมโลดี้ที่ยากนิดนึง ไม่ได้ป๊อปแบบง่าย พูดไม่ถูกอะ มีความ Cornelius ใช้คอร์ดแปลก

ป้อง: อัลบั้มนี้จะมีความ hybrid ไม่ได้ไทยล้วน แบบเพลงที่แล้วมีเพลงไทย 3 เพลง ชุดนี้มี 2 เพลง เพลงนึงก็จะไม่ได้ให้เป็นร้องไทยล้วน มีผสม ไทยอังกฤษ บ้าง คือคนไทยไม่ค่อยทำกัน จะมีเกาหลี ญี่ปุ่น ก็เลยอยากลองทำบ้าง

เพลง: ก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับความสัมพันธ์ แต่เพลงนี้เป็นเพลงที่คนตกใจที่สุดเวลาเปิด แบบ นี่ Plastic Plastic หรอ Summer Hibernation, Merry Go Round ยังพอต่อติดจากอัลบั้มก่อน แต่อันนี้คือหลุดไปเลย ตอนปล่อยเลยปล่อยอันนั้นเพลงแรก ให้คนค่อย ซึมซับ เดี๋ยวปล่อยอันนี้ไปเลยคนจะเหวอ

No No No

เพลง: เป็นเพลงที่อยากใส่อะไรก็ใส่ เป็นเพลงที่อยากใส่เสียงที่ไม่ใช่เสียงดนตรีเข้าไปเยอะที่สุด มีบีตเยอะ เสียงกุญแจ เป็นเพลงบ่น ไปเรื่อย เอาแต่ใจ

ป้อง: เป็นเพลงที่มีความ introvert แต่เป็น introvert ที่สนุก ตอนหลังมีความเทปยืด

Girls Don’t Cry

เพลง: เราเอาเมโลดี้แทบจะไม่ถึงท่อน เอามานิดนึง จากเพลงประกอบหนัง ‘Girls Don’t Cry’ ของพี่ เต๋อ นวพล ที่เราทำ ตื๊อดือดือดื่อ แค่นี้ มาแต่งเป็นเพลงใหม่ ถ้านึกไม่ออก จะเป็นช่วงที่เฌอปรางกำลังออกกำลังกาย

ป้อง: เรื่องราวก็จะเป็นความดราม่าในหนัง การต่อสู้ ความฝัน (เพลง: เราต้องเข้มแข็ง แม้ว่าจะเจออุปสรรคอะไร แบบในหนังอะ ก็ไปขอพี่เต๋อว่า ใช้ชื่อนี้ได้ไหม) จริง เพลงนี้มีความเป็นดนตรีคลาสสิก มายัดในดนตรีป๊อป

เพลง: เพราะเราใช้เสียงฮาร์ปสิคอร์ด มันมาก่อนเปียโนในยุคบาโร้ก คียืมันเป็นสีดำ แต่คีย์ของเปียโนมันเป็นสีขาว สลับสีกัน แล้วเวลาเล่น มันจะเป็นเสียง แต๊ง ๆๆๆ ไม่มีหนักเบา เสียงเท่ากันหมด

ป้อง: ผมได้โน้ตมาจากเพลงในไหน แล้วโน้ตนั้นก็มีความคลาสสิกอยู่ พอมาผสมกับเพลงป๊อปมันจะมีความคล้ายวงคลาสสิกป๊อป คลาสสิกร็อก พวก The Beatles, Queen อะไรประมาณนั้นครับ แต่จะเป็นเพลงช้า พวกเพลงเก่าจะเป็นประมาณนี้ แต่อันนี้ทำก่อนหนัง ‘Bohemian Rhapsody’ ออกมานะ (หัวเราะ) พอหนังออกแล้วยิ่งอินเข้าไปอีก เพลงแกะ Queen เล่นทั้งวัน (เพลง: อินมากกกกกก)

This Year

เพลง: อันนี้เป็นเพลงที่เราทำช่วงปีใหม่ 2017 ไม่ได้อยู่ในไหนเลย เคยทำเทปพิเศษออกมา

ป้อง: ก็เลยทำให้มันอยู่เป็นที่เป็นทาง ปล่อยตอนปีใหม่พอดี vibe มันก็เลยเป็นช่วงปีใหม่ ให้ความรู้สึกเหมือน New Year resolution อะไรประมาณนี้ เอามาเติมนิดหน่อย ใกล้เคียงกับของเดิม

Anything Goes

ฝากอัลบั้ม

เพลง: ฝากอัลบั้มเต็มอัลบั้มที่สองของเราด้วย เป็นอัลบั้มที่เราใส่สุดแล้วก็ไม่ค่อยแคร์อะไร (หัวเราะ) เอาแต่ใจนิดนึง ทำตามที่เราชอบจริง เป็นตัวเราจริง

ป้อง: อัลบั้มสามเดี๋ยวสีไวโอลินทุกเพลงเลย (หัวเราะ) ชอบ นี่คิดถึงชุดสามแล้วนะว่าจะทำแบบไหนดี คิดเล่น

เพลง: พี่ป้องคิดไว้แล้วว่าอยากคลาสสิกอะ (ป้อง: อยากออเคสตร้า)

Facebook Comments

Next:


Montipa Virojpan

อิ๊ก เนิร์ดดนตรีที่เพิ่งกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นนักเขียนตอนอายุ 25 ชอบเดินเร็ว นอกจากขนมปังกับกาแฟดำแล้วก็สามารถกินไอศกรีมกับคราฟต์เบียร์แทนมื้อเช้าได้