Liquid เพลง Cold & Dark Wave หม่นเท่ที่คุณควรฟัง
- Writer: Montipa Virojpan
Liquid คือโปรเจกต์ของ ตั๋ง – จักรชัย ปัญจนนท์ หรือที่เรารู้จักเขาในชื่อ Casinotone ที่ทำดนตรีเต้นรำแนว electronic house และเจ้าของค่าย Comet Records โดยครั้งนี้ เขาสนใจจะทำเพลงร่วมกับ แบงค์ – เจนณรงค์ ปรางจโรจน์ แห่งวง post punk นาม Nodiction ด้วยส่วนผสมของซาวด์ดนตรีที่แตกต่างจากทั้งสองสาย ทำให้เพลงของพวกเขามีกลิ่นอายดาร์กหม่น แต่นุ่มละมุน และได้ความโดดเด่นจากกีตาร์สไตล์ร็อกในเพลงอิเล็กทรอนิกแบบที่ไม่เหมือนใคร
Liquid มีผลงานออกมาแล้วก่อนหน้านี้ 2 เพลง ทั้ง Keep It Away เพลงจังหวะช้าสองภาษาที่โดดเด่นด้วยการร้องคีย์ค่อนข้างสูง เน้นอารมณ์ แต่ใส่ไลน์ประสานโทนต่ำ รวมถึงการใช้เสียงซ้อนเพิ่มเข้าไปทำให้เพลงดูหลอนแต่เท่ ส่วนช่วงท้ายของเพลงก็ไม่ลืมที่จะเพิ่มบีทเข้าไปให้โยกตามได้ และ Fool เพลงเต้นรำที่มีกลิ่นอายมินิมอลเทคโน น่าสนใจขึ้นด้วยเบสที่เดินทำนองแบบดั๊บสเต็ป กับสไตล์การร้องหม่น ๆ จากอิทธิพลโพสต์พังก์ แต่ได้เมโลดี้ร้องป๊อปที่ทำให้เข้าถึงได้ไม่ยากจนเกินไป
ล่าสุดพวกเขาได้ปล่อยซิงเกิ้ลที่สามชื่อ Escape มาให้เราได้ฟังกันบนฟังใจอีกเพลงจังหวะเนิบกับอินโทรที่ดูลึกลับน่าค้นหา พ่วงด้วยสไตล์การร้องและซาวด์กีตาร์ที่เซ็กซี่ จากทำนองหม่นทึบขุ่นมัวตลอดเพลง กลับมาเซอร์ไพรส์ในช่วงท้ายของเพลงด้วยโทนเมโลดี้ที่ดูสว่างสดใสขึ้นและเลือกที่จะใส่บีทหนักหน่วงยิ่งขึ้น ทำให้เพลงอิเล็กทรอนิกของพวกเขาไม่ธรรมดาเลยแม้แต่น้อย
“เพลงนี้เกิดมาจากสิ่งที่เกิดขึ้น ณ ขณะนี้บวกกับจินตนาการเพิ่มเติม คือเรารู้สึกเหมือนโลกมันจะแย่ ๆ ในเรื่องความเย็นชาของคน เราเห็นคนมีปฏิสัมพันธ์ทางร่างกายกันน้อยลง บางทีก็เลยอยากจะมีคนที่เราสามารถพูด มอง หรือรู้สึกจริง ๆ กันได้ซักคน และชวนเขาหนีไปจากโลก ในเพลงนี้เหมือนจะชวนกันไปตาย แต่ก็เป็นแค่วิธีการแต่งเฉย ๆ ยังไม่อยากตายหรอกนะ (หัวเราะ)”
หลังจากลองฟังทั้งสามเพลงกันไปแล้ว เรามาพูดคุยเกี่ยวกับเบื้องหลังการสร้างผลงานของพวกเขากัน
ทำไมถึงเรียกว่าเป็นแนว Cold & Dark Wave
ตั๋ง: จริง ๆ ไม่แน่ใจเลยว่าจะจำกัดความยังไง ตอนทำมันเริ่มจากตั้งใจจะทำคอร์ดเพลงและเมโลดี้ร้องให้เน้นอารมณ์มาก ๆ ออกมู้ด soul folk เศร้าแบบสวยงาม เนื้อหาเข้มข้น แล้วก็มีการใช้ซาวด์ซินธ์ที่มีเมโลดี้เยอะ โดยได้อิทธิพลจากเพลง electronic ยุค 80s พวก synth wave หรือ cold wave ที่เขาจะเน้นเสียง synth arpeggiator จัด ๆ ซึ่งเป็นการเล่นไล่โน้ตตัวเดียวเป็นคอร์ดวน ๆ และจะมีบีทดนตรีกึ่งเต้นรำอิเล็กทรอนิกแบบ slow tech house เต้นโยกช้า ๆ หนืด ๆ แล้วมาผสม ๆ ยำ ๆ จนจบลงที่กีตาร์ร็อกจากแบงค์ ปนเปมาก (หัวเราะ) ไม่รู้จำกัดความยาวไปไหม
แบงค์: ใช่ครับ จำกัดความค่อนข้างยากนะ สำหรับการตีความในแบบพวกเรา ทั้งเสียงร้องและดนตรียังอยู่ในโซนที่เป็น Cold & Dark Wave ครับ ไลน์กีตาร์ของผมเองก็จะแฝงความเป็นตัวเองค่อนข้างสูงเลยมีความร็อก แต่ก็ผสมด้วยภาคของ modulation ที่ทำให้กีตาร์มีความเป็น ambient มากขึ้นให้ฟังดูหลอกหลอนล่องลอยครับ
ชื่อ Liquid มาจากอะไร
ตั๋ง: ทีแรกเราอยากได้ชื่อสั้น ๆ ธรรมดา ๆ ชื่อนี้เราตั้งหลังจากทำเพลงซิงเกิ้ลแรก Keep It Away เสร็จ เรารู้สึกว่าเพลงมีความไหลลื่นของซาวด์จาก analog synth filter เยอะ เวลาฟังเหมือนจมอยู่ใต้ทะเลอึดอัด ๆ แล้วค่อย ๆ ตะกายว่ายขึ้นมาเห็นแสงสว่าง ได้หายใจ เพลงมันไหล ๆ หนืด ๆ เหมือนของเหลว
แบงค์: ง่าย ๆ เลยคือถ้าได้ฟังแล้วทุกคนคงรู้สึกแบบเดียวกันแหละครับว่าทำไมถึงต้องชื่อนี้
ความโดดเด่นในเพลงของเราต่างจากวงอิเล็กทรอนิกวงอื่น ๆ ยังไง
ตั๋ง: น่าจะเป็นเพลงอิเล็กทรอนิกที่มีการร้องแบบจัดจ้าน ดนตรีมีการผสมผสานคนละสายพันธุ์เพลง
การทำงานเจอความยากง่ายจากอะไรบ้าง
ตั๋ง: ของเราคือยากตรงทำใจนานกว่าจะปล่อยเพลง เพราะกลัวคนไม่ค่อยฟังเพลงอึน ๆ ทึม ๆ เศร้า ๆ แบบนี้ ส่วนถ้าพวกดนตรีก็น่าจะเป็นการจัดการมิกซ์เพลง ตอนแรกเพลงรกมาก ๆ แต่สุดท้ายอยากให้มัน minimal น้อย ๆ ต้องตัดไปหลายเสียง ซึ่งตอนนี้ก็ยังเยอะอยู่ (หัวเราะ) ส่วนความง่ายของเราคือส่งเพลงไปให้แบงค์ทำต่อ แบงค์ทำส่งกลับมาถูกใจแบบไม่ต้องอธิบาย ไม่ต้องแก้อะไรเลย
แบงค์: ความยากอย่างแรกคือผมต้องเล่นกีตาร์กับดนตรีอิเล็กทรอนิก ซึ่งได้เล่นด้วยกันเป็นครั้งแรกก็มีงงเหมือนกันครับเวลาที่เราจะต้องคิดไลน์กีตาร์ให้เข้ากับดนตรีประเภทนี้ (หัวเราะ) เรื่องฟีลลิ่งต่าง ๆ ของเสียงก็อาจจะต้องมีการปรับนิดหน่อยครับ เพราะตอนที่ทำวง Nodiction มันเป็นแบบที่ต้องใส่ความรุนแรงของเสียงค่อนข้างเยอะ และจะมีความกระด้างกว่า ทีนี้ก็เลยต้องปรับตามอารมณ์เพลง ลดความรุนแรงลงไป ใส่ความล่องลอยเพิ่มเข้าไปครับ นอกนั้นการทำงานก็ง่าย ๆ ไม่ติดขัดอะไรเลย โดยพี่ตั๋งจะส่งตัว demo ของเพลงนั้น ๆ มา ผมก็จะเอามาคิดไลน์กีตาร์ส่งกลับไปให้พี่ตั๋งอีกทีครับ ถ้าโอเคแล้วก็นำไปจัดการ edit และ mastering ครับ
คิดยังไงกับการหยิบด้านลบหรืออารมณ์ด้านมืดมาสร้างเป็นงานศิลปะ
ตั๋ง: ไม่แน่ใจว่าตั้งใจไหม ตามปกติเราค่อนข้างจะคิดเชิงมืด ๆ อยู่แล้วจากประสบการณ์ที่ไม่ได้เจอโลกสวยมาตลอด พอถ้าจะให้คิดอะไรสร้างสรรค์แบบไม่มีข้อจำกัดก็จะอัตโนมัติออกมามืดเลย เพื่อนที่ทำเพลงเคยบอกว่าคอร์ดที่เราเล่นจะเป็นคอร์ดทางนี้ตลอด กับอีกที่เราคิดว่ามันเป็นแรงบันดาลใจที่มีความซับซ้อนในเชิงอารมณ์แบบที่ส่วนตัวเราชอบ ไม่เบื่อเร็ว และเป็นสื่อสัมพันธ์กับคนที่มีความรู้สึกเหมือนกันโดยเขาจะเสพงานนั้นได้ค่อนข้างลึกซึ้ง
แบงค์: เหมือนพี่ตั๋งครับ คือจะชอบความคิดเชิงมืด ๆ หรืออารมณ์ในด้านมืด เวลาเล่นดนตรีออกมาก็จะชอบใช้ทำนองที่มีความมืด ๆ หลอน ๆ อยู่แล้วด้วย ถ้าให้คิดเอาด้านสวยงามหรือด้านสว่างออกมาคงไม่ถนัดเท่าไหร่ครับ และผมว่าคนที่เสพงานของเราก็จะได้เห็นในอีกมุมมองในงานศิลปะด้วยครับ
เพลงของ Liquid จะเป็นสไตล์นี้ตลอดเลยหรือเปล่า
ตั๋ง: เท่าที่ทำมา 3 ซิงเกิ้ล ก็จะใช้ซาวด์และวิธีคิดเพลงคล้าย ๆ กันนะ ก็น่าจะโทนนี้ตลอด แค่เร็ว ช้า สนุก เศร้าต่างกัน เพลงที่ 4 เป็นไงแบงค์ ที่เพิ่งส่งไป
แบงค์: ครับ การใช้ซาวด์กีตาร์ของผมจะไม่ฉีกออกจากกันมากเช่นกัน แล้วแต่ละเพลงจะมีจุดเด่นของการใช้ซาวด์จากพี่ตั๋งที่ต่างกันอยู่แล้วครับ ก็จะเน้นคิดในส่วนของกีตาร์ให้เข้าตาม mood ของเพลงนั้น ๆ ครับ
จะได้ฟังเพลงใหม่เมื่อไหร่ และจะได้ดูสดเร็ว ๆ นี้ที่ไหน
ตั๋ง: ตอนนี้รอแบงค์ใส่กีตาร์ อัดร้อง และมิกซ์อีกที ส่วนเล่นสดเรารอเพลงครบเซทและกำลังหามือกลองมาเสริมอยู่ และคงต้องรอลุ้น feedback คนฟังด้วยว่าเป็นไงกับเพลงหนัก ๆ แบบนี้ ตอนนี้ก็ยังรู้สึกว่าได้รับตอบรับน้อยมาก ๆ
ติดตามความเคลื่อนไหวของ Liquid ได้ทาง Facebook Fanpage, Comet Records BKK และรับฟังเพลงของพวกเขาบนฟังใจได้ ที่นี่