Trainspotting 2 เลือกใช้ชีวิตในแบบที่เราต้องการ
- Writer: Montipa Virojpan
เชื่อว่าใครที่ชอบดูหนัง หรือเป็นคนที่อินกับวัฒนธรรม ดนตรี และแฟชัน จากยุค 80s – 90s จะต้องรู้จักกับหนังเรื่อง Trainspotting ที่สร้างจากหนังสือชื่อเดียวกัน ผลงานของผู้กำกับ Danny Boyle อย่างแน่นอน และหนังเรื่องนี้ก็ถูกยกขึ้นหิ้งให้เป็นหนังโปรดในดวงใจของวัยรุ่นหลาย ๆ คน เพราะความดิบ หลุดโลก อัดแน่นไปด้วยเรื่องเซ็กซ์ ยาเสพติด กล้าฉีกขนบเดิม ๆ จากหนังยุคนั้นได้แบบสุดลิ่มทิ่มประตู และสามารถปลดปล่อยความเป็นวัยรุ่นสก็อตติชหัวขบถออกมาได้แบบที่หลายคนคาดไม่ถึง และเมื่อหลายปีก่อนได้มีประกาศออกมาว่าทีมงานเตรียมตัวสร้างภาคต่อ โดยใช้นักแสดงชุดเดิมทั้งหมด เหล่าแฟนของหนังเรื่องนี้ต่างก็ตั้งตารอที่จะได้ดูเพื่อนรักสมัยวัยรุ่นของพวกเขากลับมาโลดแล่นบนจอเงินในวัยเดียวกันอีกครั้ง (แต่เราถือเป็นแฟนรุ่นเล็กนะ เพิ่งได้ดูเรื่องนี้ตอนเรียนมหาลัยเอง) และจินตนาการว่าแก๊งเด็กซ่าแห่งเอดินบะระจะเติบโตมาเป็นผู้ใหญ่แบบไหน *ถ้าใครยังไม่เคยดูภาคแรกอาจจะมีงงบ้างเวลาเรียกชื่อเก่าของทุกคน หรือการกลับมาปรากฎตัวของบางตัวละครที่ถือว่าค่อนข้างเป็นหัวใจของเรื่อง แนะนำให้ไปหามาดูก่อน แต่ถ้าไม่สนเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยกีค ๆ ต่าง ๆ ก็มาดูเอาเพลินได้ไม่ว่ากัน* 20 ปีต่อมาหลังจากที่ มาร์ค เรนตัน ขโมยเงินก้อนสุดท้ายของเพื่อนไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่อัมสเตอร์ดัม วันหนึ่งระหว่างที่เขากำลังวิ่งออกกำลังกาย เขาหวนนึกถึงภาพในอดีตของตัวเอง และนั่นทำให้เขาเกิดวูบไป อุบัติเหตุจากอาการหัวใจวายครั้งนั้นทำให้เขาคิดได้ว่านี่คงถึงเวลาที่จะต้องกลับไปรับผิดชอบสิ่งที่เขาทิ้งไว้เบื้องหลัง ทีแรกเราคิดว่ามันจะเป็นเรื่องที่เล่าแค่กลุ่มเพื่อนรักที่จะมาห้ำหั่นเอาคืนที่เรนตันทรยศในภาคก่อนเพียงอย่างเดียว แต่จริง ๆ มันเป็นหนังที่กักเก็บประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และการเปลี่ยนแปลงของสังคมเอดินบะระ ตัวเรื่องหลักดำเนินผ่านการเล่าชีวิตวัยรุ่นในภาคแรกที่กลายมาเป็นผู้ใหญ่วัยกลางคนที่มีครอบครัวกันแล้วในภาคสอง … Continued