ตอนนี้ก็มีหลายวงอยู่เหมือนกัน ที่หยิบเพลงพื้นบ้านหรือภาษาถิ่นมาผสมผสานกับดนตรีในยุคนี้ให้มันน่าสนใจขึ้น ยามรักกันหวานชื่น คือเพลงที่เป็นเครื่องยืนยันว่ารสนิยมไม่มีขอบเขตจริง ๆ เพราะ NOK la fiesta (นก ลา-เฟียสต้า) ทำให้ดนตรีพื้นบ้านสนุกขึ้นได้จริง ๆ

แค่อินโทรที่ขับร้องเพลงพื้นบ้านได้ชดช้อยซะเหลือเกิน ขลุ่ยที่ขึ้นมาพร้อมกีตาร์และกลองก็ไพเราะไปด้วย ผสมความสนุกลงไปในเพลงพื้นบ้านได้น่าตื่นเต้นมาก คนฟังก็เซิ้งเลยจ้า เสียงกีตาร์ที่ตะแหน่วอยู่ในหูขวาผสมกับเสียง ‘เอิ่ง เออ เอิ้ง’ นี่มันชวนโยกหัวจริง ๆ ให้ตายเถอะ เนื้อเพลงก็แซวคนมีความรัก ว่าพวกแกจะหวานกันไปถึงไหน กินอะไรก็ชื่นใจ~ กลางเพลงมีโซโล่ทรัมเป็ตให้เราได้เต้นตามด้วย ก่อนจะสลับจังหวะลงแล้วใส่ความเป็นดนตรีพื้นบ้านเข้ามา ก่อนจะซัดด้วยเครื่องเป่าน่ารัก ๆ สองชิ้นประชันกันเพลินหูมาก แล้วฝากลวดลายกีตาร์ไฟฟ้าเท่ ๆ ไว้ตอนท้าย ระบายด้วยกลองทับล้อไปกับอีกฮุกหนึ่งเป็น ‘moment for yourself’ ที่เท่มาก แล้วสลับกลับมาเป็นจังหวะสนุก ๆ อีกครั้ง ตบแต่งด้วยเครื่องเป่าอีกหน่อยและลอยออกไป

เธอยังมาพร้อมกับเพลง Better Me ที่มีกลิ่นอายของความเป็นละตินที่น่าสนใจเหมือนกัน ลองไปฟังทั้งสองเพลงบน ฟังใจ ได้เลย ที่นี่

ศิลปินใหม่จาก Minimal Records กับวงดนตรีอินดี้ป๊อปนาม The Subtitle Project

ยังคงแน่วแน่ในสายทางไซค์ร็อกอีสาน กับเพลงล่าสุด Nostradamus จาก Colourless Dentist

• Twitter
• Line