ชายหนุ่มกับหญิงสาวที่สบตากันหนึ่งครั้งบนรถไฟใต้ดิน จะลงเอยด้วยการเต้นรำด้วยกันไปตลอดชีวิต

Anima คืออัลบั้มเดี่ยวอันดับที่สามของ Thom Yorke ศิลปินผู้ปราดเปรื่องที่ควบตำแหน่งนักร้องนำของวงระดับโลกอย่าง Radiohead ที่ถ่ายทอดความวิตกกังวลของชีวิตนักสร้างสรรค์ที่เจอทางตันได้อย่างคมคาย โดยหยิบไอเดียการทำลูปดนตรีออิเล็กทรอนิกมาปรับใช้กับสไตล์ตัวเอง แล้วส่งเพลงที่ยังทำไม่เสร็จทั้งหมดไปให้โปรดิวเซอร์คู่บุญอย่าง Nigel Godrich จัดการที่เหลือให้ แล้วใช้เวลาที่เหลือไปกับการเขียนเนื้อเพลงเองทั้งหมด ซึ่งแน่นอนว่ากวาดคำวิจารณ์จากทั่วโลกไปมากมาย แถมยังได้เข้าชิงรางวัลแกรมมี่ในฐานะ Best Alternative Music Album อีกด้วย และเขาไม่ได้หยุดอัลบั้มนี้ไว้แค่เป็นเพลงที่ดีอีกเพลงหนึ่งของตัวเอง แต่ต่อยอดไปสู่งานแสดงด้วย จนกลายเป็นหนังชื่อเดียวกับอัลบั้มนี้

มันหนังสั้นความยาว 15 นาที ที่พูดถึงโลกดิสโทเปียที่มนุษย์ตกอยู่ภายใต้ระบบหรืออำนาจบางอย่าง จนทุกคนมีชีวิตอยู่ไปวัน ๆ ภายใต้แรงกดดันของสังคม จนเมื่อผู้ชายคนหนึ่งบังเอิญไปสบตากับผู้หญิงคนหนึ่งบนรถไฟใต้ดิน ทำให้เขาออกตามหาความหมายของชีวิตและทำความเข้าใจตัวตนของตัวเอง โดยมีแรงบันดาลใจมาจาก one-reeler ม้วนฟิล์มที่มีความยาวเพียงไม่กี่สิบนาที เป็นที่แพร่หลายในยุคหนังเงียบมาก ในหนังยังเคล้าความเป็นตลกยุคก่อนแบบ Charlie Chaplin อีกด้วย เล่าผ่านเพลง 3 เพลงในอัลบั้มนี้ของเขา ต่างซีนต่างอารมณ์

Not the News คือเพลงแรกที่ถูกหยิบนำมาใช้ในซีนรถไฟใต้ดิน ที่อธิบายถึงชีวิตประจำวันอันไร้จุดหมาย ด้วยจังหวะเสียงสังเคราะห์ที่โดดเด่นมันลงตัวกับท่าเต้นในซีนนี้ได้อย่างประหลาด ลูปการเต้นที่เหมือนหุ่นยนต์อันเหน็ดเหนื่อยแต่ก็ต้องเต้นรำตามระบบต่อไป กล่องอาหารการวันที่เธอ(ตั้งใจ?)ลืมทิ้งไว้ เหมือนเป็นความปรารถนาที่ผู้ชายอยากหยิบยื่นกลับไปให้ ทำให้เธอวิ่งออกไปตามหาเธอทันที แต่กลับออกตามประตูที่กำหนดไว้ไม่ได้ และโดนดึงผ่านป้าย What happens to your dream? หายไป

ในเขาวงกตอันซับซ้อนแสงและเหงาฉายสลับกันไปมาเพื่อสื่อถึงความเป็นภาพฝัน Traffic ทำให้จิตใต้สำนึกทั้งน่าค้นหาและน่าพรั่นพรึงไปพร้อมกัน การเดินสวนทางของทอมทำให้ระบบชิปหายไปหมด แต่สุดท้ายก็ต้องเจอกับกำแพงสีขาวที่เหมือนความคาดหวังของสังคม การที่เขาเห็นผู้หญิงคนนี้อยู่ที่ยอดกำแพงในความฝัน ทำให้เขาต้องกลับเข้าสู่ระบบและได้แต่ทำตามสิ่งที่ทุกคนอยากให้ทำต่อไป ด้วยความคาดหวังว่าเขาจะไม่ทำให้คนอื่นพังไปด้วย แต่สุดท้ายเขาก็ไม่สามารถทำได้เหมือนคนอื่น และตกลงสู่ห้วงความผิดหวังในโลกทุนนิยม

เมื่อตื่นขึ้นมา เขากลับพบว่าผู้หญิงที่เขาตามหาคอยยืนอยู่ข้าง ๆ เขาตลอดเวลา ก่อนทั้งสองจะเต้นรำใกล้ชิดกันมากขึ้นเรื่อย ๆ เล่าความอ่อนโยนของคู่รักได้งดงาม ห้อมล้อมไปด้วยคู่รักต่าง ๆ ทั้งคู่รักต่างเพศและคู่รักร่วมเพศ (บางคนก็มาคนเดียวด้วยซ้ำ) ที่อยากไปให้ถึงจุดมุ่งหมายของความสุข Dawn Chorus ช่วยทำให้มันทั้งโรแมนติก ลึกลับ หวานปนเศร้าเล็ก ๆ จนทั้งสองได้ขึ้นรถไปด้วยกันและรอรับแสงจากวันใหม่

ในดิกชันนารี นอกจาก Anima จะแปลว่าจิตวิญญาณได้แล้ว มันยังมีความหมายอีกอย่างคือ “the feminine principle, especially as present in men” ความเป็นหญิงที่พบเห็นได้ในผู้ชาย เราได้เห็นว่าทอมไม่ได้เป็นผู้ชายในแบบที่สังคมคาดหวังเลย ไม่สามารถยืนหยัดอยู่ในระบบได้ด้วยซ้ำ แต่เขากลับแสดงความรักได้อย่างอ่อนโยนเหมือนทุกคน ๆ ที่มีความรัก จริง ๆ มันอาจเป็นความรู้สึกลึก ๆ ภายในจิตใจของ Thom ที่อยากบอกกับ Dajana Roncione ผู้หญิงในเรื่องซึ่งก็คือแฟนของ Thom นั่นเอง ว่าเขารู้สึกกับเธอมากแค่ไหน

หนังเรื่องนี้ยังรวมยอดมนุษย์ในวงการไว้ทั้งหมด ทั้งกำกับโดย Paul Thomas Anderson ที่คุ้นเคยกับ Thom และ Radiohead เป็นอย่างดีจากงานกำกับ mv สุด abstract Daydreaming นั่นเอง แถมยังชักชวน Damien Jalet จาก Suspiria มาช่วยออกแบบท่าเต้นในหนังให้ด้วย และแน่นอนว่าด้วยความคิดสร้างสรรค์อันไร้ขีดจำกัดของ Thom Yorke นี่เองที่ทำให้เราได้สัมผัสมิติใหม่ของดนตรี ว่ามันต่อยอดเป็นอะไรได้อีกมากมาย ไม่ยึดติดอยู่แค่การเป็นเพลงที่น่าฟังเท่านั้น เป็นหนังอีกหนึ่งเรื่องที่ไม่ควรพลาดบน Netflix

• Twitter
• Line