Nothing But Thieves วงร็อกจากอังกฤษที่เสิร์ฟความมันแบบเนียนกริ๊บได้ในทุกเพลง

Published

  • Writer: Montipa Virojpan
  • Photos by: The Very Company

2 สิงหาคม 2561 ต่อเนื่องกันติด ๆ ไม่มีหยุดยั้งหลังจากที่ไปสนุกสุดเหวี่ยงกันที่คอนเสิร์ต Mac DeMarco กันมาแล้ว วันถัดมาก็เป็นคิวของวงอัลเทอร์เนทิฟร็อกเดือด ๆ จากเกาะอังกฤษกันบ้าง Nothing But Thieves เจ้าของผลงานบาดลึกในความรู้สึกอย่าง If I Get High ที่มีแฟนเพลงชาวไทยหลายคนรอคอยการมาปรากฏตัวของพวกเขาที่กรุงเทพ ฯ กันอย่างเนืองแน่นทีเดียว เมื่อวานนี้เราไปถึงงานค่อนข้างเลตแล้วเพราะวงแรกเล่นตั้งแต่ทุ่มครึ่ง ตอนนั้นยังทำงานไม่เสร็จเลยจ้า สภาพการจราจรกรุงเทพ ฯ ก็เป็นอย่างที่ทราบกันดี ทำให้เราไปทันก็ตอน Mattnimare กำลังแสดงอยู่แล้ว แต่จากที่สอบถามเพื่อนผู้ไปร่วมงานก็ได้ความว่า วงก่อนหน้าซึ่งก็คือ Monomania อัลเทอร์เนทิฟร็อกมีเพอร์ฟอร์แมนซ์ที่น่าสนใจมาก ซาวด์ดีเล่นดีและขนเพลงฮิตเก่าใหม่มาบรรเลงทั้ง สาวน้อยหมวกแดง, การจากลา งานล่าสุดที่เพิ่งออกมาให้ได้ฟังกันไม่นานอย่าง ปล่อย และเพลงร้าวรานอารมณ์ยอดนิยม รุ้งสีเทา นอกจากนี้ก็มีเพลง ตัวตน, นภา, มายาคน และภาพฝัน เรียกว่าครบถ้วนกระบวนความจริง ๆ เราตบเท้าเข้าฮอลไปตอนที่ได้ยินเสียงกีตาร์สาดใส่เอฟเฟกต์อย่างรุนแรงเกรี้ยวกราดในเพลง รอยต่อ นี่คือ Mattnimare อีกวงอัลเทอร์เนทิฟร็อกที่ฝีไม้ลายมือเข้าขั้นร้ายกาจ ซึ่งระหว่างที่กำลังเล่นเพลงนั้นเราก็พบว่าทางวงประสบกับปัญหาทางเทคนิคที่ค่อนข้างวุ่นวาย ตั้งแต่เสียงดรัมแพดไม่ออก … Continued

ก็ความรักไม่ใช่ความลับ ฟังซินธ์ป๊อปล่องลอยจาก Fourtwosixx feat. Parim ‘Secret’

Published

  • Writer: Kunchanit Liengudom

เมื่อต้นปีนี้เราได้ฟังซิงเกิล Wish และทำความรู้จักกับ Fourtwosixx หรือ เรียว มิโตมิ ในฐานะศิลปินญี่ปุ่นคนแรกจากค่าย Comet Records BKK กันไปแล้ว คราวนี้เรียวกับมาอีกครั้งกับเพลงซินธ์ป๊อปเพราะ ๆ อีกหนึ่งเพลง Secret ที่ได้ PARIM ศิลปินสาวเสียงใสร่วมค่ายมาฟีทเจอริ่งด้วย ผลงานก่อน ๆ ของเรียวในนาม Ryoh Mitomi จะค่อนข้างเป็นเพลงแนวอิเล็กทรอนิกแดนซ์ เทคโน เน้นบีตชวนแดนซ์ในคลับกันไป แต่พอเขาขยับแนวมาเป็นซินธ์ป๊อบแบบนี้ทำให้รู้สึกว่าฟังง่ายขึ้นมาก คิดว่าถ้าได้ลองฟังน่าจะติดหูและถูกใจใครหลาย ๆ คนเลยแหละ ซิงเกิล Secret นี้เรียวก็ยังคงทำดนตรี มิกซ์ และเรียบเรียงเองทั้งหมดเหมือนคราวที่แล้ว ส่วนเนื้อร้องได้ ตั๋ง—จักรชัย ปัญจนนท์ แห่ง Casinotone และผู้ก่อตั้งค่ายมาสร้างสรรค์ให้เหมือนเดิม เสียงซินธิไซเซอร์กดย้ำเป็นแพตเทิร์นคอร์ดที่ช่วยให้เราจดจำเพลงนี้ได้ในวินาทีที่เริ่มเพลง ก่อนบีตจากดรัมแมชชีนจะขึ้นเป็นสัญญาณให้เราเริ่มขยับตัว ตามมาด้วยเสียงร้องของพริมที่ช่วยขับเสน่ห์ให้กับเพลง เพราะถึงแม้หลายคนจะชื่นชอบในความน่ารักสดใสคล้าย Dojo City ในเพลงที่ผ่าน ๆ มาของเธอ แต่เรากลับรู้สึกว่าเสียงของพริมมีความน่าค้นหาบางอย่าง ซึ่งมันเหมาะกับอารมณ์และเนื้อหาเพลงนี้มากเลยทีเดียว พอเพลงดำเนินมาถึงท่อนพรีฮุค ทั้งเสียงร้อง ดนตรี … Continued

เสียดายแย่ถ้าไม่ได้ฟัง ‘Regret Me’ จาก Pyra และมุมมองธุรกิจต่อวงการเพลงของเธอ

Published

  • Writer: Peerapong Kaewthae
  • Photographer: Pradthana Chaijaroensuksakul

Pyra อีกหนึ่งผู้ชนะจากการประกวด ‘Sunkist Freshly Picked Contest’ จากสนับสนุนจากผู้ใหญ่ใจดีอย่าง Sunkist ที่เปิดพื้นที่ให้นักดนตรีสดใหม่เข้ามาโชว์ผลงานและต่อยอดผลักดันพวกเขาให้กลายเป็นศิลปินตัวจี๊ดในภายภาคหน้า ศิลปินมากความสามารถอีกหนึ่งคนที่นอกจากชนะใจกรรมการมาได้ด้วยดนตรีที่แตกต่างและมีคุณภาพ แต่ Pyra ยังมีเสน่ห์เฉพาะตัวที่น่าหลงใหล เราเคยพูดคุยกับเธอไปแล้วในฐานะศิลปินน่าจับตามองในตอนนั้น (Pyra ทั้งวงการต้องจับตาดูเธอคนนี้) และเธอได้พิสูจน์ให้ทุกคนได้ยินแล้วว่า Regret Me คือแนวดนตรีของเธอที่ไม่เป็นรองใคร วันนี้ Fungjaizine ได้กลับมาคุยกับเธออีกครั้ง นอกจากเธอยังมีแนวคิดการทำเพลงที่น่าสนใจแล้ว อีกมุมหนึ่งเธอยังมีความเป็นนักธุรกิจที่สามารถผนวกความเชี่ยวชาญในเรื่องบริหารเข้ากับเสียงเพลงของเธอได้อย่างน่าเหลือเชื่อ ลองไปพูดคุยกับเธอกัน ที่มาที่ไปของเพลง Regret Me เพลงนี้คือหลุดคอนเซ็ปต์ Pyra มาก เอาจริง ๆ มันทำให้ช่วงที่ดาร์กมากกกกกกกก ของชีวิต ต้องเท้าความก่อนว่าเรามี depression น่ะ ประมาณสามเดือนที่แล้วคือชีวิตพังเพราะออกจากงานที่ทำและเลิกกับแฟน ช่วงนั้นก็เจอความรักอีกครั้งหนึ่งที่เรารู้สึกว่าครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งอื่นเลย ทำไมเราเพิ่งเจอกันแต่เหมือนรู้จักกันนานกว่านั้น แต่คนนี้เขามีแฟนแล้ว และเขาก็รู้สึกกับเราเหมือนกัน แต่เขาเลือกที่จะอยู่กับแฟนตัวเอง ซึ่งเรา respect ตรงนั้นมาก เราเห็นเขาเป็นคนที่ดีนะที่ไม่ได้จะมาหาคนที่สอง แต่พอเขาเลือกที่จะเป็นคนดีแล้วเขาก็ยังโทรหาเรา ซึ่งมันเป็นประโยคแรกของเพลง ‘Why do you call me? If … Continued

สิ้นสุดการรอคอยกับการกลับมาในรอบ 7 ปีของวง CLASH

Published

  • Writer: Gandit Panthong
  • Photographer: Chavit Mayot

“พวกเราไม่ได้ทะเลาะกัน พวกเราไม่ได้คุยกันไม่ได้นะ พวกเราแค่ขอพักเฉย ๆ” นี่คือประโยคแรกที่สมาชิกทั้ง 5 คนของวง Clash เอ่ยให้ผมฟังตั้งแต่ได้พบกันในครั้งนี้ ซึ่งนี่เป็นการสัมภาษณ์ครั้งแรกของผมและวง Clash อีกด้วย เพราะฉะนั้นแล้วแฟนพันธุ์แท้อย่างผมจึงไม่พลาดอยู่แล้วที่จะถามสิ่งที่ผมอยากรู้ว่า 7 ปีที่ผ่านมาหายไปทำอะไรกันบ้าง แล้วอะไรดลใจให้ต้องกลับมารวมตัวกันในปี 2018 การกลับมาครั้งนี้เขาจะกลับมาทำเพลงกันจริงจังเลยรึเปล่าหรือแค่กลับมาเล่นคอนเสิร์ต แบงค์, พล, แฮ็ค, สุ่ม และยักษ์ จะเป็นคนให้คำตอบผมในบทสัมภาษณ์นี้ที่ทุกคนกำลังจะได้อ่านกันครับ จุดเริ่มต้นการกลับมาของวง Clash  แฮ็ค: จริง ๆ แล้วเราพูดคุยกันมาก่อนหน้านี้ประมาณ 2-3 ปีแล้ว ซึ่งมันก็ยังไม่ค่อยลงตัว แต่ละคนทำหน้าที่ของตัวเองกันอยู่ อย่างพลก็ดูแลค่าย Boxx Music ยักษ์ก็ทำงานกับพล สุ่มเองก็ดูแลกิจการเป็นผู้จัดการร้านจักรยาน ผมทำวง SDF แบงค์มีอัลบั้มเดี่ยวของตัวเอง จนตอนไปทัวร์กับแบงค์ที่ยุโรปครับ ได้มีโอกาสนั่งคุยกัน แบงค์ก็มาคุยกับผมว่า พวกเราน่าจะมีโอกาสกลับมารวมตัวทำวง Clash กันอีกนะ คุยกันจนถึงแบบโอเคงั้นสรุปประมาณว่า อยากจะกลับมารวมกัน พอกลับที่ไทยเลยคุยกับพล ยักษ์ สุ่ม เพื่อน ๆ … Continued

‘ถ้าหาก’ ไม่รักในเสียงเพลง ‘Yented’ คงไม่เล่นดนตรีมาถึงทุกวันนี้

Published

  • Writer: Peerapong Kaewthae
  • Photographer: Narawit Suksawat

จบกันไปแล้วกับงานประกวด ‘Sunkist Freshly Picked Contest’ โครงการคัดเลือกศิลปินหน้าใหม่ที่มีเพลงสดใหม่ น่าสนใจ เพื่อมาต่อยอดให้เป็นเพลงที่ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้น โดยโปรดิวเซอร์และ sound engineer ที่เชี่ยวชาญในดนตรีหลากหลายแนว ด้วยความสนับสนุนจากผู้ใหญ่ใจดีอย่าง Sunkist นี่เอง ทำให้เราได้เห็นว่ายังมีศิลปินที่โดดเด่นรอการเก็บเกี่ยวอยู่ในสวนแห่งเสียงเพลงอีกมากมาย สุดท้ายเราก็ได้ผู้ชนะสองคนสุดท้ายที่ได้ mastering เพลงที่พวกเขาส่งประกวด แถมยังได้ถ่ายทำมิวสิกวีดีโออีกด้วย ซึ่งหนึ่งในสองชื่อนั้นก็เป็นชื่อที่เราคุ้นหูคุ้นตากันมาก่อนอยู่แล้ว แม้จะห่างหายจากวงการเพลงไปช่วงหนึ่งแต่ Yented ก็กลับมาพร้อมกับเพลงใหม่ที่ลึกซึ้ง แถมยังมีฝีไม้ลายมือที่โตขึ้น เมื่อพวกเขามาตามนัดที่บ้าน ฟังใจ เราสัมผัสได้ถึงความใสซื่อและเป็นกันเองจนเข้าใจได้ว่าทำไมพวกเขาถึงถ่ายทอดเพลงต่าง ๆ ออกมาได้อย่างซื่อตรงและเข้าถึงง่าย เสียดายที่วันนี้เราได้เจอสมาชิกแค่ 2 คนจาก 7 คนเท่านั้น เรามาทำความรู้จัก Yented ให้มากขึ้นถึงความเป็นมากับเส้นทางดนตรีของพวกเขากันดีกว่า สมาชิก เจา—พงษ์ธรณ์ ปะเมโท (ร้องนำ) ตูน—ภานุกร มาลา (กีตาร์) มอส—ธนพล นาคขำพันธ์ (ซินธ์) แซ็ก—วิชญะ แสนภูวา (คีย์บอร์ด) กานต์—ธนกานต์ สุวรรณนาคินทร์ (กีตาร์) เปรื่อง—เปรื่องวิทย์​ พิไลวงศ์ … Continued

Singha Light Live Series 3.2 – Mac DeMarco อีกโชว์สุดมัน ที่สุดของการแรนด้อม

Published

  • Writer: Montipa Virojpan
  • Photographer: Have You Heard?

1 สิงหาคม 2561 หลังจากที่ Have You Heard? ได้พา Mac DeMarco มาให้ชาวไทยได้ทำความรู้จักแบบใกล้ชิดที่ Cosmic Cafe (ปัจจุบันคือ NOMA RCA) กันไปแล้วในปี 2013 ปี 2018 นี้ พวกเขาก็ได้ชวนศิลปินแคนาเดียนอารมณ์ดีกลับมาอีกครั้งใน  Singha Light Live Series 3.2 – Mac DeMarco  กับสถานที่ที่ใหญ่กว่าเดิม คนดูเยอะกว่าเดิม เพราะจากหลายปีที่ผ่านมา ผลงานต่าง ๆ ที่แม็คปล่อยมาให้เราได้ฟังก็พิสูจน์แล้วว่าเขาคือผู้บุกเบิกดนตรี slacker rock จนกลายเป็นที่นิยมสุด ๆ ในหมู่นักดนตรีรุ่นหลัง และแพร่กระจายความชื่นชอบในหมู่คนฟังได้ในเวลารวดเร็ว เราไปถึงที่ Voice Space ก่อนเวลาที่วงแรกจะเล่นพักหนึ่ง ก็เลยได้เดินสำรวจบริเวณรอบ ๆ งานและพบว่าด้านหน้าฮอลมีกิจกรรม interactive ให้เราได้เล่นกัน คือให้เราไปยืนตรงจุดที่เขากำหนดแล้วจะมีโปรเจกเตอร์คอย track การเคลื่อนไหวของเรา ซึ่งมันจะไป … Continued

ยังไม่เบื่อเขาคนนี้กันใช่ไหม คุยกันอีกรอบกับ Mac DeMarco ก่อนขึ้นเวที คืนนี้

Published

  • Writer: Montipa Virojpan
  • Photographer: Chavit Mayot

Fungjaizine ขอเก็บบทสนทนาสนุก ๆ ก่อนขึ้นโชว์กับ Mac DeMarco ศิลปินแคนาเดียนอารมณ์ดีที่จะมาเปิดการแสดงเป็นครั้งที่สองในกรุงเทพ ฯ กับ Singha Light Live Series Vol 3.2 – Mac DeMarco ที่กำลังจะเกิดขึ้นแล้วในคืนนี้โดยทีม Have You Heard? มาดูกันว่าเขาจะเรียกเสียงฮาจากบรรดาสื่อที่เข้าไปสัมภาษณ์ได้มากขนาดไหน อ่านบทสัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ได้ >ที่นี่< เพิ่งกลับมาจาก Fuji Rock Festival เป็นยังไงบ้าง ได้ข่าวว่าวันสุดท้ายของงานมีไต้ฝุ่นเข้า รอดไหม ช่าย แต่วันที่พวกเราเล่นยังไม่มีนะครับ เขาเรียกไต้ฝุ่นนั่นว่า Jongdari มันเข้ามาตอนที่เรากลับเข้ามาโตเกียวแล้ว (งานฟูจิร็อกจัดที่จังหวัดนีงาตะ) ก็เหมือนแบบ รอดจากในงานเข้ามาในเมืองพอดี บ้าบอมาก แล้วจริง ๆ คืออากาศร้อนมาตลอดทั้งสัปดาห์ ดีที่ฝนมาตกเอาตอนหลัง มาเมืองไทยเป็นครั้งที่สองแล้ว รอบนี้ทำอะไรบ้าง ก็ไปร้านอาหาร กินของเผ็ด ๆ เยอะมาก อร่อยนะครับ แต่ทำผมท้องเสียเลยเนี่ย คิดว่าโชว์รอบนี้จะต่างจากครั้งแรกเมื่อปี 2013 ยังไง … Continued

Just A Little Bliss Concert คอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกในชีวิตของ Ink Waruntorn

Published

  • Writer : Rungraween Aunkaew
  • Photographer : Rungraween Aunkaew and Athipat Nampetch

22 กรกฎาคม 2561 ณ About Studio เป็นคอนเสิร์ตของพี่สาวแสนน่ารัก Ink Waruntorn ที่บรรยากาศภายในงานอบอวลไปด้วยความสุข และความรักของผู้ชมที่มารอดูพี่สาวคนนี้ เสมือนงานรวมญาติที่ทุกคนต่างเฝ้ามองดูพัฒนาการของพี่อิ้งค์มาโดยตลอดตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้กับ Just A Little Bliss Concert ก้าวแรกที่เข้ามาภายในงาน เราก็ได้พบกับผู้ชมที่ใบหน้าเปื้อนยิ้มอยู่เต็มบริเวณ ทุกคนดูมีความสุขกันมาก ๆ ไม่ต่างจากเราเลย ยิ่งเห็นก็ยิ่งรู้สึกดีใจแทน เราต้องขอสารภาพตามตรงว่าชอบพี่อิ้งค์มาตั้งแต่สมัย Kamikaze รุ่งเรือง เต้นตามตั้งแต่เพลง Chatsanova แอบรู้สึกแก่เบา ๆ แต่เชื่อว่าต้องมีคนนึกถึงเหมือนเราบ้างแหละ  เมื่อถึงเวลาที่ประตูเปิดให้เข้างาน ทุกคนก็ต่อแถวกันเพื่อเข้างานอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย พอเข้ามาก็มาสนุกกับวงเปิดอย่างวง Foam ศิลปินน้องใหม่ของค่าย Boxx Music จากรั้วดุริยางคศิลป์มหิดล โดย มิก นักร้องนำของวงก็บอกว่าตนรู้สึกดีใจมากที่ได้เล่นเป็นวงเปิดให้พี่อิ้งค์ เพราะเจ้าตัวก็ชอบพี่อิ้งค์เหมือน ๆ กับทุกคน ซึ่งพวกเขาได้ขนเพลงสนุก ๆ มาให้ทุกคนวอร์มอัพก่อนที่จะไปเจอกับพี่อิ้งค์ ถึงจะเป็นศิลปินน้องใหม่ แต่ฝีมือ และการเอนเตอร์เทนนี่ไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ Foam เล่นจบปุ๊บ แสงไฟบนเวทีก็ดับลง … Continued

Møle The Explosion และ ญาณิน ร่วมถ่ายทอดเพลงแห่งความคิดถึง จันทราในแอ่งน้ำ

Published

  • Writer: Montipa Virojpan

ซิงเกิ้ลที่สามหลังจาก ชายคนแรกผู้มอบดอกไม้ให้เธอ และ เมื่อเธอฝันฉันตื่น โดยคณะ Møle The Explosion วงดนตรี alternative soul, nu-r&b ที่มอบความแปลกใหม่ให้กับหูผู้ฟังชาวไทยมาอย่างต่อเนื่อง กลับมาอีกครั้งกับ จันทราในแอ่งน้ำ เพลง r&b เท่ ๆ ที่มีจังหวะชวนโยกและความสุดติดหูตั้งแต่อินโทรแบบที่ถ้าเกิดเรามีโอกาสไปดูพวกเขาเล่นสด แค่ขึ้นมาก็จะรู้ได้ทันทีว่าต้องเป็นเพลงนี้แน่นอน ซึ่งเปียโนที่บรรเลงมาตลอดตั้งแต่เริ่ม มาขาดช่วงใน verse ทำให้เรารู้สึกได้ถึงความว่างเปล่าที่พวกเขาตั้งใจจะเว้นวางให้เราได้สัมผัสถึงช่องว่างนั้น ดังเช่นในเพลงที่พวกเขาต้องการจะสื่อถึงความคิดถึงของคนที่อยู่ไกลกัน โดยแทนให้ความคิดถึงเป็นดั่งเงาของพระจันทร์ที่สะท้อนบนพื้นน้ำ ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน แหล่งน้ำนั้นจะเล็กหรือกว้างใหญ่เพียงใด ก็สามารถสะท้อนเงาพระจันทร์ได้หมด ซึ่งตีความถึงความคิดถึงที่มีต่อกันที่ไม่ว่าจะเวลาไหน กำลังทำอะไร ยุ่งมากยุ่งน้อย แต่ถ้ายังคิดถึงกันยังไงก็รู้สึกถึงกันได้ อันที่จริงเพลง จันทราในแอ่งน้ำ มีที่มาที่ไปที่น่าสนใจทีเดียว เพราะเบื้องต้นเพลงนี้เป็นเพลงที่เบิร์ด Desktop Error และ ปิ๊ก องอาจ —lyrics director ของอัลบั้มที่พวกเขากำลังปลุกปั้นกันอยู่ เขียนไว้นานมากแล้ว ต่อมาปิ๊กก็ลองชวนให้วงนำเพลงไปทำต่อ โดยเรียบเรียงใหม่ให้เป็นเวอร์ชันของตัวเอง ซึ่งทางวงก็สนใจที่จะได้นักร้องหญิงที่มีเสียงเป็นเอกลักษณ์มาร่วมงานด้วย ซึ่งในใจตอนนั้นบุคคลที่พวกเขาก็นึกถึงเป็นคนแรกคือ ญาณิน—ศิลปินโฟล์กผู้ตอบโจทย์ทางวงได้เป็นอย่างดี และทางวงก็ชื่นชอบผลงานของเธอเองอยู่แล้ว ประกอบกับการที่ได้พบกับญาณิน ที่งาน Cat T-Shirt ซึ่งเธอเองก็เคยฟังเพลงของ Møle The Explosion ความลงล็อกตรงนี้จึงทำให้พวกเขาชักชวนเธอมาร้องในเพลงนี้ได้สำเร็จ นอกจากนี้วิดิโอของเพลงก็ยังได้ … Continued

ไม่เป็นไร ซิงเกิ้ลล่าสุดจาก The Whitest Crow ที่เชื่อว่าวันรุ่งขึ้นที่ตื่นมา เราจะไม่เป็นไร

Published

  • Writer: Montipa Virojpan

การที่เรามีช่วงเวลากลางคืนและตอนเช้า นอกจากจะเป็นการบ่งชี้ถึงเวลาแล้ว เรายังเชื่อว่า มันยังเป็นสัญญาณ ให้เราทุก ๆ คน สามารถเริ่มใหม่ได้อีกครั้ง ไม่ว่าจะผิดพลาดหรือว่าล้มเหลวกับอะไรก็ตาม ชีวิตคือการทดลองที่สำเร็จบ้างไม่สำเร็จบ้าง คนเรามีบาดแผลเป็นเรื่องธรรมดา ทุก ๆ คนย่อมมีน้ำตา แต่แค่บางเวลา ถ้าหากวันนี้ คุณกำลังรู้สึกอ้างว้างหรือไม่เหลือใคร อย่างน้อยคุณ ก็ยังมีเรา ไม่เป็นไร…เริ่มใหม่ ข้างบนนี้คือข้อความที่เป็นคำบรรยายอาร์ตเวิร์กวงจรสีที่เราก็ไม่ค่อยแน่ใจว่าเขาต้องการจะสื่ออะไร แต่น่าจะเกี่ยวกับเพลงใหม่ที่กำลังจะปล่อยออกมา นอกจากนี้เมื่อคืนก่อน The Whitest Crow ยังอัพเดต cover photo ในเฟซบุ๊กเพจเป็นตัวหนังสือหนาสีดำบนพื้นสีขาวที่เขียนว่า ‘Creat Your Own Wings’ (สร้างปีกของคุณด้วยตัวคุณเอง) และเวลาเก้าโมงเช้าของวันนี้ เราก็ได้ฟังเพลง ไม่เป็นไร ซิงเกิ้ลภาษาไทยลำดับที่สามของคณะกาขาว มาในจังหวะสนุก ๆ กลิ่นอาย baggy หรือแนวเพลงเต้นรำของวงอัลเทอร์เนทิฟร็อก ที่มีกลองฟังกี้ฟุ้ง ๆ และแทมบูรินอันโดดเด่น กับทำนองที่กระเดียดไปทางไซคีเดเลีย มีต้นกำเนิดอยู่ในเมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ และฮิตมาก ๆ ในยุค 90s (ลองนึกถึงวง The Stone Roses … Continued

อบอุ่น กันเอง กับเพลงฮิตที่ทุกคนร้องตามได้ในโชว์ครั้งที่สองของ HONNE

Published

  • Writer: Pradthana Chaijaroensuksakul
  • Photographer: Pradthana Chaijaroensuksakul and Warner Music Thailand

วันที่ 26 มิถุนายน 2561 สวัสดี HONNE อีกครั้งแล้วสินะกับการมาไทย ครั้งที่แล้วที่ Have You Heard? จัดเราไม่ได้ไปดู แต่ยังจำได้อยู่เลยว่าใน Instagram story เต็มไปด้วย Warm On A Cold Night ครั้งนี้เราเลยอยากลองเอาตัวเข้าไปในบรรยากาศนั้นบ้างว่ามันจะเป็นยังไง ปีนี้ HONNE แสดง 2 วัน เราได้ไปดูวันที่ 26 วันสุดท้าย เป็นวันที่มีวง Mean และ Polycat เล่นเป็นวงเปิด ไอตัวเรานี่ก็รีบมากเพราะว่าอยากไปดูวงเปิดด้วย แต่ทีนี้ด้วยความที่ไม่เคยไป Gmm Live House เราก็เลยเกิดอาการ lost in Central World จ้า เดินหาอยู่นานพอเปิดประตูไปเท่านั้นแหละก็เจอกับหน้าพี่นะ Polycat แง เรามาไม่ทันวง Mean ‘รักในครั้งนี้ยังไม่จบลงใช่ไหม ไม่ว่าอะไร เปียกปอน ฉันภาวนา’ เสียงตะโกนร้องตามกันแน่นฮอลทำให้เรารู้สึกคิดถึงสมัย … Continued

การกลับมาเยือนไทยอีกครั้งของ HONNE พร้อมอัลบั้มใหม่ Love Me / Love Me Not

Published

  • Writer: Montipa Virojpan
  • Photographer: Pradthana Chaijaroensuksakul

หลายคนคงฟินกับคอนเสิร์ตรอบแรกของ HONNE อิเล็กทรอนิกดูโอ้จากอังกฤษกันไปแล้วเมื่อคืนนี้ที่ Mangosteen Music Festival สำหรับคนที่พลาดคอนเสิร์ตครั้งแรก คอนเสิร์ตเมื่อวาน แต่จะได้ไปดูพวกเขาเล่นในคืนนี้ เราจะชวนมาอ่านที่มาที่ไปของอัลบั้มใหม่ Love Me / Love Me Not ที่กำลังจะปล่อยในปลายเดือนสิงหาคมเป็นการอุ่นเครื่อง เพราะพวกเขาต้องหยิบมาเล่นในโชว์นี้ให้ได้ฟังกันแบบสด ๆ แน่นอน อ่านบทสัมภาษณ์ของพวกเขาครั้งแรกที่มาเยือนไทยได้ >ที่นี่< แรงบันดาลใจเบื้องหลังอัลบั้มนี้ เจมส์: ส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตของพวกเราครับ เราพยายามจะเล่าเรื่องเหล่านั้นให้จริงใจที่สุด จะไม่พยายามไปฝืนมันถ้ารู้สึกว่าไม่ใช่ หรือสร้างเรื่องขึ้นใหม่ แอนดี้: ครับ เป็นประสบการณ์ของผมกับเจมส์ แล้วก็ผู้คนที่อยู่รอบตัวเรา แม้ว่าพวกเราจะไม่ได้เปลี่ยนเรื่องราวไปจากอัลบั้มแรกมากนัก แต่มันเป็นเรื่องที่ดีครับ เราชอบทำเพลงเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเราจริง ๆ ทำไมถึงเขียนแต่เรื่องความรักแง่บวก มีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรักหรือเปล่า แอนดี้: ก็ประมาณนั้นมั้งครับ คือพวกเราหมั้นกันแล้ว (หัวเราะ) เจมส์: แต่อย่างที่บอกคืออัลบั้มนี้มันก็เป็นสองด้านครับ มีทั้งเรื่องความสัมพันธ์ เรื่องการไปทัวร์คอนเสิร์ตของพวกเรา ตอนทัวร์ก็สนุกดี แต่เราก็คิดถึงคนที่รออยู่ที่บ้าน มันก็ค่อนข้างเป็นการเล่าความรู้สึกของเราอย่างตรงไปตรงมาที่สุด มีเพลงนึงที่พวกเราเพิ่งปล่อยไปเมื่อเดือนที่แล้วชื่อ Forget Me Not ที่มีท่อนนึงร้องว่า ‘She loves me, she loves me … Continued

ไม่ใช่แค่อีกครั้งเดียว แต่จะเป็นอีกหลาย ๆ ครั้งที่จะได้ฟังงานใหม่จาก De Flamingo

Published

  • Writer: Jiratchaya Pattarathumrong
  • Photographer: Pradthana Chaijaroensuksakul

หลังจากห่างหายไปพักใหญ่ ๆ สำหรับวงสี่ชิ้นสีสันดนตรีจี๊ดจ๊าดหลากหลาย De Flamingo กลับมาแล้วพร้อมซิงเกิ้ลล่าสุด แค่อีกครั้งเดียว ที่สร้างความประหลาดใจให้กับเราเพราะค่อนข้างแตกต่างไปจากงานก่อนหน้า ตอนนี้เราก็อยากจะรู้ว่าระหว่างที่พักไปก่อนหน้านี้ทั้งสี่ได้ไปเก็บเกี่ยวอะไรมา หรือเกิดความสนใจเรื่องไหนใหม่ ๆ เป็นพิเศษหรือเปล่าที่ทำให้งานเพลงล่าสุดของพวกเขาเปลี่ยนไป สมาชิกวง De Flamingo โบนัส—ปรินทร์ ดุงโคกกรวด (ร้องนำ, กีตาร์) ปอม—กิจพัฒน เย็นฤดี (กีตาร์) จา—สันติสุข วรนุชกุล (เบส) บีม—กริชภวุฒิ ลิ้มติ้ว (กลอง) จุดเริ่มต้นของเพลง แค่อีกครั้งเดียว จา: ผมแต่งเพลงนี้ไว้เมื่อประมาณสัก 3 ปีที่แล้วได้ ตอนนั้นผมกำลังเศร้า ๆ ครับ เป็นช่วงชีวิตที่กำลังรอคำตอบจากคนคนนึงว่าเขาคิดยังไงกับเรา ก็แต่งเพลงนี้ให้เขารู้ว่า เรายังรอคำตอบอยู่นะ เลยมีโอกาสได้เอามาให้เพื่อนในวง ๆ ฟัง โบนัสฟังแล้วบอกว่า มันมีความเป็นไปได้ที่จะมาทำต่อให้มันเพราะขึ้น จากนั้นจึงเอามาแก้เมโลดี้แล้วใส่เนื้อเพลงใหม่เข้าไปจนเสร็จสมบูรณ์ โดยเพลงนี้พวกเราได้พี่อู๋ The Yers มาเป็นโปรดิวเซอร์ช่วยดูเรื่องเนื้อให้มันมีเรื่องราวมีอะไรที่น่าสนใจมากขึ้น ร่วมงานกับอู๋ The Yers เป็นยังไงบ้าง  จา: การร่วมงานกับพี่อู๋ผมว่า ทุกคนได้ความรู้ ได้แนวคิด แล้วก็ประสบการณ์ใหม่ … Continued

The Vuniyerse เล่นแร่แปรเพลงกับงานศิลปะให้กลายเป็นดนตรีหวานชวนฝัน

Published

  • Writer: Peerapong Kaewthae
  • Photographer: Pradthana Chaijaroensuksakul

ครั้งแรกที่เราได้เห็นชื่อของ The Vuniyerse อยู่ในเครดิตหนังสั้นเด็กมหาลัยเรื่องหนึ่ง ไขปริศนาเสียงดนตรีอันเลื่อนลอยเลือนรางอันน่ารื่นรมย์ในหนังได้อย่างชัดเจนจนเริ่มไปหาฟัง ก็พบว่าตัวเองหลงใหลในเพลงของพวกเขาอย่างประหลาด โดยเฉพาะเพลง Breathless ที่งดงามมาก เสียงคีย์บอร์ดหวาน ๆ ขับกล่อมไปพร้อมกับเสียงร้องนุ่ม ๆ กับเสียงกีตาร์ที่ล่องลอย สร้าง vibes แบบหว่อง ๆ ขึ้นมาได้ทุกที่จนเราต้องไล่ฟังเพลงของเขาให้ครบทุกเพลงเลย The Vuniyerse คือกลุ่มเพื่อนที่หลงใหลในศิลปะเหมือนกัน และมีรสนิยมการฟังเพลงคล้าย ๆ กัน จึงทดลองและถ่ายทอดศิลปะในแบบของพวกเขาออกมาผ่านเพลง โดยตั้งคำถามว่าศิลปะสามารถขับเคลื่อนชีวิตของผู้คนได้จริงไหม พวกเขาเพียงต้องการทำเพลงเพื่อความสนุกและหล่อเลี้ยงมิตรภาพต่อไปเรื่อย ๆ แค่มีใครสักคนผ่านมาและสนุกกับเพลงของพวกเขาก็พอแล้ว จนพวกเขาได้มีโอกาสมาเล่นงาน ‘ฟังใจมัน 4’ เราก็ได้ดูเขาเล่นสด ๆ สักที เพราะเพิ่งรู้ว่าเขาต้องจับรถลงมาจากเชียงใหม่เลยทีเดียว แถมไม่ทำให้เราผิดหวังด้วยโชว์เกินมาตรฐานวงดนตรีหน้าใหม่ แถมยังมีเจ้าตู้ทีวีแสนน่ารักมาประกอบโชว์ของพวกเขาอีกด้วย หลังจากลงเวทีเราเลยรีบเข้าไปขอคุยด้วยทันที แม้ทั้งวงจะดูเหนื่อยนิดหน่อยแต่ก็ได้รอยยิ้มตอบกลับมา สมาชิก นัท—อรรถกร พงษ์เทอดศักดิ์ (ร้อง, กีตาร์) นน—ชนนปวร สุขวณิช (ร้อง/กีต้าร์) บิ๊ก—พัธนันท์ อนันต์หน่อ (คีย์บอร์ด) เกรียง—เกรียงศักดิ์ จันทร์ดี (กลอง) บอส—สหธัช ศรีวิไล … Continued

Mac & Kiki Forever รู้จักกับสาวอารมณ์ดีเจ้าของเพลงหวานที่ Mac DeMarco เขียนถึง

Published

  • Writer: Montipa Virojpan
  • Photo: Instagram @minikikiipad and Mac DeMarco Official Fanpage

ไม่กี่วันก่อน ใครที่ติดตามแฟนเพจของ Mac DeMarco น่าจะได้เห็นภาพและสเตตัสอวยพรวันเกิดให้แก่หญิงสาวหน้าตาน่ารักคนหนึ่ง แต่ถ้าหากเป็นแฟนเพลงของพี่แม็คมาสักระยะหนึ่งแล้วก็น่าจะเคยได้ฟังเพลงรักหลาย ๆ เพลงที่มีเนื้อหาหวานซึ้งและจริงใจสุด ๆ จนมีอยู่แทร็คนึงจากอัลบั้ม 2 ที่เขาคุยกับใครสักคนตอนท้ายเพลง Still Together และเรียกเธอว่า ‘Kiki’ เราก็ตั้งข้อสงสัยเธอคือใครกันน้าที่พี่แม็คเขียนเพลงให้   Kiera ‘Kiki’ McNally คือแฟนสาวผู้เป็นอีกแรงบันดาลใจสำคัญในงานของแม็ค พวกเขาเจอกันครั้งแรกตอนอายุ 14 และเริ่มคบหากันหลังจากนั้น 5 ปี ตอนที่กีกี้เดินเมา ๆ มาหาเขาและบอกว่า ‘รู้มั้ย ฉันรักแกมานานแล้วนะเว่ย’ และก็ยาวนานมาจนถึงปัจจุบัน แต่แม็คไม่เคยเรียกชื่อจริงของเธอเลยสักครั้ง จะมีแค่ Kiki, Keeks หรือแม้กระทั่ง Karen ที่เป็นชื่อสุดเชยอันห่างไกลไปจากชื่อจริงของเธอมากโข  แต่ที่เห็นเขารักกันมานานขนาดนี้ (ปัจจุบันพี่แม็คอายุ 28 ปี ก็เกือบสิบปีแล้วจ้า) การที่แม็คเริ่มมีชื่อเสียงและต้องออกทัวร์กว่าสิบเดือนทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาเป็นเหมือนกับ long distance relationship กลาย ๆ แม็คต้องพบเจอผู้คนมากมายและไม่ค่อยได้กลับบ้านทำให้พวกเขาต้องใช้ความพยายามที่จะรักษาความสัมพันธ์นี้อยู่พอสมควร หรือแม้แต่ภาพคู่ของเขากับกีกี้ก็ถูกจับตามองจากสาธารณชนมากขึ้นด้วย ณ ขณะนั้น จุดนี้เองที่ทำให้แม็คเริ่มกังวลที่จะพูดถึงกีกี้ในเพลงเพราะเขารู้สึกว่ามันจะกลายเป็นการเอาความสัมพันธ์ของตัวเองมาขายกิน ซึ่งตอนหลังพวกเขาก็ยอมรับกับความเป็นจริงที่จะต้องเกิดขึ้นตามกระแสของโลก (ไป ๆ มา ๆ แม็คดันสนุกกับเรื่องตรงนี้ซะเองด้วยการลงหนังสั้นที่ชื่อ ‘Terrified Woman’—นำแสดงโดยกีกี้ ในเว็บไซต์หลักของเขา วิดิโอตัวนี้เองที่ทำให้เราพบว่านอกจากกีกี้จะเป็นคนมีอารมณ์ขันสุด ๆ แล้วยังมีความสามารถพิเศษคือการแสดงสีหน้าหวาดกลัวระดับรัชดาลัย)  เขาได้เปิดเผยกับสื่อเป็นครั้งแรกว่าอัลบั้ม Salad Days เป็นงานชุดแรกที่เขากล้าที่จะเขียนเรื่องระหว่างเขากับกีกี้แบบไม่คิดมากอีกต่อไป โดยมีสามเพลงที่เป็นเพลงของเธอ นั่นคือ Let Her Go, Treat Her Better และ Let My Baby Stay ซึ่งเพลงสุดท้ายนี้พูดถึงตอนที่แม็คกับกีกี้ตัดสินใจย้ายจากมอนทรีอัล แคนาดามาอยู่ที่บรูคลิน สหรัฐอเมริกา เพราะเบื่อหน่ายกับชีวิตที่นั่นเหลือเกิน แต่ตอนนั้นวีซ่าของกีกี้มีปัญหาจึงทำให้เธอกลายเป็นคนเข้าเมืองแบบผิดกฎหมายในช่วงที่เขาทำอัลบั้มนี้และมักได้รับการแจ้งเตือนให้กลับประเทศ แม้ภายหลังวีซ่าของเธอได้รับการต่ออายุแล้ว แม็คก็ยังพูดเสมอว่าการตัดสินใจที่ทำให้เธอต้องได้รับความลำบากนี้เป็นความผิดของเขาแต่เพียงผู้เดียว ? ? @featherfever A post shared by Kiera McNally (@minikikiipad) on Sep 30, 2016 at 6:03pm PDT นอกจากว่าเราจะได้เห็นภาพคู่ของพวกเขาในอินสตาแกรมหรือเฟซบุ๊ก หรือได้ฟังเพลงหวาน ๆ ของพวกเขาอย่างเปิดเผย ความน่ารักของคู่แม็ค–กีกี้ยังไม่หมดแค่นี้ เรื่องของแฟนสาวอารมณ์ดียังถูกพูดถึงในนิตยสารหลาย ๆ เล่ม ไปจนถึงได้ถ่ายภาพลงคอลัมน์ฟีเจอร์ Cover Story ของนิตยาสาร Pitchfork ฉบับที่แม็คเป็นศิลปินขึ้นปกด้วย แม็คบอกว่าเขาไม่เคยอายเลยที่จะทำตัวบ๊อง ๆ แม้จะมีทัวร์มาแล้วทั่วโลก โดยเฉพาะกับการให้กีกี้ขึ้นไปบนเวทีและบอกรักเธอออกไมค์ “เรื่องของเรื่องก็คือผมรักเธอจริง ๆ แล้วผมก็ไม่อายในสิ่งที่ผมทำด้วย” น่ารักกันขนาดนี้ก็หวังว่าจะได้ฟังเพลงที่แม็คเขียนถึงกีกี้อีกเยอะ ๆ ไม่ก็อยากจะมีฟีลกุ๊กกิ๊กแบบสองคนนี้บ้างเด้อ ที่มา  https://pitchfork.com/features/cover-story/reader/mac-demarco/ https://consequenceofsound.net/2014/04/album-review-mac-demarco-salad-days/ https://www.nme.com/features/at-home-with-mac-demarco-the-slacker-superstar-on-love-songs-obsessive-fans-and-following-up-salad-d-756817