มาคุยกับ Earth Patravee และ Jan Chan กับเรื่องราวของเพลง ‘อยากให้มาด้วยกัน’

  • Writer: Ratchanon Charoensettasilp
  • Photographer: Chavit Mayot

วันนี้ Fungjaizine ได้มีโอกาสชวน Earth Patravee (เอิ๊ต ภัทรวี) และ Jan Chan (แจนจัง) มาอัพเดทชีวิตเรื่องราวของพวกเธอกันสักหน่อย ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างช่วงนี้ ทำไมทั้งสองมาทำเพลงด้วยกัน รวมไปถึงประสบการณ์ชีวิตศิลปินของทั้งสองในช่วงที่ปีผ่านมา ยังไม่หมดแค่นี้ เรายังเก็บเรื่องราวสุดพิเศษไม่ว่าจะเป็นที่เก็บของสุดลึกลับของแจนจัง และประสบการณ์ที่ชาร์จแบตสำรองระเบิดไฟไหม้ของ เอิ๊ต ภัทรวี แต่ก่อนจะไปอ่านเรื่องของทั้งสองกันแบบเต็มอิ่มสุด ๆ เรามาฟังเพลงที่ทั้งสองแนะนำกันก่อนดีกว่า ปรับอารมณ์ให้สดใสแล้วไปฟังเพลงจาก เอิ๊ต ภัทรวี – แจนจัง กันเลย เพลย์ลิสต์รู้สึกดี ยิ้มไปทั้งวัน ของ Earth Patravee The Beatles – Hear, There And Everywhere มันจะมีเพลงที่เรารู้สึกดีทุกครั้งที่ได้ฟังอยู่ไม่กี่เพลงนะ เพลงนี้เป็นหนึ่งในนั้น เรารู้สึกว่าเมโลดี้ของมันเพราะมาก! เวลาเราร้องก็จะมีความสุข Stacey Kent – Happy Madness เป็นอีกเพลงที่ฟังแล้วมีความสุขมาก ๆ ฟังแล้วไม่รู้เลยความทุกข์คืออะไร ฟังแล้วยิ้มเลย (แจนจัง: ขนาดนั้นเลยหรอ … Continued

เอิ๊ต ภัทรวี กับประสบการณ์ 1 ปีในออสเตรเลียที่เปลี่ยนมุมมองทางดนตรีของเธอไปตลอดกาล

  • Writer: Montipa Virojpan
  • Photographer: Chavit Mayot

หลายคนน่าจะคุ้นเคยกับ เอิ๊ต ภัทรวี หรือ vlogger สาว Wishes on the Earth ที่ล่าสุดเธอได้ปล่อยเพลง มีไว้แค่เป็นของเธอเท่านั้น จนเป็นที่ติดใจของใครหลายคนกับสไตล์ดนตรีที่เปลี่ยนไป รวมถึงเธอจะมาเล่าประสบการณ์การใช้ชีวิตที่เมลเบิร์นเป็นเวลาหนึ่งปีเต็มว่าทำให้เธอได้แง่คิดและแรงบันดาลใจในการสร้างงานอย่างไรบ้าง ก่อนหน้านี้หายไปไหนมา หลังจากปล่อยเพลง Sky & Sea ก็เป็นช่วงที่ทำงานมาสักพักแล้วรู้สึก lost เพราะไม่ได้แฮปปี้กับสิ่งที่ทำอยู่ขนาดนั้น มีคำถามเกิดขึ้นว่ามันใช่เราจริง ๆ ไหม คือเราก็เรียนดนตรีมาตั้งแต่เด็กจนโต แต่พอได้มาทำจริง ๆ กลับไม่โอเค เราไปโฟกัสเรื่องอื่นที่ไม่ใช่ผลงานของเราอย่างยอดวิว หรือเวลาไปเล่นจะมีคนกรี๊ด มีคนแฮปปี้กับการแสดงของเราไหม เลยกลายเป็นว่าเราเครียดมาก จนนั่งเล่น Mario Kart ทั้งวัน แบบหยุดเล่นไม่ได้ เก็บตัวละครครบทุกตัว จะพักแค่ตอนกินข้าว เหมือนเข้าใจอารมณ์ของการเป็น depressed นิดนึง จนรู้สึกว่าเราปล่อยให้ตัวเองเป็นแบบนั้นไม่ได้แล้ว อยากพัก อยากหนีไปเที่ยว ในตอนนั้นไม่ได้มีแพลนว่าจะทำอะไรต่อ ก็เลยไปลงเรียนคอร์สแต่งเพลงที่ Melbourne ที่เลือกไปเมืองนั้นเพราะรู้สึกว่าเป็นเมืองแห่งการพักผ่อน และเป็นเมืองดนตรี มีคอนเสิร์ต มีอีเวนต์ที่เข้ากับเราจัดขึ้นที่นั่นบ่อยมาก ก็เลยไปลงเรียนภาษาอังกฤษ สอบ ๆๆๆ แล้วก็ไป ใช้เวลาปีนึงได้ถึงกลับมา เหมือนทุกอย่างได้ reset หมดเลย เราเริ่มทำเพลงที่อยากจะเล่าจริง ๆ คิดไลน์ดนตรีเอง สร้างงานศิลปะจริง … Continued