เพลงย้วยล่าสุดจาก Summer Dress พร้อม mv ที่ฉันก็ว่า ดีออก

  • Writer: Montipa Virojpan

หลังจากที่พวกเขาได้ปล่อยอัลบั้มเต็มชุดที่สอง Serious Music ออกมาเมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา พร้อมกับซิงเกิ้ลเปิดตัว 1917 และเพลงสุดละเมียดไพเราะ Sound Scape มาให้ได้ฟังกันอย่างพร้อมเพรียงบนสตรีมมิงและออนไลน์มีเดียต่าง ๆ ล่าสุด พวกเขาปล่อยเพลงซิงเกิ้ลที่สามออกมาแบบไม่ให้สุ้มให้เสียง พร้อมมิวสิกวิดิโอตัวแรกของอัลบั้มที่ได้ โตคิณ ฑีฆานันท์ ผู้กำกับคู่ใจมาช่วยตีความให้เพลงยิ่งยียวนขึ้นไปอีก เราจะได้พบกับนักแสดงที่คุ้นหน้ากันดี ทั้ง จูน Stylish Nonsense เม้ง Desktop Error กล้วย จริญตนาใก และ ทอมมี่ Srirajah Rockers มารับบทกวน ๆ ใน mv สนุก ๆ ได้กลิ่นอายแบบเกมโชว์จับคู่ยุค 70s ร่วมด้วยนางเอกสุดปัง ตาล—ปทุมวรรณ กุลปรียาวัฒน์ ที่ร่วมแข่งขันในรายการ The Face นั่นเอง ดีออก เพลงอินดี้ป๊อปที่ผ่านการผสมผสานอิทธิพลกลิ่นอายโซลสมัยใหม่ มาปรับให้มีดนตรีแบบ Summer Dress ที่ยังเน้นซินธิไซเซอร์และกีตาร์ แต่ถูกปรับสไตล์กรเล่นให้ย้วยยานต่างจากอัลบั้มแรกโดยสิ้นเชิง คือแม้จะมีความเพราะและดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น แต่ด้วยเรื่องราวในเพลงและซาวด์บางอย่างในนั้นก็ทำให้สัมผัสถึงความขี้เล่นที่มีอยู่ในตัวพวกเขา เนื้อหาของเพลงนี้มีที่มาจากการที่ แนท มือกีตาร์ฮัมทำนองภาษาต่างดาวขึ้นมาระหว่างแจม แล้วพอเต๊นท์ นักร้องนำได้ยินเป็นคำว่า … Continued

See You Next Time, Youth Brush จนกว่าเราจะพบกันใหม่

  • Story and photos by: Kanawut Krutnangrong

24 เมษายน 2560 ช่วงประมาณต้นเดือน เราเห็นสเตตัสในเฟสบุ๊กส่วนตัวของพี่ดุ่ย หรือ Youth Brush ถามว่าถ้าจัดคอนเสิร์ตจะมีใครมาดูไหม จากการซาวด์เสียงก็ดูมีคนตอบรับกันเยอะทีเดียว ทำให้สัปดาห์ต่อมา ก็มีการประกาศจากแฟนเพจอย่างเป็นทางการว่าจะมีงานจัดที่ Brownstrone อ่อนนุช โดยเจ้าตัวจะไม่เก็บค่าใช้จ่ายใด ๆ นอกเสียจากว่าถ้าฝนตกจะขอเก็บคนละ 80 บาทเป็นค่าเช่าพื้นที่ภายในของร้าน ความเรียบง่ายนี้ทำให้เราชื่นชมในตัวพี่ดุ่ยเสมอมาทั้งตัวผลงานและตัวของเขาเอง  เรามาถึงงาน ตัวงานไม่ใหญ่มาก คนฟังกำลังดี หาที่นั่งฟังได้สบาย บนเวทีมีพี่ดุ่ยกับรุ่นน้องของเขา เวลาสองทุ่มนิด ๆ พี่ดุ่ยก็เริ่มบรรเลงเพลงของเขา เพลงที่เล่นในงานมีตั้งแต่เพลงจากอัลบั้มแรก The Luncheon on The Grass  ได้แก่เพลง ไหน, พบ, คนหนึ่ง, umm และ แรก อัลบั้มสอง Dialogue of the Familiars ทั้ง Best Daughter, ให้, ไป, Turn, เพลงที่ชอบ, นานกว่า และอัลบั้มสาม Old Man on His Heaven ไม่แปลก, ยังไม่นอน และเพลงล่าสุด เธอของเธอ ทุกอย่างดำเนินไปอย่างเป็นกันเอง คนฟังตั้งใจฟัง คนเล่นตั้งใจเล่น แถมชวนคุยด้วยระหว่างโชว์ ทุกเพลงที่เล่นเข้ากับบรรยากาศยามดึกที่แม้จะอบอ้าวหน่อย ๆ แต่เพลงก็ทำให้ผ่อนคลายได้ โดยเฉพาะเพลง … Continued

วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า บทเพลงแสนปวดร้าวของคนขี้งอนจาก แม็กซ์ เจนมานะ

  • Writer: Teeraphat Janejai

‘วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า’ ซิงเกิลเพลงที่2 ของ ‘แม็กซ์ เจนมานะ’ จากอัลบั้มอีพี Let There Be Light ทำความรู้จักกับเพลง ‘วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า’ หลังจากปล่อยให้พวกเราได้เคลิบเคลิ้มไปกับเสียงกีตาร์พริ้วไหวและเสียงร้องนุ่ม ๆ กับ Wine ซิงเกิลแรกจากอัลบ้ัม EP ที่มีชื่อว่า Let There Be Light ของ แม็กซ์ เจนมานะ ใช้เวลากว่าสองปีในการตกตะกอน แต่งเพลงออกมาทั้งหมด 6 เพลง เรียงลำดับตามช่วงเวลาตั้งแต่หัวค่ำจนถึงเช้าที่เขาใช้เวลาในการแต่งเพลงทั้งหมด และแม็กซ์ก็ไม่เว้นวรรคให้พวกเราได้สติ ปล่อยซิงเกิลที่สองออกมาซึ่งมีกลิ่นอายแบบคันทรีในชื่อเพลงว่า วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า ซึ่งเป็นก้าวต่อไปที่เข้าสู่ความมืดอย่างเต็มตัว เล่าในรูปแบบของนิทาน กล่าวถึงคนบางคนที่ทอดทิ้งเราไปในช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุด จากการที่เขาหันหลังให้เราอย่างไร้เยื่อใยและโยนความรู้สึกแย่ ๆ ให้เรารับผิดชอบ กลับกลายเป็นชนวนที่ทำให้เราตัดสินใจมุ่งหน้าเข้าสู่ความมืดมิด หวังเพียงว่าจะพบความสงบที่สามารถทำให้เรารู้สึกดีขึ้นได้ แต่ทว่าในใจลึก ๆ ก็ยังคงหวังอยู่เสมอว่าเขาจะรับรู้ถึงการหายไปของเรา จะว่าไปก็เหมือนเป็นบทเพลงแสนปวดร้าวของคนขี้งอนน้อยใจ รับฟังเพลง วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า จากแม็กซ์ เจนมานะบนเว็บไซต์ฟังใจได้ ที่นี่

Mattnimare สุดเจ๋ง คว้า 2 รางวัลในงานสีสันอะวอร์ดส์ ครั้งที่ 28

  • Writer: Natcha Ampanchai

งานประกาศรางวัลแห่งวงการดนตรีประจำปีของ สีสัน อะวอร์ด ได้กลับมาอีกครั้ง โดยครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 28 ประจำปี 2559 Mattnimare เข้าชิง 4 รางวัลด้วยกัน คือ ศิลปินกลุ่มยอดเยี่ยม, อัลบั้มยอดเยี่ยม จากอัลบั้ม The Regime, ศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยม และเพลงในการบันทึกเสียงยอดเยี่ยมจากเพลง รอยต่อ นอกจากนั้นพวกเขายังได้โชว์เพลง รอยต่อ ในงานนี้อีกด้วย สร้างความตื่นตาให้เหล่าคนวงการดนตรีได้เป็นอย่างดี งานนี้ Mattnimare สามารถคว้าไปทั้งหมด 2 รางวัล คือ รางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยม และ รางวัลเพลงในการบันทึกเสียงยอดเยี่ยมจากเพลง รอยต่อ ไปครอง ถือว่าเป็นอีกหนึ่งศิลปินร็อกที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสามารถที่น่าจับตามองในวงการดนตรีอีกหนึ่งวงเลยทีเดียว เตรียมพบกับซิงเกิลใหม่ของพวกเขาที่จะทำให้ทุกคนต้องตื่นเต้นไปตาม ๆ กันได้ในเดือนพฤษภาคมนี้

เมื่อภาพวาด และดนตรี กลายเป็นเครื่องมือเล่าเรื่องชั้นดีของ ทรงศีล ทิวสมบุญ

  • Writer: Montipa Virojpan
  • Photographer: Chavit Mayot

บุคคลที่เรากำลังจะพูดคุยด้วยในบทความนี้อาจไม่เป็นที่รู้จักมากเท่าใดนักในซีนดนตรี แต่ถ้าใครเป็นแฟนนิยายภาพฝีมือชาวไทยอยู่แล้ว คงเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่คุ้นชื่อของเขาผู้นี้ อัพ—ทรงศีล ทิวสมบุญ เจ้าของผลงาน ‘ถั่วงอกและหัวไฟ’ รวมถึงงาน graphic novels อีกมากมายที่ถูกนำเสนอสู่สายตาผู้อ่านมากว่าสิบปี และเมื่องานสัปดาห์หนังสือครั้งที่ผ่านมา เขาส่งหนังสือเล่มล่าสุด อาจจะเรียกว่าเป็นชีวประวัติภาคต่อของ Bobby Swingers คาแรกเตอร์ที่สร้างชื่อให้เขาก็เป็นได้ (เอ๊ะ หรือมันจะไม่เกี่ยวกันเลยนะ) แต่พิเศษกว่านั้นคือในหนังสือเขาได้ฝากผลงานเพลงที่ลงมือสร้างสรรค์เองทุกขั้นตอนมาให้เราได้ลองฟังกันด้วย ถ้าใครได้ฟังงานเพลงก่อนหน้านี้ของเขามาบ้างก็จะพบว่าเขาเป็นอีกศิลปินที่ไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ ตอนนี้เรามารู้จักกับเขาให้มากขึ้นกันเลยดีกว่า Bobby Swingers คือใคร จริง ๆ มันคือคาแรกเตอร์หนึ่งในหนังสือของเรา ตอนเขียนถึงเขาในเล่มแรกเราทำออกมาเป็น mocumentary โดยบอกไปว่านี่เป็นประวัติวงดนตรีวงหนึ่งที่เราเอามาวาดเป็นนิยายภาพ เล่าเรื่องเขาตั้งแต่ชีวิตตอนเรียนมหาลัย แล้วยังตั้งข้อสงสัยว่าเขาเป็นนักฆ่าด้วยหรือเปล่า ให้มีฉากที่แฟนของเขาเสียชีวิต แล้วเขาก็ไปข้องเกี่ยวกับศาสตร์มืด ซึ่งเรื่องทั้งหมดเราเขียนออกมาเหมือนเราทำสารคดีจริง ๆ อย่างการเขียนสับขาหลอกว่า ‘เราก็ไม่อยากเขียนแบบนี้นะ แต่เราจะเล่าให้ตรงกับความจริงมากที่สุด’ หลายคนก็เลยเข้าใจว่าคนนี้มีจริง ๆ ซึ่งเราก็ชอบที่เขาจะเข้าใจกันแบบนั้น พอเราเขียนหนังสือเกี่ยวกับนักดนตรีในนั้นก็เลยแถมซีดีด้วย ซึ่งมันน่าจะทำให้คนอ่านจะอินมากขึ้นไปอีกถ้าได้ฟังเพลง ซึ่งเราก็ทำเองอีกนั่นแหละ สังเกตว่าวงดนตรีนอกหลาย ๆ วงก็มักจะมี myth ทำนองนี้ คิดว่าการที่มีเรื่องราวหรือตำนานวงดนตรีมันเป็นเรื่องจริงหรือเป็นเรื่องการตลาดที่เขาแต่งขึ้น มันก็แล้วแต่นะ แต่อย่างการเล่นดนตรีของเรามันมีขึ้นและลงจนเราไม่คิดถึงเรื่องการตลาดอะไรแล้ว ที่ทำตอนนี้เพราะเราทำได้และอยากทำ … Continued

รวมมิวสิกวิดิโอน่าดู ประจำเดือนเมษายน 2560

  • Writer: Montipa Virojpan

เป้ อารักษ์ แอนด์ เดอะปิศาจแบนด์ – รอ (wait) เมื่ออัลบั้มล่าสุด Wood and Steel ของ เป้ อารักษ์ แอนด์ เดอะปิศาจแบนด์ ได้ส่งเพลง รอ ออกมาให้เราได้ดูภาพประกอบเพลงกันเป็นครั้งแรกเมื่อไม่กี่วันก่อน ในงานนี้เราจะได้พบกับเซอร์ไพรส์หลาย ๆ ระลอก ซึ่งเป็น plot twist ที่ตบหน้าเราแรงเหมือนกัน แน่นอนว่าเราไม่สามารถเปิดเผยส่วนสำคัญในวิดิโอได้ แต่ที่แน่ ๆ คือมีน้าค่อม ชวนชื่น ดาราตลกค้างฟ้ามารับบทดราม่าในเพลงนี้ อยากรู้เป็นไงต้องไปค้นพบเรื่องราวเอาเอง My Life as Ali Thomas – KISS วงนี้เขาก็ไม่น้อยหน้า ควักไม้เด็ดมาใช้โดยดึงตัวเอานักแสดงฮอลลิวู้ดในตำนาน (อันนี้พูดจริง เขาเคยเล่นหนังฟอร์มใหญ่มาก่อน) อย่าง Michael Selby นักร้องนำและมือคีย์บอร์ดสุดฮอตจากวงฟังก์ The Lowdowns มาเป็นพระเอก mv ซึ่งความพิเศษนอกจากความหล่อของพระเอกแล้ว เรื่องราวในนี้น่าจะมีความเชื่อมโยงกับสาวกวางน้อยที่วิ่งหลงอยู่ในป่านาม Cordelia … Continued

Record Store Day วันที่คนรักแผ่นเสียงตั้งตารอให้วนกลับมาทุกปี

  • Writer: Montipa Virojpan

บางคนอาจจะเคยได้ยิน Record Store Day มาบ้าง แต่อาจไม่รู้มาก่อนว่าวันนี้เขาทำอะไรกัน Fungjaizine จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับวันพิเศษของคนรักแผ่นเสียงให้มากขึ้นในย่อหน้าต่อไปนี้ Record Store Day แปลตรง ๆ ก็คือวันร้านขายแผ่นเพลงนั่นแหละ โดยไอเดียการจัดงานนี้เริ่มมีขึ้นตั้งแต่ปี 2007 เพื่อให้บรรดาร้านขายแผ่นเพลงอิสระและลูกจ้างจากกว่า 1400 ร้านทั่วสหรัฐอเมริกา และอีกหลายพันแห่งทั่วโลก ได้ร่วมเฉลิมฉลองการมีอยู่ซึ่งวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าของพวกเขาไว้ โดยงานครั้งแรกสุดเกิดขึ้นในวันที่ 19 เมษายน 2008 และในปีนี้ก็นับเป็นปีที่ 10 แล้วที่บรรดาผู้ประกอบกิจการร้านขายแผ่นจัดกิจกรรมนี้ขึ้น ซึ่งในหลาย ๆ รัฐในสหรัฐก็ถือเอาวันนี้เป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์กันเลยทีเดียว ส่วนในปีนี้ พวกเขาก็ได้จัดให้วันเสาร์ที่ 22 เมษายน เป็น Record Store Day ในปี 2017 นั่นเอง ความพิเศษของ Record Store Day คือ ร้านรวงต่าง ๆ จะมีการจำหน่ายซีดีและแผ่นเสียงเวอร์ชันพิเศษ รวมทั้งเกมชิงรางวัลที่บรรดาศิลปินหรือค่ายเพลงผลิตแผ่นขึ้นมาเพื่อการเฉลิมฉลองงานนี้โดยเฉพาะ ซึ่งนักเล่นแผ่นเสียงหลายคนจะตั้งตารอให้เว็บไซต์ประกาศรายชื่อแผ่น special edition อย่างเป็นทางการในทุก … Continued

เจ้าดอกไม้ตอนนี้เธอไปอยู่ไหน ? ต้องถาม The TOYS เจ้าของซิงเกิล หน้าหนาวที่แล้ว

  • Writer: Teeraphat Janejai
  • Photographer: Chavit Mayot

‘เด็กสมัยนี้โตไวเนอะ’ คือประโยคเปิดของเพลงหน้าหนาวที่แล้ว ของศิลปินหนุ่มหนึ่งเดียวนามว่า The TOYS ที่ทำผลงานด้วยตัวเองทุกขั้นตอน ตั้งแต่เนื้อเพลง เรียบเรียง และทำดนตรีในสไตล์ soul r&b แม้ว่าเมื่อฟังในครั้งแรกอาจจะรู้สึกว่าเพลงยังไม่เข้าที่เข้าทาง แต่ไป ๆ มา ๆ เราก็ฮัมเพลงนี้และร้องตามได้ในการฟังอีกไม่กี่ครั้งถัดมา ซึ่งด้วยยอดวิว 25 ล้านครั้งบน YouTube ของเพลงหน้าหนาวที่แล้ว พวกเราก็เห็นว่า The TOYS น่าจะไปได้สวยในเส้นทางนี้ และไม่นานเกินรอก็มีข่าวว่าเขาได้เซ็นสัญญากับค่าย What The Duck เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงสมควรแก่เวลาที่เราจะไปพูดคุยทำความรู้จักกับศิลปินหนุ่มผู้นี้ว่าเขาเป็นเด็กที่ไหนโตมาอย่างไร แนะนำตัวหน่อย สวัสดีครับ ผมชื่อ ทอย—ธันวา บุญสูงเนิน จริง ๆ แล้วผมเป็นศิลปินที่ไม่ได้เริ่มต้นมาจากการร้องเพลง ผมเล่นกีตาร์มาก่อน เคยเป็นแชมป์รายการ Overdrive Guitar Contest ครั้งที่ 9 แล้วพอวันหนึ่งผมมีโอกาสได้เรียบเรียงและโปรดิวซ์เพลงให้กับ Room39, เบียร์ The Voice, นิว – จิ๋ว … Continued

Playlist ของ เบนจมิน วาร์นี

  • Writer: Montipa Virojpan
  • Photographer: Chavit Mayot

Benjamin’s Playlist Childish Gambino – Redbone ชอบ Childish Gambino อยู่แล้ว แต่ผมเพิ่งได้ฟังเพลงนี้ Redbone ผมไม่ได้ฟังเนื้อหา ก็คิดว่าน่าจะชอบที่เมโลดี้ มันจะมีความเนี้ยบคูลในนั้นอยู่แล้ว มีความมินิมอลแบบไม่ต้องพูดเสียงดังมากก็ได้ Tame Impala – Mind Mischief ผมเป็นลูกครึ่งอังกฤษ แล้วพอ mv มันมีบรรยากาศความเป็นอังกฤษเราก็ชอบ ความที่เป็นเกาะหนาว ๆ ฝนตกตลอด โทนของสีมันจะซีด ๆ บ้านเมืองทรงอังกฤษกำแพงมันจะเป็นอิฐ ๆ รถเก่า ๆ มันจะรู้ได้เลยว่าถ่ายที่นั่นโดยไม่ต้องบอก แล้วชอบการที่เขาผสมผสานอนิเมชันเข้าไปเพื่อสื่อความหมายของ mv ให้สมบูรณ์ขึ้น ตอนแรกที่ดูก็งง ๆ ว่ามีคุณครูกับเด็กแล้วเกิดอะไรขึ้นวะ ทำไมอยู่ดี ๆ ไปอยู่ในรถ แล้วก็มันจะมีความลอยอยู่ ซึ่งเจ๋งดี เพราะเราสามารถดูมันใน state อื่น ๆ แล้วเข้าใจมันมากกว่าตอนมีสติ เช่นการดูดกัญชา Radiohead – 15 … Continued

Behind the Zine : ล้วงลึกเบื้องหลัง Fungjaizine เล่มเมษาน่าอยู่(บ้าน)

  • Writer: Montipa Virojpan
  • Photographer: Chavit Mayot
  • Art Director: Benyatip Sittivej

หลายคนคงเคยสงสัยว่ากองบรรณาธิการ Fungjaizine เขามีวิธีการวางแผนการทำงานยังไงกันบ้าง พอดี Canon เขาก็ออกพรินเตอร์ตัวใหม่น่าใช้มาก พ่วงมาด้วยกิจกรรม The Memory Catcher by Selphy CP1200 เราเลยอยากร่วมสนุกกับเขา โดยเอาบันทึกความทรงจำช่วงที่วางแผนงานกันสนุก ๆ มาเล่าแบบละเอียดยิบ ไขข้อข้องใจกันแบบไม่มีกั๊กไปเลย หลังจากการปิดเล่ม Fungjaizine เดือนที่ผ่านมาลุล่วงไปได้อย่างสวยงาม กองบรรณาธิการของเราจะมีเวลาได้หายใจหายคอกันอีกประมาณสองสามวัน ก่อนที่จะต้องกลับมานั่งคิดกันหัวแตกว่าเล่มต่อไปจะนำเสนอเรื่องราวของใครหรืออะไรดี ตามปกติแล้วนิตยสารทั่วไปมักจะคิดคอนเซปต์ให้สอดคล้องกับช่วงเทศกาลหรือเหตุการณ์สำคัญในเดือนที่เล่มต่อไปกำลังจะออก (เช่น ออกเดือนมกราก็จะทำเรื่องปีใหม่) Fungjaizine ก็ไม่ได้ต่างกันเท่าใดนัก เพียงแต่การคิดธีมเล่มของเราค่อนข้างเอาแต่ใจ และสนุกกับการสวนกระแสเป็นนิจ เช่น อาจจะอิงมาจากตัวศิลปินที่เราเลือกเป็นหลัก แล้วคิดต่อว่าคนที่เราเลือกมาเหมาะจะตีความเป็นธีมอะไรดี (เล่มรัสมี เราเลือกให้เป็นเล่มที่มีความ femininity จากเนื้อหาในเพลงของพี่แป้ง บวกกับความเป็นท้องถิ่นอีสานโดยใช้ผ้ากับดอกไม้ช่วยสื่อความ) หรืออาจจะมีสิ่งที่เรานึกถึงในเดือนนั้น ๆ เป็นหลักแล้วค่อยจับศิลปินมาผนวกให้เข้ากับธีม (อย่างเดือนธันวาคมก็จะมีวันพ่อ คริสต์มาส ใช่ไหม แต่เราขี้ต้านไง นึกถึงวันรัฐธรรมนูญ เอาพี่ป๊อก พี่ตุล มาขึ้นปก พูดเรื่องเสรีภาพทางดนตรีซะเลย) หรือบางทีก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันสักนิด แค่อยากทำแค่นั้นเอ๊ง (อยู่ดี ๆ ก็นึกถึงคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ที่เมื่อก่อนมักจะมีศิลปินจบการศึกษาจากคณะนี้เต็มไปหมด … Continued

เล็ก Greasy Cafe ชวนคนไทยออกมาทำอะไรอย่างมุ่งมั่นและตั้งใจผ่านซิงเกิ้ลพิเศษ 9

  • Writer: Malin Jairakthongtheaw
  • Photographer: Chavit Mayot

หลังจากห่างหายจากการออกอัลบั้มนานถึง 4 ปี ตั้งแต่ สิ่งเหล่านี้ (2008), ทิศทาง (2009) และ The Journey Without Maps (2012) และซิงเกิ้ลพิเศษในโปรเจกต์ Unique Journey อย่างเพลง เสมอ  ในปี 2013 เราก็ตั้งตาคอยให้เขาคลอดผลงานชุดใหม่ออกมาในเร็ววัน สำหรับ เล็ก—อภิชัย ตระกูลเผด็จไกร หรือ เล็ก Greasy Cafe พี่ใหญ่แห่งค่าย Smallroom และในที่สุดเขาก็ได้ปล่อยเพลง 9 (ก้าว) ออกมาให้เราได้ชิมลางก่อนเปิดตัวอัลบั้มใหม่กลางปีนี้ เพลง 9 (ก้าว) เป็นโปรเจกต์พิเศษของแสงโสมภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘คนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก’ ที่พูดถึงตั้งใจและความกล้าที่จะออกมาทำอะไรบางอย่าง หากเป้าหมายอยู่บนยอดพีระมิด เราจะกล้าปีนขึ้นไปหรือเปล่า โดยเนื้อหาของเพลงจะสื่อสารออกมาในรูปแบบของการให้กำลังใจในแง่ของการเข้าใจชีวิต ‘ พอได้ฟังคอนเซปต์เราก็ค่อนข้างสนใจ แต่มันยากอยู่เหมือนกันเพราะปกติเราไม่ค่อยได้เขียนมุมแบบนี้เท่าไหร่ เลยรู้สึกว่าครั้งนี้เป็นงานที่ท้าทายมาก และต้องแก้ไขเนื้อนานมากเป็นสิบ ๆ รอบ คือมันได้เนื้อมาประมาณหนึ่งแล้วแหละ แต่พอไม่เป็นไปตามที่เราอยากได้เลยต้องแก้ใหม่ ตอนนั้นรุ่นน้องคนหนึ่งพูดขึ้นมาประมาณว่าประเด็นของเราคือการที่ยังไม่เริ่มก็กลัวแล้วหรือเปล่า เหมือนยังไม่ได้ออกจากบ้านเลยแต่กลับกลัวนอกบ้านไปก่อนแล้ว ซึ่งเราคิดว่ามันน่าจะมีคนแบบนั้นอยู่เยอะเหมือนกัน เลยเลือกขยี้ในเรื่องนี้ จริง ๆ ทั้งหมดทั้งมวลของเพลงนี้มันหมายถึงตัวเราเองด้วยนะ เพราะตอนเขียนเพลงนี้เรามีรู้สึกว่ามันยากเกินไป … Continued

จ่าหน้า Song 002 : ขอเวลา (กลับบ้าน) นอก

  • Writer: Teeraphat Janejai

กดที่รูปเพื่อฟังเพลง ถ้าเรายังคิดถึงกัน (Meeting point) – Blue Shade ถึง : คนไกลบ้าน เด็กไทยแทบทุกคนเมื่อได้เล่นน้ำในวันสงกรานต์แล้วหนึ่งครั้ง ก็ย่อมเฝ้าคอยให้วันสงกรานต์วนกลับมาโดยเร็ว จนวันเวลาผ่านไปถึงช่วงที่ชีวิตมีรายละเอียด มีเรื่องราวที่ซับซ้อน มีภาระหน้าที่และความรับผิดชอบ อย่าว่าแต่เล่นน้ำวันสงกรานต์เลย แค่วันเกิดของตัวเองบางปีก็เผลอลืมไปเสียสนิท เมื่อผมไม่ได้เฝ้ารอคอยวันหยุดที่มีงานรื่นเริงเหมือนตอนเด็ก ๆ อีกต่อไป สงกรานต์ก็กลายเป็นแค่วันว่าง ๆ อีกห้าวันที่ไม่ค่อยเหมาะกับการออกไปทำกิจกรรมใด ๆ ข้างนอก จะไปไหนได้ แค่ก้าวเท้าออกนอกบ้านก็ยากแล้วที่ตัวจะไม่เปียก ถ้าไม่เปียกน้ำ ก็เปียกเหงื่อ จะไปเที่ยวต่างจังหวัดก็คงไม่ใช่ความคิดที่ดีเท่าไหร่เมื่อผู้คนกว่าค่อนประเทศต่างกำลังเดินทางจากที่หนึ่งกลับสู่บ้านเกิดโดยพร้อมเพรียงกัน เบียดเสียด หนาแน่น อึดอัด เป็นสามคำที่ทำให้ฤดูร้อนกลายเป็นหายนะทางอารมณ์ แต่ถึงกระนั้นแล้วแทบทุกคนที่จากบ้านมาไกลเพื่อมาเรียน ทำงานหรือไขว่คว้าความฝันต่างก็ยอมที่จะเผชิญกับมันด้วยความหวัง ความคิดถึง ความโหยหา ขอเพียงให้ได้กลับไปใช้เวลาเพียงไม่กี่วันที่บ้านซึ่งจากมาไกล วันสงกรานต์ของพวกเขาน่าจะมีความหมายต่างออกไปและมากกว่าผมหลายเท่านัก วันเวลาผ่านไปปฏิทินนับวันเปลี่ยนผัน แต่ในใจฉันบอกช้าเกินไป หลับฝันยังละเมอถึงวันได้เจอ สำหรับคนกรุงเทพ ฯ โดยกำเนิดอย่างผมที่ใช้ชีวิต เรียน และทำงานอยู่ที่นี่มาโดยตลอดย่อมไม่เข้าใจความรู้สึกของคนที่เฝ้ารอวันที่จะได้กลับบ้าน—ใช่ มันคงเหมือนคุณดูหนังรักพล็อตเดิม ๆ ที่คาดเดาตอนจบได้—เราทุกคนต่างรู้ว่าพวกเขารู้สึกคิดถึง คิดถึงบ้าน คิดถึงคนที่รัก คิดถึงข้าวจากหม้อข้าวใบเดิมและกับข้าวฝีมือแม่ คิดถึงเพื่อนสมัยมัธยม … Continued

Degaruda and Friends งานคืนถิ่นของวงดิบสายเดือด

  • Story and photos by: Montipa Virojpan and Widthawat Intrasungkha

8 เมษายน 2560 นานแล้วเหมือนกันที่เราไม่ได้แวะเวียนมาที่ร้านเบอเกอร์เล็ก ๆ ย่านพระราม 9 อย่าง Fatty’s Bar ที่นอกจากจะมีชิลลีด็อกกับฮาลาปินโญ่ป๊อปเปอร์สสุดอร่อยแล้ว ก็มักจะมีวงดนตรีเล็ก ๆ น่าสนใจแวะเวียนมาเล่นให้ได้ลองดูลองฟังกันอยู่บ่อย ๆ อย่างงาน Degaruda & Friends เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาก็เป็นอีกงานที่ดุเดือดทีเดียว เพราะมีวงดนตรีที่เคลื่อนไหวอยู่ในกระแสเพลงอินดี้อันเชี่ยวกรากอย่างเงียบเชียบ แต่มีผลงานที่น่าสนใจไม่แพ้วงที่ติดท็อปไฟฟ์ของชาร์ตดังทั้งหลายแหล่ ทั้ง Strange Brew, Abstraction XL, Hariguem Zaboy และ Degaruda เราไปถึงงานก่อนงานเริ่มได้พักนึง ก็ได้ทีสั่งเบอเกอร์และเบียร์มากินพอเป็นพิธี ระหว่างนั้น Strange Brew ก็กำลังซาวด์เช็กอยู่พลาง ๆ ก่อนจะเล่นเพลงแรกโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง ดนตรีไซคีเดลิกร็อก ซาวด์วินเทจ บางเพลงก็เป็นสโตนเนอร์ร็อกเดือดดาล หรือนำร็อกแอนด์โรลมาผสมความเมาย้วยยืดยาด บางเพลงก็มีลูกเล่นที่นึกจะเล่นเร็วก็เร็วแบบไม่ให้สุ้มให้เสียง หรือจะกลับไปช้าก็ไม่มีบอกกล่าวกันก่อน จะเรียกว่าเป็นวงที่เรียบเรียงเพลงได้ยียวนและมีเซอร์ไพรส์ตลอด แต่เพราะเหตุนี้เองเลยทำให้โชว์ของพวกเขามีความสนุกอยู่มาก และน้อยวงนักที่จะทำดนตรียุคเก่าได้ถึงแบบนี้ เนื้อเพลงที่เขียนลงไปก็มีความเก่าและเพราะอยู่ในคำ เพลงที่หยิบมาเล่นที่เราเคยฟังและพอจะจำได้ก็มี นวลนางบางแสน แสงดาว และ แพลงก์ตอนบลูม พวกเขาบอกว่าเร็ว ๆ … Continued

สิ้นสุด 14 ปีที่รอคอย Coldplay : A Head Full of Dreams Tour Live in Bangkok

  • Story and photos by: Montipa Virojpan

7 เมษายน 2560 เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาคงเป็นอีกวันที่หลายคนรอคอย บางคนรอมา 14 ปีหลังจากคอนเสิร์ตในไทยครั้งแรกของพวกเขา แต่บางคนต้องรอมาทั้งชีวิต (เพราะเกิดไม่ทัน) เราอาจจะเรียกตัวเองว่าเป็นบุคคลกลุ่มหลังก็ได้มั้ง เพราะได้ฟังเพลง Yellow โดยบังเอิญตอนม.ต้นแล้วชอบมาก ก็น่าแปลกอยู่เหมือนกันเพราะช่วงนั้นไม่ได้ฟังเพลงทางนี้เลย จนมาทันฟังจริง ๆ ก็ช่วงอัลบั้ม Viva la Vida or Death and All His Friends ไปแล้ว แต่พอรู้ว่า Coldplay จะมาไทย ก็ตัดสินใจที่จะไปอย่างไม่ลังเล ก่อนที่จะนำเข้าสู่ช่วงรีวิว ต้องขอออกตัวก่อนว่า เราไม่ใช่แฟนเพลงของ Coldplay ร้องได้ไม่กี่เพลง ส่วนใหญ่ก็เป็นอัลบั้มเก่า ๆ ด้วย แต่เหตุผลที่รู้สึกว่าต้องไปเพราะมีความเชื่อว่า นี่เป็นหนึ่งในวงที่ควรดูก่อนตาย (ตอนนี้ยังตายไม่ได้ ยังเหลืออีกหลายวง) มีผลงานออกมาอย่างยาวนานสม่ำเสมอ และเป็นที่กล่าวขวัญทั้งในเพลงและ performance เชื่อว่าคนฟังเพลงหรือนักดนตรีหลาย ๆ คนก็มีจุดเริ่มต้นที่วงนี้ กับอีกเหตุผลนึงคือเราได้ยินอยู่บ่อย ๆ ว่า A Head Full … Continued

ฉันไม่ชอบดูคอนเสิร์ต : 9 เหตุผลที่คนรักดนตรีเลือกจะฟังเพลงอยู่ที่บ้าน

  • Writer: Montipa Virojpan

เดือนมีนาคมที่ผ่านมา เหล่านักชมคอนเสิร์ตหลายคนต่างประสบปัญหาชักหน้าไม่ถึงหลัง จากการที่บรรดาศิลปินต่างประเทศพากันตบเท้ามาจัดคอนเสิร์ตในบ้านเราแทบจะทุกวีค ซึ่งแน่นอนว่าในช่วงโปรโมตงานจะมีเสียงตอบรับ(กรีดร้อง)ที่ดีมว้ากกก จนโปรโมเตอร์ต่างใจชื้นว่าบัตรต้อง sold out แน่ ๆ แต่ไป ๆ มา ๆ เมื่อถึงเวลาเช็กจำนวนคนที่กดซื้อบัตรยอดกลับไม่กระเตื้องสักนิด นอกจากหลาย ๆ สำนักจะตั้งข้อสังเกตถึงการที่บัตรขายไม่ออกนี้อาจจะเกิดขึ้นจาก กลุ่มเป้าหมายของคนที่เสพวงดนตรีเหล่านี้เป็นคนเดียวกันบ้าง หรือเป็นสายรอของฟรีไม่ยอมควักเงินใช้จ่ายให้กับดนตรีบ้าง หรือถ้าเป็นงานเฟสติวัลก็จะเจอปัญหา รู้จักวงเดียว ไม่ไปดีกว่าไม่คุ้มค่าบัตรบ้าง ตัวอย่างย้อนไปไม่ใกล้ไม่ไกล สักห้าปีที่แล้วมักจะมีคนบ่นว่าวงนี้โฉบมาแถวบ้านเราแท้ ๆ ไม่เห็นมีใครชวนมาเล่นเลย ซึ่งกรณีนี้มีปัจจัยที่อธิบายได้ สมัยก่อนที่ศิลปินวัดค่าความนิยมในต่างประเทศได้จากยอดขายเทปซีดีเพื่อประกอบการตัดสินใจในการมาโชว์ในประเทศนั้น ๆ แต่อย่างที่รู้กัน ยุคเปลี่ยนผ่านจากอนาล็อกมาเป็นดิจิทัลก็เกิดการแพร่ไฟล์ mp3 ทำให้คนบริโภคเพลงแบบ physical กันน้อยลง จากเดิมการที่คนฟังเพลงทางเลือกก็ยังเป็นวัฒนธรรมกลุ่มย่อยเพราะคนจะหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตก็ยากอยู่แล้ว หรือหาเพลงต่างประเทศฟังก็ต้องไป Tower Records หรือป้าโดเรมีเท่านั้น เลยยิ่งทำให้ศิลปินไม่เสี่ยงจะมาบ้านเราเท่าไหร่ แต่พอสมัยนี้เด็กรุ่นใหม่ ๆ เริ่มฟังเพลงที่หลากหลายมากขึ้น ศิลปินเริ่มปรับตัวกับวัฒนธรรมการฟังเพลงที่เปลี่ยนผันตามเทคโนยีทั่วโลกได้แล้ว สำหรับในไทยอันนี้ก็ต้องขอบคุณโปรโมเตอร์เจ้าแรก ๆ ที่พยายาม approach ไปยัง booking agency อยู่บ่อยครั้งจนศิลปินเกิดความไว้วางใจที่จะให้ออกาไนเซอร์นั้นนี้นำเข้าโชว์ของตัวเองมากขึ้นด้วย ต่อมาจึงเริ่มมีคนกล้าเป็นโปรโมเตอร์กันมากขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก ๆ … Continued