Article Interview

ชวนคุยกับ 4 หนุ่ม The Kastle เจ้าของบทเพลง ‘ชีวิตเธอดีอยู่แล้ว’

  • Writer: Teeraphat Janejai
  • Photographer: Varinthorn Pormajunya

ได้เห็นวงนี้ตามงานเทศกาลดนตรีไทยอยู่หลายครั้ง แต่ก็ยังไม่สบโอกาสได้สัมภาษณ์สักที จนเมื่อพวกเขาปล่อยซิงเกิ้ลลำดับที่สาม ชีวิตเธอดีอยู่แล้ว เพลงเศร้าจังหวะกลาง ๆ ที่ดูเข้าใจและมีความปลงซ่อนอยู่ ซึ่งนับจนถึงวันที่เขียนก็มียอดวิวบน YouTube เกือบจะหกแสนเข้าไปแล้ว เราก็ไม่รีรอที่จะเข้าไปพูดคุยกับวง The Kastle สักหน่อยว่าชีวิตพวกเขาดีจริงหรือเปล่า

สมาชิก
คูน— ธรรมธร มัคคสมัน (ร้องนำ)
มด— กุลนที กำเนิดมั่น (กีตาร์)
ชีตาร์— ภูริสร์ ขำพลับ (เบส)
บูม— บุญญฤทธิ์ ผ่องแสงแก้ว (กลอง)

7f9a1620

แต่ละคนมารวมตัวกันและมาร่วมงานกับ Boxx Music ได้อย่างไร

คูณ: เราเรียนมหาวิทยาลัยรังสิตมาด้วยกัน แรกสุดมันเป็นการรวมตัวเพื่อทำโปรเจกต์ธีสิสของผม ตอนนั้นยังใช้ชื่อวงว่า Rock Paper Scissors ต้องทำอัลบั้ม EP 4 เพลง ก็เลยชวนมดกับชีตาร์มาช่วยเล่น ตอนนั้นยังใช้มือกลองอีกคนหนึ่งที่ไม่ใช่บูม ก็ทำวงนั้นอยู่ประมาณปีกว่า ๆ

ชีต้าร์: คูณก็เลยลองส่งเพลงเข้าไปที่ช่วง Bedroom Studio ของ Cat radio ก็มีขึ้นชาร์ตของ Cat บ้างแต่เพลงก็ไม่ได้ดังอะไรมากมาย ช่วงนั้นก็สนุกกับการทำเพลงเอง ขายเอง ทำแผ่นซีดีกันเอง และพอดีตอนนั้นมดเป็น technician ให้กับโตโน่ เดอะสตาร์อยู่ แล้วก็ได้เจอพี่พล Clash หลังเวที ก็เลยเอาเดโมไปให้เขาลองฟัง หลังจากนั้นเขาก็ติดต่อมาให้ลองทำเพลงเข้าไป ไปซ้อมให้เขาดูบ้าง แต่ตอนนั้นเขาก็ยังไม่โอเคกับวงเรานะ ตอนส่งเพลงไป เขาชอบ แต่พอไปซ้อมให้ดู บูดเลย (หัวเราะ) ก็หายไปเกือบครึ่งปี

บูม: ส่วนบูมเคยเรียนดนตรีอยู่ที่ม.รังสิตอยู่ปีหนึ่ง แล้วก็ลาออกไปเรียยอย่างอื่น แล้วทีนี้มีรุ่นพี่ชวนไปตีกลองให้ ก็เลยได้เจอพี่มด เขาก็เลยชวนเราไปเล่น ก็เป็นช่วงที่วงกำลังจะเข้ามาทำที่ Boxx Music พอดี

แล้วพอเปลี่ยนจากวงเดิมมาเป็น The Kastle แนวทางดนตรีเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง

ชีตาร์: ตอนวงเก่ามันจะเป็นไอเดียของคูณเสียส่วนใหญ่ เพราะมันเป็นงานของเขา จะออกเป็นป๊อปแต่เป็นป๊อปที่กลองจะลั่น ๆ หน่อย ยังไม่มีกลิ่นแบบโพสต์ร็อกเท่าตอนนี้ แต่พอมาทำ The Kastle เราก็ใส่โพสต์ร็อกเข้ามาบ้าง แต่เราก็ไม่ได้สุดเหมือน Inspirative นะ เราก็เลยเอามาผสมกันเป็นโพสต์ป๊อป

บูม: จริง ๆ ก็ผสมกันมั่ว ๆ แหละ ทะลึ่งผสมกันไปเรื่อย (หัวเราะ) เอาเข้าจริงเราก็ไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิมมาก กลองกับเบสก็ยังพื้นฐานแบบเดิม มีแค่กีตาร์ที่ทั้งคู่ก็ชอบซาวด์แบบโพสต์ร็อกอยู่แล้ว เราก็ไม่ได้พยายามหรือตั้งใจให้เป็นแบบนี้ มันออกมาจากความชอบของแต่ละคน

คูณ: เราชอบโครงสร้างของเพลงป๊อปมันสื่อสารกับคนฟังแบบง่าย ๆ เข้าใจไม่ยาก ส่วนโพสต์ก็เป็นสิ่งที่ชอบเหมือนกัน ซาวด์ดนตรีลอย ๆ มีแอมเบียนต์

มด: แต่สิ่งที่เราทำต่างออกไปคือ เราไม่ชอบความยืดเยื้อ เราชอบแค่ซาวด์กับแอมเบียนต์ ซึ่งเราก็เอามาเป็นแค่กลิ่น ๆ ไม่ได้เป็นโพสต์จัดขนาดนั้น ยกเว้นตอนที่เล่นสดก็จะค่อนข้างได้ยินซาวด์แบบโพสต์ชัดหน่อย

ระหว่างทำเพลงกันเองกับเข้ามาทำงานกับค่ายมันแตกต่างกันขนาดไหน

คูณ: เราได้เรียนรู้เยอะขึ้น ถ้าเรายังเป็นวงเดิม ไม่ได้เข้ามาทำงานในค่ายนี้ เราไม่มีทำเพลงออกมาได้แบบที่ทำอยู่ทุกวันนี้ เพราะเราไม่ได้ซึมซับประสบการณ์ความรู้จากใครเลย แต่สองปีที่เราเข้ามา ได้ทำงานกับโปรดิวเซอร์เก่ง ๆ แค่ฟังเขาพูด แค่ฟังเขาคอมเมนท์เพลงเรา เราก็เรียนรู้แล้ว

บูม: เราได้รู้หนทางที่จะทำให้เพลงประสบความสำเร็จ เราจะไปถึงจุดอย่างที่พี่พล Clash เคยไปถึงต้องไปอย่างไร เราไม่มีทางรู้แน่ ๆ ยกเว้นแต่จะเป็นพรสวรรค์จริง ๆ ที่ทำเพลงอะไรออกมาก็ดีไปหมด แต่ข้อดีของตอนทำกันเองก็คือเราได้ทำอะไรอย่างอิสระ ได้ทำเพลงแบบที่ชอบเต็มที่ แต่เพลงที่เราต้องการจะทำมันก็อาจจะไม่ประสบความสำเร็จ เพราะเราเอาจากตัวเราเป็นหลัก ไม่ได้สนใจคนฟัง

000020

ทั้งสองซิงเกิลก่อนหน้า กอดอีกครั้ง กับ เวลาสุดท้าย ผลตอบรับเป็นไปอย่างที่คิดไว้ไหม

มด: ดีกว่าที่คาดไว้เยอะเลย

บูม: เราเริ่มปล่อยซิงเกิ้ลกันในช่วงที่ค่ายก็เพิ่งเปิดตัวพอดี คือจริง ๆ ที่พี่พลหายไปหลังจากดูเราซ้อม คือเขาก็กำลังคุยเรื่องทำค่ายกันอยู่ พอเขาได้เปิดก็เลยมาชวนเรา ซึ่งค่ายนี้ก็เหมาะกับวงดนตรีรุ่นใหม่ที่มีแนวทางดนตรีที่ชัดเจน

ชีต้าร์: ตอนนั้นก็ลุ้น ๆ เหมือนกันเพราะเราก็เปลี่ยนชื่อวงด้วย ทำใหม่หมดเลย

ลืมถามเลยว่าทำไมถึงใช้ชื่อวงว่า The Kastle

มด: มีคำตอบสองแบบ แบบตอบสื่อกับความเป็นจริง (หัวเราะ)

ชีต้าร์: ระหว่างทางกลับบ้าน เราผ่านร้าน ๆ หนึ่ง เหมือนจะเป็นเลาจน์ชื่อ The Castle ชื่อมันดูน่าค้นหาดี ก็เลยเอามาเปลี่ยนตัวอักษรแล้วก็ใช้เลย

บูม: วงเราเปรียบเสมือนกับปราสาท มีสี่ห้อง แต่ละคนก็จะมีคาแรคเตอร์ที่ต่างกันออกไป อยากให้คนเข้ามาร่วมสนุก มาเต้นรำในปราสาทของเรา

ชีต้าร์: แต่อันนั้นคือที่มาจริง ๆ นะ ความหมายเพิ่งมาแต่งเพิ่ม (หัวเราะ)

เห็นว่าตอนที่ทำสองซิงเกิ้ลแรกต้องหอบของไปทำที่ต่างจังหวัดกันหลายวัน ไปทำอะไรบ้าง

คูณ: จริง ๆ เพราะทีมงาน โปรดิวเซอร์ทั้งหลายเขาชอบไปเที่ยวกันมากกว่า ก็เลยพาเราไปเที่ยวด้วยแต่ให้ภารกิจมาว่าต้องแต่งเพลงทำเพลงให้ได้สักเพลงภายในสองวัน 

บูม: มันก็ดีที่เราได้ปลีกตัวจากความวุ่นวายในเมือง ไปที่นั่นไม่มีสัญญาณมือถือด้วยซ้ำ ทำเพลงกันอย่างเดียว ได้โฟกัสเต็มที่

มด: ก็เหมือนเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง ได้อะไรใหม่ ๆ  จริง ๆ เพลงแรกคูณก็ไม่ได้ไปแต่งในป่าเขานะ ก็แต่งอยู่ในห้อง มันก็แล้วแต่สถานการณ์ด้วย บางเพลงคิดสองสามเดือนก็ยังไม่ได้ แต่อย่างเพลงล่าสุดอยู่ดี ๆ ก็มาเองเฉยเลย คูณใช้เวลาคิดไม่ถึงชั่วโมง

ชีต้าร์: พอเราเริ่มทำวงใหม่ ช่วงแรกก็หมดเวลาไปกับการหา reference หาคาแร็กเตอร์ที่เหมาะกับเรา

7f9a1602

ช่วยเล่าที่มาที่ไปของซิงเกิ้ลนี้ ชีวิตเธอดีอยู่แล้ว ให้ฟังหน่อย

คูณ: ตอนแรกเรามีแผนจะทำอัลบั้มให้เสร็จภายในสิ้นปีนี้ แต่นั่นคือแผน (หัวเราะ) เราก็พยายามทำเดโมเก็บไว้หลาย ๆ เพลง พอมาถึงช่วงที่เราจะต้องปล่อยซิงเกิ้ล ก็หอบเดโมไปให้พี่พลฟัง ก็จะมีเพลงที่เราภูมิใจอยู่หลายเพลง และก็มีเพลงนี้แหละที่ผมไม่ค่อยชอบ เราคิดว่ามันใช้เวลาแต่งแป๊ปเดียว มันไม่ดีหรอก แต่พี่พลบอกเอาเพลงนี้แหละ เรื่องมันมาจากผมไปจีบผู้หญิงคนหนึ่ง ก็คุยกันไปเรื่อย ๆ แล้วมันก็ไม่ก้าวหน้าไปไหนสักที ผมก็เลยคิดว่าพอดีกว่า เพราะชีวิตเขาก็ดีอยู่แล้ว ซึ่งพี่พลฟังเพลงนี้แล้วก็นึกถึงบรรยากาศร้านเหล้า ก็เลยทำดนตรีรวมถึง mv ให้ไปในทางนั้น

มด: แต่พอทำทุกอย่างเสร็จแล้วกลับมานั่งฟังกันใหม่ มันก็เป็นเพลงที่ดีเพลงหนึ่ง มีความลงตัว เนื้อหาแข็งแรง ดนตรีก็กำลังพอดี ง่าย ๆ ไม่เร็วไม่ช้า

บูม: อย่างเพลง เวลาสุดท้าย เราลองเอาไปให้พ่อฟัง ให้เพื่อนที่ไม่ได้เล่นดนตรีฟัง ทุกคนก็จะบอกว่าดนตรีมันลึกไปหรือเปล่า พอมาเพลงนี้ก็ลงตัวเลย น่าจะฟังง่ายที่สุดในบรรดาสามเพลง ซึ่งเอาเข้าจริงอย่างเพลงนี้ก็เป็นแนวเพลงที่เราทำกันมาตั้งแต่วงเก่าแล้วด้วยซ้ำ แต่ที่สองเพลงแรกไม่ได้เป็นแบบนั้นเป็นเพราะว่ามีทีมงานเข้ามาร่วมออกไอเดียกันเยอะ ต่างจากเพลงนี้ที่คูณแต่งเองหมด เรียบเรียงกันเอง

แล้วเดโมเพลงที่เหลือจะเป็นในโทนนี้ไหม?

บูม: มีหลายโทนเลย

ชีต้าร์: ฮิปฮอปยังมีเลย (หัวเราะ) เราตั้งใจที่จะซนให้มากขึ้น เพราะแต่ก่อนเราฟังเพลงกันน้อย แต่ตอนนี้ได้ฟังเยอะขึ้น ก็จะพยายามหาวัตถุดิบที่เราชอบมาใส่ตรงนี้นิดตรงนั้นหน่อย

แล้ว feedback ของซิงเกิ้ลล่าสุดเป็นอย่างไร ดีขึ้นกว่าเดิมแค่ไหน

บูม: ดีขึ้นกว่าเดิมเยอะ อาจจะเป็นเพราะว่ามีคนรู้จักเราเยอะกว่าแต่ก่อน เราได้ไปเล่นที่งาน Cat Expo ทำให้ฟีดแบคที่ได้กลับมาค่อนข้างดีและเร็วกว่าเดิม ปล่อยวันแรกก็เกือบแสนวิวแล้ว ถ้าเป็นตอนวงเก่าถึงหมื่นวิวปุ๊ป เดินออกไปซื้อเบียร์เลยนะ (หัวเราะ) มันก็เป็นตัววัดที่เห็นผลที่สุด อย่างน้อยเพลงเราก็ไปถึงหูคนจำนวนมากได้ ชอบไม่ชอบเดี๋ยวค่อยมาว่ากัน

7f9a1610

แล้วแต่ละคนนิยามคำว่าชีวิตที่ดีไว้อย่างไร

บูม: ได้ใช้ชีวิตอย่างที่ฝัน อย่างที่อยากจะเป็น อยากเป็นคนที่ดูแลพ่อแม่ได้ มีครอบครัวที่ดี บ้านที่อบอุ่น มีตังค์ใช้

มด: ก็คงประมาณบูม ทำอะไรก็ได้ที่ชอบแล้วทำให้เราดำรงชีวิตอยู่ได้ ไม่ต้องถึงกับรวยก็ได้

คูณ: ทำให้คนยอมรับวงของเราให้ได้ ทำเพลงออกมาได้อย่างที่ใจคิด

ชีต้าร์: ขอตาม ๆ คนอื่นในวงไปด้วยแล้วกัน

ทำมาสามเพลงแล้ว ถ้าจะแนะนำสักหนึ่งเพลงให้กับคนที่ไม่เคยฟังเพลงพวกคุณมาก่อน

คูณ: ชีวิตเธอดีอยู่แล้ว เพราะเพลงนี้ฟังง่ายสุด แล้วถ้าบังเอิญชอบเพลงใหม่แล้ว ก็ฝากกลับไปฟังเพลงเก่าด้วย (หัวเราะ)

ย่างเข้าสู่ปีที่สองกับการเป็นศิลปินในค่าย เรียนรู้หรือวางแผนอนาคตในวงการดนตรีไว้อย่างไรบ้าง

คูณ: ผมว่ามันคือความพอดี อย่างตอนเราเรียนมหาวิทยาลัยมา เรามีความรู้แน่น แต่ไม่รู้ว่าจะใช้มันอย่างไรให้พอดี บางทีเราพยายามใส่เยอะเกินไป โชว์เกินไป พอเข้ามาในค่ายก็จะได้เรียนรู้มากขึ้น

มด: ของเราเป็นเรื่องเพื่อนในวงการ เราก็มีเพื่อนที่เล่นดนตรีด้วยกันเยอะ แล้วเราก็เพิ่งรู้ว่าการเกาะกลุ่มไปด้วยกันมันสำคัญมาก พอเราได้รู้จักกันไปเรื่อย ๆ คอนเนกชันเราก็จะกว้างขึ้น โอกาสที่จะได้ทำเพลงหรือเล่นสดก็มากขึ้น นอกจากเพื่อนพี่น้องในค่ายแล้ว เรากลับบ้านไปเราก็อยู่พวกวง Penny Time กับ Artist Focus

บูม: มีงานก็ชวนกันไปเล่น งานจ้างก็เหมายกชุดก็ได้ อย่างเราเองก็เคยไปเล่นแทนมือกลองเขาบ้าง มันก็สนุกดี เป็นครอบครัว

000018

ก้าวต่อไปของ The Kastle

คูณ: ก็ต้องทำอัลบั้มให้เสร็จก่อน เพราะเขาเร่งมาแล้ว (หัวเราะ) ที่แน่ ๆ คือจะมีเพลงที่หลากหลายแนวกว่าซิงเกิ้ล เพราะซิงเกิ้ลก็ต้องเป็นเพลงที่หวังผลนิดนึง ส่วนในอัลบั้มก็จะมีเพลงที่เราอยากโชว์บ้าง

มด: ก็มีไอเดียอัลบั้มที่คิด ๆ กันไว้ แต่ก็ยังไม่ได้ชอบที่สุด แนวดนตรีก็คงเป็นโพสต์ป๊อป ส่วนเราจะเล่าเรื่องอะไรบ้างก็ต้องมาดูกันอีกที อาจจะได้ฟัง The Kastle เวอร์ชันหนัก ๆ เลยก็ได้

ฝากซิงเกิ้ลนี้หน่อย

คูณ: เพลงนี้เป็นเพลงที่พวกเราทั้งสี่คนทำเองทั้งหมดเลย ทุกขั้นตอน อยากให้ลองฟังกันดู

มด: แม้แต่อาร์ตเวิร์กของซิงเกิ้ลเราก็ยังช่วยกันคิดกับพี่ครีเอทีฟ mv เราก็ไปนั่งคุยไอเดียกับทีมงาน เรามีส่วนร่วมกับทุกอย่าง และเราชอบกับวิธีการนี้ที่เราได้เห็นทุกอย่างก่อนที่จะปล่อยเพลงออกไป ทำงานหนักขึ้นก็จริงแต่สนุกกว่า

10

ฟังซิ้งเกิลชีวิตเธอดีอยู่แล้ว และเพลงอื่น ๆ ของ The Kastle บนเว็บไซต์ฟังใจได้ที่นี่

Facebook Comments

Next:


Teeraphat Janejai

ธีรภัทร์ เจนใจ กองบรรณาธิการ Fungjaizine ที่มักสนุกกับการเปิดเพลงในรถมากกว่าการไปคอนเสิร์ต และชอบนั่งสวนพอๆ กับนั่งบาร์