THE WHITEST CROW

Interview

THE WHITEST CROW ย้อมสีชมพูเอาคืนความเสียใจ หวานให้สุด ขมให้บ้า! ในซิงเกิลล่าสุด ‘หวานเป็นลม ขมเป็นบ้า’

ทะลุเพดาน! ไม่มีคำไหนจะเหมาะกับซิงเกิลล่าสุดของ THE WHITEST CROW เท่าคำนี้อีกแล้ว เพราะความคมคาย จี๊ดจ๊าด แสบสันทั้งท่วงทำนอง ดนตรี และเนื้อหาที่พวกเขาฝากไว้ใน หวานเป็นลม ขมเป็นบ้า มันพาให้เราคลั่งได้จริง ๆ มาหวานให้สุด ขมให้บ้ากับเรื่องราวที่ซ่อนอยู่หลังเพลงนี้ด้วยกันผ่านบทสัมภาษณ์จากปากของ THE WHITEST CROW ได้ที่นี่

ถ้าได้ยินคำว่า ‘ขม’ แว้บแรกที่โผล่มาในหัวคืออะไร 

อ๋อง: ขมที่สุด ฝังใจที่สุดก็คงเป็นความรู้สึกตอนป่วยปากมันขม กับอีกอันหนึ่งเพราะมันเกิดขึ้นในวัยเด็กไม่รู้ยุคนี้ยังมีกันไหม ตอนเด็กที่เขาหยอดยาปอลิโอ อันนั้นมันขม เข้าคอแล้วหน้าหยีเลย

เบ็น: ชีวิตการทำงานขมที่สุดแล้ว กาแฟว่าขมแล้วแต่ชีวิตการทำงานขมกว่า เอเจนซี่ไลฟ์ ชีวิตที่มีภาระ หนี้สินและการทำงานขมสุด ๆ

แบงค์: มันจะมีสิ่งที่เรียกว่ายาเขียวที่เอาไว้ชงน้ำ แม่ชงให้กินเวลาเป็นไข้หรือเป็นหวัด กินแล้วหายเลยในวันต่อไป ต้องเป็นแบบขมเท่านั้นขมกว่าทุกอย่างบนโลก มะระหรืออย่างอื่นก็ไม่ขมขนาดนี้ จะ 30 แล้วก็ยังรู้สึกว่าอันนี้แหละที่สุด

ไตเติ้ล: ความตั้งใจที่ไม่สำเร็จขมที่สุดแล้ว เช่นวันนี้อยากกินพิซซ่ามากแล้วไม่ได้กิน จะรู้สึกว่าขม บางทีมันเป็นเรื่องเล็ก ๆ ก็ทำให้รู้สึกว่าชีวิตมันซีดไปเลย แต่ขมจริง ๆ ที่ชอบคือแจ่วขมกับซอยจุ๊!

 

แล้วคำว่า ’หวาน’ ล่ะนึกถึงอะไรเป็นอย่างแรก

ไตเติ้ล: หวานที่สุดของผมคือร้านอาหารไทยที่พยายามทำให้ฝรั่งกิน อันนั้นหวานสุด ๆ เลย ต้มยำกุ้งหรืออาหารไทยอื่น ๆ ในร้านเนี่ย ถามว่าหวานไปไหมมันก็ไม่ได้หวานไปแต่กินแล้วมันรู้สึกหวานผิดธรรมชาติ ขอยกให้สิ่งนี้!

เบ็น: กาแฟเจ้าหนึ่งในปั๊ม สั่งหวานน้อยได้หวานมาก ไม่เคยมีคำว่าหวานน้อยในมาตรฐานทุกที่ทุกสาขา

อ๋อง: เราเคยซดน้ำหวานสีแดงเจ้าหนึ่งเพียว ๆ แบบไม่ละลายน้ำ แล้วก็จะไม่ทำอีกแล้ว แค่รู้สึกว่า “อย่า”

แบงค์: มีเหล้ากับความรักนี่แหละที่หวานที่สุด เรื่องจริง ๆ ไม่มีคำบรรยายแล้วเอาแค่นี้เลย

 

ที่มาที่ไปของ หวานเป็นลม ขมเป็นบ้า

ไตเติ้ล: เพลงนี้เกิดจากที่เราทำดนตรีเพลงนี้มาก่อน เพราะพี่กบ Big Ass ในคลาสเวิร์กช็อปบอกว่าให้ทำดนตรีมาพร้อมกับเมโลดี้ร้อง ทำมา 2 เพลง แล้วก็ให้เลือกเพลงใดเพลงหนึ่งเพื่อให้เพื่อนในคลาสจับฉลาก ตอนนั้นมีเรา, ภู Wallrollers, Tippsy, เติ้ล ลิงรมย์ แล้วก็ยูฟ่า แล้ว Wallrollers จับได้เพลงนี้พอดี ภูก็ซี้ดปากตั้งแต่ตอนนั้นเลย แบบ โห ทำยังไงวะ เพลงมาขนาดนี้ แล้วไปใช้เวลากันสองสัปดาห์ก็มาส่งการบ้านกัน สรุปเซอร์ไพรส์มากพอเป็นการบ้านแบบ เฮ้ยเหมือนมาแอบนอนใต้เตียง THE WHITEST CROW จริง ๆ รู้นิสัย รู้คำพูด สามารถเล่าเรื่องเพลงนี้ออกมาเหมือนใช้ปากวงพวกเราเล่าได้เลย เลยเป็นจุดเริ่มต้นของเพลงนี้

จริง ๆ เคยส่งเดโม่ไปหนึ่งรอบแล้วแต่ก็ยังรู้สึกเฉย ๆ เลยเอาไปลองเล่นตามงานทัวร์โรงเรียน ไปเล่นหลาย ๆ ที่ จนรู้สึกว่าคนไฮป์ แล้วพี่กบ Big Ass ได้มาดูเองเลยทักว่าทำไมถึงไม่ปล่อยเพลงนี้ ทุกคนก็เลยเริ่มเคลียร์ว่าเพลงนี้น่าจะสนุก โดนเส้นได้ แล้วระยะเวลาที่เราไปเล่นสดเรื่อย ๆ มันเริ่มนานจนเรารู้กันว่าควรแก้ตรงไหน ปรับตรงไหน จากเวอร์ชันแรกมาจนปัจจุบันก็เปลี่ยนไปเยอะมาก จนสุดท้ายออกมาเป็น หวานเป็นลม ขมยังครับบบบบบ (ขำ)

 

‘One Drink and We Go Cry’ ทำไมถึงต้องเป็นประโยคนี้

ไตเติ้ล: เพลงมันมีท่อนที่ร้องว่า “วันนี้ฉันแค่อยากดื่ม” ปกติเราจะคุ้นพังเพยที่เห็น ๆ กันบ่อย ๆ ว่า “One Drink and We Go Home” แต่จริง ๆ อันนี้ก็เลยเอามาสื่อถึงว่า แก้วเดียวก็ร้องไห้แล้ว 

 

ในชีวิตจริงทุกคนก็เป็นคนที่ปลอบคนด้วยคำที่ไม่ใช่คำหวานเหมือนกันหรือเปล่า 

ไตเติ้ล: เราเป็นคนแรกเลย พี่เบ็นก็น่าจะเป็นเหมือนกัน

เบ็น: จะเป็นคนที่ใช้เหตุผลในการพูดกับคนอื่นมากกว่า หลาย ๆ ทีบางคนที่กำลังเศร้าอยู่เขาจะรับความจริงยังไม่ค่อยได้ เพราะเหมือนใจเขายังไม่พร้อมรับ แต่พอเราพูดด้วยเหตุผลเขาจะรู้สึกว่ามันแรง แต่สุดท้ายเราก็จะยัดฝั่งตรรกะให้เขา แต่ก็ซอฟต์ลงนะ แต่ไม่ถึงขั้นพูดคำหวาน

ไตเติ้ล: ไอพวกคำที่บอกว่า เดี๋ยวมันก็ผ่านไปได้ มันจะไม่ใช่นิสัยพวกเราเท่าไหร่ น้อยที่สุดที่จะทำก็คือการยื่นแก้วให้แล้วก็ไม่พูดอะไรเลย

เบ็น: คำว่าช่างแม่ง กับไม่เป็นไร น่าจะพูดเยอะแล้ว

ไตเติ้ล: ส่วนเราก็จะเป็นคำพวกนี้เหมือนกัน เพิ่มมาอีกนิดหน่อยพวกคำประมาณ ไว้ค่อยคิด ปล่อยไว้ก่อน เอาจริงก็ขมอยู่นะวิธีพวกนี้ แต่จริง ๆ การที่เราสัมผัสความขมมันคือการที่ทำให้เรารู้สึกว่ารสชาติอื่น ๆ มันคุ้มค่าที่ได้รับมามากกว่า

ความสนุกของการแต่งแต้มสีสันในดนตรี จนถูกผสมสีจนได้เป็นเพลงนี้

ไตเติ้ล: สนุกคนเดียวเลยตอนทำเดโม่ แบบเอาเลย! เจอกัน! เดี๋ยวส่งให้เพื่อน ๆ ฟัง เอาจริง ๆ เวอร์ชันแรกจนปัจจุบันมันเปลี่ยนไปเยอะมาก ใส่บีตนู่นนี่เต็มไปหมด รอบนี้ลองทำเพลงแบบดีเจด้วยการเริ่มจากบีตก่อน เอาบีตมาใส่แล้วรู้สึกว่าอารมณ์มันถูกต้อง พอมาเจอกับกีตาร์แบนด์แล้วมันยังฟังก์ชันอยู่ ด้วยความที่ชอบอะไรแบบนี้ด้วยในปัจจุบันก็เลยพยายามเอาสิ่งนี้มาเรียงไว้ให้อยู่แล้วเข้ากับวงตัวเองและเพื่อน ๆ ได้ มันก็เลยออกมาเป็นท่านี้ครับ

FJZ: แล้วตอนแกะสนุกไหมคนอื่น ๆ

ไตเติ้ล: พี่เบ็นบอก เติ้ลกูตีไม่ไหวจริง ๆ ว่ะ กูขอโทษ ตอนอัดอะ (ขำ)

เบ็น: เติ้ลมันยัดมาแบบหนักจริง ไม่ไหว ก็เลยได้มาปรับ ๆ จนเจอทางตัวเอง

ไตเติ้ล: มันมีความยากจริง ๆ ภาระหนักของเพลงนี้คือมือกลองเลย เพราะกลองเขียนมาโหดจริง กรูฟเหมือนเกิดมาแล้วพกจิตวิญญาณกรูฟมาด้วย แต่พอมันถูกปรับมาจนเป็นเวอร์ชันที่มีความเป็นพี่เบ็นมากขึ้นมันก็ฟังแล้วเห็นเอกลักษณ์ของวงมากขึ้น เลยดู madchaster มาก ๆ จากที่หลาย ๆ คนบอก

กว่าจะเป็นสีชมพู FF00FF และ MV ที่ว่าด้วยเรื่องราวของซินเดอเรลล่าผู้ชาย

ไตเติ้ล: เหมือนทุกเพลงเราก็เลือกสีกันเนอะว่าเพลงนี้เหมาะกับสีอะไร เพลงนี้พอฟังแล้วมันรู้สึกว่าเพลงมีความล่อลวง ล่อหลอก เลยใช้สีชมพูที่สดมาก ๆ มันคือ FF00FF ใน hex code มันไม่ได้ให้ความรู้สึกของความรักนะ มันให้ความรู้สึกของความลุ่มหลง หรือการล่อลวงอะไรสักอย่างที่อันตรายที่สุด เป็นโทนที่อันตรายจริง ๆ มันเหมือนคนที่มักจะบอกกับเราว่า รักนะ ชอบเธอนะ มันคือการล่อลวงด้วยคำพูดและการให้ความหวังที่สุด เหมือนที่เขาบอกว่าเวลาเราเข้าไปเจออะไรสีสด ๆ ในป่านั่นคือสิ่งที่อันตรายที่สุด มีพิษชัวร์ ก็เลยเป็นที่มาของเพลงนี้

จริง ๆ ตัว mv เองเราทำกับตั๋ง (Panich Pongpanich) เนอะ ตั๋งก็ทำคนแซ่บ ๆ มาเยอะ PP Krit, MILLI, BOWKYLION เราก็เลยอยากได้ความรู้สึกนี้มาไว้ในเพลงนี้ด้วย ซึ่งตั๋งเองก็ไปตีความมาแล้วกลับมาบอกเราว่า เฮ้ย หนูคิดถึงซินเดอเรลล่า แต่เป็นเวอร์ชันผู้ชาย เพราะมันจะมีท่อนที่บอกว่า “บอกลากันที่เที่ยงคืน” หมดเวลาแล้วเที่ยงคืน โลกปล่อยในฝันจอย ๆ โลกความจริงโหดร้ายไม่ได้สวยงามเหมือนความฝัน ก็เลยออกมาเป็นแบบนี้เลยครับ

 

มีอะไรสนุก ๆ ที่เราจะยังได้เจอจาก The Whitest Crow ในอนาคตอีกบ้าง

ไตเติ้ล: เหมือนพอพี่ ๆ มองว่าเพลงนี้มันฟังก์ชันจริง ๆ แล้วเขาอนุมัติให้ทำอะไรแบบนี้แล้วเราก็คงฉุดไม่อยู่แล้วแหละ เพลงต่อ ๆ ไปก็คงดันเพดานไปเรื่อย ๆ ทดลองทำอะไรใหม่ ๆ ที่ไม่คิดว่าเราจะทำกันในชีวิตนี้

เบ็น: จริง ๆ เรามีวางแพลนกันไว้คร่าว ๆ อยู่ ว่าอยากจะให้วางตัวเองในต่อ ๆ ไป เวลามีคนเห็นวงเราใน GRAMMY หรือใน genie ก็อยากจะให้กลายเป็นวงที่คนอื่นพูดออกมาว่า มีวงแบบนี้อยู่ด้วยเหรอ เหมือนสร้างความรู้สึกแปลกใหม่ให้คนในแบบที่ไม่เคยเห็นหรือคิดถึงแบบเดิม ๆ มาก่อน ด้วยการที่เป็นตัวของพวกเราเอง

ไตเติ้ล: เพื่อหมู่บ้านบางระจัน!  ถ้าถามว่าต่อไปจะเป็นอะไรก็ยังตอบไม่ได้ แต่คิดว่าคงไม่ได้กลับไปทำอะไรที่เคยทำมาแล้วแหละ เพราะเราเบื่อ แต่ก็คิดว่าถ้ายังมีคนที่ชอบฟังเพลงแบบก่อน ๆ หน้า ก็ยังสามารถกลับไปฟังเพลงนั้น ๆ ได้อยู่ดี เพราะลองคิดดูแล้วถ้าให้เรากลับไปทำเพลงแบบ ดอกไม้ในหนังสือหน้าที่ 75 อีกรอบแต่เป็นเพลงใหม่ก็คงทำไม่ได้แล้ว 

แบงค์: มันอาจจะเป็นการที่ได้ตัวใหม่มา แต่เป็นภาค 2 ของอันเก่ามากกว่า แต่ความตั้งใจคือไม่ใช่การหยิบของเดิมมาทำแน่ ๆ ทำอันใหม่แล้วให้เชื่อมโยงไปเรื่อย ๆ อาจจะดูเป็นพวกเรามากกว่า

ทิ้งท้ายและฝากผลงาน

ไตเติ้ล: ก็อย่าลืมนะครับ 14 พฤษภาฯ เข้าคูหาใช้สิทธิ์! ครับ อย่าลืมฟังเพลงเรานะครับ หวานเป็นลม ขมเป็นบ้า ในช่อง YouTube: Genierockแล้วก็ Streamingในมือถือของทุกคนได้เลย แล้วก็อย่าลืมใช้สิทธิ์ใช้เสียงให้คุ้มเพื่อประเทศในแบบที่เราอยากจะเห็น อยากจะเป็น อยากจะใฝ่ฝันถึง เปิดเพลงพวกเราระหว่างเดินทางไปคูหาก็ได้ครับ เร็ว ๆ นี้จะมีเอฟเฟกต์ใน TikTok ให้เล่นด้วย กำลังพัฒนากันอยู่ และก็จะมีปาร์ตี้เปิดซิงเกิล CROW NIGHT แบบปล่อยใจฝันจอย ๆ ครับ รอติดตามได้เลย!

“ทุกคนร้องไห้ได้” สำรวจความลึกของบ่อน้ำตา ไปพร้อมกันกับ The Whitest Crow

Facebook Comments

Next:


Donratcharat

นัท มีหมาน่ารักสองตัวชื่อหมูตุ๋นกับหมูปิ้ง กาแฟดำยังจำเป็นต่อชีวิต และยกให้กาแฟใส่นมเป็นรางวัล