Ambient แนวดนตรีเพื่อเสริมสร้างบรรยากาศในการใช้ชีวิต

  • Writer: Piyakul Phusri

ถ้าจะมีแนวเพลงซักแนวที่ใจกว้างกับคนฟังในระดับที่ว่าถ้าได้ยินเสียงเพลงแนวนี้คุณจะฟังก็ได้ ไม่ฟังก็ไม่ว่ากัน ถ้าตั้งใจฟังก็ดี แต่ถ้าได้ยินแล้วเฉย ๆ ก็ตามนั้น เห็นจะไม่มีแนวเพลงไหนใจกว้างไปกว่าดนตรีแนวแอมเบียนต์ (ambient) ซึ่งจะว่าไปแล้ว น่าจะเป็นแนวดนตรีที่ให้ความเป็นอิสระกับคนทำเพลงและคนฟังเพลงสูงมากที่สุดแนวหนึ่ง เพราะเพลงแอมเบียนต์เกือบทั้งหมดไม่เล่าเรื่องราว ไม่บอกความต้องการว่าเพลงนี้จะพูดอะไรกับเรา แต่ในตัวเพลงก็กำลังสื่อสารอะไรบางอย่างอยู่กับตัวเรา รวมถึงถ่ายทอกบรรยากาศรอบตัวอยู่ตลอดทั้งเพลง คำว่า ‘ambient’ มีรากศัพท์มาจากคำว่า ‘ambire’ เป็นภาษาละติน แปลว่า ‘โดยรอบ’ (to surround) ดนตรีแอมเบียนต์ทั่วไปมักเป็นเสียงสังเคราะห์จากซินธิไซเซอร์ หรือเสียงเครื่องดนตรีอะคูสติก เช่น เปียโน เครื่องสาย หรือ เครื่องเป่า ที่วางอยู่บนทำนองเนิบช้า เป็นเสียงซ้ำ ๆ ที่บ่อยครั้งมักจะมีเสียงจากธรรมชาติ เช่น เสียงหยดน้ำกระทบผิวน้ำ เสียงใบไม้กระทบกัน เสียงลมพัดผ่านช่องเขา ฯลฯ มาผสมผสานกันจนออกมาเป็นเสียงดนตรีที่โดดเด่นในเรื่องบรรยากาศของเสียง โดยเฉพาะบรรยากาศของความสงบทางจิตใจ ที่เกิดขึ้นผ่านประสาทสัมผัสทางเสียง ลองนึกถึงภาพห้องเปล่าๆ สองห้อง ที่มีเครื่องเสียงหนึ่งชุดตั้งอยู่ตรงมุมห้อง ห้องหนึ่งเปิดเพลงเมทัลดังสนั่น อีกห้องเปิดเพลงแอมเบียนต์เบาๆ ไม่ว่าเราจะตั้งใจฟังหรือไม่ก็ตาม เสียงเพลงเมทัลก็จะเป็นสิ่งที่ดึงดูดความสนใจเกือบทั้งหมดที่เรามีต่อห้องแรกไปหามัน ด้วยความดังของเสียงและสไตล์ดนตรีที่ดุดัน แต่ในขณะเดียวกัน เสียงเพลงแอมเบียนต์ในห้องที่สองอาจจะทำให้เราสนใจในเสียงนั้นชั่วครู่ ก่อนที่จะเริ่มพิจารณาถึงองค์ประกอบของห้องว่ามีอะไรบ้าง เป็นอย่างไรบ้าง และเสียงเพลงแอมเบียนต์ก็จะถอยกลับไปเป็นส่วนหนึ่งของบรรยากาศโดยรวมของห้อง … Continued