บ่ายนี้ผมตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดหัวหลังจากที่ดื่มอย่างหนักในปาร์ตี้เมื่อคืน แต่มีอีกอาการที่ยังคงติดค้างมาด้วยคือความสนุกของงาน การได้พูดคุยกับเพื่อนหรือคนที่ไปร่วมงาน รวมถึงการแชร์ภาพถ่ายและวิดิโออันแสนบ้าบิ่นในงานผ่านเฟสบุ๊กดำเนินไปตลอดทั้งวัน การได้ไปคลับของผมในหนึ่งคืนสร้างอะไรให้กับผมมากมาย การได้พบปะผู้คนไม่ว่าจะเป็นเพื่อนเก่าหรือเพื่อนใหม่ ก็ทำให้เราได้แลกเปลี่ยนทัศนคติและความคิดกับพวกเขาหลายคนนั้นได้ และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการได้เต้นรำในบรรยากาศที่เหมาะสม นั่นคือการถูกรายล้อมไปด้วยผู้คนที่มีความสุขและเต้นรำไปพร้อม ๆ กับเราในสิ่งที่ดีเจต้องการนำเสนอ รอยยิ้มและความสนุกสนานในค่ำคืนนั้น คือการที่เราได้แบ่งปันความรู้สึกกันโดยไม่ต้องใช้คำพูดใด ๆ ภายในห้องนอนของผม ผมนอนนิ่งอยู่บนเตียงนอนพร้อมกับคิดไปพลาง ๆ ว่า มันยังมีอีกไหม ผู้คนที่รักในเสียงเพลงและพร้อมจะเต้นรำไปกับเรา เสียงดนตรีที่เราหลงใหลในคำนิยามหยาบ ๆ ว่า underground dance music แต่ยิ่งเวลาผ่านไปก็ยิ่งค้นพบผู้คนเหล่านั้นมากขึ้นเรื่อย ๆ มีนักแต่งเพลงและศิลปินหลายท่านที่ผมได้ทำความรู้จักก็เป็นผู้ที่สนใจกับเพลงแนวนี้เช่นกัน ซึ่งผมก็อดตั้งคำถามไม่ได้ว่า แล้วมันเกิดอะไรขึ้นทั้งที่เรามีศิลปินและนักแต่งเพลงอยู่มากมาย แต่ underground dance music กลับไปได้ไม่ไกลเท่าที่ควร “จริง ๆ มันเคยเกือบจะไปได้สวยเเล้วนะ ตอนยุคปี 2000 ที่ Fat Radio มีช่วงเพลงเต้นรําให้กลุ่ม Homebass คือ ดีเจมังกร กับดีเจเหวิน จัดรายการออกอากาศ ตอนนั้นซีนมันคึกคักมาก เเต่ตอนนั้นเราดันมีโปรดิวเซอร์ไม่มากพอ” คำบอกเล่าจาก โน้ต-สุเมธ กิจธนโสภา หรือ … Continued